[สาระ] อธิบาย Antibody ต่อ Ebola ของศิริราช
ก่อนอื่นผมบอกก่อนว่ากระทู้นี้ยาวและเป็นเรื่องวิชาการพอสมควร (น่าสนใจด้วย 555)
แต่ผมจะพยายามอธิบายทุกๆอย่างให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
สำหรับเนื้อหาที่จะกล่าวถึง ผมขอแสดงความเห็นตามนี้นะ
- เพื่อนๆที่จบสายวิทย์ น่าจะพอเข้าใจได้ แต่ควรจะมีพื้นฐานพอสมควร
- เพื่อนๆที่จบสายศิลป์ , สายคำนวณ หรือสายอาชีพ ก็ลองๆอ่านและถามผมได้ทุกอย่างเลย ผมยินดีตอบและอธิบายเพิ่มเติมนะ
ผมไม่ได้มีความตั้งใจจะแบ่งแยกหรืออะไรทั้งนั้น ผมตั้งใจจะอธิบายด้วยความหวังดีเพื่อให้ทุกๆท่านเข้าใจจริงๆ
ถ้าผมยกเนื้อข่าวมาพูดเลย รับรองทุกท่านคงมึนตึ๊บแน่นอน เพราะยากมาก
เพื่อความเข้าใจ ผมจะเกริ่นความรู้พื้นฐานเรื่อง Ebola , Virus และ Antibody ให้เพื่อนๆด้วยนะ ในรูปแบบถามตอบ (Q:A)
Q : Ebola คืออะไร ?
A : Ebola คือ ไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อโรคไข้เลือดออกรุนแรงมาก (Severe Hemorrhagic fever) ปัจจุบันอัตราการตายอยู่ที่ 50-90% ติดต่อผ่านการสัมผัส กับ อวัยวะ , body fluid(พวกเลือด นํ้าลาย) , อุจจาระ โดยตรง แบบเอามือไปแตะก็ติดได้ ไม่จำเป็นต้องจูบปาก มีเพศสัมพันธ์ หรือกลืนกินเข้าไป
แต่ถ้าเป็นพวกหายใจ ไอ จาม (พวกละอองน้ำมูกน้ำลาย) จะติดยากมากครับ
Q : ทำไม Ebola จึงน่ากลัว ?
A : เพราะก่ออาการรุนแรงมาก และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา (ไม่มีวิธีการฆ่าไวรัสโดยตรง) ทำได้เพียงการรักษาตามอาการ เช่น ให้น้ำเกลือทดแทน ให้ยาลดไข้ เป็นต้น
Q : ปกติโรคที่เกิดจาก Virus เรารักษากันอย่างไร ?
A : ปัจจุบันเรามียารักษา (ยาต้านไวรัส) สำหรับโรคที่เกิดจาก Virus เพียง 4 กลุ่มโรค คือ
- Herpes : พวกอีสุกอีใส เริม(ที่ปากและอวัยวะเพศ)
- Influenza : ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ซึ่งยาที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยินชื่อ คือ Oseltamivir (ชื่อการค้า : Tamiflu)
- Hepatitis : ไวรัสตับอักเสบ
- HIV : โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ยาไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ แต่ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราไม่ลดลงต่ำจนเกินไป (Virusจะทำลายเม็ดเลือดขาว)
สำหรับไวรัสอื่นๆไม่มียารักษาอย่างจริงจัง จะมีแค่การให้การรักษาตามอาการ เช่น เจ็บคอก็อมยาอมแก้เจ็บคอ ไข้ขึ้นก็กินพารา ท้องเสียมากๆก็กินเกลือแร่ เป็นต้น
Q : Virus ดำรงชีวิตอย่างไร มีผลกระทบกับเราอย่างไร ?
A : Virus เกือบทุกชนิดต้องอาศัยอยู่ในเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวน เช่น สัตว์ คน พืช (เพราะไวรัสต้องใช้สารบางอย่างในเซลล์ช่วยในการเพิ่มจำนวน) แล้วจึงปลดปล่อยตัวเองออกมาจากเซลล์ ทำเช่นนี้เรื่อยๆ ส่วนมากตอนมันปลดปล่อยออกมานี่แหละ เซลล์ก็จะแตก สารต่างๆจะพรั่งพรูออกจากเซลล์ สารในเซลล์พวกนี้จะทำให้เราไม่สบาย เช่น ไข้ขึ้น ปวดเมื่อย เป็นต้น
Q : Antibody คืออะไร ช่วยอะไรเราได้บ้าง ?
A : Antibody คือ โปรตีนที่สร้างจากเม็ดเลือดขาว จะสร้างเพื่อตอบโตต่อสู้กับเชื้อโรคหรือสารพิษที่เข้ามาในร่างกาย
Antibody จะจับกับ เชื้อโรคหรือสารพิษ แล้วมีผลต่างๆ เช่น
- เชื่้อโรคเข้าเซลล์ไม่ได้ แล้วก็จะเพิ่มจำนวนไม่ได้ไปด้วย หรือทำร้ายเซลล์ไม่ได้
- ทำให้สารพิษหมดฤทธิ์ (เช่น เซรุ่มแก้พิษงู)
- ทำให้เชื้อโรคถูกเม็ดเลือดขาวจับกินได้ง่าย (คิดง่ายๆว่ามีอะไรก็ไม่รู้มาติดเยอะแยะเลย ก็หนักใช่ปะ ก็เลยวิ่งหนีลำบาก)
Q : ตัวอย่าง Antibody ที่เราคุ้นเคย ?
A : เซรุ่มแก้พิษงู ซึ่งช่วยทำให้พิษงูมีฤทธิ์น้อยลง ทำโดยการฉีดพิษงูให้ม้า(ม้าแข็งแรงกว่าคน) รอม้าผลิต Antibody แล้วเราก็ไปดูด Antibody นั้นออกมาสกัดไว้ฉีดคน
ผมคิดว่าเราปูพื้นฐานมาพอสมควรละครับ ต่อไปคือเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวนะ ซึ่งผมจะสรุปเป็นข้อๆ
1. ศิริราชผลิต Antibody ที่สามารถต้าน Ebola แต่ยังไม่ได้ทดลองกับไวรัสจริง (เอ๊ะยังไง ลองอ่านข้อต่อไปนะ)
2. Antibody ที่ได้จะไปจับกับโปรตีนของไวรัส แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าต้านไวรัสได้ยังไง (ต่อต้านการเข้าเซลล์? หรือ ป้องกันไม่ให้มันใช้สารในเซลล์ของเรา? หรือ ต่อต้านการออกจากเซลล์?) ขึ้นกับว่า Antibody ที่ผลิตได้นั้นไปจับกับโปรตีนตัวไหนของ Ebola (โปรตีนแต่ละตัวจะมีหน้าที่ต่างๆกัน เช่น ช่วยเข้าเซลล์ ช่วยออกเซลล์)
3. ขั้นตอนผลิต Antibody คร่าวๆมีดังนี้
- สั่งซื้อ Gene (ยีน) ที่มีรหัสพันธุกรรมเหมือนของ Ebola เข้ามา (ไม่ได้เอาไวรัสจริงๆเข้ามาในประเทศ)
- สร้างโปรตีนจากยีนนั้นๆ ก็คือเราจะได้โปรตีนของไวรัสแล้ว เย้ !!! (เหมือนกันที่คนเราสร้างโปรตีนต่างๆจาก DNAตัวเองนั้นแหละ)
- นำโปรตีนที่ได้ไปผสมกับ Bacteria แล้วรอให้ Bacteria สร้าง Antibody ออกมา (เหมือนกับที่เราให้ม้าสร้างเซรุ่มแก้พิษงู) เราจะตรวจจับการสร้าง Antibody ได้โดยหลักการที่ว่า Antibodyจับกับโปรตีนแล้วจะหนัก ดังนั้นพอมันหนักก็จะตกตะกอนมาที่ก้นของหลุมทดลอง เราก็เลือกหลุมนั้นครับ
- นำ Bacteria ที่ผลิต Antibody ได้มาเลี้ยงต่อ แล้วหลอกให้ Bacteria สร้าง Antibody ให้เราเรื่อยๆ
- สกัด Antibody ออกมา เย้ !!! สำเร็จ
4. ยังไม่มีการทดลองใช้กับผู้ป่วยจริงๆ อาจต้องรอเร็วๆนี้ ซึ่งตามทฤษฎีควรจะได้ผลตาม Lab แต่ก็มีการผลิตเยอะแยะที่ Lab ได้ผลดี แต่ของจริงแล้วเน่า
5. ข่าวล่าสุดเท่าที่ผมติดตามนะ WHO (องค์การอนามัยโลก) ได้เชิญคณะวิจัยไปร่วมทำงานด้วยกันเพื่อพัฒนาหาวิธีการรักษา Ebola แล้ว
อ้างอิง
http://www.si.mahidol.ac.th/th/hotnews_detail.asp?hn_id=1640
มีอะไรสงสัยก็ถามได้เลยนะ พอดีพึ่งเรียนเรื่องนี้ผ่านมา ความรู้ยังติดหัว 555