มาครัชมีเสียงเรียกร้องมา ปมต.เลยถือโอกาศรวบรวมมาให้แล้วกัน หลายๆคนอาจจะไม่ได้ติดตาม งงว่าเขาอะไรกัน
ช่อง 3 เนี้ยสรุปอะไรยังไง ขออนุญาตรวบรวมข้อมูลจากเพื่อนสมาชิกและของผมเองเอามาให้อ่านกัน น่าจะเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
ผิดถูกยังไงขออภัยนะฮะ ขอเชิญผู้ที่ติดตามข่าวใกล้ชิดมาช่วยขยายด้วยก็ดี เช่นท่าน emula123 ข้อมูลเค้าแน่นดีมาก
เริ่มเรื่องก็ขอยกอันนี้มาเลยเข้าใจง่ายๆเบื้องต้น เรื่องการออกอากาศ+โฆษณา
----------------------------------------------------------------
สำหรับใครที่งง ว่าทำไมช่อง 3 ถึงเรื่องเยอะ ไม่ยอมทำแบบเจ้าอื่นๆ
ช่อง 3 เจ้าปัญหา
- ประมูลมาได้ 3 ช่อง แต่ออกอากาศแบบขอไปที ลองเปิดดูก่อนหน้านี้จะซึ้ง มีแต่รายการ Color Bar และ MV เพลงไม่ดังสำหรับช่อง HD ช่อง SD ก็อะไรก็ไม่รู้ ช่องเด็กนี่อย่าได้พูดถึง LOCA ของเจ๊ติ๋มยังน่าดูมากกว่า
- เอาเปรียบช่องอื่นโดยไม่ยอมเอาช่อง 3 อนาล็อก (หรือที่เค้าเรียกตัวเองว่า ช่อง 3 Original) มาออกคู่ขนานในแพลตฟอร์มดิจิตอลที่ตัวเองประมูลได้ถึง 3 ช่อง! (ความหวังที่แฟนขับละครน้ำเน่าจะได้ดูพระเอกนางเอกแบบ HD หน้าไม่บานก็เป็นอันพังไป) ทำให้ ณ วันนี้ ช่อง 3 เมื่อดูผ่านดาวเทียม และเคเบิ้ล (70% ในประเทศไทย) จะมีช่อง 3 ให้ดูถึง 4 ช่อง ในขณะที่ช่องอื่น ๆ เค้าลดกันเหลือแค่ดิจิตอลกันหมดแล้ว
- หัวหมอไม่ยอมเอาช่องอนาล็อกมาออกในดิจิตอล เนื่องจากต้องลดโฆษณาเหลือ 12 นาทีต่อชั่วโมง (ทุกวันนี้เกิน) และใช้ข้อได้เปรียบนี้เหนี่ยวรังเอเจนซี่โฆษณาเอาไว้ ทำให้เม็ดเงินไม่กระจายไปยังช่องดิจิตอล ซึ่งถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่เกินสิ้นปีนี้ช่องข่าวช่องนึงในแพลตฟอร์มดิจิตอลเจ๊งแน่ ๆ
- ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ที่ผู้ใช้ตามบ้านซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลไป มีเอามาคืนเพราะไม่มีละครช่อง 3 ให้ดู (กล่องดิจิตอล T2 ไม่มีช่อง 3 อนาล็อกครับ)
ถ้าหลังเที่ยงคืนวันนี้ กล่องดาวเทียม หรือเคเบิ้ลเจ้าใดยังปล่อยให้ช่อง 3 สว่างอยู่ คงต้องเคลียร์กับ กสทช. ยาวแน่ จะได้คุ้มเสียหรือไม่ก็วัดใจกันครับ
//ช่อง 3 อนาล็อก ถ้าเค้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ก็ยังสามารถรับชมได้ผ่านหนวดกุ้ง ก้างปลา ถึงปี 2563 ครับ
แบบภาพสั้นลงหน่อยน่าจะเข้าใจกันง่ายขึ้น
อันนี้ข้อมูลจากเพื่อนสมาชิกโพสไว้มู้ล่าง ใส่สปอย์ไว้แล้วกันยาวหน่อย
Spoil
สุดยอดสรุปมหากาพย์ช่อง3 แบบง่ายๆคับ โดยพี่หนุ่่ย พงศ์สุข
กรณีช่อง 3 งัดข้อ กสทช.
สรุปย่อและแนะนำว่าแต่ละฝ่ายควรทำอะไรต่อ?
(บทความนี้จะถูกตีพิมพ์ในนสพ.คมชัดลึกฉบับอังคารที่ 9 และพุธที่ 10 กันยายนนี้ ต้องตัด 2 ตอนจบเนื่องจากความยาว จึงขออนุญาตนำมาลงในนี้ด้วยเพื่อความต่อเนื่องของผู้อ่านและทันต่อเหตุการณ์)
จะเล่าแบบไม่ Take Side ไม่ Bias ใคร
เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้มาถามไถ่ให้ผมเล่าให้ฟังตลอดทั้งสัปดาห์ ทั้งเพื่อน ญาติ ลูกค้าและผู้หลักผู้ใหญ่ ต่อไปใครถามอีกผมจะยื่นบทความนี้ให้อ่านแทนการเล่าเพื่อประหยัดเสียงซึ่งได้เรียบเรียงให้เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว
1. กสทช. เปิดประมูลคลื่นเพื่อทีวีดิจิทัลนำสู่การเปลี่ยนผ่านยุคสมัยโทรทัศน์ไทยไปสู่สัญญาณที่คมชัดขึ้น (โดยการออกอากาศแบบภาคพื้น ชักเสาแล้วดูได้เลย ไม่ใช่ยิงมาจากฟ้าด้วยดาวเทียมที่ต้องติดจานรับชม) การประมูลนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิด Player รายใหม่ๆบ้าง หลังจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีสถานีฟรีทีวีเพียง 6 ช่องมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษและดูเหมือนผูกขาด ตลอดมามีเสียงบ่นจากคนดูเป็นระยะๆถึงความน้ำเน่าและไม่มีตัวเลือกมากนัก (อึดอัดกันแค่ไหนก็ให้ไปดูจำนวนช่องดาวเทียมและเคเบิ้ลที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด) ข่าวการประมูลนี้พูดถึงในวงการอย่างกว้างขวางนานกว่า 5 ปีที่รอคอยมา กสทช.มีการทำประชาพิจารณ์หลายครั้งทั้งกับกลุ่มผู้ประกอบการเองและประชาชนที่สนใจ ใบอนุญาตที่ประมูลกันได้ในครั้งนี้จะมีระยะเวลาประกอบการได้ถึง 15 ปี (เริ่มนับจากมิถุนายน 2557) และจะไม่มีจำนวนช่องมากกว่านี้อีกแล้วในกลุ่มเพื่อการพาณิชย์
2. กสทช. กำหนด 4ประเภทช่อง (รวมทั้งสิ้น 24 ช่อง) ให้ประมูลกันตามกรอบกติกา ราคาตั้งต้นและการเคาะผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่รัดกุม มีกติกาหนึ่งที่กำหนดให้ 1 องค์กรประมูลได้สูงสุด 3 ช่อง ห้ามคนประมูลช่อง HD มาประมูลช่องข่าวคู่กันเพื่อป้องกันการทุ่มตลาดที่อาจครอบงำความคิด ในระหว่างที่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆนี้ ช่อง 3 ส่งบุคลากรระดับ'ลูกเจ้าของมาเอง'สู่ที่ประชุมแทบทุกครั้ง และคุณประวิทย์ มาลีนนท์เองก็เข้าร่วมเรียนหลักสูตรพิเศษที่กสทช.จัดขึ้น (เพื่อให้ความรู้และกระชับสัมพันธ์กลุ่มผู้ประกอบการ) ผู้ร่วมเรียนด้วยเผยว่าคุณประวิทย์ Discuss ในคลาสเรียนว่า "ไม่น่ามีช่องเยอะขนาดนี้ ฐานคนดูก็กระจายออกหมด ไม่ส่งผลดี" (ไม่ใช่ประโยคเป๊ะๆเพราะฟังมาอีกที)
3. ช่อง3 (ในนามของบริษัทลูก) ให้ความร่วมมืออย่างดี ซื้อซองใบละ 1,070,000.-ร่วมลงแข่งในสนามประมูลด้วยถึง 3 ประเภทช่อง (ช่องเด็ก/ช่องSD/ช่องHD) ถูกต้องตามกติกาและประมูลได้ทั้งหมด คว้าใบอนุญาตมากที่สุดในบรรดา Player ทุกราย โดยทุ่มเงินประมูลสูงสุดทั้งช่องเด็ก/ช่องHD จึงได้สิทธิ์เลือกเลขช่องก่อนใครนั่นคือเลข “13" และ “33" ตามกลุ่มประเภทช่อง จะเซ็งก็ตรงไม่ชนะในประเภทช่อง SD จึงถูก WorkPoint ผู้ชนะในกลุ่มนี้เลือกเลข 23 ตัดหน้าไป (ใจจริง WP คงไม่ได้อยากได้เลขนี้นักหรอก แต่เพื่อสะกัดดาวรุ่งช่อง 3 ไม่ให้สมอารมณ์หมาย เดี๋ยวจะโปรโมตง่ายไป) ช่อง3 จำใจต้องเลือกเลข 28 ในกลุ่มประเภทช่อง SD ออกแบบโลโก้สถานีใหม่เหมือนลูกฟุตบอลตั้งชื่อช่องต่างๆว่า 3Family(13) 3SD (28) และ 3HD(33) โดยแสดงบทบาททางธุรกิจชัดเจนว่าช่อง 3 ในคลื่นสัญญาณ Analog เดิม (ซึ่งได้สิทธิ์แพร่ภาพต่ออีก 5 ปี นับถอยหลังจากมิถุนายน 2557) จะถูกคงไว้ในชื่อ “3 Original” โดยยังคงผังรายการลักษณะเดิมไว้ เช่นละคร, ข่าว, เกมโชว์ฟอร์มยักษ์ ฯลฯ สรุปช่อง 3 ตอนนี้"มี 4ช่อง”
4. ช่อง 3 เริ่มแพร่ภาพสัญญาณช่องดิจิทัลใหม่ๆทั้ง 3 ช้ากว่าใคร โดยเน้นผลิตรายการใหม่ใน 2 ช่องแรกก่อนนั่นคือ 3Family และ 3SD เน้นรายการข่าวโดยคนข่าวที่คุ้นเคยแต่ผังรายการส่วนมากก็เป็นการนำละครจีน/ฮ่องกง/เกาหลีเก่าๆ ละครไทยยุค’80 มาฉายตลอดวัน และไม่ได้ออกอากาศ 24ชม. ช่วงเปิดสถานีตอนเช้าได้ย้ายรายการ “แจ๋ว” ที่มีอายุอานามนานแล้ว (ไม่นับอายุพิธีกร) จากช่อง3Original มาจัดในช่อง 3Family ส่วน 3SD และได้ปั้นรายการใหม่ๆโดยใช้ผู้ประกาศดังๆที่เดิมแทบจะขี่คอกันอ่านข่าวอยู่แล้วบน 3Original ออกมาจัดรายการใหม่ในพื้นที่ตัวเอง เช่น สายสวรรค์, ไก่ ภาษิต, หมวย อริศรา, กรุณา บัวคำศรี, ซี ฉัตรประวีณ์ ฯลฯ ส่วนช่วงค่ำ 1ทุ่ม ช่อง3 ปั้นรายการใหญ่ “กาละแม” วาไรตี้ทอล์กโชว์ดูดีมีการลงทุนสูง ในช่อง 3HD เพื่อหยั่งกระแส กาละแมมาจัดสดทุกวัน อดปาร์ตี้บ้างอะไรบ้าง 4 ทุ่มมีการนำ "กาละแม” ของค่ำนั้นมารีรันทันทีเพื่อช่วงชิงเรตติ้ง (ที่ยังไม่ค่อยจะมี) ณ จุดนี้มีคนดูถามเยอะว่าทำไมไม่เอาละครมาลงช่อง HD จะได้ดูชัดๆแบบช่อง 7HD (ซึ่งเขาทำชีวิตง่ายกว่าเยอะ เพียงทำ Simulcast ออกอากาศคู่ขนาน และออกโฆษณาอั้มฝาแฝดมาอธิบาย ง่ายโพดๆ)
5. ณ จุดปล่อยตัวดิจิทัลทีวีในเดือนเมษายน กสทช.ได้ออกกฎ Must Carry ที่แปลง่ายๆว่า “ต้องขนขึ้นดาวเทียม” เพื่อให้การรับชม 24ช่องใหม่เป็นไปได้ในทันทีกับบ้านที่ติดจานดาวเทียมแล้วกว่า 70% ในประเทศนี้ (คิดดูแล้วกันว่าในอดีต สัญญาณ Analog มันแย่แค่ไหน? ใครๆเขาเลยต้องติดจานดาวเทียมที่โฆษณาว่า “ชัดล้าน%”) ทั้งนี้กสทช.ตั้งกรอบเวลาไว้นาน 4ปี กว่าเสาส่งสัญญาณดิจิทัลจะครอบคลุม 90% ของประเทศ เสาต่างๆนี้ลงทุนโดยผู้ให้บริการ MUX ที่กสทช.แต่งตั้งขึ้น อันได้แก่ ททบ.5, อสมท,ไทยพีบีเอส และช่อง11 (ซึ่งไม่มีใครไปเช่าใช้เลย..โถ) แต่ละสถานีมีอิสระในการไปเช่า MUX ให้ใครยิงแพร่ภาพให้ก็ได้ (ส่วนใหญ่เลือกเช่ากับ อสมท. และททบ.5)
6. ช่อง 3 แอบเปรี้ยว แอบยิงสัญญาณช่อง 3 Original ขึ้นดิจิทัลทีวีด้วยโดยต่อท้ายช่อง 36 PPTV สัญญาณยิงมาโดย “อสมท.” กสทช.ตรวจสอบพบทันทีในไม่กี่วันนั้นได้ออกหนังสือเตือนแรงๆให้เลิกทำทันที (ใครคิดแผนนี้ควรจับมารับโทษนะครับ) แต่ทั้งนี้จะด้วยช่อง 3แอบเปรี้ยว หรือ อสมท.ทำให้เอง คนที่ทำ”รู้อยู่แก่ใจ”ครับ
7. จุดแปลกประหลาดที่นำมาสู่ดราม่าในตอนนี้คือ กสทช.ในตอนนั้นดันไปออกประกาศอนุญาตให้ “ผู้ผลิตกล่องทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ล” ทุกรายสามารถเช็ตเลข10ช่องแรกบนกล่องได้เองอิสระ เซ็ตเป็นช่องของใครก็ได้ จากนั้นจึงค่อยนำช่อง 1-36 จากทีวีดิจิทัลไปต่อท้ายเลข10 ซึ่งได้ทำชาวบ้านงงตายห่านไปเป็นแถบ เนื่องจากเลข 13-36 (24ช่องพาณิชย์) เป็นเลขที่ประจำช่องอย่างเป็นทางการ ประกาศไปแล้วและใช้พูดหน้าจออยู่ทุกวัน แต่บนกล่องดาวเทียมกลับถูก “บวกไปอีก10” จึงจะเป็นช่องนั้นๆได้ (เช่น “33” ของช่อง 3HD ที่ทุ่มประมูลมาด้วยเงิน 3,530ล้าน กลับกลายเป็นเลข “43" บนกล่องดาวเทียมซะงั้น) ส่วนช่อง 1-12 ดิจิทัลที่เป็นทีวีสาธารณะก็ยังมีสถานีไม่ครบตามจำนวน (“1"คือ ททบ.5 “2” คือช่อง11 “3” คือ ThaiPBS และ “4” ThaiPBS ขอจองไว้ก่อนจะทำช่องเด็ก ..เด็กแบบเด็กสาธารณะอ่ะนะ) ส่วน 5-12 ยังไม่มี เว้นว่างไว้ บางกล่องฉลาดหน่อยก็กระโดดข้ามเลขให้ บางกล่องทำไม่ได้ก็แสดงภาพ “อยู่ระหว่างเตรียมการออกอากาศ” ให้ชาวบ้านคิดว่า “หมดช่องดูแล้ว” และมักไม่กดไปต่อ
8. 10 เลขช่องแรกที่ กสทช.ใจดีให้ผู้ผลิตกล่องดาวเทียมเลือกสรรช่องรายการกันเองกลายเป็น “มหกรรมขายเลขช่องครั้งมโหฬาร” มีการขายเลขเดี่ยวๆให้สถานีที่มีศักยภาพจับจอง อย่างที่เราเห็นการโปรโมทไปแล้ว “เวิร์คพอยท์ช่อง1” คุณปัญญามั่นใจว่าด้วยสูตรนี้ “ชนะแน่” เพราะโลกยุคอนาล็อค ช่อง3 ก็เป็น “เลข1เสมอ"บนกล่องดาวเทียมเช่นกัน แต่ตอนนี้เกมพลิก …”ไทยรัฐทีวี” ก็ทุ่มไม่อั้น ซื้อเลข 3 ใน 3 กล่องดัง PSI, GMMZ และ RS Sunbox ,ยังมี “ไทยทีวี” ของพี่ติ๋ม ทีวีพูลที่ซื้อเลข 7 ล่าสุด PPTV กระโดดมาซื้อ "เลข 6” บ้างแล้ว ไม่งั้นเงิบ เลข 46 ของเขามันอยู่ไกลเหลือเกิน (น้องคงกดไปไม่ถึงงงงง)
9. น่าสังเกตที่บางกล่องอย่าง GMMZ และเคเบิ้ลท้องถิ่นส่วนใหญ่ยังจัดให้ “ช่อง 3 Analog” อยู่บน “เลข1” ต่อไป ทั้งนี้เป็นเพราะสัมพันธภาพที่ผูกพันกันมาและเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าด่า ซึ่งต้องยอมรับว่าคอนเทนต์ช่อง 3 เขาก็แน่จริง เล่าข่าวก็แซ่บ ทำละครก็ติดกันงอมแงม
10. กสทช.เริ่มสังเกตแล้วว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป “ช่อง3 Analog” ก็จะไม่มีทางย้ายฐานมาออกคู่ขนานกับช่อง 33 ทางดิจิทัลได้ และฐานคนดูจำนวนมหาศาลก็จะไม่เข้าสู่ดิจิทัลทีวี “จึงออกประกาศใหม่" ให้ผู้ผลิตกล่องดาวเทียมและเคเบิ้ลจัดช่อง 1-36 ดิจิทัลไว้ในชุดแรก โดยยกเลิก10 ช่องแรกที่เคยใจดีให้จัดกันเอง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตกล่องรายใดปฏิบัติตาม เบะปากร้องว่า “มาบอกอะไรเอาป่านนี้!?” คนเขารับทรัพย์กันอยู่เดือนละหลายล้านแล้ว
11. กสทช.แสดงท่าทีชัดเจนให้ช่อง 3 Original ออกอากาศคู่ขนานกับ 3HD แบบที่ช่องอื่นๆเขาทำกันเพื่อโยกฐานผู้ชมมาชมดิจิทัลทีวีมากขึ้น คุณสุภิญญา หนึ่งในคณะกรรมการ กสทช. ถึงกับลงทุนทำ Ice Bucket Challenge ถึงคุณประวิทย์ มาลีนนท์ให้รับคำท้า “ทั้งราดน้ำแข็งและออกอากาศคู่ขนาน” ..ปรากฏคุณประวิทย์ไม่รับคำท้า
12. ช่อง 3 อ้างว่าบริษัทที่ประมูลช่องดิจิทัลเป็นคนละชื่อบริษัทกับช่อง 3 Analog ซึ่งติดสัญญาผูกพันอยู่กับ อสมท. (สัญญาสัมปทาน) จึงไม่สามารถออกคู่ขนานได้ แต่ทั้ง อสมท.และกสทช.บอก “ยินดีแก้ไขสัญญาให้” ..ช่อง 3 กลับไปคิด
13. ช่อง 3 ออกมาชี้แจงสังคมว่าเขามีสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจในคลื่น Analog เดิมเพราะเหลืออีกตั้ง 5ปี และเขาก็ทำช่องดิจิทัลทีวีใหม่นี้ด้วยอีก 3 ช่องซึ่งเป็นจำนวนช่องที่มากกว่าทุกบริษัทที่กำลังทำอยู่ (อยากมี 4 ช่องน่ะจะทำไม?)
14. คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดาแสดงทัศนะในงานครบรอบ 10 ปีครอบครัวข่าวว่า “ผมเชื่อมั่นใน Analog” เพื่อให้ผู้ฟังคือมีเดียเอเจนซี่และผู้ลงโฆษณาทราบเจตนารมณ์ว่ารายการเรื่องเล่าเช้านี้ไม่ย้ายแน่ๆ
15. สถานการณ์ขณะนี้ราคาโฆษณาในดิจิทัลทีวียังไม่สูงเท่าช่อง Analog เดิม เพราะฐานคนดูยังไม่มาก และผู้เล่นมีมาก การแข่งขันมันสูง ลดแลกแจกแถมกันสะบั้นหั่นแหลก แต่ช่อง 7 เขาก็ยังขายได้ราคาดีดังเดิมเหตุเพราะเขา Simulcast คือ “มีให้ชมทั้งคู่” ไม่ว่าจะชมด้วยทีวีแบบใด
16. ช่อง 3 Original มีสิทธิ์ 100% ที่จะไม่ออกอากาศคู่ขนาน เพราะเขายังมีสัญญากับอสมท. และกสทช.ก็บอกไว้แต่ต้นว่า “ให้ออกอากาศต่อไปได้อีก 5ปีสำหรับทีวี Analog” แต่ทั้งนี้ “ช่อง 3 ไม่มีสิทธิ์ออกอากาศด้วยกระบวนการ”ผ่านดาวเทียม” และ "เคเบิ้ลท้องถิ่น” เนื่องจากไม่อยู่ในสถานะทีวีดาวเทียมหรือทีวีบอกรับสมาชิก ซึ่งหากต้องการจะอยู่ก็ต้องยอม “ลดนาทีโฆษณาลงเหลือชม.ละ 6นาที” ตามกติกาของทีวีประเภทนี้
17. เวลานี้พ้นกรอบการผ่อนผัน 100 วันแล้ว (หลัง 1กันยายน) ช่อง 3 ยังออกอากาศและโฆษณาชม.ละ 10นาทีได้อย่างปกติสุขบนดาวเทียมและเคเบิ้ล (ทั้งนี้ผู้ผลิตกล่องไปสอยสัญญาณเขาไปให้บริการเอง ช่อง3 บอกเขาอยู่ของเขาเฉยๆ) ไม่มีใครกล้านำช่อง 3 ออก เว้นแต่ PSI ที่ดีดช่อง 3 กระเด็นออกไปเป็นเลข 330 ตั้งแต่เริ่มทำ Must Carry เดือนเมษายน (คนดูลำบากกดรีโมทย้อนกลับจากช่อง 0 มาดูได้)
18. ต้นตอที่แท้จริงคือ “บริษัทไทยคม” ยังรับยิงสัญญาณภาพขึ้นสู่ดาวเทียมให้ช่อง 3 อยู่ ต้นตอนี้ยังไม่มีใครไปไล่บี้ แต่กำลังงัดกันเองอยู่เพื่อเตะถ่วงให้เกิดความงงงวยกันทั้งผอง
19. บริษัทไทยคมไม่มีสิทธิ์รับยิงสัญญาณให้สถานีใดๆที่กสทช.ไม่อนุญาต (สมัยก่อนที่ยังไม่มีองค์กรกสทช. สถานีทีวีดาวเทียมต่างๆต้องไป “ผ่านหน้าบิล” บริษัทในเขมร,ลาว เพื่อเช่าไทยคมเลยนะคิดดู) เรื่องนี้ยังไม่มีใครเอ๊ะ แต่ผมจะเอ๊ะให้ก่อน
20. กสทช.ยังไม่แจกคูปองให้ประชาชนแลกซื้อกล่องรับสัญญาณดิจิทัลทีวีเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ชมตามที่สัญญา (นึกถึงเพลงคสช.จัง) สัญญากันตั้งแต่ “พฤษภาคม” เพื่อเร่งให้ทุกช่องเปิดสถานีออกอากาศไปก่อนในเดือนเมษายน แต่สุดท้ายก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยอ้างว่า “รอสรุปราคาคูปอง” พอสรุปได้แล้วว่า 690.- แน่ก็อ้างต่อ “พิมพ์คูปองไม่ทัน” ถามจริงๆ “พิมพ์หรือยัง???”
21. การผัดผ่อนเหมือนผัดก๋วยเตี๋ยวนี้ส่งผลเสียอย่างมาก สถานีใช้เงินผลิตรายการดีๆกันวันละเป็นล้านๆแต่กลับไปไม่ถึงผู้ชมทั่วทั้งประเทศ (ไปได้ด้วยดาวเทียม แต่เลขช่องมันไกลเหลือเกิน) "เรตติ้งไม่มาโฆษณาก็ไม่เข้า” ผู้ชมตอนนี้คือกลุ่มเมืองที่มีความสนใจและกำลังซื้อด้วยตัวเองแต่ไม่ใช่ “คนไทยทั้งประเทศ”
22. เดือนที่เคยกำหนดว่าจะแจกคูปองคือ “พฤษภาคม” “มิถุนายน” “สิงหาคม" หรือแม้กระทั่งกำหนดวันแล้วอย่าง “15กันยายน" ยังถูก “เลื่อนล่าสุด” มาเป็น “15ตุลาคม" และระบุว่ากว่าประชาชนจะนำคูปองไปแลกได้คือวันที่ 25 ตุลาคม เป็นต้นไปและจัดส่งได้ก่อนเพียง 11ล้านหลังคาเรือน ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจะดำเนินการให้ได้ภายใน 2ปี (เฮือกกกก) เงินจากการแจกคูปองหาใช่เงินภาษีที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเงินจากผู้ประกอบการที่จ่ายผ่านการประมูลกันมาอย่างห้ำหั่น
23. ทุกฝ่ายกำลังเรียกร้องให้ช่อง 3 Original เสียสละออกอากาศคู่ขนานกับ 3HD เพื่อหวังว่าฐานคนดูช่อง 3 จะกระโจนลงมาสู่ดิจิทัลทีวี ..แต่ช่อง 3 บอก”ไม่" เขามีสิทธิ์ดำเนินธุรกิจแยกกัน เขามั่นใจดีว่าฐานคนดูส่วนใหญ่อยู่กับตัวก็เกิดความรู้สึก “ไม่อยากแชร์” เป็นธรรมดามนุษย์ เขาเป็นหนึ่งในตองอู (6ช่อง) เขาก็ย่อมกลัวบ้างว่าจะเป็นหนึ่งในกรุงศรี (24ช่อง) ได้ด้วยไหม? ในเมื่อสถานีอื่นๆก็กำลัง “จัดเต็ม” รายการคุณภาพแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์รายการทีวีเมืองไทย
24. ลองคิดกันดูดีๆ ถ้ากสทช.ทำ “สนามให้น่าเล่น” ใครเล่าจะปฏิเสธ? “เรตติ้ง” เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในธุรกิจฟรีทีวีเพราะเขาต้องขายโฆษณาเพื่อเลี้ยงองค์กร
25. สรุปปิดท้าย "ช่อง 3 จะทำผิดกฏหมาย” ถ้ายังออกอากาศด้วยดาวเทียม “การไม่อยากแชร์ฐานคนดูสู่ดิจิทัลทีวี" ไม่มีใครว่า (เขาแค่อิจฉาและถามหาสปิริต) แต่ยังไงต้อง "ปฏิบัติตามกฏหมาย” หากเลือกจะออกคู่ดาวเทียมก็ต้องลดนาทีโฆษณาลงและไปขอใบอนุญาตทีวีดาวเทียม/เพย์ทีวีซะ แต่ถ้าเด็ดเดี่ยวมากก็ออกเฉพาะสัญญาณ Analog ไปซะก็จะหล่อเลย วันนึงข้างหน้าดิจิทัลทีวีเกิดมีคนดูมากขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยย้ายรายการดังๆมาลงช่อง 3HD/SD/Family ที่ตัวเองมีอยู่ก็ยังได้
กสทช.เองก็จงเลิก "คิดต่าง..อย่างไม่เข้าใจ" (ในหมู่ 5 กรรมการ กสท.) แล้วเร่งทำเรื่องสำคัญของตัวเองคือ “ขยายฐานผู้ชมทีวีดิจิทัล” เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมนี้ไปสู่การเปลี่ยนผ่านที่สมบรูณ์ ...ไปทำตามสัญญาเถอะจ้ะ นะ นะ (จะมาตีมึนร้องต่อว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” ก็ไม่ยอมแล้วล่ะ)
==========จบนะ==========
เพิ่มเนื้อหาไปเจอเม้นในพันทิปเขียนได้ดีลองอ่านดูนะ
Spoil
ความคิดเห็นที่ 8-5
เขาแค่ต้องการชะลอการเกิดของทีวีดิจิทัลไงครับ ถ้าเขายังออกอากาศทางดาวเทียมได้อยู่ ทีวีดิจิทัลจะไม่ได้เกิด เนื่องจากคนซื้อกล่องจะดูช่อง 3 ไม่ได้ (ใครจะซื้อล่ะถ้ามันดูได้ไม่ครบช่อง) เรตติ้งเขาก็ยังคงสูงเช่นเดิม โฆษณาเยอะเหมือนเดิม แล้วอีก 6 ปีผ่านไป อาศัยเม็ดเงินและเรตติ้งที่มีในมือ ย่อมทำให้ 3HD อนาคตใสกว่าช่องดิจิทัลอื่น ๆ ที่ขาดทุนจากการประมูลแบบหมอไม่รับเย็บ ช่องที่ออกอากาศคู่ขนานก็เสียค่าสัมประทานไปฟรี ๆ ทีนี้ก็ค่อยปรับตัวเองไปทีวีดิจิทัลเต็มตัว เพราะตัวเองประมูลช่องที่แพงที่สุดไว้ในมือเพื่อเอาไว้ใช้ในอีก 6 ปีนี่เอง <----- เกลียดตรงนี้แหละ ปากบอกช่อง 3 สนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน แต่ลืมวงเล็บว่า อีก 6 ปี ไงครับ
ไม่ต้องอ้างว่าออกคู่ขนานไม่ได้นะครับ กสทช ยินดีที่จะแก้ปัญหาการออกอากาศคู่ขนานให้ทุกประการ แต่ช่อง 3 เลือกที่จะทำอนาล็อกอีก 6 ปี งั้นก็จงไปอยู่ในก้างปลาเหมือนเดิมเถอะ ปู่โสม..............
ตอนนี้ผมก็ได้แต่เฝ้าดูช่อง 3 จอดับ แล้วหาทางตะกายกลับมาดิจิทัลอย่างไร เพราะลูกค้าดาวเทียมไม่ใช่น้อยอยู่ โฆษณาคงหนีเยอะ แต่เชื่อเหอะ 3 HD คงต้องพับความฝันอีก 6 ปีข้างหน้า แล้วรีบปลอมตัวเป็น 3 คู่ขนานทันที <---- อันนี้เป็นความฝันสูงสุดของผมครับ
ถ้าไงก็ตามคงยุ่งน่าดู ถ้าปู่โสมเขาไม่ยอมคู่ขนาน คงมีเห็นกล่องดิจิทัลรุ่นพิเศษ รับ UHF+DVB-T2 ออกมาขายกันบ้างล่ะ 5555+ <---อย่างคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ 3 ช่อง กับ 4 ช่องนี้ คนละเรื่องเลยนะครับ การลงทุนทำกล่อง UHF+DVB-T2 ออกมาแจกฟรี ๆ หรือขายในราคาพิเศษ อาจคุ้มกว่ารายได้โฆษณาที่หายไป 1 ช่องใน 6 ปีไงครับ แล้วการทำกล่องแบบนี้ง่ายมาก ๆ สั่งจีน ไม่เกิน 1 เดือนก็ออกมาให้ชาวไทยยลโฉมแล้ว
http://pantip.com/topic/32535410
และล่าสุดมีมติจาก กสท.
มติกสท.ห้าม เคเบิลทีวี-ทีวีดาวเทียมนำสัญญาณช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศ พร้อมให้เวลาดำเนินการ 15 วัน ฝ่าฝืนอาจเจอเพิกถอนใบอนุญาต...
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้เปิดเผยผลการประชุมบอร์ด กสท.วันนี้ โดยมติบอร์ด กสท. 3:2 เสียง ให้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ห้ามนำสัญญาณช่อง 3 อนาล็อก ออกอากาศในระบบดังกล่าว โดยแจ้งเตือนผู้ชมผ่านตัววิ่ง
ทั้งนี้ ให้เวลา 15 วัน แจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจากผู้ประกอบการรายใด จะมีโทษตั้งแต่เบาไปถึงหนัก คือ แจ้งเตือน ปรับ ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ.
อันนี้ก็ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วจะดิ้นไปยังไงต่อ จะยอมจอมืดในเคเบิ้ลทีวี แล้ววัดใจกับหนวดกุ้ง
หรือจะตกลงอะไรกันได้ ต้องตามกันต่อนะครัช ใครมีอะไรเพิ่มเติมเชิญได้เลยนะจะได้ไม่งงกัน ยาวหน่อยแต่อ่านแล้วรู้เรื่องแน่นอน
ปล.ต่อไปใครงงจะก๊อปมู้นี้ไปให้อ่านละกันง่ายดี
ลงชื่อ ปมต.ก๊อดซ่า