Review ภาพยนตร์เรื่อง "Transcendence" (ไม่สปอย)



คะแนน 3.5/5
Transcendence คือภาพยนตร์แนวไซไฟที่ว่าด้วยเรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยี A.I. ที่ถูกพัฒนาโดย Dr. Will Caster นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของยุค ซึ่งเขาถูกลอบยิงและเสียชีวิตแต่ภรรยาของเขากลับใช้วิทยาการสุดล้ำยื้อชีวิตของ Will ไว้ด้วยการเชื่อมต่อมันสมองของเขาเข้ากับคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ A.I. หลังจากนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ Will ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในรูปแบบของระบบคอมพิวเตอร์ และเขากำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกนี้ไปตลอดกาล ตัวหนังได้ดาราดังอย่าง Johnny Depp มารับบทนำ และยังได้ผู้กำกับชื่อดังแห่งยุคอย่าง Christopher Nolan มารับหน้าที่เป็น Executive Producer อีกด้วย แน่นอนว่าทั้งเนื้อเรื่องและทีมงานก็เรียกความสนใจจากคอหนังได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผมที่เป็นคอหนังไซไฟและคาดหวังไว้กับภาพยนตร์เรื่องนี้สูงมากๆ แต่ก่อนที่จะได้มีโอกาสเข้าไปดู ผมค่อนข้างตกใจกับคะแนนนักวิจารณ์ที่จัดว่าแย่พอสมควรอยู่เหมือนกัน

และหลังจากดูจบ ผมคิดว่าตัวหนังไม่ได้แย่อะไรเท่าไหร่ เพียงแต่ด้วยความคาดหวังที่สูงอาจจะทำให้คนดูต้องการอะไรจากตัวหนังมากกว่านี้ เพราะด้วยความที่ Transcendence นั้นเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ ลูกเล่นหลักๆของภาพยนตร์แนวนี้มักจะต้องเป็นความล้ำของแนวคิด ความซับซ้อนของเนื้อเรื่อง หรือสุดยอดการหักมุมที่น่าตกใจ แต่ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า Transcendence แทบไม่ได้เน้นสิ่งเหล่านั้นเลย อาจจะมีแนวคิดที่ดูล้ำบ้างแต่ก็ไม่ได้ฉีกไปจากภาพยนตร์แนวเดียวกันมากนัก รวมถึงเนื้อเรื่องที่ไม่ได้มีปม หรือมีปริศนาให้คนดูคิดหาทางออกซักเท่าไหร่

ส่วนทางด้านจุดขายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงให้เห็นอีกมุมนึงของเทคโนโลยี แฝงด้วยปรัชญาและแนวความคิดของเหตุผลการใช้วิทยาศาสตร์รักษาโลกด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าพลอตเรื่องของ Transcendence ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ที่น่าดึงดูดให้คนดูเท่าที่ควร เรียกได้ว่าไอเดียดีเพียงแต่ยังตีแผ่เล่าเรื่องออกมาได้ไม่เจ๋งพอ ยิ่งหากนำไปเทียบกับหนังไซไฟที่มีต้นแบบความคิดคล้ายๆกันอย่าง The Matrix ก็ต้องบอกว่า Transcendence นั้นยังห่างไกลอยู่เยอะจริงๆ

กะจะไปดูซักหน่อย ...

อ่านใจเพจก่อนแล้วครับ

ท่านอาจจะชอบก็ได้นะครับ
ลองไปดูก่อนๆ
ตัวหนังไม่ได้แย่นะครับ เพียงแต่ผมอาจจะคาดหวังไว้สูงเกินไป



ขอบคุณที่ติดตามครับท่าน

คล้ายๆ Source Code ป่าวครับ

ไม่ครับ 2เรื่องนี้ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ค่อนข้างต่างกัน
เน้นหนักกันไปคนละอย่าง
source code เป็นเรื่องทฤษฎีโลกคู่ขนาน
แต่ transcendence นี่หลักการ A.I. สมองกลอัจฉริยะล้วนๆเลยครับ

ถ้าถามว่าเรื่องไหนดีกว่า
ผมยังยกให้source codeนะ เพราะตัวหนังล้ำกว่า ดูแล้วอึ้งกว่าครับ

คือหนังมันสื่อให้เรารู้ว่า คอมกับคน มารวมกัน จะเกิดอะไรขึ้น ผมว่ามันก็ไม่ซับซ้อนอะไรแต่แรกและ มันสื่อแบบว่าจะเป็นยังไงต่อไป มันคนละแนวกับอินเซปชั่นอ่ะ

แล้วแต่ความคิด ความชอบของแต่ละท่านด้วยแหละครับ
ส่วนตัวผมมองว่าหนังมันน่าจะมีลูกเล่นเยอะกว่านี้หน่อย

ผมก็หาเวลาไปดูอยู่ แต่ก็ทำใจพอสมควรแล้วหละ

ความเห็นผมคล้ายๆท่านครับ

ผมชอบหนังแนวนี้นะครับ แต่ก็ให้ 7.5/10 คะแนน
ผมว่าหนังยังทำให้คนดูอินไม่ได้ ส่วนไอเดีย และ การดำเนินเรื่องทำได้ดีเลยครับ