สตีเฟ่น เจอร์ราด เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองลิเวอร์พูล ย่านฮายตัน ประเทศอังกฤษ
เจอร์ราร์ด เป็นคนเมอร์ซี่ย์ไซด์แท้ๆ เกิดและเติบโตในย่านฮายตัน เมือง
ลิเวอร์พูล ทำให้มีสายเลือดของความเป็น
สเกาเซอร์อยู่เต็มเปี่ยม และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้เขาซึ่งเติบโตในครอบครัวของเดอะ ค็อป เลือกที่จะผูกพันกับ
ลิเวอร์พูล สโมสรอันดับหนึ่งของเมืองมากกว่าจะเป็น
เอฟเวอร์ตัน
มีเรื่องเล่ากันว่าในวัยเด็กสตีเว่น มีโอกาสที่จะได้สวมชุดของทีม
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แล้ว แต่กลับปฏิเสธไป แถมยังเอาเรื่องนี้ไปโทรกดดันให้แมวมองของ
ลิเวอร์พูล รีบยื่นสัญญานักเตะฝึกหัดมาให้อีกเพราะอยากจะอยู่
แอนฟิลด์ มากกว่า
และนี่เองที่ทำให้ในเวลาต่อมา แม้เจอร์ราร์ด จะโดนทีมอื่นให้ความสนใจและเคยเกือบเผลอใจมาแล้วถึง 2 ครั้งซ้อนๆ กับเชลซี แต่สุดท้ายหัวใจก็ยังคงบอกให้เขาอยู่ที่แอนฟิลด์ ต่อไปเสมอ
โชคดีของลิเวอร์พูล ด้วยที่ไม่พลาดในการเซ็นสัญญาหนึ่งในกองกลางดาวรุ่งพรสวรรค์ที่เก่งที่สุดคน หนึ่ง และในเวลาเพียงไม่กี่ปีหลังจากนั้นชื่อของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็กลายเป็นชื่อที่แฟนบอลเดอะค็อป ตะโกนร้องเรียกมากที่สุด
เจอร์ราร์ด ได้รับโอกาสในการลงสนามจากการเปิดทางของเชราร์ อุลลิเยร์ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ที่มอบเสื้อสีแดงสดให้ในปี 1998 และยังเป็นผู้ขัดเกลาสอนสั่งวิชาให้ในช่วงแรก โดยจับให้เล่นในหลากหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นกองกลาง ปีก หรือแบ็ก ซึ่งทำให้เจอร์ราร์ด มีความสามารถในการเล่นที่หลากหลายทั้งรับและรุก และกลายเป็นข้อที่โดดเด่นที่สุดในตัวไปโดยปริยาย
หลังจากที่เริ่มได้รับโอกาส โดยเฉพาะในช่วงที่กัปตันในยุคนั้นอย่างเจมี่ เร้ดแนปป์ ได้รับบาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้พื้นที่กลางสนามตกเป็นของเจอร์ราร์ด ที่ได้พี่ใหญ่อย่างดีทมาร์ ฮามันน์ คอยประคับประคองให้ และค่อยๆแทรกซึมเข้ามาเป็นผู้เล่นตัวจริง
แต่กระนั้นเจอร์ราร์ด เองก็เคยประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เกิดจากการที่ร่างกายยังเติบ โตไม่เต็มที่ แต่หลังจากที่ได้รับการรักษาที่ฝรั่งเศส ซึ่งอุลลิเยร์ เป็นคนส่งไปด้วยตัวเอง เขาก็กลับมาเป็นคนใหม่ที่แกร่งกว่าเก่าและไม่เคยต้องบาดเจ็บเรื้อรังแบบนั้น อีกเลย
เจอร์ราร์ด พบปีแห่งความสำเร็จที่สุดในชีวิตครั้งแรกด้วยการคว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียวในปี 2001 โดยได้ทั้งลีก คัพ ,เอฟเอ คัพ และยูฟ่า คัพ ก่อนที่จะได้รับเกียรติสูงสุดที่ใฝ่ฝันเมื่ออุลลิเยร์ ริบปลอกแขนกัปตันทีมจากซามี่ ฮูเปีย มาให้เป็นสมบัติของเจอร์ราร์ด ที่เริ่มพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อทีม
แต่ด้วยความที่เก่งเกินไปทำให้กลายเป็นว่าเจอร์ราร์ด ต้องแบกรับลิเวอร์พูลเอาไว้คนเดียว และหงส์แดงก็กลายเป็นนกหลงทางที่ไม่รู้จะบินไปทางไหน เจอร์ราร์ด เริ่มสับสนกับอนาคตของตัวเองและเกือบที่จะตัดสินใจย้ายไปเชลซี ในช่วงฟุตบอลยูโร 2004 หลังโดนโชเซ่ มูรินโญ่ บุกไปทาบทามถึงห้องพัก
กระนั้นเมื่อได้คุยเปิดอกกับราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการชาวสเปน ที่เข้ามาแทนที่ของอุลลิเยร์ ที่เจอร์ราร์ด รักเหมือนพ่อคนที่สอง กัปตันหงส์ก็ตัดสินใจที่จะอยู่กับทีมต่อไป ซึ่งแม้ว่าในฤดูกาลนั้นลิเวอร์พูล จะกระท่อนกระแท่นเต็มทน แต่ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลับคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 5 ของสโมสร กับเกมนัดชิงชนะเลิศที่มหัศจรรย์ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยการไล่ตามหลังยอด ทีมอย่างเอซี มิลาน 0-3 มาเสมอกันที่ 3-3 ก่อนจะชนะในการดวลจุดโทษ
และที่สำคัญที่สุดคือแชมป์นี้พูดได้เต็มปากว่ามาจากน้ำพักน้ำแรงของ เจอร์ราร์ด กว่าครึ่ง โดยเฉพาะประตูมหัศจรรย์ในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับโอลิมเปียกอส ที่ช่วยให้ลิเวอร์พูล ได้เข้ามาถึงรอบน็อคเอาต์ได้ และหลังจากพาโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ กลับมาจากอิสตันบูล เป็นสมบัติของแอนฟิลด์ เจอร์ราร์ด ก็ได้รับรางวัลเกียรติยศส่วนตัวชิ้นแรกคือรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ หรือสมาคมนักฟุตบอลอาชีพที่เพื่อนนักเตะลงคะแนนให้
แต่เจอร์ราร์ด ก็เกือบที่จะไปจากลิเวอร์พูลเหมือนกันหลังได้แชมป์ยุโรป ด้วยความไม่เข้าใจกับทางสโมสรที่ไม่ยอมยื่นสัญญาใหม่ให้ และประกาศที่จะย้ายทีมไปเชลซี แบบช็อกแฟนๆ แต่หลังจากนั้นแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เจอร์ราร์ด ก็ทำเอาแฟนๆช็อกอีกครั้งแต่เป็นการช็อกด้วยความยินดีเมื่อเขาเปลี่ยนใจขอต่อ สัญญากับทีมออกไปอีก 4 ปีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และยืนยันว่ารักลิเวอร์พูลทีมเดียว
เจอร์ราร์ด ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะสำคัญที่สุดของลิเวอร์พูล ใน 2 ฤดูกาลหลัง และสร้างตำนานเฉพาะตัวอีกครั้งในการทำประตูมหัศจรรย์ช่วยตีเสมอเวสต์แฮม ในเกมนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในวินาทีสุดท้ายของเกมทั้งที่เป็นตะคริวก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะได้แชมป์จากการดวลจุดโทษอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี สำหรับเส้นทางทีมชาติดูเหมือนสตีเว่น คนนี้จะยังไม่สามารถระเบิดผลงานมหัศจรรย์ได้เหมือนในลิเวอร์พูล เนื่องจากยังไม่มีโค้ชคนใดที่ใช้งานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ต้องผิดหวังในยูโร 2004 และฟุตบอลโลก 2006 นอกจากนี้ยังเคยพลาดรายการสำคัญอย่างฟุตบอลโลก 2002 เพราะเกิดบาดเจ็บรุนแรงก่อน
แต่แฟนบอลชาวอังกฤษ ทุกคนก็รอคอยที่จะได้เห็นยอดนักเตะอย่างเจอร์ราร์ด ระเบิดเพลงแข้งระดับสุดยอดพา "สิงโตคำราม" คว้าแชมป์รายการระดับชาติมาให้ได้เสีย เหมือนที่เขาได้พิสูจน์ถึงพรสวรรค์ที่ยากหยั่งถึงมาแล้วในสีเสื้อลิเวอร์พูล
สตีเวน เจอร์ราร์ด เกิดเมื่อไหร่?
เจอร์ราร์ด เกิดวันศุกร์วันที่ 30 พฤษภาคม 1980 โดยเป็น
เขาประเดิมสนามในเกมใด และผลการแข่งขันเป็นอย่างไร?
เจอร์ราร์ดลงเล่นเกมแรกในวันที่ 29 พ.ย.1998 ในฐานะตัวสำรองโดยลิเวอร์พูลชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0
เจอร์ราร์ดลงสนามแทนใครในวันนั้น และนาทีที่เท่าไหร่?
เวการ์ด เฮกเก้ม ในนาทีที่ 90
สตีเวน เจอร์ราร์ด ทำประตูแรกในเกมใด?
เกมวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 1999 ในเกมชนะเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 4-1 โดยเจอร์ราร์ดทำประตูที่ 3 ในนาทีที่ 69 ให้ลิเวอร์พูล
เจอร์ราร์ดมีพี่น้องกี่คน?
2 คน (รวมตัวเขา) โดยมีพี่ชายชื่อพอล ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ (คนมักสับสนกับ พอล เจอร์ราร์ด อดีตผู้รักษาประตูเอฟเวอร์ตัน) แต่มีลูกพี่ลูกน้องเป็นนักฟุตบอลอาชีพหนึ่งคนคือ แอนโธนี เจอร์ราร์ด ที่ตอนนี้เล่นให้กับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์
ถึงตอนนี้เจอร์ราร์ดมีบุตรทั้งหมดกี่คน?
3 คนเป็นบุตรสาวทั้งหมดชื่อ ลิลลี-เอลล่า, เล็กซี และลูร์ดส์
เจอร์ราร์ดเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่ฮิลล์สโบโรห์ในปี 1989 อย่างไรบ้าง?
จอน-พอล กิลฮูลีย์ ญาติของเจอร์ราร์ดเสียชีวิตในหายนะครั้งดังกล่าวด้วยวัยเพียง 10 ปี ถือว่ามีอายุน้อยที่สุดในบรรดา 96 ชีวิต ซึ่งในขณะนั้นเจอร์ราร์ดอายุ 8 ขวบ
เจอร์ราร์ดคว้าแชมป์รายการใดกับลิเวอร์พูลมาแล้วบ้าง?
เอฟเอคัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1สมัย, และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย
เจอร์ราร์ดเคยคว้ารางวัลใหญ่ส่วนบุคคลในปีใดบ้าง?
เจอร์ราร์ดได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมพีเอฟเอในปี 2001 และนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอในปี 2006
เจอร์ราร์ดมีสถิติทำประตูในนัดชิงชนะเลิศ 3 รายการคือรายการใดบ้าง และในปีใด?
ลีก คัพ 2003, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2005 และเอฟเอ คัพปี 2006
สตีเวน เจอร์ราร์ด ตอบคำถามแฟนๆที่ถามมาผ่านทางทวิตเตอร์ที่เมลวู้ด โดยมีอาดิดาสซึ่งเป็นสปอนเซอร์รองเท้าสตั๊ดของเขามาเป็นเจ้าภาพให้ บางคำถามคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และบางคำถามก็จี๊ดโดนใจเหลือเกิน
เอาล่ะ ! ไปดูกันเลยว่าแฟนๆถามอะไรกับเจอร์ราร์ดบ้าง และกัปตันเราตอบว่าอย่างไร
ถาม : ช่วงเวลาใดคือช่วงเวลาแห่งความทรงจำในอาชีพนักฟุตบอลของคุณกับลิเวอร์พูล ?
เจอร์ราร์ด : อิสตันบูล ปี 2005
ถาม : ตำแหน่งไหนที่คุณจะส่งตัวคุณเองลงสนาม ถ้าคุณได้คุมทีมลิเวอร์พูลในเกม Football Manager ?
เจอร์ราร์ด : มิดฟิลด์ตัวรุก !
ถาม : ในความคิดของคุณ ใครคือกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่คุณเคยเล่นด้วย ?
เจอร์ราร์ด : หลุยส์ ซัวเรซ
ถาม : ถ้าคุณสามารถเลือกอาชีพอื่นที่ไม่ใช่นักฟุตบอลได้ คุณจะเลือกอาชีพไหน ?
เจอร์ราร์ด : นักกอล์ฟอาชีพ
ถาม : คุณชอบที่จะได้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษหรือกัปตันทีมลิเวอร์พูลมากกว่ากัน ?
เจอร์ราร์ด : ชอบทั้งสองอย่างเลยล่ะ ต่างก็มีความหมายกับผมมาก
ถาม : คุณรับประทาน “Scouse” บ่อยครั้งแค่ไหน ? (Scouse เป็นอาหารยอดนิยมของชาวเมืองลิเวอร์พูล ลักษณะเป็นสตูว์เนื้อแกะเคี่ยวกับผักต่างๆ – ผู้แปล)
เจอร์ราร์ด : ฮา ฮา เดือนละครั้ง
ถาม : สิ่งที่ดีที่สุดจากการที่คุณได้เป็นกัปตันทีมทั้งลิเวอร์พูลและทีมชาติอังกฤษคืออะไร ?
เจอร์ราร์ด : ความรับผิดชอบต่อทั้งสองหน้าที่
ถาม : ประตูที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ในสีเสื้อของลิเวอร์พูลคือประตูใด ?
เจอร์ราร์ด : รอบชิงเอฟเอคัพกับเวสต์แฮม – ทั้งเกม ทั้งช่วงเวลา และความสำคัญของมัน
ถาม : นักเตะคนใดเป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่คุณเคยปะทะด้วย ?
เจอร์ราร์ด : ซีเนอดีน ซีดาน – เขาเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างเลยแหละ
ถาม : ถ้าคุณสามารถดึงอดีตนักเตะลิเวอร์พูลกลับมาอยู่กับสโมสรได้สักคน คุณจะเลือกใคร และทำไม ?
เจอร์ราร์ด : ชาบี อลอนโซ – มิดฟิลด์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วยเลยนะ ผมคิดถึงการได้เล่นเคียงข้างเขา
ถาม : ถ้าคุณสามารถเลือกนักเตะมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษในฝันของคุณได้ 4 คน คุณจะเลือกใครมายืนเคียงข้างคุณบ้าง ?
เจอร์ราร์ด : สโคลส์, เบ็คแฮม, แม็คมานามาน และก็ผม
ถาม : คุณมีความสุขกับช่วงไหนมากกว่ากัน ระหว่างการได้ลงเล่นเกมลีกเป็นครั้งแรก, การยิงประตูแรก หรือการลงเล่นนัดที่ 600 ?
เจอร์ราร์ด : ครั้งแรกที่ผมได้ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูล
ถาม : ความทรงจำในครั้งไหนของคุณที่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ?
เจอร์ราร์ด : อิสตันบูล 2005 ค่ำคืนที่ดีที่สุดของอาชีพนักฟุตบอลของผม
ถาม : ผู้จัดการทีมคนไหนที่คุณยังไม่เคยร่วมงานด้วยมาก่อน แต่คุณสนใจจะไปเล่นด้วย ?
เจอร์ราร์ด : มูรินโญ่, เดอะ สเปเชียลวัน
ถาม : คุณรู้สึกอย่างไร เมื่อครั้งที่คุณได้แชมป์ยูฟาแชมเปียนส์ลีก ?
เจอร์ราร์ด : มันเป็นความรู้สึกที่ไม่น่าเชื่อเลย ยากที่จะอธิบายได้นะ
ถาม : เพลงใดที่คุณฟังบ่อยๆก่อนจะลงสนาม ?
เจอร์ราร์ด : ผมฟังเพลงเยอะมากนะ แต่ที่ชอบที่สุดคือเพลง Dakota ของวง Stereophonics
ถาม : นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว คุณติดตามฟุตบอลลีกอื่นๆบ้างหรือเปล่า
เจอร์ราร์ด : ลา ลีกา, เซเรีย อา และ บุนเดสลีกา
ถาม : อะไรคือความเชื่อที่แปลกที่สุดก่อนลงสนามเท่าที่คุณเคยเห็นมาล่ะ ?
เจอร์ราร์ด : พอล อินซ์, เขาจะไม่ยอมสวมเสื้อแข่งเลย จนกระทั่งเขาเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้ว
ถาม : ความภาคภูมิใจที่สุดของคุณในอาชีพนักฟุตบอลคืออะไร ?
เจอร์ราร์ด : เหรียญรางวัล และหมวกทีมชาติ
ถาม : อะไรคือสิ่งที่คุณระลึกถึงอยู่เสมอ ในการทำตามความฝันของคุณ ?
เจอร์ราร์ด : ทำให้ดีที่สุดในทุกๆวัน จดจ่ออยู่กับมัน และอย่าได้เสียใจ
ถาม : คุณอยากที่จะลงเล่นเคียงข้างเมสซีหรือโรนัลโดมากกว่ากัน และทำไม ?
เจอร์ราร์ด : ผมอยากเล่นกับทั้งสองคนเลยนะ แต่ถ้าผมจะต้องเลือก, ก็ต้องเป็นเมสซี – เขาคืออัจฉริยะ
ถาม : คุณชอบกินมิลค์เชครสอะไรมากที่สุด ?
เจอร์ราร์ด : กล้วย
ถาม : ในสนามซ้อม ใครที่ชอบวุ่นวายปั่นหัวเพื่อนๆเล่นมากที่สุด
เจอร์ราร์ด : หลุยส์ ซัวเรซ – เขานี่แหละจอมจุ้นที่สุดแล้ว!
ถาม : ตอนที่คุณเซ็นสัญญากับทีมเป็นครั้งแรก เป้าหมายของคุณคืออะไร คุณเคยหวังไหมว่าจะมาได้จนถึงจุดนี้
เจอร์ราร์ด : เป้าหมายของผมคือแค่ยืนหยัดมีตำแหน่งในทีมให้ได้ ผมไม่เคยคิดมากไปกว่านี้เลย!
ความคิดเห็นของนักเตะและโค้ชที่เป็นตำนานเกี่ยกับตัว เจิด
แกรี่ เนวิลล์
ติดทีมชาติ 85 ครั้ง (อังกฤษ)
“สตีเฟ่น เจอร์ราด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริง และผมหวังว่าเขาจะมาเล่นให้ยูไนเต็ด ผมเคยพูดกับเจอร์ราดในตอนที่เราอยู่ในโรงแรมว่า “ พวกแฟนๆ จะต้อนรับนายแบบไม่ทันตั้งตัวเลย” เขาก็ได้แต่หัวเราะและกล่าวว่า “ ผมคงจะทำอย่างนั้นแน่ถ้าคุณมาที่อยู่ที่แอนฟิลด์นะ” ( มกราคม 2011)
เจมี่ คาร์ราเกอร์
ติดทีมชาติ 38 ครั้ง (อังกฤษ)
“สตีวี่ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์เหลือเชื่อ เราทราบดีในเรื่องนั้นดี แต่เขายังคงพรสวรรค์นั้นไว้ได้ไม่ว่าเวลาใด มันทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของสโมสรที่เคยมีมา และมีอิทธิพลต่อผู้เล่นมากที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียวล่ะ” (พฤศจิกายน 2010)
อลัน แฮนเซ่น
ติดทีมชาติ 26 ครั้ง (สก๊อตแลนด์)
“เหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูลต่างรักเขา เขาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ถ้าเขาไม่ได้เล่นที่นี่ มันคงเหมือนมีอะไรที่หายไป มันเยี่ยมมากที่มีผู้เล่นคุณภาพสูงอย่างเจอร์ราดไว้ในทีม เพราะมีเขาอยู่ลิเวอร์พูลเลยสามารถสู้ได้กับทุกทีมและเอาชนะใครก็ได้ทั้งนั้น” (เมษายน 2010)
มาร์กแซล เดอไซญี่
ติดทีมชาติ 116 ครั้ง ( ฝรั่งเศส)
“เป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์เลยล่ะ ผมแทบจะคิดไม่ออกเลย ถึงใครที่สามารถส่งบอลได้ลื่นไหลและสวยงามสมบูรณ์แบบได้อย่างนั้น เป็นคนที่ทำอะไรได้หลายอย่าง เป็นผู้ชนะที่ดีในเกมฟุตบอลกับคู่แข่งฝั่งตรงข้ามด้วย พยายามที่จะสร้างสรรค์เกมและอะไรใหม่ๆ ให้กับทีมเสมอ และสุดยอดมากๆ เวลาที่เขายิงประตูเข้ากรอบ เขาเป็นยอดผู้นำ” ( ไม่ระบุวัน)
ซีเนอดีน ซีดาน
ติดทีมชาติ 108 ครั้ง (ฝรั่งเศส)
"เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกหรือเปล่าน่ะเหรอ ? เขาอาจจะไม่ได้รับความสนใจอย่างเมสซี่ หรือโรนัลโด้ แต่ใช่ครับ ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ถ้าคุณไม่มีนักเตะเหมือนสตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เปรียบเสมือนห้องเครื่องนะ มันสามารถส่งผลต่อทีมทั้งทีมได้เลย เขามีศักยภาพการส่งบอลที่ยอดเยี่ยม เข้าปะทะได้ดี ทำสกอร์ได้อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขามอบความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้แก่นักเตะคนอื่นรอบ ๆ ตัวเขา คุณเรียนรู้สิ่งนี้ไม่ได้หรอกนะ นักเตะอย่างเขาเกิดมาพร้อมกับสิ่งนี้อยู่แล้ว" (มีนาคม 2009)
ปาทริค วิเอร่า
ติดทีมชาติ 107 ครั้ง (ฝรั่งเศส)
"มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด ผมขอตอบว่าสตีเว่น เจอร์ราร์ดครับ ผมประเมินเขาไว้ทั้งในฐานะนักเตะและผู้ชายคนนึง ผมคิดว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุด เขามีกำลังมากและก็แข็งแกร่ง เขาบุกได้ เขารับได้ และทำสกอร์ได้ด้วย" (ตุลาคม 2008)
กาก้า
ติดทีมชาติ 82 ครั้ง (บราซิล)
"อังกฤษมีนักเตะคนหนึ่งที่แข็งแกร่งอยู่เสมอ และผมก็เป็นแฟนตัวยงของสตีวี่ เจอร์ราร์ด เขามีหัวใจที่เข้มแข็งและภาพลักษณ์นักฟุตบอลสมัยใหม่ ที่พร้อมด้วยศักยภาพที่ดีทั้งด้านการรุกและรับ เขาคือนักเตะสมัยใหม่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก" (พฤศจิกายน 2009)
คาร์โล อันเชล็อตติ
ติดทีมชาติ 26 ครั้ง (อิตาลี)
"เขาคือมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบ เขามีลูกยิง การผ่านบอล และทักษะที่ยอดเยี่ยม เมื่อตอนที่ผมเล่นนั้นมีนักเตะอย่างจิอันคาร์โล อันทอกโนนี่ และเรนเนอร์ โบนโฮฟ แต่ทุกวันนี้คือเจอร์ราร์ด จบ" (พฤศจิกายน 2010)
เปเล่
ติดทีมชาติ 92 ครั้ง (บราซิล)
"เจอร์ราร์ดคือนักเตะที่ยอดเยี่ยม เวิร์ลคลาสอย่างแท้จริง ถ้าผมเป็นผู้จัดการทีมนะ ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน ผมจะซื้อสตีเว่น เจอร์ราร์ดมาด้วย เขาคือสิ่งที่บราซิลต้องการ เพราะเขามองหาช่องทางเสมอ แถมเขายังใจใหญ่อีกด้วยนะ สองปีก่อนผมเห็นเจอร์ราร์ดเล่น และจากนั้นก็เห็นเขาอีกครั้งในโตเกียวในเกมที่พบกับเซา เปาโล ตั้งแต่นั้นผมก็พูดว่าเจอร์ราร์ดคือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ สำหรับผม เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ" (มิถุนายน 2006)
เธียร์รี่ อองรี
ติดทีมชาติ 123 ครั้ง (ฝรั่งเศส)
"สำหรับผม และผมก็พูดมาเสมอนะ ผมถือว่าเขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยไร้ข้อสงสัย ชายคนนี้ทำงานอย่างดี ทำสกอร์ได้เสมอ และทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อให้ทีมของเขาชนะ นี่แหละนักฟุตบอลของแท้ สำหรับผม เขาคือลิเวอร์พูล" (พฤศจิกายน 2008)
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
"เขากลายเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทีมชาติอังกฤษ มากกว่าวิเอร่าด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าวิเอร่าขาดอะไรไปนะ แต่ผมคิดว่าเจอร์ราร์ดทำเพื่อทีมมากกว่าที่วิเอร่าทำ ผมได้ดูเขาเล่นบ่อยทีเดียว สำหรับผม เจอร์ราร์ดคือคีน บอลไปอยู่ตรงไหนก็เหมือนว่าเขาจะอยู่ตรงนั้นด้วย เขามีพลังที่เหลือล้น มีแรงปรารถนา และความตั้งใจ ใคร ๆ ก็คงอยากได้เจอร์ราร์ดมาอยู่ในทีมของพวกเขากันทั้งนั้น" (พฤษภาคม 2004)
โอเว่นคือคนที่ทำให้ผมเชียร์ลิเวอร์พูล แต่คนที่ทำให้ผมรักลิเวอร์พูล ก็คือ นาย กัปตัน