เมื่อกี้ได้เห็นกระทู้ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สาม ก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่องหนึ่งซึ่ง เกี่ยวกับ

มหัตภัย ระเบิดนิวเคลียร์ เป็นเรื่องราวของตัวละครในเรื่องหลัง การเกิดเหตุวินาศกรรม

ทางสงคราม แต่เนื้อหาหลักของเรื่องไม่ใช่การกอบกู้โลก

หรือ หนังฮีโร่ ช่วยมนุษย์ แต่อย่างใด ตัวหนังกลับเล่นหนักในด้านจิตใจด้านมืดของ

มนุษย์ ซึ่ง หนังสะท้อนออกมาได้รุนแรง และหดหู่เป็นอย่างมาก หนังเรื่องนี้ชื่อเรื่อง

The divide นั่นเอง ถ้าใครเคยดูแล้วจะเข้าใจทันที ว่า คำว่าด้านมืด มันมืดยังไง



หนังเริ่มด้วยฉากการทิ้งระเบิด นิวเคลียร์ ณ ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นฉากที่ค่อนข้างสมจริง

และอลังกาลมาก ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้นางเอกของเรา(Eva) ต้องเข้าไปหลบในหลุมหลบ

ภัย ใต้ อพาทเมนต์ ร่วมกับเพื่อนร่วมตึกอีกประมาณ 8-9 คน โดยมีเจ้าของหลุมหลบ

ภัยนั้น (Mickey) ได้ตีตนเป็นผู้นำ และยืนกรานว่า ห้ามเปิดประตูทางเข้าเด็ดขาดถ้า

ไม่อยากให้ทุกคนในนี้ ตายกันหมด แรกๆของการใช้ชีวิตในหลุม หนังจะสื่อถึงความกลัว

และการใช้ชีวิตร่วมกันของงผู้รอดชีวิต ความกลัวที่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ กลัวหิวตาย

หรือแม้กระทั่งกลัวการสูญเสียคนรักไป โดยจะมีเหตุการณ์ ที่คอยปลุกเร้าต่อมความกลัว

อยู่ เรื่อยๆ และบางทีก็หาคำตอบไม่ได้ ผู้กำกับยังไม่สามารถตอบได้ (อันนี้ดูไปจะรู้เอง

ฮ่าๆๆ) หนังดำเนินเรื่องจากความขัดแย้ง ความกลัว และความหวัง(ที่ค่อนข้างริบหรี่)

จนถึงช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นจุดหักเห ซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่ตัวละครทุกคน ตระหนักได้ว่า

อาหารที่มี ที่สามารถใช้ประทังชีวิตได้กำลังหมดไป และการปรากฏมาของห้องแห่งความ

ลับ ที่ มิกกี้ปิดบังไว้หลังจากจุดนี้ของหนังไป ถึงจุดนี้หนังได้สื่อถึงสันดานดิบที่อยู่ในตัว

ของมนุษย์ทุกคน ในห้องนั้น ประเด็นในเรื่องการได้มาซึ่งอำนาจ สภาวะจิตหลุดจากการสูญเสียคนรักรวมไป

ถึงความหวังที่จะออกไปจากห้องหลบภัยนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป


เมื่อมนุษย์เกินกว่าหนึ่งคนอยู่ด้วยกันโดยไร้ซึ่งกฎหมายค้ำหัว ไร้ซึ่งผู้นำ และความหวัง

เวลานั้นมนุษย์จะแสดงสันดานดิบซึ่งใช้คำว่าเดรัจฉานยังน้อยไปออกมา การกระทำต่างๆ

ของตัวละครในเรื่องนี้ อาจเรียกได้ว่าเลวกว่าสัตว์ ซึ่งสัตว์เดรัจฉานนั้น จะทำทุกวิถีทางเพื่อ

ให้ตัวเองรอด และจะทำไปโดยสันชาตญาน แต่มนุษย์(ในเรื่องนี้) เผยสันดานดิบเพียง

เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองซึ่งปิดบังไว้ลึกๆในจิตใจของตัวเอง ในชีวิตปกติจะไม่ส่อสันดานนี้ออกมา อาจเพราะกลัว

โทษทางกฎหมาย กลัวสังคมประนาม มิใช่ว่าเขาเหล่านั้นมีศิลธรรม รู้้ผิดชอบชั่วดีแต่อย่างใด เมื่อสิ่งที่คอยปิดกั้น

สันดานที่แท้จริงของพวกเขาเหล่านั้นทลายลงไป ความรุนแรงต่างๆ ก็เริ่มทวีความรุนแรง

ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงทางเพศ รวมไปถึงการฆ่าคนโดยไม่มีความจำเป็น จนนำไปสู่

จุดจบของตัวหนังที่หดหู่ และวอดวายที่สุด

ใครชอบหนังแนว เผยสันดานดิบมนุษย์ผมขอแนะนำหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วง

ชีวิตที่หดหู่จิตตก ต้องการความหวัง ความรัก ความไว้ใจ หรือแม้กระทั่งความเชื่อในการ

เป็นมนุษย์ ผมขอแนะนำให้อยู่ห่างๆเรื่องนี้ไว้ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ตอบสนองความต้องการ

คุณในด้านนี้แต่อย่างใด

แนะนำด้วยอีกเรื่อง สนุกดี The purge ได้ข่าวว่ากำลังจะมีภาค2ด้วยนะ

หดหู่แบบนี้นึกถึง The Mist เลย แต่เรื่องนี้น่าจะหนักกว่า

ผมเคยบอกกับพี่ตอนหนังเรื่องนี้เข้าว่า จะสนุกกว่าถ้าตัวละครอยู่นอกบ้าน สรุป ทำจริง

The mist จบได้หดหู่กว่าครับ เพราะเรื่องนี้เล่นกับอารมณ์ ความหวังของคนดูเต็มๆ แต่ถ้าเรื่อง เผยสันดานดิบ เรื่องนี้กินขาด

The mistผมก็เคยตั้งทีนึงละ ดูแต่หนังแนวนี้

the experiment เลยครับ ดิบจริง

จริงครับ อยู่ข้างนอกนี่คนละอารมณ์กับอยู่ในบ้านเลย อยากดูภาค2แล้วสิ่

จัดไปครับ ขอบคุณที่แนะนำ

หนังเรื่อง The Divide สนุกอยู่น่ะครับ เคยดูช่องหนังในเคเบิล

เป็นหนังที่ตอนแรกเห็นดีๆกันอยู่เลย ไหงไอสองคนคู่ซี้ดันเลวชัดเจน