“ดาลี่ย์ บลินด์”จะกลายเป็นนักเตะทรงคุณค่าสำหรับแท็กติก
มาถึงตอนต่อของการวิเคราะห์ความสามารถของ ดาลี่ย์ บลินด์ นักเตะใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในนัดประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
ตอนที่แล้วเราพูดถึงการเป็นมิดฟิลด์ที่คอยประสานในจังหวะเริ่มต้นขับเคลื่อนเกมจากแดนหลังสู่แดนกลาง ของ ดาลี่ย์ บลินด์ โดยในตอนนี้เราจะพูดถึงการมีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของคู่แข่ง ด้วยการเป็นนักเตะคนที่ยืนต่ำสุดในแผงมิดฟิลด์(เปรียบเหมือนคนที่คอยคุมหางเสือ)ดันเกมขึ้นสูงไปในแดนคู่แข่งและเลือกผ่านบอลไปตามช่องว่าง ดังภาพประกอบด้านล่างนี้
บลินด์ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมในพื้นที่”กึ่งกลาง”ซึ่งสูงขึ้นไปในแดนของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
นี่เป็นอีกครั้งที่ บลินด์ ไม่ผ่านบอลง่าย ๆออกไปให้เพื่อนร่วมทีมที่ว่างอยู่ด้านกว้าง แต่เขากลับครองบอลและมองหาตัวเลือกสำหรับผ่านบอลคนอื่น
ภาพนี้จะเห็นว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวร่างกายของบลินด์ดูเหมือนว่ากำลังจะเคลื่อนเข้าไปผ่านบอลให้ มาต้า ที่อยู่พื้นที่ตรงกลาง
แต่จากนั้น ดาวเตะชาวดัตช์กลับผ่านบอลไปให้ รูนี่ย์ ในเวลาที่เหมาะสมหลังจากที่เขาหลอกล่อให้คู่แข่งเข้ามาประกบเขา (การเล่นจังหวะแบบนี้ต้องใช้ความนิ่งที่มีมากกว่านักเตะทั่วไป)
แทนที่จะผ่านบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมที่ริมเส้น บลินด์ เลือกพาบอลขึ้นไปและมองหาช่องสำหรับจ่ายบอล
ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าทำไมในทีมระดับชั้นนำยุคนี้จึงพยายามสร้างจังหวะการเล่นในพื้นที่กึ่งกลาง เพราะมันเปิดโอกาสของการเล่นจังหวะต่อไปได้มากยิ่งขึ้น(ตามลูกศรสีฟ้า)
แต่ในจังหวะต่อมา มาต้า คิดไม่ไวพอที่จะชิ่งบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่รอบตัวเขา(คงต้องจูนจังหวะการเล่นร่วมกันอีกสักระยะ)
เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กถูกคู่แข่งบีบพื้นที่จนต้องจ่ายบอลกลับไปให้ บลินด์
เมื่อไม่มีตัวเลือกที่มากพอ บลินด์ จึงเลือกจ่ายบอลไปให้ ราฟาเอล ที่อยู่ด้านขวา แต่เขาเลือกจ่ายบอลในเวลาที่เหมาะสมทำให้ ราฟาเอล มีพื้นที่ว่างมากมายให้ใช้ประโยชน์ในการเล่นจังหวะต่อไป
ภาพนี้จะเห็นว่าก่อนที่จะได้บอล บลินด์ จะชำเลืองมองดูตัวเลือกสำหรับผ่านบอลที่อยู่รอบตัวเขา
เมื่อไม่มีตัวเลือกผ่่านบอลที่มากพอ บลินด์ จึงพลิกบอลเคลื่อนไหวไปยังทิศทางอื่น
จังหวะต่อมา บลินด์ เหลือบเห็น โรโฮ ยืนว่างอยู่ในพื้นที่”กึ่งกลาง”บริเวณอื่น
การป้องกันของคู่แข่งเทไปยังพื้นที่หนึ่งของสนาม(ในภาพนี้คือพื้นที่ตรงกลาง) ทำให้มีพื้นที่ว่างมากมายสำหรับ โรโฮ
ความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางการเล่นของ บลินด์ เป็นสิ่งสำคัญในฐานการเริ่มต้นเกมบุกสำหรับเพื่อนร่วมทีมที่กำลังเคลื่อนที่รอเจาะเกมรับของคู่แข่ง
บลินด์ มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับ คาร์ริค เป็นอย่างมาก ทำให้พวกเราต้องมองเกมการเล่นของพวกเขาให้ลึก เพื่อให้เข้าใจการมีส่วนร่วมในเกมของพวกเขาซึ่งเป็นการเล่นอย่างมีคุณภาพและมีความละเอียดอ่อนมาก บ่อยครั้งที่พวกเราจะรู้สึกถึงความสำคัญของนักเตะสไตล์นี้ก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่ได้เล่น เพราะความไหลลื่นในการขับเคลื่อนเกมของทีมได้รับผลกระทบจากการที่ไม่มีนักเตะอย่างพวกเขา(ยกตัวอย่างเช่นยุคป๋าในนัดที่ไม่มี คาร์ริค ในแดนกลาง) แม้ว่าการผ่านบอลของพวกเขาจะไม่มีอะไรที่สะดุดตาแต่มันก็เป็นการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะในพื้นที่แดนหน้า ด้วยการผ่านบอลยาวไปให้กองหน้าในพื้นที่”กึ่งกลาง” ซึ่งเป็นสิ่งที่ คาร์ริค ทำได้ดีกับจังหวะแบบนั้น และการผ่านบอลในลักษณะนี้สามารถสร้างอันตรายให้คู่แข่งได้ เมื่อรวมกับการเคลื่อนไหวที่ดีของเพื่อนร่วมทีมในพื้นที่สุดท้าย ดังในคลิปข้างล่างนี้
ด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการเล่นตำแหน่งตัวโฮล์ดบอลเท่าเทียมกับ บลินด์ ทำให้เมื่อ คาร์ริค ฟิตสมบูรณ์ เขาควรเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งนี้เนื่องจากมีประสบการณ์ที่มากกว่าและไหวพริบในการเล่นเกมรับจากตำแหน่งนี้ที่ดีกว่าดาวเตะชาวดัตช์ ซึ่งมันจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการประสานงานกับเหล่าแนวรับวัยหนุ่มของทีม”ปีศาจแดง”(อย่างที่เราเห็นในเกมนี้ เกมรับของทีมยังมีจังหวะพลาดอยู่หลายครั้ง)
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า ดาลี่ย์ บลินด์ จะต้องถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง แต่พวกเขาทั้งคู่ควรจะได้ลงเป็นตัวจริงร่วมกันเพราะนอกเหนือจากความฉลาดแล้ว ความคล่องตัวของ บลินด์ ก็มีความสำคัญในการทำตามปรัชญาของ หลุยส์ ฟาน กัล ยกตัวอย่างเช่น ทีมชาติสเปนที่แม้จะมีกองกลางตัวรุกพรสวรรค์สูงอยู่มากมายที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปและฟุตบอลโลก แต่ เดล บอสเก้ กุนซือของพวกเขาก็ส่ง เซอร์จิโอ บุสเก็ตต์ กับ ชาบี อลอนโซ่ ลงเป็นตัวจริงพร้อมกัน เพราะมิดฟิลด์ตัวโฮลต์บอลทั้งคู่สามารถสร้างสมดุลให้กับทีม”กระทิงดุ” และเราสามารถนำมันมาใช้กับ บลินด์ และ คาร์ริค ได้เช่นกัน เมื่อรวมกับตอนที่ ฟาน กัล เข้ามารับงานคุมใหม่ ๆ กุนซือชาวดัตช์ได้เผยว่าเขาจะใช้ปรัชญาการเล่นของสเปนเป็นต้นแบบในการคุมทีม”ปีศาจแดง”ของเขา จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เห็นระบบการเล่นนั้นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอนาคต
ขอบคุณบทความและภาพประกอบจาก : Liveliveunited
แปลโดย : AJ44@แมนยูคลับ.com