BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Mon Mar 10, 2014 14:58
ยุคคามากุระหลังจากสงครามเกมเปย์ในปลายยุคเฮอันจบลง




ยุคคามากุระ (Kamakura-jidai ?) ตรงกับปีค.ศ. 1185-ค.ศ. 1333 เป็นยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มต้นการปกครองระบบศักดินาโดยจักรพรรดิเป็นผู้มีอำนาจการปกครองแต่เพียงในนาม รัฐบาลทหารที่เรียกว่า บากุฟุซึ่งมีโชกุนเป็นหัวหน้าปกครองประเทศมีอำนาจเด็ดขาดทั้งทางการเมืองและการทหาร โยริโตโมะแห่งตระกูลมินาโมโตะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโชกุนคนแรกจัดตั้งรัฐบาลทหาร มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองคามากุระ ส่วนจักรพรรดิประทับที่เมืองเฮอัน ในยุคคามากุระญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานจากกองทัพมองโกลภายใต้การนำของกุบไลข่านในสมัยราชวงศ์หยวนซึ่งโดนโจมตีครั้งแรกในปี ค.ศ. 1274 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1281

การจัดตั้งบากุฟุ
ในช่วงปลายยุคเฮอันราชสำนักญี่ปุ่นเมืองเกียวโตตกอยู่ภายใต้การครอบงำของตระกูลไทระซึ่งมีผู้นำคือไทระ คิโยโมริ
ค.ศ. 1180เจ้าชายโมชิฮิโตะได้ออกประกาศรณรงค์สงครามให้ซะมุไรตระกูลเซวะเง็นจิหรือตระกูลมินาโมโตะที่ยังคงหลงเหลืออยู่ทั่วญี่ปุ่น ลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองตระกูลไทระเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเก็มเป ด้วยความช่วยเหลือของโฮโจ โทกิมาซะ มินาโมโตะ โยริโตโมะได้ควบคุมภูมิภาคคันโตทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นโดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองคามากุระ ในขณะเดียวกันค.ศ. 1185 ในภาคตะวันตก มินาโมโตะ โยชิสึเนะน้องชายต่างมารดาของโยริโตโมะสามารถเอาชนะตระกูลไทระได้ในยุทธนาวีดันโนะอุระ (Dan-no-ura 壇ノ浦 ?) ทำให้ตระกูลไทระต้องพบกับจุดจบทั้งตระกูลและอำนาจในการปกครองย้ายมาอยู่ที่มินาโมโตะ โยริโตโมะ
ค.ศ. 1189 มินาโมโตะ โยริโตโมะทำสงครามโอชูต่อสู้กับตระกูลฟุจิวะระแห่งโอชูจนสามารถผนวกภูมิภาคโทโฮคุเข้ามาในการปกครองได้ในที่สุด
ค.ศ. 1192 มินาโมโตะ โยริโตโมะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเซอิไทโชกุน ( Seii Taishōgun ?)

ยุคคามากุระเป็นสมัยแรกที่นักรบหรือซามุไรขึ้นมาปกครองแทนที่พระจักรพรรดิและนักปราชญ์ดังที่เคยเป็นมาในยุคเฮอัน มีผู้นำของการปกครองคือโชกุนซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองคามากุระหรือเรียกว่า ยุคคามากุระโดโนะ มีอำนาจเหมือนเป็นเจ้าผู้ปกครองญี่ปุ่นแทนที่พระจักรพรรดิ สถานที่จัดการปกครองไม่มีความหรูหราเช่นเกียวโตทำให้ศูนย์การปกครองที่คามากุระถูกเรียกว่า รัฐบาลเต็นต์ หรือ บากุฟุมีสภาขุนนางซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการปกครองเรียกว่า มันโดโกโระ สงครามทำให้ชนชั้นนักรบได้เข้าครอบครองที่ดินต่างๆซึ่งแต่ก่อนเป็นของราชสำนักเกียวโต เป็นจุดเริ่มต้นของญี่ปุ่นสมัยศักดินา นักรบที่เป็นนายจะแบ่งที่ดินให้แก่ข้ารับใช้ของตนตามระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) โดยที่ซามูไรผู้ถือครองที่ดินเรียกว่า จิโต ในขณะที่บากุฟุแต่งตั้งซามูไรไปปกครองแว่นแคว้นเรียกว่า ชูโง ทับซ้อนกับระบอบเจ้าผู้ปกครองแคว้นเดิมที่ได้รับแต่งตั้งจากราชสำนักเกียวโต




การขึ้นสู่อำนาจของตระกูลโฮโจ

ค.ศ. 1199 โชกุนแห่งคามากุระมินาโมโตะ โยริโตโมะเสียชีวิตลง ต่อมา มินาโมโตะ โยริอิเอะบุตรชายได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลมินาโมโตะ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโชกุนในค.ศ. 1202 แต่ทว่าบรรดาซามูไรข้ารับใช้เก่าของ มินาโมโตะ โยริโตโมะต่างเห็นว่าโยริอิเอะไม่มีความสามารถในการปกครองจึงจัดตั้งผู้สำเร็จราชการแทนขึ้น ประกอบด้วยเหล่าซามูไรจำนวนสิบสามคนเพื่อทำหน้าปกครองบากุฟุแทนโยริอิเอะ ตระกูลทางฝ่ายมารดาของโยริอิเอะคือตระกูลโฮโจ นำโดยโฮโจ โทคิมาสะผู้ซึ่งเป็นตาของ มินาโมโตะ โยะริอิเอะ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำมันโดโกโระเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนเรียกว่า ชิกเก็ง (執権 Shikken ?) และโฮโจ มาซาโกะ มารดาของโยริอิเอะได้ขึ้นมามีอำนาจเหนือบากุฟุโดยที่โชกุนเป็นเพียงหุ่นเชิด ตระกูลโฮโจได้ดำเนินการกำจัดคู่แข่งทางการเมืองต่างๆทำให้สามารถขึ้นมีมีอำนาจเหนือบากุฟุได้ในที่สุด โชกุนโยริอิเอะมีความเอนเอียงไปทางตระกูลฮิกิซึ่งเป็นตระกูลฝ่ายภรรยาของโชกุนโยริอิเอะ นำโดยฮิกิ โยชิกะซุ
ค.ศ. 1203 ตระกูลโฮโจได้เข้าทำการกวาดล้างตระกูลฮิกิอย่างโหดเหี้ยมและรุนแรง มินาโมโตะ โยริอิเอะเขาถูกลอบสังหารในปีค.ศ. 1204 ระหว่างที่ถูกกักบริเวณในบ้าน (ใครเป็นบงการ พวกท่านก็น่าจะเดา ๆได้) โทคิมาสะในฐานะปู่ของโชกุนก็แต่งตั้งน้องของโยริอิเอะ มินาโมโตะ สาเนะโทโมะขึ้นเป็นโชกุนแทน เพราะสาเนะโทโมะสนิทสนมกับคุณปู่โฮโจ โทคิมาสะค่อนข้างมากและตอนนั้นอายุเพียง 11 ปียังไม่ประสีประสาอะไร โฮโจ โทคิมาสะก็เลยกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งแต่งกลอนเพราะไม่อยากเผชิญชะตากรรมแบบพี่ชาย



ค.ศ. 1205ตระกูลโฮโจยังคงดำเนินการกำจัดคู่แข่งต่อไป เช่น ฮาตาเกยามะ ชิเงทาดะและตระกูลวะดะในค.ศ. 1213
ค.ศ. 1205 โฮโจ โทคิมาสะได้สมคบคิดวางแผนลอบสังหารโชกุนมินาโมโตะ สาเนะโทโมะเพื่อที่จะให้ฮิรางะ โทโมมาซะบุตรเขยขึ้นเป็นโชกุนแทน ทำให้โฮโจ มาซาโกะบุตรสาวและโฮโจ โยชิโตกิบุตรชายผู้สืบทอดตำแหน่งของตนไม่พอใจ จึงเข้าทำการยึดอำนาจจากบิดาของตน บังคับให้โทกิมาสะปลงผมบวชเป็นพระภิกษุแล้วเนรเทศไปยังแคว้นอิซุ โยชิโตกิจึงได้เป็นชิกเก็นต่อจากบิดา



ค.ศ. 1219 โชกุนมินาโมโตะ สาเนะโทโมะไม่มีทายาท นางมาซาโกะจึงเดินทางไปยังเมืองเกียวโตเข้าเฝ้าอดีตจักรพรรดิโกะ-โทบะเพื่อทูลขอเจ้าชายมาดำรงตำแหน่งเป็นโชกุน แต่กลับได้คุโจ โยริซึเนะลูกชายของคัมปากุอายุเพียงหนึ่งปีมาเป็นทายาทโชกุน
ในปีเดียวกันนั้นเองโชกุนมินาโมโตะ สาเนะโทโมะถูกลอบสังหารโดยภิกษุคุเงียวซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตโชกุนรุ่นที่2แห่งคามากุระ มินาโมโตะโยริอิเอะ ทำให้ตระกูลมินาโมโตะที่ดำรงตำแหน่งโชกุนต้องสิ้นสุดลงด้วยอายุเพียง 27 ปี
หลังจากสิ้นสุดโชกุนจากตระกูลมินาโมโตะ ทางภาคตะวันตกจักรพรรดิยังคงมีอำนาจอยู่ อดีตจักรพรรดิโกะ-โทะบะจึงแข็งข้อต่อต้านการครอบงำของบากุฟุคามากุระ โดยทรงปฏิเสธที่จะทำการแต่งตั้งโชกุนคนใหม่
ค.ศ. 1221 อดีตจักรพรรดิโกะ-โทะบะมีพระราชโองการประกาศให้ชิกเก็งโฮโจ โยชิโตกิเป็นอาชญากร และจัดเตรียมกองทัพเพื่อป้องกันเมืองเกียวโตนำไปสู่สงครามโจเคียว
ฝ่ายโฮโจ โยชิโตกิได้ส่งโฮโจ ยาสึโทคิบุตรชาย และโฮโจ โทกิฟุซะน้องชาย ยกทัพไปโจมตีเกียวโตและสามารถเข้ายึดเมืองเกียวโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว อดีตจักรพรรดิโกโทะบะรวมทั้งองค์จักรพรรดิถูกเนรเทศไปเกาะโอคิ นับแต่นั้นมาราชสำนักเกียวโตก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของบากุฟุอย่างแท้จริงโฮโจ โยชิโทคิได้ตั้งระบบโรคุฮาระ ทันได เปรียบเสมือนเป็นสาขาสองของบากุฟุตั้งอยู่ที่เขตโรคุฮาระในเมืองเกียวโตเพื่อคอยควบคุมดุแลราชสำนัก โดยมีโฮโจ ยาสุโตกิและโทกิฟุสะเป็นโรคุฮาระทันได2คนแรก



ตอนนี้คุโจ โยริซึเนะเป็นโชกุนหุ่นเชิดโดยมีพวกคัมปากุจากตระกูลคุโจกับพวกโฮโจบงการ เพราะตอนนั้นโยริซึเนะอายุแค่ 7 ขวบ ศูนย์อำนาจก็เลยย้ายมาอยู่ที่เกียวโตเพราะเป็นฐานอำนาจของพวกคุโจ มีพวกโฮโจกับคุโจเป็นรัฐบาลปกครองประเทศ เมื่อเขาอายุได้ 25 ปีก็ถูกแทนที่ด้วยลูกของเขาคือ คุโจ โยริซึกุ ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
ค.ศ. 1252 ชิกเก็งโทกิโยริตัดสินใจที่จะปลดโชกุนโยริซึกุออกจากตำแหน่ง ได้ทูลขอเจ้าชายจากราชสำนักเกียวโตมาเพื่อเป็นโชกุนคนใหม่ จักรพรรดิโกะ-ซางะจึงประทานพระโอรสคือเจ้าชายมุเนะทาคะอายุเพียง10ขวบสด็จมายังเมืองคามากุระเพื่อเป็นโชกุน ดังนั้นก็ต้องมีผู้สำเร็จราชการแทนซึ่งจะเป็นใครอื่นนอกเหนือจากพวกโฮโจกับคุโจ เจ้าชายคนอื่น ๆก็สืบทอดเป็นวงเวียนวัฏจักรเช่นนี้ต่อไป นับแต่นั้นมาโชกุนแห่งคามากุระจึงเป็นเจ้าชายจากเกียวโตและคนต่อมาอายุแค่ 2 ขวบก็เป็นโชกุนซะแล้ว และคนสุดท้ายเป็นโชกุนตอนอายุ 7 ขวบ

ค.ศ. 1274 กุบไลข่านเตรียมกำลังพลผสมระหว่างมองโกลและเกาหลีเพื่อเข้ารุกรานญี่ปุ่น ขุนพลฝ่ายมองโกลนำโดยฮินตู ขุนพลชาวเกาหลีนำโดยฮงดากู ยกทัพเรือข้ามทะเลมาเทียบท่าที่อ่าวฮากาตะบนเกาะคิวชู เรียกว่าการรุกรานปีบุงเอ
ฝ่ายญี่ปุ่นมีโชนิ ซุเกะโยชิ ดำรงตำแหน่งเป็นชินเซ บุเงียว หรือผู้ปกครองเกาะคิวชู นำทัพญี่ปุ่นเข้าห้ำหั่นแต่ไม่สามารถทัดทานทัพผสมมองโกล-เกาหลีได้ จนกระทั่งมีลมพายุพัดเข้าอ่าวฮากาตะทำลายเรือของทัพมองโกลลงไปมาก ทำให้ฝ่ายมองโกลต้องถอยหนีกลับไป ชาวญี่ปุ่นจึงยกย่องลมนี้ว่าเป็น คามิกาเซะหรือลมที่เทพเจ้าส่งมาเพื่อปกป้องญี่ปุ่นจากผู้รุกราน

แม้กระนั้นกุบไลข่านก็ยังไม่ลดละ ในค.ศ. 1275 กุบไลข่านส่งทูตมีอีกครั้งโดยไม่ผ่านเกาหลี แต่คณะทูตมองโกลถูกจับกุมไปยังเมืองคามากุระและถูกสังหาร ชิกเก็งโทกิมุเนะเกรงว่าพวกมองโกลจะยกมาอีกจึงให้มีการเตรียมการรองรับการรุกรานของมองโกลไว้พร้อม หลังจากที่พิชิตราชวงศ์ซ่งใต้ได้แล้ว มองโกลจึงส่งทูตมาญี่ปุ่นอีกครั้งในค.ศ. 1279 แต่ชาวญี่ปุ่นได้สังหารคณะทูตมองโลกทันทีที่ขึ้นฝั่งอ่าวฮากาตะ
ค.ศ. 1281 กุบไลข่านจึงส่งทัพเรือเข้ารุกรานญี่ปุ่นอีกครั้งเรียกว่า การรุกรานปีเคอังโดยใช้ทั้งกองทัพเรือของอาณาจักรโครยอ และทัพเรือของราชวงศ์ซ่งใต้ขนาดมหึมา ฝ่ายมองโกลวางแผนให้ทัพเรือซ่งใต้มาสมทบกับทัพเรือเกาหลีเพื่อเข้ารุกรานญี่ปุ่น แต่ทัพเรือจีนเกิดความล่าช้ามาสมทบไม่ทัน ทัพเรือเกาหลีจึงเข้าโจมตีแต่ฝ่ายญี่ปุ่นเตรียมการมาดีจึงสามารถต้านทานได้ ลมพายุคามิกาเซะพัดเข้ามาทำลายทัพเรือเกาหลีจนย่อยยับอีกครั้งจนต้องล่าถอยกลับไป



ค.ศ. 1324 เกิดข่าวลือว่าจักรพรรดิโก-ไดโกะทรงวางแผนที่จะโค่นล้มรัฐบาลบากุฟุ มีการลงโทษประหารชีวิตขุนนางที่เมืองเกียวโต แม้ว่าองค์จักรพรรดิจะทรงปฏิเสธแต่บากุฟุยังคอยจับจ้ององค์จักรพรรดิอยู่เสมอ
ค.ศ. 1331 แผนการการปฏิรูปเคมมุ โค่นล้มบากุฟุของจักรพรรดิโก-ไดโกะถูกเปิดเผย บากุฟุสามารถเข้าบุกจับกุมองค์จักรพรรดิได้และเนรเทศองค์จักรพรรดิไปยังเกาะโอกิ แต่ขุนพลซามูไรฝ่ายจักรพรรดินำโดย คิซึโนกิ มาซาชิเงะยังคงทำสงครามต่อต้านตระกูลโฮโจต่อไป เรียกว่า สงครามปีเก็งโก
จนกระทั่งในค.ศ. 1333จักรพรรดิเสด็จหลบหนีจากเกาะโอกิมาได้ ทำให้ขุนพลฝ่ายบากุฟุคือ อาชิคางะ ทาคาอุจิแปรพักตร์มาเข้ากับฝ่ายพระจักรพรรดิ นำทัพโจมตีและยึดเมืองเกียวโตได้สำเร็จ นิตตะ โยชิซาดะขุนพลของจักรพรรดิอีกคนก็สามารถเข้ายึดเมืองคามากุระได้สำเร็จ
โฮโจ ทากาโทกินำสมาชิกตระกูลโฮโจและขุนนางในบากุฟุร่วมหลายร้อยชีวิตกระทำการเซ็ปปุกุเสียชีวิตไปเพื่อหนีความพ่ายแพ้ เป็นอวสานแห่งตระกูลโฮโจและรัฐบาลโชกุนแห่งคามากุระ นำไปสู่การฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิอีกครั้ง จักรพรรดิโก-ไดโกะได้แต่งตั้ง อาชิคางะ ทาคาอุจิเป็นโชกุนแห่งยุคอาชิคางะ



เครดิต http://kanjiz.exteen.com+wiki



นางาโต้ ขุนโจรสะท้านภพ การ์ตูนอิงประวัติศาสตร์ที่นำเรื่องราวในการโค่นล้มตระกูลโฮโจมาเขียน พระเอกเป็นลูกน้องของคิซึโนกิ มาซาชิเงะ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
plu
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jan 2007
ตอบ: 17177
ที่อยู่: ร้านขายยาร้านหนึ่ง
โพสเมื่อ: Mon Mar 10, 2014 15:07
ถูกแบนแล้ว
[RE: ยุคคามากุระหลังจากสงครามเกมเปย์ในปลายยุคเฮอันจบลง]

อ่านหัวมู้นึกว่าชื่อของมู้บน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Apr 2010
ตอบ: 2637
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 11, 2014 00:31
[RE: ยุคคามากุระหลังจากสงครามเกมเปย์ในปลายยุคเฮอันจบลง]
ของมก กรุงเทพ การ์ตูนแนวนี้เล่มไม่ครบ ใครเอาไปเอามาคืนด้วยเล่น13-14 อะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel