BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4705
ที่อยู่: Wonderland
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:28
วลาดิเมียร์ ปูติน
หนังสือหลายเรื่องกล่าวถึงการต่อสู้ระหว่าง พระเอกซึ่งเป็นผู้กล้า ...กับจอมมารผู้ชั่วร้าย...




“...เราเป็นจอมมารเพื่ออะไรบางอย่าง...”
ลึกลงไปหลายครั้งเหตุผลนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี เช่น ต้องการให้บ้านเมืองเจริญ ต้องการให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองอยู่รอด หรือแม้แต่ต้องการสันติภาพอันถาวร... หลายครั้งเป้าหมายปลายทางไม่ได้ต่างจากพระเอก


...สิ่งที่แตกต่างกันคือวิธีการ...

เช่น หากพระเอกเดินไปพบเด็กกำลังจมน้ำ และหมู่บ้านที่กำลังถูกไฟไหม้พร้อมกัน พระเอกต้องตัดสินใจว่าจะช่วยใครก่อน

ถ้าพระเอกนั้นมีความสามารถจริง เขาจะไม่ยอมละทิ้งธรรมะเล็กเพื่อธรรมะใหญ่ เขาจะรีบว่ายน้ำไปช่วยเด็ก แล้วรีบปีนกลับขึ้นไปช่วยดับไฟที่หมู่บ้านจนสำเร็จ หากทำได้เช่นนี้จึงนับเป็นฮีโร่



แต่ถ้าเป็นจอมมาร เขาจะไม่ลังเลที่จะเสียสละส่วนน้อยรักษาส่วนใหญ่ เขาจะวิ่งไปช่วยดับไฟที่หมู่บ้านทันที และเผลอๆ อาจจะยิงเด็กคนนั้นตาย เพื่อไม่ให้ผู้คนสับสน
จอมมารมักเห่อเหิมในอำนาจ ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขาโดยไม่เลือกวิธีการ ไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่น พระเอกจะมองว่าจอมมารโหดร้าย จอมมารจะมองว่าพระเอกไร้เดียงสา ไม่มีประสิทธิภาพ...




หากให้ผู้คนตัดสิน ใครๆ ก็ต้องบอกว่าพระเอกนั้นดีกว่าจอมมาร...

แต่ในบางสถานการณ์ จอมมารก็จัดการปัญหาบางอย่างได้ดีกว่าพระเอก...



โลกที่เราอาศัยอยู่นั้น ไม่ใช่โลกที่มีธรรมะกำลังต่อสู้กับความชั่วร้าย...
แต่เป็นโลกที่ แต่เป็นโลกที่ทั้ง 2 รวมกันจนแยกไม่ออก

ท่านจะได้เห็นธรรมะของผู้ที่อ้างพวกพ้อง



ท่านจะได้เห็นธรรมะของผู้ที่อ้างประเทศ



การกล่าวถึงการเริ่มต้นของ วลาดิเมียร์ ปูติน ต้องเริ่มจากกลุ่มเซเซนก่อน
พวกเชเชนนั้นไม่เคยเคร่งศาสนาอิสลามมาก่อน หากสู้จะสู้เพื่อชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อศาสนา อย่างไรก็ตามในยุคสงครามเชเชนครั้งที่หนึ่งนั้นก็มีเหตุการณ์ที่กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงได้เริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามาในเชชเนีย

ผู้นำคนสำคัญของพวกอิสลามหัวรุนแรงที่เข้ามามีชื่อว่า อิบนุ อัลค็อตตอบ เป็นชาวซาอุดิอาระเบียซึ่งมีสายสัมพันธ์กับบินลาเดนและกลุ่มอัลเคดา เขาเคยร่วมรบหลายสมรภูมิ และได้พบกับบาซาเยฟในสมรภูมิอาเซอไบจัน ที่นั่นเขาสามารถเผยแผ่แนวคิดอิสลามหัวรุนแรงให้บาซาเยฟสำเร็จ และได้บาซาเยฟมาเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่แนวคิด



ค็อตตอบติดตามเข้าร่วมรบในสงครามเชเชนครั้งที่หนึ่ง สร้างผลงานดีเยี่ยมในการซุ่มโจมตีที่ชาทอย โดยสามารถสังหารทหารรัสเซียถึงเจ็ดสิบหกคน ต่อมาเขาได้สนิทสนมกับนายเซลิมคาน ยันดาบิเยฟซึ่งขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการณ์หลังจากดูดาเยฟเสียชีวิต


เซลิมคาน ยันดาบิเยฟ

ในการเลือกตั้งหลังสงครามยันดาบิเยฟถูกมองว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงซึ่งชาวเชเชนไม่ชอบ จึงมีการเทคะแนนเสียงให้มาสคาดอฟซึ่งเป็นสายกลาง จนชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป (มาสคาดอฟได้ประมาณ 60% ยันดาบิเยฟได้ราว 10%)

มาสคาดอฟมีวิสัยทัศน์ว่าประเทศของเขานั้นเล็กมาก ต่อให้มีมหาอำนาจตะวันตกมาช่วยอย่างไร แต่น้ำไกลย่อมยากดับไฟใกล้ ในระยะยาวเชชเนียจะดำรงตนลำบากหากขาดการยอมรับจากรัสเซีย เขาจึงใช้โอกาสที่กำลังชนะสงคราม เข้าเจรจาต่อรองกับรัฐบาลเยลซิน ทำให้สนธิสัญญาสันติภาพมีความคืบหน้า และช่วยให้อธิปไตยของเชชเนียมั่นคงมากขึ้น



อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ายังมีภาระอีกมากมายที่เกินกำลังความสามารถของมาสคาดอฟจะกอบกู้ได้ เชชเนียภายหลังสงครามอยู่ในสภาพพังพินาศ รัฐบาลขาดทุนทรัพย์และกำลังคน ขุนศึกต่างๆ สะสมกำลัง ตั้งตัวเป็นอิสระ ปล้นจี้ ลักพาตัว สร้างความวุ่นวาย

บาซาเยฟและค็อตตอบไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลกลางก็ออกไปตั้งตัวเป็นขุนศึกสายอิสลามหัวรุนแรง ดำเนินการก่อการร้ายตามอุดมการณ์ของตน สร้างความเคียดแค้นชิงชังระหว่างชาวเชเชนกับชาวรัสเซีย ซึ่งจะพัฒนาไปจนปะทุขึ้นอีกครั้งในอนาคต
เยฟเกนี โรดิโอนอฟ ทหารชาวรัสเซียถูกทหารเชเชนจับไปบังคับให้ถอดไม้กางเขน เปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม แต่เยฟเกนีไม่ยอมจึงถูกตัดหัวทั้งเป็น ชาวรัสเซียยกย่องเขามาก มีความพยายามจะตั้งเยฟเกนีเป็นเซนต์ในศาสนจักรออโธดอกซ์ เรื่องราวของเขาสะท้อนให้เห็นการฟื้นฟูด้านศาสนาในรัสเซียหลังยุคคอมมิวนิสต์


ความเข้าใจของเบเรซอฟสกี

มีคำกล่าวว่า ขณะที่โลกตะวันตกปกครองกันด้วย “กฎหมาย” แต่รัสเซียในยุคของเยลซินนั้นปกครองกันด้วย “ความเข้าใจ”

และด้วย “ความเข้าใจ” เยลซินได้อนุญาตให้คนที่ใกล้ชิดกับเขาเข้ามาหาประโยชน์กับแผ่นดินรัสเซีย เพื่อสร้างฐานอิทธิพลให้คนเหล่านั้น และในขณะเดียวกันก็สร้างอิทธิพลให้เยลซินไปด้วย คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า The Family หรือ “ครอบครัว” ประกอบด้วยพวกนายทุน พวกพ้องบริวาร และญาติมิตรของเยลซินเอง ยิ่งคนเหล่านี้ใกล้ชิดเยลซินได้มากเท่าใดก็จะยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น

ยุคของเยลซิน “ครอบครัว” ได้แผ่ขยายอำนาจไปควบคุมองคาพยพต่างๆ ของรัสเซียเหมือนกับใยแมงมุม ในตอนนี้ผมจะขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับแมงมุมที่ชักใยอยู่ตรงกลางนามว่า “บอริส เบเรซอฟสกี”


บอริส เบเรซอฟสกี

เบเรซอฟสกีเป็นชาวรัสเซียเชื้อสายยิว เกิดในครอบครัวช่างก่อสร้าง ฐานะธรรมดา รูปร่างภายนอกมิได้โสภานัก คือเป็นคนอ้วน เตี้ย หัวล้าน อย่างไรก็ตามหากใครได้คุยกับเขาสักเพียงเล็กน้อย และสัมผัสถึงความฉลาดเฉลียวของเขาจนลืมลักษณะภายนอกของเขาไปสิ้น

ด้วยสติปัญญาเหนือล้ำกว่าคนอื่น เบเรซอฟสกีได้ร่ำเรียนจบดอกเตอร์ทางคณิตศาสตร์ ต่อมาเขาเข้าสู่วงการธุรกิจ และใช้เล่ห์เหลี่ยม กลอุบาย และความกล้าได้กล้าเสียเข้าต่อสู้ในวงการทุนนิยมเกิดใหม่ของรัสเซีย มีข่าวลือว่าเขาเคยสังหารเพื่อร่วมงานเพื่อผลประโยชน์ ขณะเดียวกันก็เคยรอดพ้นจากการลอบฆ่าของศัตรูทางธุรกิจ

เบเรซอฟสกีต่อสู้ในสมรภูมิธุรกิจอย่างโชกโชน และผ่านพ้นออกมาอย่างผู้ชนะ กลายเป็นมหาเศรษฐีในระยะเวลาอันสั้น แต่ความสนใจแท้จริงของเศรษฐีผู้นี้ก็หาใช่เรื่องเงินไม่

ครั้งหนึ่งเบเรซอฟสกีเคยกล่าวชมเชยเพื่อนนักคณิตศาสตร์ของเขาว่าเป็นอัจฉริยะ มีคนบอกว่า “ถ้าเพื่อนคนนั้นฉลาดจริงทำไมเขาไม่รวยอย่างคุณล่ะ?” เบเรซอฟสกีฟังดังนั้นก็ตอบกลับอย่างอารมณ์เสียว่า “ความรวย? ผมจะบอกให้นะว่าการสร้างความร่ำรวยคืออะไร... มันเป็นแค่ทักษะประเภทหนึ่งเท่านั้นเอง และเป็นทักษะง่ายๆ คนโง่ๆ ก็มีทักษะนี้ได้”


สำหรับเศรษฐีผู้นี้ ทักษะที่เหนือกว่าการสร้างความร่ำรวย คือ “ความเข้าใจ”

ในตอนนั้นเขาสร้างความเข้าใจในรัฐบาลเยลซินอย่างทะลุปรุโปร่ง และมองเห็นลู่ทางที่จะได้อะไรหลายอย่างที่มีค่ากว่าเงินมาก

เบเรซอฟสกีซื้อสถานีโทรทัศน์ใหญ่ของรัสเซียทำให้เขามีอำนาจสื่ออยู่ในมือ เขาหาเส้นสายเข้าไปสนิทกับเยลซิน และแสดงให้เยลซินเห็นว่าเขาสามารถสร้างความสำเร็จหลายอย่างที่คนอื่นทำไม่ได้ โดยการใช้สื่อสนับสนุนเยลซิน และชักชวนให้กลุ่มนักธุรกิจช่วยกันออกเงินสนับสนุนจนเป็นกำลังสำคัญในการทำให้เยลซินชนะการเลือกตั้งครั้งที่สอง ในลักษณะนี้เพียงชั่วเวลาไม่นานเบเรซอฟสกีก็ขึ้นเป็นคนสำคัญที่กุมอำนาจของ “ครอบครัว” ไว้


มีคำกล่าวว่า “เยลซินเป็นผู้ปลดปล่อยรัสเซียจากคอมมิวนิสต์ ส่วนเบเรซอฟสกีเป็นผู้เอารัสเซียไปขายทอดตลาด”

ครับ... เมื่อเบเรซอฟสกีได้อำนาจมาเขาก็ให้พรรคพวกทำการทุจริตหลากหลายรูปแบบ กวาดซื้อรัฐวิสาหกิจ ไฟฟ้า ประปา น้ำมัน แร่ธาตุ วิทยุ โทรทัศน์ไว้ในราคาถูก ควบคุมบัญชาให้หน่วยงานเหล่านี้ทำงานไปเพื่อประโยชน์ของตน ดูดเอารายได้มหาศาลของประเทศเข้าสู่กระเป๋า



โรมัน อับราโมวิชหนึ่งในสมาชิกของ “ครอบครัว” เคยร่วมมือกับเบเรซอฟสกีทำการทุจริตฮั้วประมูลบริษัทน้ำมันซิบเนฟของรัฐบาล จนสามารถซื้อซิบเนฟได้ในราคาหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ จากราคาจริงราวสามพันล้านเหรียญ


ยิ่ง “ครอบครัว” โกงกินมาก ประชาชนก็ยิ่งเสื่อมศรัทธาในตัวเยลซิน คู่แข่งทางการเมืองคนใหม่ชื่อนายเยฟเกนี พรีมาคอฟซึ่งมีหัวเอนเอียงไปทางคอมมิวนิสต์กลับเจิดจ้ามาแทน (มีการประมาณกันว่าขณะพ้นตำแหน่งนั้นความนิยมของเยลซินตกต่ำไปอยู่ที่เพียง 2%)


เพื่อรักษาฐานอำนาจเอาไว้ “ครอบครัว” ได้พยายามหาทายาททางการเมืองที่จะมาแทนเยลซินได้ ในเวลานั้นเองชื่อของหัวหน้า FSB (KGB ยุดใหม่) “วลาดิเมียร์ ปูติน” ก็เริ่มโดดเด่นขึ้น


“วลาดิเมียร์ ปูตินในชุด KGB ”
“วลาดิเมียร์ ปูติน” อายุ 16 ปีเขาดูหนังเกี่ยวกับสายลับสงครามโลกครั้งที่ 2 แถวบ้าน เขาประทับใจมากจนไปคุยกับสำนักงาน KGB ประจำ เลนินกราด ว่า "ผมอยากเป็นสายลับ" เจ้าหน้าที่KGBก็ได้แต่หัวเราะแล้วก็บอก "ไอ้หนู.. เราไม่ได้เป็นฝ่ายถูกเลือก แต่จะเป็นใครและเมื่อไร!เราจะเป็นคนเลือก!!"
แล้วปูตินก็เรียนต่อ นิติศาสตร์และ ภาษา ที่มหาวิทยาลัยเลนินกราด จบด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยม.... KGB เข้ามาติดต่อ เขา..

( ปูติน ขณะเรียนมหาลัยเพื่อนๆตั้งฉายาให้เขาว่า "กล่องดำ")
อาจารย์ ที่มหาลัยบอกว่า ปูตินเป็นคนที่แปลก พูดน้อย ทั้งโต๊ะและที่ ที่เก็บของทุกชิ้นของเขาจะถูก ล๊อค อย่างแน่นหนา เสมอ เขาแทบไม่เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย..
ปูตินเข้าเป็นสมาชิกของ Communist Party of the Soviet Union และเข้าฝึก การเป็นสายลับต่ออีกหลายระดับ ตั้งแต่ 1976 ถึง 1985 ปูตินเคยทำงานแผนก ต่อต้านการจารกรรมที่ เลนินกราด ก่อนเริ่มทำงานเป็น KGB เต็มตัวที่เยอรมันตะวันออก


(รูป ปูตินขณะบริหารเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก)

ปูตินได้ ตำแหน่งต่อมาเป็นประธานกรรมการบริหารเมืองเซนปีเตอร์เบิร์ก(เรียก เทคนิคทางการเมืองนี้ว่า จับใส่ตระกร้าแล้วล้างใหม่) ตอนนี้ ปูติน เริ่มตะหนักกับ ภัยมาเฟีย โดยให้โอวาทกับตำรวจ วันแรกที่รับตำแหน่งว่า "ถ้ามันฆ่าเจ้าหน้าที่เรา 1 คน พวกมันต้องตาย 10 คน!..ถ้าเราถูกโจมตี เราต้องโต้ตอบ รวดเร็ว และหยาบช้า.."

กลับมาที่เรื่องราวการก้าวสู้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ

มีข่าวลือว่าปูตินทำเรื่องหลายประการในการขึ้นเป็นประธานาธิบดี โดยนอกจากแบล็คเมล์เยลซินให้ยกตำแหน่งทายาทแลกกับการลงจากตำแหน่งอย่างปลอดภัยแล้ว เขายังไปเยี่ยมคารวะเบเรซอฟสกีหลายครั้ง เพื่อโน้มน้าวให้เชื่อว่าเขาเป็นเพียงหมาล่าเนื้อเชื่องๆ ที่พร้อมจะอยู่ใต้อำนาจ

เบเรซอฟสกีเห็นว่าปูตินยังหนุ่ม เล่ห์กลใดๆ คงห่างชั้นกับเขานัก น่าจะสามารถควบคุมได้ง่าย จึงให้การสนับสนุนปูตินในการเลือกตั้งปี 1999 โดยใช้สื่อใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายพรีมาคอฟ และเชิดชูปูตินจนสามารถชนะการเลือกตั้ง

ครั้นส่งปูตินขึ้นสู่บัลลังก์สำเร็จ เบเรซอฟสกีก็วางใจว่าเด็กของเขาได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว ต่อไปเขาจะต้องมีอำนาจเพิ่มมากขึ้นอีก และมีความสบายมากขึ้น

...อนิจจา นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์...


ระเบิดปะทุ

เมื่อปูตินขึ้นมาสู่อำนาจเขาได้ผลักดันคนสองกลุ่มขึ้นมาเป็นแขนขาของตน

หนึ่งคือกลุ่มปัญญาชนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประกอบด้วยนักกฎหมาย และนักเศรษฐศาสตร์ที่มากความสามารถจากเมืองบ้านเกิดของปูติน คนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายบุ๋น” หลัก โดยนักกฎหมายดูแลการร่างกฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาตลาด และความมั่นคงทางการเมือง ส่วนนักเศรษฐศาสตร์ดูแลการปฏิรูปเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็ง


นายดิมิทรี เมดเวเดฟซึ่งต่อมาเป็นทายาทของปูตินก็อยู่ในกลุ่มปัญญาชนเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนี้

สองคือกลุ่มนักการเมืองซึ่งมีพื้นเพเป็นคนในเครื่องแบบ เรียกว่าพวก “สิโลวิก” หลักๆ คือพวกสายลับ FSB ซึ่งปูตินเคยเป็นหัวหน้านั่นเอง ประธานาธิบดีใหม่ใช้คนเหล่านี้เป็น “ฝ่ายบู๊”




หน่วย FSB
สายลับพวกนี้ได้รับการมองว่ามีอุดมการณ์หลักคือ “ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อประเทศ”


พวกเขามีหน้าที่โดยตรงที่จะทำเรื่องสกปรกไม่อาจเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ เช่น การทำจารกรรม ข่มขู่ ลักพา หรือฆ่าคน พวกเขาถูกยึดเหนี่ยวโดย “ธรรมะ” เพียงหนึ่ง คือการกระทำทั้งหมดนี้ต้องมุ่งสู่ผลประโยชน์ของรัสเซียเป็นสำคัญ ภายใต้ยุคของปูติน หน่วยสายลับเหล่านี้จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้น และสร้างเรื่องชั่วช้าอีกมากมาย “เพื่อชาติ”

หากท่านจำได้ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยนั้นปูตินเขียนวิทยานิพนธ์ชื่อ “การวางแผนกลยุทธ์เรื่องทรัพยากรภูมิภาคภายใต้การก่อตัวของตลาดสัมพันธ์” เนื้อหาของวิทยานิพนธ์นี้สรุปง่ายๆ มาจากวิสัยทัศน์ของปูตินที่ว่า “วิธีที่จะทำให้รัสเซียกลับเป็นมหาอำนาจได้อีกครั้ง คือ การควบคุมการส่งออกน้ำมันสู่ทวีปยุโรป”

ความที่ประเทศรัสเซียมีอาณาเขตกว้างใหญ่มีน้ำมันมาก เทียบกับประเทศในยุโรปที่มีอาณาเขตเล็ก ไม่มีน้ำมันแต่มีความต้องการใช้น้ำมันมหาศาล หากรัสเซียทำให้ยุโรปต้องพึ่งพาน้ำมันจากตน จะมีข้อต่อรองเพิ่มขึ้นมากมายบนเวทีโลก

เพื่อการดังกล่าวปูตินได้วางแผนเข้าแทรกแซงประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศที่มีชัยภูมิเหมาะเป็นที่วางท่อส่งน้ำมันจากรัสเซียไปยุโรป พร้อมทั้งยับยั้งการสร้างท่อน้ำมันในประเทศนอกอิทธิพลรัสเซีย



แต่ขณะที่ปูตินเริ่มเข้าสู่อำนาจ ยังไม่ทันได้ทำอะไรตามนโยบายที่วางไว้ เขาก็ถูกท้าทายด้วยปัญหาใหญ่ทันที!

...ปัญหานั้นเริ่มที่เชชเนีย ค็อตตอบและบาซาเยฟวางแผนบุกโจมตีดาเกสถานซึ่งเป็นดินแดนที่ผู้คนเคร่งศาสนามากกว่าเชชเนีย ด้วยการติดต่อกับกองกำลังปฏิวัติในดาเกส ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นว่า ทันที่ที่ทัพเชเชนชูธงอิสลามสากลบุกเข้าเมือง ประชาชนจะต้องลุกฮือขึ้นตอบรับ และช่วยกันขับไล่พวกรัสเซียออกไป

จากนั้นค็อตตอบและบาซาเยฟจะใช้ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นจากการตีดาเกสถานได้ หวนกลับมาตีประธานาธิบดีมาสคาดอฟ และทำลายพวกเชเชนสายกลางให้หมด ค็อตตอบและบาซาเยฟจะรวมดาเกสถานกับเชชเนียเข้าด้วยกันเป็นดินแดนอิสลามธิปไตยแห่งคอเคซัสคล้ายสิ่งที่ชามิลอิหม่ามฟินเคยทำมาก่อน

ในปลายยุคเยลซิน ค็อตตอบบาซาเยฟก็โจมตีดาเกสถานอยู่เนืองๆ ครั้นเมื่อปูตินสืบทอดอำนาจ พวกเขาปรึกษากันเห็นว่าตอนนี้รัสเซียกำลังผลัดแผ่นดิน ความขัดแย้งภายในยังมี จิตใจคนยังไม่สงบ รัฐบาลคงอ่อนแอลงมาก นี่เป็นโอกาสสำคัญในการก่อการใหญ่!


ค็อตตอบบาซาเยฟ
สิงหาคมปี 1999 ค็อตตอบบาซาเยฟยกทัพใหญ่ด้วยกำลังสองพันคน ข้ามพรมแดนไปตีดาเดสถาน พวกเขายึดหลายหมู่บ้านได้อย่างง่ายดาย และประกาศตั้งประเทศอิสลามดาเกสถานขึ้น

ความที่รัสเซียอยู่ในช่วงผลัดแผ่นดินทำให้การส่งทหารตอบโต้ทำได้ล่าช้า ค็อตตอบบาซาเยฟตั้งทัพกดดันให้ประชาชนดาเกสถานลุกฮือขึ้นมาสนับสนุนพวกตนด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง

ปรากฏว่าประชาชนดาเกสถานก็ลุกฮือขึ้นจริงๆ! ...แต่ลุกฮือขึ้นขับไล่พวกบาซาเยฟนั่นแหละ!



ทหารบ้านดาเกสถาน
...ครับ เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อชาวดาเกสถานต่อต้านเชชเนียเพราะกลัวการถูกปกครองโดยพวกบ้าศาสนาหัวรุนแรง...

กองกำลังตำรวจดาเกสถานรวบรวมทหารบ้านหลักหมื่น แม้มีอาวุธจำกัด แต่ก็สามารถต้านทานฝ่ายค็อตตอบบาซาเยฟจนกระทั่งกองทัพรัสเซียมาช่วย


ทหารบ้านดาเกสถานชูธงรัสเซียสู้บาซาเยฟ

ปูตินเริ่มต้นอาชีพผู้นำประเทศของเขาโดยการออกคำสั่งให้กองกำลังที่มีเทคโนโลยีดีที่สุดของรัสเซียออกรบ (เรื่องนี้ตรงข้ามกับสมัยเยลซินซึ่งมองเชเชนเป็นโจรกระจอก และเอาทหารธรรมดาไปรบแบบกองทัพมดทำให้ล้มตายกันมากมาย)

นอกจากมีการใช้ระเบิดเทอร์โมบาริกซึ่งมีอานุภาพการเผาผลาญซอกซอนรุนแรงกว่านาปาล์มแล้ว รถถัง T-90 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียในเวลานั้น ยังมีความแข็งแกร่งมาก จรวด RPG ของพวกกบฏทำอะไรไม่ได้ มีรถถังคันหนึ่งถูก RPG ยิงจังๆ ไปเจ็ดนัดก็ยังสามารถแล่นทำการรบต่อ ตีจนพวกกบฏระย่นย่อ ต้องรีบถอยไปตั้งหลัก


รถถัง T-90
ครั้นประจักษ์แจ้งว่าไม่อาจสู้ตรงๆ แถมถูกชาวบ้านต่อต้าน ค็อตตอบบาซาเยฟจึงหันไปใช้ยุทธวิธีก่อการร้าย ส่งคาร์บอมไประเบิดตึกในดาเกสถาน คนตายไป 64 คน ขณะเดียวกัน ยังลอบวางระเบิดอพาร์ตเมนต์ในรัสเซียหลายจุด ฆ่าชาวบ้านตายไป 293 คน สร้างความหวาดกลัว บีบให้ประชาชนเกลียดชังกันตามสูตร



ภายหลังบาซาเยฟได้อธิบายการกระทำของเขาว่า “คนพวกนี้ไม่มีใครเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกมันจ่ายภาษี พวกมันเงียบเมื่อรัฐบาลของมันทำเรื่องร้ายๆ มันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย”

คำพูดดังกล่าวถ้ารัฐบาลอื่นได้มาฟังอาจจะหวั่นไหวบ้าง แต่ไม่ใช่สำหรับปูติน

...นั่นเพราะปูตินก็ใช้หลักเหตุผลเดียวกัน!...


เลือดล้างแผ่นดิน

ทัพรัสเซียใช้เวลาไม่กี่เดือนในการขับไล่กบฏออกจากดาเกสถาน ประธานาธิบดีมาสคาดอฟหวาดกลัวว่าจะถูกเหมารวมไปกับพวกกบฏก็รีบติดต่อรัสเซียว่าจะขอร่วมปราบค็อตตอบบาซาเยฟด้วย

...แต่ปูตินไม่ฟังแล้ว...

นั่นเพราะปูตินหมายมาดมาแต่ต้นว่าจะต้องปราบเชชเนีย หนึ่งเพื่อทวงคืนเกียรติภูมิหลังการพ่ายแพ้ในสงครามครั้งแรก สองเพื่อยุทธศาสตร์น้ำมันที่วางไว้ โดยเชชเนียมีชัยภูมิเหมาะกับการต่อท่อน้ำมันจากอาเซอไบจัน (ขณะนั้นเป็นบริวารรัสเซีย) และทะเลสาบแคสเปียน ผ่านไปขายยุโรป

นอกจากนั้น การที่รัฐบาลมาสคาดอฟ ปล่อยปละละเลยให้พวกอิสลามหัวรุนแรงตั้งตัวเป็นขุนศึก ออกโจมตีรัสเซียอยู่เนืองๆ มานานหลายปีเท่ากับมาสคาดอฟต้องรับผิดชอบด้วย!

ด้วยเหตุผลเดียวกับบาซาเยฟ... ประชาชนเชเชนที่เลือกมาสคาดอฟมาต้องรับผิดชอบด้วย!

ทันทีที่ชนะศึกดาเกสถาน เครื่องบินรัสเซียก็บินไปทิ้งระเบิดสนามบินและโรงผลิตน้ำมันในกรอสนี สังหารทหารและประชาชนไปมากมายเพื่อเป็นตัวอย่าง มีการทิ้งใบปลิวมาบอกว่าราษฎรทุกคน ใครคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ก็ให้รีบหนีจากกรอสนี ทัพรัสเซียจะเปิดทางให้ หากหนีไปช้ากว่านี้ถือเป็นกบฏ เอาตัวรอดกันเอง

ประชาชนในกรอสนีรับทราบข่าวนี้ และเห็นๆ กันว่ารัสเซียเอาจริงก็เกิดแตกตื่น ผู้คนนับแสนต่างอพยพออกจากเมืองไป เหลืออยู่เพียงไม่กี่หมื่น ฝ่ายทหารทั้งสายกลาง สายรุนแรงแม้ไม่ชอบกัน แต่ถูกกดดันจากศัตรูที่แข็งแกร่งให้ร่วมมือกันต่อสู้

ฝ่ายเชเชนวางสไนเปอร์เอาไว้ตามตึกสูงต่างๆ พร้อมกับการวางกับระเบิด และลวดหนามป้องกันเวลาพวกรัสเซียบุกขึ้นตึก พวกเขาหลบลงใต้ดินเดินทางติดต่อกันด้วยระบบท่อน้ำซึ่งเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี มีการวางแผนกันว่าจะล่อพวกรัสเซียให้เข้ามาติดกับในเมือง แล้วรุมตลบหลังแบบที่เคยใช้ได้ผลในสงครามครั้งแรก

...อย่างไรก็ตามพวกเขายังนึกไม่ถึงว่าจะต้องเจอกับอะไร...

ปูตินแก้ไขความผิดพลาดจากศึกก่อนหน้าโดยการไม่ยอมเปิดศึกในเมืองแบบที่ฝ่ายตรงข้ามถนัด แต่หันไปใช้เครื่องบิน บินมาทิ้งระเบิดถล่มตึกทุกตึกที่พวกกบฏสามารถใช้ประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ได้จนราบเป็นหน้ากลอง จากนั้นจึงส่งทหารราบตามเข้าเก็บกวาดพร้อมการสนับสนุนทางอากาศอย่างครบครัน

มีคำกล่าวว่า “ในสมัยเยลซิน หากทหารรัสเซียพบว่ามีสไนเปอร์ยิงมาจากตึกไหน ก็จะต้องให้หน่วยย่อยบุกขึ้นไปที่ตึกนั้น คัดแยกประชาชนจากพวกกบฏ แล้วจึงจับหรือฆ่ากบฏที่แฝงอยู่ ทำอย่างละเอียดแบบนี้ไปทีละตึกๆ...

“...แต่ในสมัยปูตินหากมีสไนเปอร์ยิงมาจากตึกใดก็จะเอาเครื่องบินไปถล่มตึกนั้นให้พินาศลงหมดทันที...”




การทิ้งระเบิดโดยไม่สนเป้าหมายทหารหรือประชาชนของปูตินสร้างความหวาดกลัวกับฝ่ายเชเชนเป็นอย่างมาก เพราะเห็นชัดเจนว่าศักยภาพทหารสู้ไม่ได้ อีกฝ่ายก็ไม่มีคุณธรรมอะไรแล้ว...

...สู้ไปมีแต่ตาย...

ปรากฏกบฏจำนวนมากเข้าสวามิภักดิ์รัสเซีย เดนตายที่เหลือพยายามตีฝ่าวงล้อมออกไปจากกรอสนีต้องถูกฆ่าระหว่างทางไปห้าหกร้อยคน มีไม่กี่พันหนีขึ้นเขาสำเร็จ

ปูตินไม่ได้หยุดแค่นั้น มีหลายกรณีที่มีการตามล่าพวกกบฏอย่างเหี้ยมโหด เช่น หลังจากพบว่าทัพใหญ่ของพวกกบฏซึ่งมีกำลังกว่า 1,500 คนหนีไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีประชากรราว 2,000 คน

ถ้าเรื่องนี้เกิดในศรีลังกา อย่างโหดสุดก็อาจจะมีการล้อมให้กบฏและประชาชนอดอยากจนเกิดการจลาจล ประชาชนต้องแตกหนีออกมาเอง แต่ในยุคปูตินก็มีการสั่งให้เอาเครื่องบินไประเบิดหมู่บ้านนั้นจนพินาศวอดวาย พวกกบฏตายไปกว่า 700 ถูกจับเกือบร้อย ประชาชนตายยับไม่นับได้




ในศึกนี้ชาวรัสเซียยังได้เห็นประธานาธิบดีปูติน นั่งเครื่องบินโดยสาร ขับเครื่องบินรบ Sukhoi 27 ไปบัญชาการที่กรอสนีด้วยตนเองขณะที่การศึกยังอุ่นระอุ



Sukhoi 27
เยลซินเคยรบกับพวกเชเชนอยู่แรมปีและพ่ายแพ้ แต่ความโหดเหี้ยมของปูตินทำให้สามารถเอาชนะสงครามในเวลาเพียงสามสี่เดือน

...หลังจากนี้ฝ่ายเชเชนได้ถูกปราบปรามจนอ่อนแอลงอย่างมาก ต้องกระจัดกระจายหนีขึ้นเขา และไม่เคยมีกำลังกลับมารบตามแบบได้อีกเลย...


จบภาคแรก ไว้ต่อภาคจบพรุ่งนี้นะครับ นอนก่อนจะตื่นมาดูบอล
ยาวแต่อยากให้อ่าน แล้วจะรู้ว่า "อย่าแหยมกับปูติน" ไม่ใช่แค่คำตลกๆ

"ถ้าความรุนแรงยังแก้ปัญหาไม่ได้ แปลว่าคุณยังใช้มันไม่มากพอ"

แก้ไขล่าสุดโดย SOUL_ZoRo เมื่อ Tue Mar 10, 2015 22:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ



"Offense wins games, defense wins championships "
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6401
ที่อยู่: ที่หน้ามึงอะ
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:31
ถูกแบนแล้ว
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
เดี๋ยวให้ hellboy จัดการ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: SANA THE BEST
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jun 2010
ตอบ: 25155
ที่อยู่: ซานะนอนไหน ผมนอนนั่น
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:33
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
เคยตามอ่านอยู่เหมือนกัน ให้เครดิตด้วยก็ดีนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
_กูเด็ก Noto_



ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 May 2010
ตอบ: 5083
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:37
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
อ่านอีกรอบก็สนุกดีแฮะ ตรงวิธีเรียบเรียงคำพูดนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status: ไปบอกผู้ใหญ่บ้านเลยครับ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 12403
ที่อยู่: ใต้สพานลอย
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:37
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
MORRISON_HOTEL พิมพ์ว่า:
เดี๋ยวให้ hellboy จัดการ

 

เอาดิ เพิ่มตัวช่วย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 9706
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:45
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
โคตรโหดปูติน การปกครองเฮียแกเด็ดขาดมาก ตาต่อตาฟันต่อฟันสินะ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: ท้องฟ้า และดาวช่างดูสดใส ... เมื่อ มีเธอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Oct 2010
ตอบ: 5122
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:51
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
MORRISON_HOTEL พิมพ์ว่า:
เดี๋ยวให้ hellboy จัดการ

 


อาจเอาไม่อยู่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: IG:SLP_Vintage_Shop (Vtg.Shirt Collections)
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2013
ตอบ: 8549
ที่อยู่: อยากรู้ไปทำไม?
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:51
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
อ่านเพลินเลย ขอบคุณมากฮะ จะติดตามตอนต่อไป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Mar 2010
ตอบ: 817
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:54
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
โหดสัดรัสเซีย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 7717
ที่อยู่: คฤหาสน์
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:58
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]


แก้ไขล่าสุดโดย princeopor เมื่อ Tue Mar 10, 2015 22:58, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status: ♥SINDY♥
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 18170
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 22:58
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
คล้ายๆกับที่ผมอ่านในพันทิบแหะ แต่ก็เพลินดี

ตอนซัดกับเชเชนนี่มันส์มากๆ ผมชอบแกเพราะเรื่องนี้เลย 55
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
֍ CHELSEA & STAMFORD BRIDGE ֍
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Apr 2009
ตอบ: 25050
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 23:02
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
โหดสัสรัสเซียปูติน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Oct 2010
ตอบ: 2925
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 23:27
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลายเซ็นไม่มี แจกเยอะแล้ว



ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 愛して 愛して 愛して もっともっと愛して 愛して 狂おしいほどに
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 55796
ที่อยู่: Fox River State Penitentiary. Joliet , Illinois.
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 23:32
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
อ่านซะเพลินเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Nov 2013
ตอบ: 960
ที่อยู่: 555/142
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2015 23:41
[RE: วลาดิเมียร์ ปูติน]
ผมชอบเรื่องพวกนี้จังสนุกดี อ่านของอ.ทนง พิมพ์ผิดขออภัย อ่านก็สนุกดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel