[RE: ป๋าเทพผู้ไม่รู้จัก ธุรกิจ แยกระหว่างคนสู้ชีวิต กัน คนหัวรั้น]
Archawin5 พิมพ์ว่า:
มีคนในวงการพูดกันหลายคนนะ อย่างลุงโน๊ต เชิญยิ้มที่แกบอกว่าป๋าเทพน่ะ
แกหัวดื้อหัวรั้นไม่ฟังใคร เชื่อความคิดตัวเอง(ดูตัวอย่างหนังอะไรของแกนะ ดึกดำดึ๋ยสิ
ติดอันดับหนังห่วยอันดับต้นๆของไทยเลย ลงทุนไปเป็น10ล้าน แทบหมดตรูด)
แต่หนังโน๊ต เชิญยิ้มอย่างหลวงพี่เท่งดิ ลงทุนไม่ถึง10ล้าน กวาดรายได้ทะลุ100ล้าน
แทบทุกภาค ปรัชญาและมุมมองการทำธึรกิจนี่คนละเรื่องเลยทีเดียว ทั้งที่เป็นตลกระดับคลาสเดียวกัน
ไหวพริบ สติปัญญาก็ไม่แพ้กัน แต่ทัศนคติและการตัดสินใจนี่แหละที่มันทำให้คนเราเหลื่อมล้ำกันขนาดนี้
ปล.ส่วนเรื่องหุ้นอะไรนั่นผมไม่มีความเห็นด้านกฎหมายหรือนิติกรรมอะไรหรอก แต่อยากถามเจ้าของธุรกิจ
ที่ลงเงินเปิดร้านน่ะ อย่างน้อยก็น่าจะมองในแง่คุณธรรมความเป็นคนบ้าง เปิดร้านชื่อป๋าเทพ โลโก้ก็ป๋าเทพ
วันเปิดตัว grand openningก็ป๋าเทพไม่ใช่เหรอไปลงแรงโปรโมท ออกหน้าออกตาให้น่ะ
ในวงการธุรกิจก็รู้ๆกันอยู่ การโปรโมท การโฆษณาทางการตลาดน่ะ มันมีมูลค่าไม่ใช่น้อยๆเลยนะ
ต่อให้ป๋าไม่เข้าใจคำว่าหุ้นลม ฝั่งนั้นก็ไม่น่าจะถึงกับปฎิเสธการจ่ายค่าตอบแทนใดๆโดยสิ้นเชิงแบบนี้
พอนักข่าวไปถามบอก รอให้ร้านลงตัวก่อนถึงจะแบ่งเงินให้ ฟัคเถอะครับ ทำธุรกิจห่านอะไรวะ รอเป็นไตรมาส
ถึงจะจ่ายเงินให้คนทำงาน ไม่ใช่บริษัทหลักทรัพย์หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทระดับโลกซะหน่อย
เรื่องหุ้นลม คือป๋าเทพไม่มีเงินแต่อยากเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ
แต่ไม่มีเงิน คนที่ลงเงินคือคนที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเมื่อมันเจ๊ง
เหราะแบบนั้นส่วนใหญ่จึงตกลงกันที่ว่า (น่าจะต้องเป็นสัญญาด้วยล่ะ)
ให้คนที่ลงทุนได้เงินทุนคืนก่อนจึงจะเริ่มปันผลกำไรตามที่ตกลงกันไว้
หุ้นลมส่วนใหญ่จะให้กับคนที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา เซเล็บ
โดยแลกเป็นการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ โดยไม่ไม่เสียค่าโปรโมท
แต่หุ้นลม ก็ไม่มีความเสี่ยงใดๆหากธุรกิจเจ๊ง เขาก็ไม่เสียหายทางการเงิน(แต่ต้องใจเย็น)
นี่ล่ะครับ โลกแห่งความเป็นจริง
ส่วนป๋าเทพจะได้เงินหรือไม่ต้องไปดูตามสัญญา อาจจะไม่ได้เลยก็ได้ขึ้นอยู่กับสัญญา
แค่เขาเปลี่ยนชื่อร้าน ป้ายก็ได้ครับแค่เอาชื่อป๋าเทพออก