วิเคราะห์ทางการเงิน ของ "แมนยู" และ "ลิเวอร์พูล"
และผลกระทบจากการไป/ไม่ได้ไป UCL

แมนยู ปี 2013/2014

รายได้ ต่อปี 500 ล้านปอนด์ (27,000 ล้านบาท)
ค่าใช้จ่าย ต่อปี 181 ล้านปอนด์ (9,774 ล้านบาท)
กำไรก่อนหักภาษี 319 ล้านปอนด์ (17,226 ล้านบาท)
*การไม่ได้ไปแข่ง UCL ทำให้รายได้หายไป 50 ล้านปอนด์
*การไม่ได้ TOP3 ทำให้รายได้หายไปประมาณ 4 ล้านปอนด์
*เงินชดเชยให้ เดวิด มอยส์ 10 ล้านปอนด์ (2% ของรายได้ )
*มูลค่าเสียหาย 64 ล้านปอนด์ (3,456 ล้านบาท) คิดเป็น 12.8 % ของรายได้
***และรายได้อาจลดลงไปอีก เนื่องจากการไม่ได้ไป UCL ทำให้สปอนเซอร์น้อยลง
>
แต่ถ้าปีหน้าได้ไป ยูโปป้า ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านปอนด์

ทำไมถึงไม่ปลด เดวิด มอยส์ หลังจบฤดูกาล เป็นเพราะบอร์ดต้องการปั่นราคาหุ้น
ตอนแรกหุ้นแมนยู อยู่ประมาณ 18.09 ดอลลาร์/หุ้น
หลักจากปลดมอยส์ ก็ขึ้นไป 19.18 ดอลลาร์/หุ้น ทันที (เพิ่มขึ้น 6%)
แต่หุ้นวันนี้ 24/04/2014 อยู่ที่ 17.85 ดอลลาร์/หุ้น หนักว่าตอนแรกอีก (บอร์ดแมร่งคิดผิด 555+)
แมนยู ทำน่าเกียจกับ มอยส์ โดยการปลดแบบไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเราและมอยส์รู้ข่าวการถูกปลด จากหน้าเว็บไซต์ของสโมสรแมนยู พร้อมกัน
-----

ลิเวอร์พูล ปี 2013/2014

รายได้ ต่อปี 233 ล้านปอนด์ (12,582 ล้านบาท)
ค่าใช้จ่าย ต่อปี 132 ล้านปอนด์ (7,128 ล้านบาท)
(เฉพาะค่าตัวของท่าน Habeltak Be Ayre ก็ปาไป 1.035 ล้านปอนด์/ปี O_O! )
กำไรก่อนหักภาษี 101 ล้านปอนด์ (5,454 ล้านบาท)
หนี้สิน 47 ล้านปอนด์ (ผ่อนระยะยาว) (2,538 ล้านบาท)

หนี้สินก่อนหน้า FSG เข้ามา อยู่ที่ 38 ล้านปอนด์ ทำให้ FSG ต้องกู้เงิน 47 ล้านปอนด์ เพื่อมารักษาสภาพคล่องทางการเงิน
*การได้ไปแข่ง UCL ปีหน้า ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านปอนด์ (เพิ่มขึ้น 21.46% O_O!!! ) (เพราะแทนที่แมนยูที่หายไป) ซึ่งสามารถนำเงินก้อนนี้มาโปะหนี้ได้ทันที
***และรายได้อาจเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากการได้ไป UCL ทำให้สปอนเซอร์เพิ่มขึ้น
-----
จบข่าว by โปรเอก กินตับ