คุณรู้จักพวกเขาดีพอแล้วหรือยังกับเหล่านักสู้จากซีรีย์ Street Fighter




[size=18]Street Fighter เกมแนวไฟต์ติ้งสร้างชื่อจากค่าย Capcom ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และเหล่าตัวละครนักสู้ที่เข้าร่วมชิงชัยใน SF นี้ก็เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาเกมเมอร์มากมาย ทั้ง ริว เคน ซากัต ฯลฯล แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เหล่านักสู้ทั้งหลายนี้ก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เช่นกัน
ริว (Ryu)
ริว เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ โกเคน (Gouken) มีเพื่อนร่วมสำนักคือ เคน (Ken) แรกเริ่มของคาแรคเตอร์ดีไซด์ของ ริว คือ มีผมสีแดงมีผ้ารัดหน้าผากที่ขาว สวมชุดคาราเต้ที่ขาดรุ่งริ่ง และมีสาดรัดเอวที่มีคำว่า (Frinkazan)แปลว่า ลม ป่า ไฟ และภูเขา ซึ่งคำทั้ง 4 นี้ สื่อถึงบุคคลิกของตัว ริว ก็คือ พลิ้วเหมือนสายลม ร้อนแรงดั่งไฟ เงียบสงัดดั่งผืนป่า และ มั่นคงดั่งภูผา ซึ่งทั้งหมดนี้ Capcom ได้แรงบันดาลใจมากจาก Takeda Shingen แม่ทัพของญี่ปุ่นในสมัยโบราณนั้นเอง






ซึ่งหลังจบการฝึกฝนกับ โกเคน แล้ว ริว ก็เริ่มเดินทางไปทั่วโลกเพื่อ ประลองฝีมือกับเหล่าจอมยุทธ์ทั่วหล้า เพื่อทดสอบฝีมือและความแข็งแกร่งของตัวเอง ตามเนื้อเรื่องของ Street Fighter (1987) ภาคแรก ซึ่งสุดท้ายเมื่อ ริวได้เจอกับ ซากัต (Sagat)นักมวยไทย บอสใหญ่ในภาคนั้น ริว ก็สามารถเอาชนะได้ด้วยเพลงหมัด มังกรทะยานฟ้า(โชริวเคน)และได้ฝากรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่แผงอกของ ซากัต จึงทำให้ ซากัต โกรธแค้นมาก ผูกใจเจ็บเป็นศัตรูคู่อาฆาตนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา





จะว่าไป ริว เป็น นักสู้ที่ค่อนข้างมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ดั่งจะเห็นได้แต่ละภาค เมื่อถึงฉากจบแล้ว รูปสุดท้ายของริว จะเป็นรูปของการเริ่มเดินทางเพื่อหาคู่ต่อสู่เก่งๆเสมอ ทำให้ ริว ได้ฉายาว่า "นักสู้จอมพเนจร"นั้นเอง





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 21 กรกฏาคม ปี 1964
สัญชาติ: ญี่ปุ่น
สูง: 175cm
น้ำหนักตัว: 68kg
กรุ๊ปเลือด: O
ชื่นชอบ: ศิลปะการต่อสู้, Mizuyokan (วุ้นที่ทำมาจากถั่ว), ไก่
ไม่ชอบ: แมงมุม (เคยหล่นใส่ปากช่วงที่ริวเผลอหลับ)
สไตล์การต่อสู้: Ansatsuken



เคน (Ken)
ชื่อ เคน (Ken) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า กำปั้น เคนนั้นเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับริว ซึ่งพ่อแม่ของเคนนั้นส่งเขาไปเรียนในสำนักเดียวกับริวเมื่อยังเด้ก คนที่กลายมาเป็นทั้งเพื่อนรักและศัตรูที่แข่งขันกันว่าใครจะแข็งแกร่งที่สุด แต่ทว่า ฝีมือของเคนนั้นไม่โดดเด่นเท่ากับของริว เลยทำให้เคนเลือกที่จะส่ชุด Gi (ยูนิฟอร์มของนักคาราเต้) เป็นสีแดงแทน เพื่อทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมา





ฝีมือของรูปแบบการต่อสู้ของเคนและริวนั้นจะคล้ายๆกัน แต่ทาง เคน นั้นจะเน้นหนักไปทางท่า โชริวเคน แต่ ริว จะถนัดในท่า ฮาโดเค็น มากกว่า จะเห็นจากความแตกต่างของทั้งคู่ในเวอร์ชั่นเกมที่ เคนจะโชริวเคนออกมาเป็นไฟ แต่ริวไม่สามารถ เช่นเดียวกับริวที่ปล่อย ฮาโดเค็นออกมาเป็นไฟ แต่เคนไม่สามารถทำใด และในท่า Tatsumaki Senp Kyaku (ลูกเตะพายุหมุน) เคนจำ Hit ได้ถึง 5 ครั้ง ต่อการออกท่าเพียงครั้งเดียว แต่กับ ริวทำได้เพียง Hit เดียว/ครั้งเท่านั้น





เคน นั้นไม่ได้เข้าร่วม World Warrior Tournament ในครั้งแรก แต่เคนเลือกที่จะกลับบ้านเกิดของตัวเองที่อมริกา และก็ชนะเลิศในการแข่งขัน US Martial Arts tournament ซึ่งเป็นเหตุให้เคนได้พบกับ Eliza ซึ่งในตอนจบของ SF II นั้น เคนได้ขอ Eliza แต่งงาน ถ้าย้อนไปในช่วงเหตุการณ์ SF Zero ช่วงที่เคนยังเป็นวัยรุ่นไว้ผมยาวผูกหางม้า ในฉากจบของ SF Zero II เมื่อเคนได้วัดฝีมือกับริวจนรู้ผลแพ้ชนะแล้ว เคนก็ได้ให้ผ้าพูกผมสีแดงไว้กับริว เพื่อเป็นที่ระลึกให้เตือนสติริวไว้เสมอๆ ว่าให้หมั่นฝึกซ้อม ซึ่งริวก็เปลี่ยนมารัดหน้าผากสีแดงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เคนก็ตัดสินใจที่จะไว้ผมสั้นหลังจากนั้น เพื่อให้ดูเป็นวัยรุ่นอยุ่เสมอๆ ดังที่เห็นใน SF II จนถึง SF IV ซึ่งท้ายสุดแล้ว เคนก็ได้แต่งงานกับ Eliza จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อว่า Mel





ข้อมูลอื่นๆของเคน
วันเกิด: 14 กุมภาพันธ์ 1965
สัญชาติ: อเมริกัน
สูง: 175cm
น้ำหนักตัว: 72kg
กรุ๊ปเลือด: B
ชื่นชอบ: เล่นสเก็ตบอร์ด, พาสต้า
ไม่ชอบ: ลูกพรุนดอง, ละครน้ำเน่า
สไตล์การต่อสู้: Ansatsuken


ชุน ลี (Chun Li)
ชื่อของเธอในภาษาจีนแมนดารินแปลว่า ฤดูใบไม้ผลิที่สวยงาม เธอเป็นนักสู้สาวคนแรกที่เข้ามาร่วมวงไพบูลย์ของ World Warrior Tournament ในวัยเด็กนั้นเธออยากเรียนศิลปะการต่อสู้ก็เพราะมี บรู๊ซ ลี เป็นฮีโร่ นอกจากนี้เธอก็ยังเรียนวิชาบางอย่างจาก Gen เพื่อนของพ่อเธอเช่นกัน ซื่งพ่อของเธอนั้นเป็นตำรวจดำรงตำแหน่ง Chief of Interpol





เหตุที่เธอต้องเกี่ยวข้องกับ Street Fighter นั้น ก็เพราะ พ่อเธอหายตัวไประหว่างในการออกปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ชาโดว์ลู (Shadaloo) ซึ่งในที่สุดเธอก็ได้เจอกับ M.Bison บอสใหญ่ขององค์กรที่ชั่วร้าย แต่ท้ายสุด ไบซันก็หนีไป พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าเจอกันอีกครั้ง เธอได้ตายเหมือนกับพ่อของเธอแน่ ซึ่ง ชุนลีก็รู้ได้เลยว่าท้ายสุดแล้ว ไบซันนี้เองที่ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิต และเธอก็ตั้งมั่นที่จะแกแค้นแทนพ่อให้ได้ (- เป็นเหตุการณ์ตอนจบของ SF Zero 1)





และต่อมาเธอก็เข้ารวมใน Interpol Agent ซึ่งเธอได้รับหมอบหมายในติดตามสืบสวนคดีของ Shadaloo แต่เนื่องจากการคอร์รัปชั่นในองค์กร เลยทำให้ ชุน ลี ไม่สามารถสืบสวนได้เต็มที่ ดีงนั้นเธอจึงร่วมแรงร่วมใจกับ Charlie และ Guile ในการทำลายล้างองค์กรนี้ ดังนั้นเค้าทั้ง 3 คนจึงวางแผนที่จะทำลายศูนย์ใหญ่ของ Shadaloo แต่เนื่องจากการคอร์รับชั่น ทำให้ 3 คนต้องทำกันเองโดยลำพัง ในระหว่างที่ ชุนลี วางระเบิดอยู่รอบๆฐานนั้น เธอก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บริเวณนั้น ซึ่งเด็กสาวคนนั้นคือ Cammy และท้ายสุดแล้ว ก็สามารถทำลายล้าง Psycho Drive แหล่งพลังงานที่สำคัญของ M.Bison ลงได้ แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตของ Charlie ที่หายสาบสูญไปจากการระเบิดในครั้งนั้น ซึ่งแม้แต่ศพของเขาก็หาไม่เจอ และยิ่งกว่านั้น M.Bison ก็หนีจากการระเบิดไปได้ (- เป็นเหตุการณ์ตอนจบของ SF Zero 3)





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 1 มีนาคม 1968
สัญชาติ: จีน
สูง: 169cm
น้ำหนักตัว: ไม่บอก
ส่วน : B84.W59.H89.
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ: ผลไม้, แคนดี้แนวอเมริกัน
ไม่ชอบ: อาชญากรรม, คนใจโลเล
สไตล์การต่อสู้: Tai Chi

ไกล์ (Guile)
พลอากาศตรีแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ มีชื่อเต็มๆว่า William F. Guile เป็นเพื่อนรักกับ Charlie ที่ทั้ง 3 คน คือ Guile, Charlie และ Chun Liร่วมมือร่วมแรงกันทำลายล้างองค์กร Shadaloo ดั่งที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะไม่เพียงการคอร์รับปNชั่นใน Interpol เท่านั้น ยังแต่อิทธิพลของ M.Bison ยังลามไปถึงกองทัพสหรัฐฯด้วย ในท้ายสุดของการวางระเบิดนั้น Guile กับ M. Bison ได้มีการต่อสู้กันและ ชาร์ลี เพื่อนรักของเขาก็ได้เข้ามาช่วย ซึ่งในช่วงวินาทีที่ระเบิด ชาร์ลีก็เข้าเสียสละตัวขัดขว้างเพื่อให้ Guile หนีไปจากแรงระเบิดได้





ซึ่งการเสียสละครั้งนี้ของ Charlie นั้นสูญเปล่า เพราะถึงแม้ Psycho Drive แหล่งพลังงานที่สำคัญของ M.Bison จะถูกทำลายลงไป แต่ตัวของ M.Bison ก็หนีไปได้ ซึ่งทำให้ Guile โกรธแค้นมาก และตั้งมั่นจะแก้แค้นแทนเพื่อนรักให้ได้ และสิ่งสุดท้ายที่ Guile มีไว้ดูต่างหน้า Charlie ก็คือ แผ่นป้าย ด๊อก แท็ค (แผ่นป้ายเหล็กที่ทหารใช้กัน เพื่อแทนตัวเอง)





และต่อมาเมื่อ Guile กลับสู่บ้านเกิดที่ อมเริกา วันหนึ่งเขาก็ได้รับคำเชิญจาก M. Bison ให้เข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์ และเมื่อถึงจุดสุดท้าย ที่ Guile จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับคนที่ฆ่าเพื่อนรักที่สุดของเขา Julia ภรรยา และ Amy ลูกสาว ของ Guile ก็เข้ามาห้ามไว้ ซึ่งถ้า Guile ฆ่า M. Bison ตาย ตัวของเขาเองก็ไม่ต่างอะไรจากฆาตกรเลย และถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ตัว Guile เองก็ตระหนักได้ดีว่า ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด (เหตุการ์ตอนจบ SF II)จีงตัดใจที่จะไม่ฆ่า M.Bison ทิ้งซะ





และจนถึงทุกวันนี้ Guile ก็ยังเชื่ออยู่ทุกวันว่า Charl

และจนถึงทุกวันนี้ Guile ก็ยังเชื่ออยู่ทุกวันว่า Charlie เพื่อนรักของ ยังมีชีวิตอยู่ ที่ใดที่หนึ่งในโลกใบนี้
*** หมายเหตุ Julia ภรรยา เป็นพี่สาวของ Eliza ภรรยาของ Ken และ Amy ลูกสาว ก็เป็นเพื่อนทางจดหมายกับ Datta ลูกสาวของ Dhalsim





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 23 ธันวาคม 1960
สัญชาติ: American
สูง: 182cm
น้ำหนักตัว: 86kg
กรุ๊ปเลือด: O
ชอบ: กาแฟแบบอเมริกัน
ไม่ชอบ: ถั่วหมัก
สไตล์การต่อสู้: Special Force Techniques

หลังจากในตอนแรกที่แนะนำกันไป 4 ตัวคือ ริว เคน ชุนลี และ กิลด์ ในตอนนี้เราจะมาต่อกับตัวละครคลาสสิคยุค SF II ที่เหลืออีก 4 ตัว เริ่มกันที่...


E. Honda
นักมวยปล้ำชาตินิยมจ๋าที่ Capcom ออกแบบมาได้อย่าง "ญี่ปุ้น ญี่ปุ่น" เป็นที่สุด ตัว E ในชื่อของ ฮอนดะ นั้น ย่อมาจาก Edmond นั้นเอง ในด้านการเข้าร่วมของทัวร์นาเม้นต์ SF นั้น เพราะหลังจากที่ตัว ฮอนดะ ปราบเหล่ายอดฝีมือไปทั่วญี่ปุ่นแล้ว เขาอยากจะฝึกความแข็งแกร่งของตัวเองจึงเข้าร่วมในทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว รวมถึงอยากแสดงให้เห็นว่าศิลปะการต่อสู้ "ซูโม่" สามารถปราบคู่ต่อสู้ได้หมด และต่อมาเข้าก็ได้พบกับ ริว ซึ่ง ฮอนดะเองก็พยายามผูกมิตรอยู่ด้วย





นอกจากนี้ เหตุผลที่ฮอนดะ ตัดสินใจเข้ารวมทัวร์นาเม้นท์นี้ อีกเหตุผลก็คือ หลังจากที่เขาได้ปะฝีมือกับ Sodom (ตัวละครจาก Final Fight ซีรีย์) ตัว Sodom เองก็ได้แนะนำให้ ฮอนดะรู้จักกับทัวร์นาเม้นท์นี้ ซึ่งตัวเขาคิดเองว่า น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ตัวเขาจะได้นำศิลปะการต่อสู้ "ซูโม่" ให้เหล่านักสู้ทั่วโลกๆได้เห็นว่า ซูโม่ นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ได้ชนะเลิศในทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งเหตุนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียใจให้ ฮอนดะ แต่อย่างใดเพราะความเป็นเต้ยในญี่ปุ่นก็เพียงพอสำหรับตัว ฮอนดะ เองอยู่แล้ว





ส่วนตัวแล้ว ฮอนดะ มีนิสัยที่มีอารมณ์ขันอยู่เป็นนิจ แต่ข้อเสียของเขาก็คือ "อารมณ์ขึ้น" ได้ไวมาก ในตอนที่อยู่ญี่ปุ่นนั้น เวลาฝึกสอนซูโม่ที่ไร ตัวเขาชอบเปิดไมโครโฟนเสียงดังๆ ซึ่งเหตุนี้สร้างความรำคาญให้แก่เพื่อนบ้านมากมาย ^^



ศิษย์ก้นกุฏิ 4 คน คือ ฮาโทโนยามะ มารุโนอุมิ ยาสุฮานาดะ นิชิโนะฟูจิ


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 3 พฤศจิกายน ปี 1960
สัญชาติ: ญี่ปุ่น
สูง: 185cm
น้ำหนักตัว: 137kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ: ก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบญี่ปุ่น, การอาบน้ำ
ไม่ชอบ: ความโลเล
สไตล์การต่อสู้: ซูโม่


Zangief
เจ้าของฉายา "เรดไซโคลน" นักมวยปล้ำ ล่ำ บึก จาก รัสเซีย แซนกีฟ เคยเป็นนักมวยปล้ำแนวใต้ดินอยู่ในบ้านเกิด ซึ่งต่อมาตัวแซนกีฟเองก็ถุกแบนออกจากวงการไปเนื่องจากข้อหา "เก่งเกินและไม่เปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง" เขาก็เลหนีไปอยู่ป่า พร้อมฝึกวิชากการต่อสู้กับ หมีกรีซลี่ แทน ต่อมาก็มี ประธานธิปดี Gorbachev (ซึ่ง Capcom ล้อเลียน มิกาเอล กอร์บาชอฟ ปธ.โซเวียต)มาขอร้องให้ แซนกีฟ เข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์ SF เพื่อโชว์พาวเวอร์ของรัสเซียให้โลกรู้





ต่อมา ตัวเขาก็ได้รู้จักกับ Edmund Honda และก็เป็นเพื่อนกันมานับแต่นั้น และที่เขาเป็นศัตรูกับองค์กรที่ชั่วร้ายอย่าง Shadaloo เพราะแซนกีฟได้ยินกิตติศัพท์ความร้ายกาจขององค์กรนี้ และองค์กรนี้ก็มีแผนที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศบ้านเกิดของแซนกีฟเองด้วย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ตัวแซนกีฟเข้าร่วม SF





ท้ายสุดแล้ว แซนกีฟ ก็กลับมาอยู่ในบ้านเกิด ยึดถืออาชีพนักมวยปล้ำที่เขารักต่อไป รวมถึงแอบแว่บเข้าไปป่าไปฟัดกับน้องหมีเป็นบางครั้ง ...ระหว่างที่อยู่ในทัวร์นาเม้นท์ SF ตัว แซนกีฟ ชอบสู้กับบลังก้ามากๆ เหตุผลก็เพราะ มันทำให้ แซนกีฟ นึกถึงการต่อสู้กับน้องหมีในสมัยอยู่ป่าในรัสเซียนั้นเอง T_T





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 1 มิถุนายน ปี 1956
สัญชาติ: รัสเซีย
สูง: 214cm
น้ำหนักตัว: 121kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ:มวยปล้ำ, Cossack dancing
ไม่ชอบ: การโจมตีด้วยอาวุธ, เด็กสาวสวยๆ
สไตล์การต่อสู้: มวยปล้ำ


Blanka
บลังก้า ลิงเขียว ตัวประหลาดแห่งซีรีย์ SF ตัว บลังก้าเองมีชื่อจริงๆว่า จิมมี่ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ บลังก้า อายุ 9 ขวบ เมื่อบลังก้าได้ขึ้นเครื่องบินจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ บราซิล ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก จากฝีมือขององค์กร Shadaloo (อีกแล้ว -*-) เครื่องบินได้ไปตกในใจกล่างป่าลึกของ ป่าอะเมซอน และบลังก้าเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากอุบัติเหตุครั้งนั้น บลังก้า ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในป่า โดยเลียนแบบท่าทางธรรมชาติของสัตว์ป่า ซึ่งที่พิเศษสำหรับ กระแสไฟฟ้า ที่ บลังก้า สามารถปล่อยออกมาได้ ก็เพราะ บลังก้าไปเรียนวิชานี้มาจาก ปลาไหลไฟฟ้านั้นเอง





สาเหตุที่ชื่อ บลังก้า (Blanka)นั้น เนื่องจากในตอนเด็กๆ ด้วยความที่เป็นเด็กผิวขาว ชนเผ่าพื้นเมืองจึงเรียกเด็ก จิมมี่ ว่า บลังก้า นั้นเอง ซึ่งต่อมาสีผิวของเขาได้เปลี่ยนมาเป็นสีเขียว ก็เพราะอยู่ในป่ามานาน





ต่อมา บลังก้า ได้พบกับ Dan (ตัวละครจากซีรีย์ SF Zero) และทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักกันมานับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา Danได้สอนให้บลังก้ารู้จักภาษาอังกฤษและสอนให้บลังก้ารู้ว่าชื่อจริงๆของเขานั้นคืออะไร และท้ายสุดแล้ว Dan ก็ออกมาจากป่าอะมเซอน หลายๆปีต่อมา เมื่อบลังก้าเริ่มเบื่อ ก็เริ่มออกจากป่ามาอยู่เมือง ด้วยวิชาการต่อสู้ของบลังก้า เลื่องลือไปไกล มาวันนึง ซาแมนธ่า ได้เห็นรูปของบลังก้าใน หนังสือพิมพ์ ซึ่งเธอก็รู้ได้ในทันทีว่านี้คือ จิมมี่ ลูกของเธอที่หายไป เนื่องจาก ซาแมนธ่า จำกำไลข้อเท้าที่เคยใส่ไว้ให้ จิมมี่ ในตอนเด็กๆได้
สุดท้าย บลังก้าก็กลับไปอยู่กับแม่ของเขาอย่างมีควาามสุขสืบต่อไป





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 12 กุมภาพันธ์ ปี 1966
สัญชาติ: บราซิล
สูง: 192cm
น้ำหนักตัว: 96kg
กรุ๊ปเลือด: B
ชื่นชอบ:ผลไม้เมืองร้อน
ไม่ชอบ: กองทัพมด
สไตล์การต่อสู้: ไม่มีสไตล์

Street Fighter IV (2008)
ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีย์นี้ หลังจากเว้นวรรค ห่างหายไปนาน เกือบๆ10 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เหมือนเป็นการสวนกระแสกลับมาเป็น 2D อีกครั้ง หลังจากเสียผู้เสียคนไปกับ Street Fighter EX ในการกลับมาครั้งนี้ นอกจากสไตล์เกมเพลย์ที่เหมือนเดิม ยังได้เพิ่มลูกเล่นขึ้นมาอีก โดยระหว่างการต่อสู้ เกม จะปรับกราฟฟิกให้เป็น 2.5 D และระบบการต่อสู้ใหม่ๆขึ้นมาที่เรียกว่า Revenge

ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมามากจากสมัยก่อน ทำให้ภาพที่ปรากฏให้ดู ดูอลังการ ตระการตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพการปล่อย ฮาโดเคน ของ ริว หรือ โชริวเคน ของ เคน และยิ่งภาพเปิดตัวที่เปิดมาในตอนแรกสุดก็สร้างความฮือฮามากมาย แต่ก็ไม่วายมีข้อสงสัยว่าเกมจะไปได้สวยหรือไม่ เนื่องจากภาคล่าสุดอย่าง Street Fighter EX ก็แป้กมาแล้ว





ทาง โยชิโนริ โอโนะ (Yoshinori Ono) โปรดิวเซอร์ที่เข้ามาดูแลการผลิตในภาคนี้ ก็ตกปากรับคำว่าจะมีการนำตัวละครหลักๆจากซีรีย์ SF II เข้ามา เนื่องจากในภาคนี้ ได้รับความแพร่หลายเป็นอย่างสูง มีความคลาสสิคในตัวมันเองอยู่มากมาย และตัวละครที่ ได้รับการยืนยันมาแล้ว นอกเหนือจาก ริว เคน ชุนลี ดัลซิม และ คริมสัน ไวเปอร์ แล้วก็มี อาคุม่า

ในส่วนของ Sagat นี้ไม่ต้องพูดถึงทั้งเลือดเยอะและท่าอัดที่รุนแรง รวมถึงท่าก้านคอแล้วต่อด้วย Ultra หรือ Super ซึ่งขอบอกว่าไม่ต้องสืบ โหดแน่นอน ดังนั้นแล้ว เป็นที่ปวดหัวของเหล่านักสู้ที่ต้องเจอกับ 2 ตัวนี้แน่ๆ
ด้วยเหตุนี้ Ryota Mitsuma ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ของ SF IV เวอร์ชั่นเกมตู้ได้ออกมายอมรับว่าทั้ง Seth และ Sagat นั้นเก่งเกินกว่าที่ทีมงานคาดไว้ โดยเผยว่า "ทั้ง Seth และรวมถึง Sagat นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้ ผู้เล่นที่เล่นเก่งในตัวละครอื่นๆอาจจะเอาชนะผู้เล่นคนอื่นๆที่เล่น Sagat เก่งรวมถึง Seth ได้อัตราส่วนที่พอดีๆ แต่ถึงกระนั้นก็ตามทั้ง Seth และ Sagat ก็ยังแข็งแกร่งกว่าตัวละครอื่นๆอยู่ดี"
แต่จะว่าไปแล้ว ไดโกะ แชมป์ Street Fighter IV คนล่าสุด เป็นแชมป์ด้วยตัวละครที่ชื่อว่า Ryu นะจ้ะ



และนี้ก็เป็นประวัติความเป็นมาของซีรีย์เกมไฟต์ติ้งระดับขึ้นหิ้งเกมหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะได้รับการกล่าวถึงเสมอๆ เหมือนคนๆหนึ่งที่ผ่านเวลามาเนิ่นนานกว่า 20 ปี ผ่านจุดสูงสุด และ จุดต่ำสุดมาหมดแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเป็นตำนาน ของถนนนักสู้สายนี้ไม่เปลี่ยน ถนนสายนี้ยังทอดยาวไปอีกไกลนัก...


credit : street4you.blogspot.com/ ,
www.online-station.net ,
www.dek-d.com/[/size]

Dhalsim
ดัลซิม อาจารย์โยคะแห่งชมพูทวีป สไตล์การต่อสู้แบบ โยคะ ที่สามารถยดแขน ยืดขาได้ รวมถึงพ่นไฟได้ด้วย ถ้าพี่ลูฟี่ เอ้ย ดัลซิมได้โซ้ยแกงกระหรี่ก่อนขึ้นสังเวียน ^^





ด้วยความยากจนในหมู่บ้านที่ดัลซิมอาศัยประสบกับภัยพิบัติที่แห้งแล้งและอดอยากมากมาย ทำให้ดัลซิมตัดสินใจที่จะต้องต่อสู้เพื่อนำเงินกลับมาช่วยหมู่บ้าน แต่ถึงกระนั้นก็ตามถ้า ดัลซิม ออกจากหมู่บ้านไปเพื่อหาเงินมานั้น ก็จะทำให้บรรดาลูกบ้านในหมู่บ้านของเขาอดตาย ด้วยพื้นฐานที่เขาเป็นคนดี ซึ่งเหตุนี้เป็นสิ่งที่ให้ ดัลซิม คิดไม่ตกว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ซัลลี่ ภรรยาของ ดัลซิม ก็ปลอบใจว่าการออกไปหาเงินในครั้งนี้จะช่วยผู้คนได้มากมาย ดัลซิม จึงตัดสินใจที่จะไปหาเงิน แต่ลึกๆแล้ว ดัลซิม กลัวว่าความแข็งแกร่งที่เขามีทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่เพราะไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องตัดสินใจไป ดัลซิมได้ให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า จะหยุดต่อสู้ทันทีเมื่อความชั่วร้ายในด้านลึกๆของจิตใจเข้าควบคุมตัวเขาเอง
ดัลซิม เริ่มผจญภัยออกไปในโลกกว้างเพื่อหาคู่ต่อสู้ฝีมือดี เพื่อที ดัลซิม จะได้เงินเยอะๆ เพื่อช่วยหมู่บ้าน และในตอนนี้เอง ดัลซิม ก็เริ่มรู้จักกับ Shadaloo เพราะความชั่วร้ายขององค์กรนี้ และ พื้นฐานที่ ดัลซิม เป็นคนจิตใจงาม ดัลซิมจึงหลีกเลี่ยงที่จะไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ดัลซิมได้ช่วย Cammy ให้หลุดพ้นจากการครอบงำจิตใจ ด้วยวิชา โยคะ ของเขานั้นเอง





ท้ายสุดแล้ว เมื่อ ดัลซิม ได้เงินตามที่ต้องการ ดัลซิม ก็กลับไปอยู่บ้านกับลูกและภรรยา รวมถึงช้างที่ชื่อว่า Kodal ของเขานั้นเอง ส่วนหัวกระโหลกที่ ดัลซิม ห้อยอยู่นั้นคือหวักระโหลกของเด็กๆที่เสียชีวิตไปจากความอดอยากของหมู่บ้านนั้นเอง
ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 22 พฤศจิกายน ปี 1952
สัญชาติ: อินเดีย
สูง: 176cm
น้ำหนักตัว: 48kg
กรุ๊ปเลือด: O
ชื่นชอบ:แกงกระหรี่
ไม่ชอบ: เนื้อสัตว์
สไตล์การต่อสู้: โยคะ





มาถึงอีกหนึ่งตอนนะครับสำหรับแฟนๆประวัติความเป็นมาของเหล่านักสู้จากเกม Street Fighter ซึ่งในตอนสุดท้ายนี้จะพูดถึงเหล่า จตุรเทพ(ในด้านไม่ดี)ขององค์กร Shadaloo ทั้ง บัลล๊อก เวก้า สกัต และ ไบซัน ซึ่งแต่ละคนจะมีความเป็นมาอบ่างไร เราไปดูกันเลยครับเหล่านักสู้ทั้งหลาย โชริวเคน !!!


Balrog
แต่เดิมนั้น บัลล๊อคเลือกที่จะต่อยมวยก็เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาได้ร่ำรวยโดยใช่เวลาไม่นานนัก แต่ตอนมาเขาก็ต้องโดนอัปหิออกนจากวงการมวยก็เพราะไปต่อยคู่ชกจนเสียชีวิต จนในที่สุดเขาก็ต้องไปเป็นการ์ดตามผับ บาร์ วันหนึ่งบัลล๊อคได้เจอกับ ไบซัน หัวหน้าใหญ่ขององค์กร Shadaloo และชักชวนเข้าร่วมขบวนการ เพราะความอยากรวยของบัลล๊อคนี้เอง ทำให้บัลล๊อคตกลงเข้าร่วมขบวนการ





ด้วยหน่วยก้านที่ดี จึงทำให้ บัลล๊อคได้ขึ้นอยู่ลำดับขั้นนอย่างรวดเร็ว ต่อมาบัลล๊อคได้รับคำสั่งให้ไปจัดการ เบอร์ดี้ (Birdie-ตัวละครจาก SF ภาคแรกและ Zero) ซึ่งเบอร์ดี้กลัวที่จะถูกฆ่าจึงบอกบัลล๊อคเกี่ยวกับเรื่องพลัง Psycho Drive และแผนการที่เบอร์ดี้จะเข้าครอบครองพลังนี้ทั้งหมด ซึ่งบัลล๊อคเลือกที่จะช่วยเบอร์ดี้ เพราะเห็นแก่เงิน(อีแล้ว) แต่สุดท้ายทั้งเบอร์ดี้และบัลล๊อคก็แห้ว และต่อมาศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ก็ถูกทำลายไป (ดังที่เคยพูดถึงในเนื้อเรื่องของชุนลี)





โชคดีที่ ไบซัน ไม่เคยจับได้เลยว่า บัลล๊อคได้คิดไม่ซื่อกับเขา ทำให้บัลล๊อคยังคงเป็นสมาชิกขององค์กร Shadaloo อยู่ต่อไปถึงแม้ว่าศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ถูกทำลายไปแล้ว แต่สุดท้ายบัลล๊อคได้ขึ้นเป็นใหญ่ในองค์กร Shadaloo (เนื่องจากไบซันถูก อาคุม่า จัดการ) แต่ด้วยบัลล๊อคนั้นโง่เกินไป จนไม่สามารถควบคุม Shadaloo ได้ จนสุดท้าย Shadaloo ก็ต้องแตกสลายไป ในท้ายสุด บัลล๊อคก็ต้องกลับหาทางกลับไปหาเงินเพื่อเป็นคนรวยต่อไป




******ส่วนที่สับสนว่าทำไม บัลล๊อคในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นชื่อ M.Bison พอมาเปิดตัวในอเมริกาจึงกลายเป็น บัลล๊อค ก็เพราะ Capcom กลัวว่าจะเกิดการฟ้องร้องจากยอดนักมวยในยุคนั้นก็คือ Mike Tyson เพราะใครๆที่ได้เห็นตัวละครตัวนี้ก็ต้องนึกว่านี้มัน ไมค์ ไทสัน แน่ๆ แถม Capcom ก็ตั้งชื่อคล้ายๆกันอีก ไบซัน ไทสัน เลยเพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องร้องหัวโต จึงต้องมีการสลับชื่อดัวยประการฉะนี้แล******



เหมือนม่ะ?


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:6 มกราคม ปี 1974
สัญชาติ: อเมริกัน
สูง: 196cm
น้ำหนักตัว: 102kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ: ผู้หญิง, เหล้าเบอร์เบิ้น
ไม่ชอบ: ปลา,ความพยายาม,คณิตศาสตร์
สไตล์การต่อสู้: มวยสากล


Vega
ชายหนุ่มรูปงามที่หลงใหลในตัวเอง เวก้าสูญเสียความทรงจำตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากช๊อคที่รู้ว่าพ่อของเขาฆ่าแม่ แม่ของเวก้าเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่หน้าตาสวยงามมาก แต่ต้องแต่งงานกับคนรวยที่หน้าตาอัปลักษณ์ หลังจากเหตุการณ์นั้น เวก้าฝึกตนเองให้แข็งแกร่ง สร้างทฤษฎีขึ้นมาว่าคนอ่อนแอต้องตาย และเมื่อเวก้าเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนักสู้แล้ว เขาจึงเริ่มมาสวมหน้ากาก เพื่อปกป้องใบหน้าอันสวยงามของเขานั้นเอง แล้ววิชาของเขาก็คือ นินจิซึ(วิชานินจาของญี่ปุ่น)





เหตุผลที่เวก้าเข้ามามีส่วนร่วมในองค์กร Shadaloo เนื่องจาก ไบซัน หัวหน้าใหญ่ถูกใจในความโรคจิตของเวก้า แต่เวก้าไม่เคยบอกใครว่าเข้าเกี่ยวพันกับองค์กรนี้ได้อย่างไร เวก้าได้รับภารกิจให้ตามรอย แคมมี่ (Cammy) และคอยรายงานกลับมาที่ฐานเสมอๆว่า แคมมี่มีความเคลื่อไหวอย่างไรบ้าง และเมื่อเวก้า ได้พบกับแคมมี่ ทำให้เขารู้ว่าแคมมีนั้นถูกล้างสมอง แคมมี่ก็ปฏิเสธที่จะสู้กับเวก้า แต่สุดท้ายเวก้าก็ยอมแพ้ให้กับแคมมี่ไป และเวก้าได้เตือนแคมมี่ไว้ว่าเธอจะถูกฆ่าในไม่ช้า ซึ่งแคมมี่ก็ได้วิ่งหนีไปด้วยจิตใจที่สับสน
เวก้ากลับมาที่ฐาน แล้วเริ่มสงสัยในตัวเองว่าเหตุใดเขาถึงแคร์แคมมี่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเหตุผลหลายๆอย่างเช่น ชื่นชอบในความสวยงามของหน้าตาแคมมี่ หรือตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วแคมมี่คือมนุษย์ไม่ใช่ตุ๊กตา ดังนั้นเวก้าจึงเข้าไปเคลียร์กับไบซันว่าเหตุใดจึงสนใจในเด็กคนนี้นัก รวมถึงเจตนาของไบซันเองด้วย ในที่สุด เวก้าจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วแคมมี่คือร่างโคลนของไบซันและจะต้องตายในไม่ช้า เนื่องจากไบซันจะย้ายร่างไปอยู่ในตัวแคมมี่ เวก้าได้ให้เหตุผลว่าแคมมี่ไม่ควรจะต้องตายแถมยังซื่อสัตย์ต่อ Shadaloo เป็นอย่างยิ่งด้วย แต่ไบซันก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างไร ซึ่งสุดท้าย ศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ก็ถูกทำลายไป (ดังที่เคยพูดถึงในเนื้อเรื่องของชุนลี) เวก้าพบว่าแคมมี่ถูกขังอยู่ในห้อง Psycho Drive และเขาก็ได้ช่วยเธออกมาจากฐานทัพแล้วส่งเธอไปอยู่ ลอนดอน ปล่อยเธอไว้กับหน่วย Delta Red โดยหวังว่าเธอจะมีชีวิตใหม่กับที่นี่





หลังจากการล่มสลายไปของ Shadaloo เวก้าก็กลับมามีชีวิตตามปรกติคือ ฆ่าพวกคนหน้าตาน่าเกลียดในตอนกลางคืน แลก็เป็นผู้สูงศักิ์ในตอนกลางวัน โดยเหตุผลที่ว่าโลกนี้จะได้มีแต่คนหน้าตาดีสืบต่อไป (โรคจิตมั้ยนิ ^^)
ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:27 มกราคม ปี 1967
สัญชาติ: สเปน
สูง: 186cm
น้ำหนักตัว: 72kg
กรุ๊ปเลือด:O
ชื่นชอบ: ความสวยงาม, ตัวเอง
ไม่ชอบ: ความน่าเกลียด,ความอาฆาตหลังจากการพ่ายแพ้
สไตล์การต่อสู้: นินจิซึประยุกต์


Sagat
สกัตได้รับการขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งมวยไทย" และเป็นฮีโร่ของคนไทยซึ่งสกัตชนะเลิศมวยไทยตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ในวัยเด็กเขาถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรง วันหนึ่งในวัยเด็กสกัตได้รับอุบัติเหตุจากการต่อสู้ทำให้ตาของเขาบอดไปส่วนหนึ่ง ซึ่งเหตุนี้ทำให้เขาถูกล้อเลียนไปทั้งโรงเรียนด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงขับที่ทำให้สกัตกลายเป็นยอดฝีมือในเชิงมวยไทยในเวลาต่อมา





ส่วนสาเหตุที่เขาต้องใส่ผ้าปิดตาไปนั้น ก็เพราะจากการต่อสู้กับ Go Hibiki (พ่อของ Dan Hibiki)ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตาของเขาบอดสนิท และความเจ็บปวดจากการที่เสียตาไป สกัตจึงฆ่า Go Hibiki โดยความโกรธแค้น และที่สกัตใส่ผ้าปิดตาไว้ ก็เพราะเพื่อเตือนถึงความอับอายในครั้งนี้นั้นเอง


ที่นอนอยู่คือ โก ฮิบิกิ และรูปขวาคือรูปสมัยสกัตยังหนุ่มๆ สังเกตที่ดวงตา

ส่วนบาดแผลที่หน้าอกนั้นก็มาจากฝีมือริวนั้นเอง เหตุจากในศึก Street Fighter tournament ครั้งที่ 1 ที่สกัตได้วัดฝีมือกับริวในแมทช์สุดท้าย และสกัตก็เอาชนะไปได้ ขณะที่ยืนมือเข้าไปช่วยริว ที่นอนหมอบอยู่กับพื้น ด้วยจิตสังหาร (Satsu-no-Hadou)ทำให้ริวโจมตีสกัตด้วยท่า โชริวเคน ทำให้เกิดเป็นแผลไหม้ขนาดใหญ่ที่หน้าอกซึ่งสร้างความแค้นให้สกัตในเวลาต่อมา





หลังจากการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้สกัตเข้าร่วมองค์กร Shadaloo และละทิ้งลูกศิษย์ของเขาไปเข้าร่วมองค์กร และหนึ่งในศิษย์ของสกัตก็คือ Adon นั้นเอง และเมื่อสกัตได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้สกัตพ่ายแพ้ต่อริวในครั้งนั้นไม่ใช่เพราะเขาแพ้เเองแต่แพ้เพราะจิตสังหาร (Satsu-no-Hadou) ทำให้สกัตตัดสินที่จะรีแมทช์กับริว เพื่อค้นหาใครกันแน่ที่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่แท้จริง
***สกัต ตั้งชื่อมาจากนักมวยไทยที่มีตัวตนจริงๆ คือ สกัด เพชรยินดี ซึ่งมีดีกรีระดับแชมป์ แต่ระยะหลังตกอับ และตกเป็นผู้ต้องหา คดีเป็นธุระจัดหาค้าประเวณี และคดีค้ายาเสพติด





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:2 กรกฏาคม ปี 1955
สัญชาติ: ไทย
สูง: 226cm
น้ำหนักตัว: 109kg
กรุ๊ปเลือด:B
ชื่นชอบ: คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ไม่ชอบ: คนอ่อนแอ
สไตล์การต่อสู้: มวยไทย


M. Bison
บอสใหญ่ขององค์กร Shadaloo เมื่อวัยเด็กความฝันในวัยนั้นคือ เขาอยากจะเป็นนักสู้ที่เก่งกาจ โดยคนที่เขาฝึกฝนพร้อมกับเพื่อนนักเรียนอีก 2 คนด้วยนั้น รู้เพียงแค่ว่าอาจารย์เป็นผู้ใช้พลัง Psycho Power กการฝึกฝนพลัง Psycho Power นั้นอันตรายเกินไปสำหรับ ไบซัน ทำให้จิตใจเขาถูกรบกวนและในที่สุดเกิดคลั่งขึ้นมาทำให้ไปซันสังหารอาจารย์ของตนเองแต่ไม่แน่ใจว่าได้สังหารเพื่อนร่วมอาจารย์ 2 คนนั้นด้วยหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าสุดท้าย 2 คนนั้นจะโดยฆ่าไป หลังจากสังหารอาจารย์ไป ไบซัน ตั้งเป้าที่จะปกครองโลก(บ้าไปแล้วนิ^^) จึงก่อตั้งองค์กร Shadaloo ขึ้นมา โดยหลักๆก็คือขายยาเสพติด ซึ่งเหตุนี้ทำให้ พ่อชองชุนลีที่เข้ามาสืบเรื่องนี้โดยเก็บไป





Psycho Power เป็นพลังที่ขึ้นอยู่กับด้านมืดของผู้ใช้ ดังนั้นเพื่อจะได้ดึงพลังออกมาเต็มที่ ไบซัน จึงจะต้องละทิ้งด้านดีๆในจิตใจออกไป Psycho Power นั้นจะเก็บอยู่ใน Psycho Drive ซึ่งมื่อใดที่ ไบซัน ต้องการพลังก็สามารถมาเติมพลังกับเจ้านี้ได้ และในด้านจิตใจดีที่ไบซันได้ละทิ้งไปนั้น จึงกลายมาเป็น Rose และ ไบซัน ได้ฝึกฝนเธออยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง จนสุดท้ายเธอก็ได้หนีไปเพราะไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสิ่งชั่วร้าย ซึ่งสิ่งชั่วร้ายที่พูดถึงตะกี้ก็คือการลักภาพเด็กสาวจำนวน 12 คน มาล้างสมองแล้วตั้งเป็นกองทัพขึ้นมาที่ชื่อว่า The Dolls
เนื่องจาก Shadaloo ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของ Interpol ตำรวจสากล ซึ่งชุนลีที่ต้องการจะแก้แค้นให้พ่อของเธอได้เดินเรื่องเป็นหัวหมู่ในการตรวจสอบองค์กรนี้ด้วยตัวเอง แล้วในตอนสุด้ทาย ชุนลีก็ได้เจอกับ ไบซัน และเธอก็เอาชนะ ไบซันได้ แต่ ไบซันได้บินหนีไป ก่อนไป ไบซันยังทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า เขาน่าจะฆ่าเธอให้เหมือนที่ฆ่าพ่อของเธอ และต่อมา โรส ก็กลับมา แล้วก็เอาชนะ ไบซัน ไปได้อีก เมื่อเธอจากไป เธอคิดว่าเธอได้ฆ่า ไบซันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ความจริงเขายังไม่ตาย





เมื่อร่างกายของ ไบซัน ไม่สามารถทนท้านพลัง Psycho Power ได้อีกต่อไป เขาได้ให้นักวิทยาศาสตร์ขององค์กรได้สร้างร่างโคลนขึ้นมาซึ่งร่างโคลนนี้ก็คือ แคมมี่ ไบซัน ตั้งใจจะถ่ายวิญญาณของเขาไปสู่ร่าง แคมมี่ แต่แคมมี่ได้รู้สึกฟื้นตัวจากการล้างสมอง แผนการนี้จึงไม่สำเร็จ ดังนั้น ไบซัน จึงต้องการร่างใหม่ ซึ่งที่ ไบซัน เล็งๆไว้ก็คือร่างของริวนั้นเอง ขณะที่ริวกำลังถูกล้างสมองนั้น ซากุระ เคน และ สกัต ก็ได้เข้ามาช่วย โดย ซากุระและ เคน รับหน้าเสื่อจัดการกับ ไบซัน ส่วน สกัต ก็เข้าไปช่วย ริว ออกมา แต่ก็ต้องมาต่อสู้กันเพราะริวถูกล้างสมองไปแล้ว ต่อมา ริวก็กลับมาจำความได้ ริวจึงหันกลับมาลุยกับ ไบซัน ด้วย (ซวยจริงๆ^^) ขณะเดียวกันนั้นเอง แคมมี่ที่ความทรงจำกลับมาแล้วได้นำทัพ The Dolls กลับมาลุยกับ ไบซัน เช่นกัน ซึ่งในขณะที่ ไบซัน กำลังโดนรุมกินโต๊ะอยู่นั้น ชาร์ลี กิลด์ และ ชุนลีก้ได้นำเครื่องบินมาบอมฐานทัพ Shadaloo แต่...วิญญาณของ ไบซัน ยังหลุดรอดไปได้ จึงย้ายไปอาศัยอยู่ในตัว โรส ชั่วคราว





และท้ายสุดนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างร่างกายใหม่ขึ้นมาให้ ไบซัน ได้ แต่โชคร้ายที่มันห่วยกว่าร่างดั่งเดิม ทำให้ ไบซัน จึงต้องจำยอมย้ายกลับร่างใหม่นี้ และเขาก็ได้จัด Street Fighter tournament ครั้งที่ 2 ขึ้นมา เพื่อเชิญชวนศัตรูของเขาทุกคนให้มาเข้าร่วมเพือที่ ไบซัน จะได้จัดการเชือดรายตัวได้ง่ายๆ ซึ่งในศึกครั้งสุดท้าย อาคุม่า นักสู้ลึกลับที่ ไบซัน ไม่ได้เชิญ ได้เข้ามาจัดการไบซันด้วยท่า "อเวจีสังหาร" (Shun Goku Satsu) ซึ่งทาไม้ตายนี้ ส่งผลให้วิญญาณของ ไบซัน สูญสิ้นไปและไม่สามารถไปหาร่างอื่นได้อีกแล้ว


ท่าโหด แมงสาบถึงกับสลาย ^^


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:ไม่ปรากฏ
สัญชาติ: ไม่ปรากฏ
สูง: 182cm
น้ำหนักตัว: 96kg
กรุ๊ปเลือด:A
ชื่นชอบ: ปกครองโลก
ไม่ชอบ: คนใต้ปกครองที่ไร้ประโยชน์
สไตล์การต่อสู้: Psycho Power

ผมชอบ ไกล์ (Guile) มันเท่ห์ดี

street fighter ของแท้ๆ

และจนถึงทุกวันนี้ Guile ก็ยังเชื่ออยู่ทุกวันว่า Charlie เพื่อนรักของ ยังมีชีวิตอยู่ ที่ใดที่หนึ่งในโลกใบนี้
*** หมายเหตุ Julia ภรรยา เป็นพี่สาวของ Eliza ภรรยาของ Ken และ Amy ลูกสาว ก็เป็นเพื่อนทางจดหมายกับ Datta ลูกสาวของ Dhalsim





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 23 ธันวาคม 1960
สัญชาติ: American
สูง: 182cm
น้ำหนักตัว: 86kg
กรุ๊ปเลือด: O
ชอบ: กาแฟแบบอเมริกัน
ไม่ชอบ: ถั่วหมัก
สไตล์การต่อสู้: Special Force Techniques

หลังจากในตอนแรกที่แนะนำกันไป 4 ตัวคือ ริว เคน ชุนลี และ กิลด์ ในตอนนี้เราจะมาต่อกับตัวละครคลาสสิคยุค SF II ที่เหลืออีก 4 ตัว เริ่มกันที่...


E. Honda
นักมวยปล้ำชาตินิยมจ๋าที่ Capcom ออกแบบมาได้อย่าง "ญี่ปุ้น ญี่ปุ่น" เป็นที่สุด ตัว E ในชื่อของ ฮอนดะ นั้น ย่อมาจาก Edmond นั้นเอง ในด้านการเข้าร่วมของทัวร์นาเม้นต์ SF นั้น เพราะหลังจากที่ตัว ฮอนดะ ปราบเหล่ายอดฝีมือไปทั่วญี่ปุ่นแล้ว เขาอยากจะฝึกความแข็งแกร่งของตัวเองจึงเข้าร่วมในทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว รวมถึงอยากแสดงให้เห็นว่าศิลปะการต่อสู้ "ซูโม่" สามารถปราบคู่ต่อสู้ได้หมด และต่อมาเข้าก็ได้พบกับ ริว ซึ่ง ฮอนดะเองก็พยายามผูกมิตรอยู่ด้วย





นอกจากนี้ เหตุผลที่ฮอนดะ ตัดสินใจเข้ารวมทัวร์นาเม้นท์นี้ อีกเหตุผลก็คือ หลังจากที่เขาได้ปะฝีมือกับ Sodom (ตัวละครจาก Final Fight ซีรีย์) ตัว Sodom เองก็ได้แนะนำให้ ฮอนดะรู้จักกับทัวร์นาเม้นท์นี้ ซึ่งตัวเขาคิดเองว่า น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ตัวเขาจะได้นำศิลปะการต่อสู้ "ซูโม่" ให้เหล่านักสู้ทั่วโลกๆได้เห็นว่า ซูโม่ นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ได้ชนะเลิศในทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งเหตุนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียใจให้ ฮอนดะ แต่อย่างใดเพราะความเป็นเต้ยในญี่ปุ่นก็เพียงพอสำหรับตัว ฮอนดะ เองอยู่แล้ว





ส่วนตัวแล้ว ฮอนดะ มีนิสัยที่มีอารมณ์ขันอยู่เป็นนิจ แต่ข้อเสียของเขาก็คือ "อารมณ์ขึ้น" ได้ไวมาก ในตอนที่อยู่ญี่ปุ่นนั้น เวลาฝึกสอนซูโม่ที่ไร ตัวเขาชอบเปิดไมโครโฟนเสียงดังๆ ซึ่งเหตุนี้สร้างความรำคาญให้แก่เพื่อนบ้านมากมาย ^^



ศิษย์ก้นกุฏิ 4 คน คือ ฮาโทโนยามะ มารุโนอุมิ ยาสุฮานาดะ นิชิโนะฟูจิ


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 3 พฤศจิกายน ปี 1960
สัญชาติ: ญี่ปุ่น
สูง: 185cm
น้ำหนักตัว: 137kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ: ก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบญี่ปุ่น, การอาบน้ำ
ไม่ชอบ: ความโลเล
สไตล์การต่อสู้: ซูโม่


Zangief
เจ้าของฉายา "เรดไซโคลน" นักมวยปล้ำ ล่ำ บึก จาก รัสเซีย แซนกีฟ เคยเป็นนักมวยปล้ำแนวใต้ดินอยู่ในบ้านเกิด ซึ่งต่อมาตัวแซนกีฟเองก็ถุกแบนออกจากวงการไปเนื่องจากข้อหา "เก่งเกินและไม่เปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง" เขาก็เลหนีไปอยู่ป่า พร้อมฝึกวิชากการต่อสู้กับ หมีกรีซลี่ แทน ต่อมาก็มี ประธานธิปดี Gorbachev (ซึ่ง Capcom ล้อเลียน มิกาเอล กอร์บาชอฟ ปธ.โซเวียต)มาขอร้องให้ แซนกีฟ เข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์ SF เพื่อโชว์พาวเวอร์ของรัสเซียให้โลกรู้





ต่อมา ตัวเขาก็ได้รู้จักกับ Edmund Honda และก็เป็นเพื่อนกันมานับแต่นั้น และที่เขาเป็นศัตรูกับองค์กรที่ชั่วร้ายอย่าง Shadaloo เพราะแซนกีฟได้ยินกิตติศัพท์ความร้ายกาจขององค์กรนี้ และองค์กรนี้ก็มีแผนที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศบ้านเกิดของแซนกีฟเองด้วย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ตัวแซนกีฟเข้าร่วม SF





ท้ายสุดแล้ว แซนกีฟ ก็กลับมาอยู่ในบ้านเกิด ยึดถืออาชีพนักมวยปล้ำที่เขารักต่อไป รวมถึงแอบแว่บเข้าไปป่าไปฟัดกับน้องหมีเป็นบางครั้ง ...ระหว่างที่อยู่ในทัวร์นาเม้นท์ SF ตัว แซนกีฟ ชอบสู้กับบลังก้ามากๆ เหตุผลก็เพราะ มันทำให้ แซนกีฟ นึกถึงการต่อสู้กับน้องหมีในสมัยอยู่ป่าในรัสเซียนั้นเอง T_T





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 1 มิถุนายน ปี 1956
สัญชาติ: รัสเซีย
สูง: 214cm
น้ำหนักตัว: 121kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ:มวยปล้ำ, Cossack dancing
ไม่ชอบ: การโจมตีด้วยอาวุธ, เด็กสาวสวยๆ
สไตล์การต่อสู้: มวยปล้ำ


Blanka
บลังก้า ลิงเขียว ตัวประหลาดแห่งซีรีย์ SF ตัว บลังก้าเองมีชื่อจริงๆว่า จิมมี่ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ บลังก้า อายุ 9 ขวบ เมื่อบลังก้าได้ขึ้นเครื่องบินจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ บราซิล ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก จากฝีมือขององค์กร Shadaloo (อีกแล้ว -*-) เครื่องบินได้ไปตกในใจกล่างป่าลึกของ ป่าอะเมซอน และบลังก้าเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากอุบัติเหตุครั้งนั้น บลังก้า ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในป่า โดยเลียนแบบท่าทางธรรมชาติของสัตว์ป่า ซึ่งที่พิเศษสำหรับ กระแสไฟฟ้า ที่ บลังก้า สามารถปล่อยออกมาได้ ก็เพราะ บลังก้าไปเรียนวิชานี้มาจาก ปลาไหลไฟฟ้านั้นเอง





สาเหตุที่ชื่อ บลังก้า (Blanka)นั้น เนื่องจากในตอนเด็กๆ ด้วยความที่เป็นเด็กผิวขาว ชนเผ่าพื้นเมืองจึงเรียกเด็ก จิมมี่ ว่า บลังก้า นั้นเอง ซึ่งต่อมาสีผิวของเขาได้เปลี่ยนมาเป็นสีเขียว ก็เพราะอยู่ในป่ามานาน





ต่อมา บลังก้า ได้พบกับ Dan (ตัวละครจากซีรีย์ SF Zero) และทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักกันมานับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา Danได้สอนให้บลังก้ารู้จักภาษาอังกฤษและสอนให้บลังก้ารู้ว่าชื่อจริงๆของเขานั้นคืออะไร และท้ายสุดแล้ว Dan ก็ออกมาจากป่าอะมเซอน หลายๆปีต่อมา เมื่อบลังก้าเริ่มเบื่อ ก็เริ่มออกจากป่ามาอยู่เมือง ด้วยวิชาการต่อสู้ของบลังก้า เลื่องลือไปไกล มาวันนึง ซาแมนธ่า ได้เห็นรูปของบลังก้าใน หนังสือพิมพ์ ซึ่งเธอก็รู้ได้ในทันทีว่านี้คือ จิมมี่ ลูกของเธอที่หายไป เนื่องจาก ซาแมนธ่า จำกำไลข้อเท้าที่เคยใส่ไว้ให้ จิมมี่ ในตอนเด็กๆได้
สุดท้าย บลังก้าก็กลับไปอยู่กับแม่ของเขาอย่างมีควาามสุขสืบต่อไป





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 12 กุมภาพันธ์ ปี 1966
สัญชาติ: บราซิล
สูง: 192cm
น้ำหนักตัว: 96kg
กรุ๊ปเลือด: B
ชื่นชอบ:ผลไม้เมืองร้อน
ไม่ชอบ: กองทัพมด
สไตล์การต่อสู้: ไม่มีสไตล์

เล่นครั้งแรกกับแผ่นตลับ !!!

Dhalsim
ดัลซิม อาจารย์โยคะแห่งชมพูทวีป สไตล์การต่อสู้แบบ โยคะ ที่สามารถยดแขน ยืดขาได้ รวมถึงพ่นไฟได้ด้วย ถ้าพี่ลูฟี่ เอ้ย ดัลซิมได้โซ้ยแกงกระหรี่ก่อนขึ้นสังเวียน ^^





ด้วยความยากจนในหมู่บ้านที่ดัลซิมอาศัยประสบกับภัยพิบัติที่แห้งแล้งและอดอยากมากมาย ทำให้ดัลซิมตัดสินใจที่จะต้องต่อสู้เพื่อนำเงินกลับมาช่วยหมู่บ้าน แต่ถึงกระนั้นก็ตามถ้า ดัลซิม ออกจากหมู่บ้านไปเพื่อหาเงินมานั้น ก็จะทำให้บรรดาลูกบ้านในหมู่บ้านของเขาอดตาย ด้วยพื้นฐานที่เขาเป็นคนดี ซึ่งเหตุนี้เป็นสิ่งที่ให้ ดัลซิม คิดไม่ตกว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ซัลลี่ ภรรยาของ ดัลซิม ก็ปลอบใจว่าการออกไปหาเงินในครั้งนี้จะช่วยผู้คนได้มากมาย ดัลซิม จึงตัดสินใจที่จะไปหาเงิน แต่ลึกๆแล้ว ดัลซิม กลัวว่าความแข็งแกร่งที่เขามีทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่เพราะไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องตัดสินใจไป ดัลซิมได้ให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า จะหยุดต่อสู้ทันทีเมื่อความชั่วร้ายในด้านลึกๆของจิตใจเข้าควบคุมตัวเขาเอง
ดัลซิม เริ่มผจญภัยออกไปในโลกกว้างเพื่อหาคู่ต่อสู้ฝีมือดี เพื่อที ดัลซิม จะได้เงินเยอะๆ เพื่อช่วยหมู่บ้าน และในตอนนี้เอง ดัลซิม ก็เริ่มรู้จักกับ Shadaloo เพราะความชั่วร้ายขององค์กรนี้ และ พื้นฐานที่ ดัลซิม เป็นคนจิตใจงาม ดัลซิมจึงหลีกเลี่ยงที่จะไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ดัลซิมได้ช่วย Cammy ให้หลุดพ้นจากการครอบงำจิตใจ ด้วยวิชา โยคะ ของเขานั้นเอง





ท้ายสุดแล้ว เมื่อ ดัลซิม ได้เงินตามที่ต้องการ ดัลซิม ก็กลับไปอยู่บ้านกับลูกและภรรยา รวมถึงช้างที่ชื่อว่า Kodal ของเขานั้นเอง ส่วนหัวกระโหลกที่ ดัลซิม ห้อยอยู่นั้นคือหวักระโหลกของเด็กๆที่เสียชีวิตไปจากความอดอยากของหมู่บ้านนั้นเอง
ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด: 22 พฤศจิกายน ปี 1952
สัญชาติ: อินเดีย
สูง: 176cm
น้ำหนักตัว: 48kg
กรุ๊ปเลือด: O
ชื่นชอบ:แกงกระหรี่
ไม่ชอบ: เนื้อสัตว์
สไตล์การต่อสู้: โยคะ





มาถึงอีกหนึ่งตอนนะครับสำหรับแฟนๆประวัติความเป็นมาของเหล่านักสู้จากเกม Street Fighter ซึ่งในตอนสุดท้ายนี้จะพูดถึงเหล่า จตุรเทพ(ในด้านไม่ดี)ขององค์กร Shadaloo ทั้ง บัลล๊อก เวก้า สกัต และ ไบซัน ซึ่งแต่ละคนจะมีความเป็นมาอบ่างไร เราไปดูกันเลยครับเหล่านักสู้ทั้งหลาย โชริวเคน !!!


Balrog
แต่เดิมนั้น บัลล๊อคเลือกที่จะต่อยมวยก็เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาได้ร่ำรวยโดยใช่เวลาไม่นานนัก แต่ตอนมาเขาก็ต้องโดนอัปหิออกนจากวงการมวยก็เพราะไปต่อยคู่ชกจนเสียชีวิต จนในที่สุดเขาก็ต้องไปเป็นการ์ดตามผับ บาร์ วันหนึ่งบัลล๊อคได้เจอกับ ไบซัน หัวหน้าใหญ่ขององค์กร Shadaloo และชักชวนเข้าร่วมขบวนการ เพราะความอยากรวยของบัลล๊อคนี้เอง ทำให้บัลล๊อคตกลงเข้าร่วมขบวนการ





ด้วยหน่วยก้านที่ดี จึงทำให้ บัลล๊อคได้ขึ้นอยู่ลำดับขั้นนอย่างรวดเร็ว ต่อมาบัลล๊อคได้รับคำสั่งให้ไปจัดการ เบอร์ดี้ (Birdie-ตัวละครจาก SF ภาคแรกและ Zero) ซึ่งเบอร์ดี้กลัวที่จะถูกฆ่าจึงบอกบัลล๊อคเกี่ยวกับเรื่องพลัง Psycho Drive และแผนการที่เบอร์ดี้จะเข้าครอบครองพลังนี้ทั้งหมด ซึ่งบัลล๊อคเลือกที่จะช่วยเบอร์ดี้ เพราะเห็นแก่เงิน(อีแล้ว) แต่สุดท้ายทั้งเบอร์ดี้และบัลล๊อคก็แห้ว และต่อมาศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ก็ถูกทำลายไป (ดังที่เคยพูดถึงในเนื้อเรื่องของชุนลี)





โชคดีที่ ไบซัน ไม่เคยจับได้เลยว่า บัลล๊อคได้คิดไม่ซื่อกับเขา ทำให้บัลล๊อคยังคงเป็นสมาชิกขององค์กร Shadaloo อยู่ต่อไปถึงแม้ว่าศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ถูกทำลายไปแล้ว แต่สุดท้ายบัลล๊อคได้ขึ้นเป็นใหญ่ในองค์กร Shadaloo (เนื่องจากไบซันถูก อาคุม่า จัดการ) แต่ด้วยบัลล๊อคนั้นโง่เกินไป จนไม่สามารถควบคุม Shadaloo ได้ จนสุดท้าย Shadaloo ก็ต้องแตกสลายไป ในท้ายสุด บัลล๊อคก็ต้องกลับหาทางกลับไปหาเงินเพื่อเป็นคนรวยต่อไป




******ส่วนที่สับสนว่าทำไม บัลล๊อคในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นชื่อ M.Bison พอมาเปิดตัวในอเมริกาจึงกลายเป็น บัลล๊อค ก็เพราะ Capcom กลัวว่าจะเกิดการฟ้องร้องจากยอดนักมวยในยุคนั้นก็คือ Mike Tyson เพราะใครๆที่ได้เห็นตัวละครตัวนี้ก็ต้องนึกว่านี้มัน ไมค์ ไทสัน แน่ๆ แถม Capcom ก็ตั้งชื่อคล้ายๆกันอีก ไบซัน ไทสัน เลยเพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องร้องหัวโต จึงต้องมีการสลับชื่อดัวยประการฉะนี้แล******



เหมือนม่ะ?


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:6 มกราคม ปี 1974
สัญชาติ: อเมริกัน
สูง: 196cm
น้ำหนักตัว: 102kg
กรุ๊ปเลือด: A
ชื่นชอบ: ผู้หญิง, เหล้าเบอร์เบิ้น
ไม่ชอบ: ปลา,ความพยายาม,คณิตศาสตร์
สไตล์การต่อสู้: มวยสากล


Vega
ชายหนุ่มรูปงามที่หลงใหลในตัวเอง เวก้าสูญเสียความทรงจำตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากช๊อคที่รู้ว่าพ่อของเขาฆ่าแม่ แม่ของเวก้าเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่หน้าตาสวยงามมาก แต่ต้องแต่งงานกับคนรวยที่หน้าตาอัปลักษณ์ หลังจากเหตุการณ์นั้น เวก้าฝึกตนเองให้แข็งแกร่ง สร้างทฤษฎีขึ้นมาว่าคนอ่อนแอต้องตาย และเมื่อเวก้าเริ่มมีชื่อเสียงในวงการนักสู้แล้ว เขาจึงเริ่มมาสวมหน้ากาก เพื่อปกป้องใบหน้าอันสวยงามของเขานั้นเอง แล้ววิชาของเขาก็คือ นินจิซึ(วิชานินจาของญี่ปุ่น)





เหตุผลที่เวก้าเข้ามามีส่วนร่วมในองค์กร Shadaloo เนื่องจาก ไบซัน หัวหน้าใหญ่ถูกใจในความโรคจิตของเวก้า แต่เวก้าไม่เคยบอกใครว่าเข้าเกี่ยวพันกับองค์กรนี้ได้อย่างไร เวก้าได้รับภารกิจให้ตามรอย แคมมี่ (Cammy) และคอยรายงานกลับมาที่ฐานเสมอๆว่า แคมมี่มีความเคลื่อไหวอย่างไรบ้าง และเมื่อเวก้า ได้พบกับแคมมี่ ทำให้เขารู้ว่าแคมมีนั้นถูกล้างสมอง แคมมี่ก็ปฏิเสธที่จะสู้กับเวก้า แต่สุดท้ายเวก้าก็ยอมแพ้ให้กับแคมมี่ไป และเวก้าได้เตือนแคมมี่ไว้ว่าเธอจะถูกฆ่าในไม่ช้า ซึ่งแคมมี่ก็ได้วิ่งหนีไปด้วยจิตใจที่สับสน
เวก้ากลับมาที่ฐาน แล้วเริ่มสงสัยในตัวเองว่าเหตุใดเขาถึงแคร์แคมมี่ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเหตุผลหลายๆอย่างเช่น ชื่นชอบในความสวยงามของหน้าตาแคมมี่ หรือตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วแคมมี่คือมนุษย์ไม่ใช่ตุ๊กตา ดังนั้นเวก้าจึงเข้าไปเคลียร์กับไบซันว่าเหตุใดจึงสนใจในเด็กคนนี้นัก รวมถึงเจตนาของไบซันเองด้วย ในที่สุด เวก้าจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วแคมมี่คือร่างโคลนของไบซันและจะต้องตายในไม่ช้า เนื่องจากไบซันจะย้ายร่างไปอยู่ในตัวแคมมี่ เวก้าได้ให้เหตุผลว่าแคมมี่ไม่ควรจะต้องตายแถมยังซื่อสัตย์ต่อ Shadaloo เป็นอย่างยิ่งด้วย แต่ไบซันก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างไร ซึ่งสุดท้าย ศูนย์บัญชาการของ Shadaloo ก็ถูกทำลายไป (ดังที่เคยพูดถึงในเนื้อเรื่องของชุนลี) เวก้าพบว่าแคมมี่ถูกขังอยู่ในห้อง Psycho Drive และเขาก็ได้ช่วยเธออกมาจากฐานทัพแล้วส่งเธอไปอยู่ ลอนดอน ปล่อยเธอไว้กับหน่วย Delta Red โดยหวังว่าเธอจะมีชีวิตใหม่กับที่นี่





หลังจากการล่มสลายไปของ Shadaloo เวก้าก็กลับมามีชีวิตตามปรกติคือ ฆ่าพวกคนหน้าตาน่าเกลียดในตอนกลางคืน แลก็เป็นผู้สูงศักิ์ในตอนกลางวัน โดยเหตุผลที่ว่าโลกนี้จะได้มีแต่คนหน้าตาดีสืบต่อไป (โรคจิตมั้ยนิ ^^)
ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:27 มกราคม ปี 1967
สัญชาติ: สเปน
สูง: 186cm
น้ำหนักตัว: 72kg
กรุ๊ปเลือด:O
ชื่นชอบ: ความสวยงาม, ตัวเอง
ไม่ชอบ: ความน่าเกลียด,ความอาฆาตหลังจากการพ่ายแพ้
สไตล์การต่อสู้: นินจิซึประยุกต์


Sagat
สกัตได้รับการขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งมวยไทย" และเป็นฮีโร่ของคนไทยซึ่งสกัตชนะเลิศมวยไทยตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ในวัยเด็กเขาถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรง วันหนึ่งในวัยเด็กสกัตได้รับอุบัติเหตุจากการต่อสู้ทำให้ตาของเขาบอดไปส่วนหนึ่ง ซึ่งเหตุนี้ทำให้เขาถูกล้อเลียนไปทั้งโรงเรียนด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงขับที่ทำให้สกัตกลายเป็นยอดฝีมือในเชิงมวยไทยในเวลาต่อมา





ส่วนสาเหตุที่เขาต้องใส่ผ้าปิดตาไปนั้น ก็เพราะจากการต่อสู้กับ Go Hibiki (พ่อของ Dan Hibiki)ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตาของเขาบอดสนิท และความเจ็บปวดจากการที่เสียตาไป สกัตจึงฆ่า Go Hibiki โดยความโกรธแค้น และที่สกัตใส่ผ้าปิดตาไว้ ก็เพราะเพื่อเตือนถึงความอับอายในครั้งนี้นั้นเอง


ที่นอนอยู่คือ โก ฮิบิกิ และรูปขวาคือรูปสมัยสกัตยังหนุ่มๆ สังเกตที่ดวงตา

ส่วนบาดแผลที่หน้าอกนั้นก็มาจากฝีมือริวนั้นเอง เหตุจากในศึก Street Fighter tournament ครั้งที่ 1 ที่สกัตได้วัดฝีมือกับริวในแมทช์สุดท้าย และสกัตก็เอาชนะไปได้ ขณะที่ยืนมือเข้าไปช่วยริว ที่นอนหมอบอยู่กับพื้น ด้วยจิตสังหาร (Satsu-no-Hadou)ทำให้ริวโจมตีสกัตด้วยท่า โชริวเคน ทำให้เกิดเป็นแผลไหม้ขนาดใหญ่ที่หน้าอกซึ่งสร้างความแค้นให้สกัตในเวลาต่อมา





หลังจากการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้สกัตเข้าร่วมองค์กร Shadaloo และละทิ้งลูกศิษย์ของเขาไปเข้าร่วมองค์กร และหนึ่งในศิษย์ของสกัตก็คือ Adon นั้นเอง และเมื่อสกัตได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้สกัตพ่ายแพ้ต่อริวในครั้งนั้นไม่ใช่เพราะเขาแพ้เเองแต่แพ้เพราะจิตสังหาร (Satsu-no-Hadou) ทำให้สกัตตัดสินที่จะรีแมทช์กับริว เพื่อค้นหาใครกันแน่ที่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่แท้จริง
***สกัต ตั้งชื่อมาจากนักมวยไทยที่มีตัวตนจริงๆ คือ สกัด เพชรยินดี ซึ่งมีดีกรีระดับแชมป์ แต่ระยะหลังตกอับ และตกเป็นผู้ต้องหา คดีเป็นธุระจัดหาค้าประเวณี และคดีค้ายาเสพติด





ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:2 กรกฏาคม ปี 1955
สัญชาติ: ไทย
สูง: 226cm
น้ำหนักตัว: 109kg
กรุ๊ปเลือด:B
ชื่นชอบ: คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ไม่ชอบ: คนอ่อนแอ
สไตล์การต่อสู้: มวยไทย


M. Bison
บอสใหญ่ขององค์กร Shadaloo เมื่อวัยเด็กความฝันในวัยนั้นคือ เขาอยากจะเป็นนักสู้ที่เก่งกาจ โดยคนที่เขาฝึกฝนพร้อมกับเพื่อนนักเรียนอีก 2 คนด้วยนั้น รู้เพียงแค่ว่าอาจารย์เป็นผู้ใช้พลัง Psycho Power กการฝึกฝนพลัง Psycho Power นั้นอันตรายเกินไปสำหรับ ไบซัน ทำให้จิตใจเขาถูกรบกวนและในที่สุดเกิดคลั่งขึ้นมาทำให้ไปซันสังหารอาจารย์ของตนเองแต่ไม่แน่ใจว่าได้สังหารเพื่อนร่วมอาจารย์ 2 คนนั้นด้วยหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าสุดท้าย 2 คนนั้นจะโดยฆ่าไป หลังจากสังหารอาจารย์ไป ไบซัน ตั้งเป้าที่จะปกครองโลก(บ้าไปแล้วนิ^^) จึงก่อตั้งองค์กร Shadaloo ขึ้นมา โดยหลักๆก็คือขายยาเสพติด ซึ่งเหตุนี้ทำให้ พ่อชองชุนลีที่เข้ามาสืบเรื่องนี้โดยเก็บไป





Psycho Power เป็นพลังที่ขึ้นอยู่กับด้านมืดของผู้ใช้ ดังนั้นเพื่อจะได้ดึงพลังออกมาเต็มที่ ไบซัน จึงจะต้องละทิ้งด้านดีๆในจิตใจออกไป Psycho Power นั้นจะเก็บอยู่ใน Psycho Drive ซึ่งมื่อใดที่ ไบซัน ต้องการพลังก็สามารถมาเติมพลังกับเจ้านี้ได้ และในด้านจิตใจดีที่ไบซันได้ละทิ้งไปนั้น จึงกลายมาเป็น Rose และ ไบซัน ได้ฝึกฝนเธออยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง จนสุดท้ายเธอก็ได้หนีไปเพราะไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสิ่งชั่วร้าย ซึ่งสิ่งชั่วร้ายที่พูดถึงตะกี้ก็คือการลักภาพเด็กสาวจำนวน 12 คน มาล้างสมองแล้วตั้งเป็นกองทัพขึ้นมาที่ชื่อว่า The Dolls
เนื่องจาก Shadaloo ตกเป็นผู้ต้องสงสัยของ Interpol ตำรวจสากล ซึ่งชุนลีที่ต้องการจะแก้แค้นให้พ่อของเธอได้เดินเรื่องเป็นหัวหมู่ในการตรวจสอบองค์กรนี้ด้วยตัวเอง แล้วในตอนสุด้ทาย ชุนลีก็ได้เจอกับ ไบซัน และเธอก็เอาชนะ ไบซันได้ แต่ ไบซันได้บินหนีไป ก่อนไป ไบซันยังทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า เขาน่าจะฆ่าเธอให้เหมือนที่ฆ่าพ่อของเธอ และต่อมา โรส ก็กลับมา แล้วก็เอาชนะ ไบซัน ไปได้อีก เมื่อเธอจากไป เธอคิดว่าเธอได้ฆ่า ไบซันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ความจริงเขายังไม่ตาย





เมื่อร่างกายของ ไบซัน ไม่สามารถทนท้านพลัง Psycho Power ได้อีกต่อไป เขาได้ให้นักวิทยาศาสตร์ขององค์กรได้สร้างร่างโคลนขึ้นมาซึ่งร่างโคลนนี้ก็คือ แคมมี่ ไบซัน ตั้งใจจะถ่ายวิญญาณของเขาไปสู่ร่าง แคมมี่ แต่แคมมี่ได้รู้สึกฟื้นตัวจากการล้างสมอง แผนการนี้จึงไม่สำเร็จ ดังนั้น ไบซัน จึงต้องการร่างใหม่ ซึ่งที่ ไบซัน เล็งๆไว้ก็คือร่างของริวนั้นเอง ขณะที่ริวกำลังถูกล้างสมองนั้น ซากุระ เคน และ สกัต ก็ได้เข้ามาช่วย โดย ซากุระและ เคน รับหน้าเสื่อจัดการกับ ไบซัน ส่วน สกัต ก็เข้าไปช่วย ริว ออกมา แต่ก็ต้องมาต่อสู้กันเพราะริวถูกล้างสมองไปแล้ว ต่อมา ริวก็กลับมาจำความได้ ริวจึงหันกลับมาลุยกับ ไบซัน ด้วย (ซวยจริงๆ^^) ขณะเดียวกันนั้นเอง แคมมี่ที่ความทรงจำกลับมาแล้วได้นำทัพ The Dolls กลับมาลุยกับ ไบซัน เช่นกัน ซึ่งในขณะที่ ไบซัน กำลังโดนรุมกินโต๊ะอยู่นั้น ชาร์ลี กิลด์ และ ชุนลีก้ได้นำเครื่องบินมาบอมฐานทัพ Shadaloo แต่...วิญญาณของ ไบซัน ยังหลุดรอดไปได้ จึงย้ายไปอาศัยอยู่ในตัว โรส ชั่วคราว





และท้ายสุดนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างร่างกายใหม่ขึ้นมาให้ ไบซัน ได้ แต่โชคร้ายที่มันห่วยกว่าร่างดั่งเดิม ทำให้ ไบซัน จึงต้องจำยอมย้ายกลับร่างใหม่นี้ และเขาก็ได้จัด Street Fighter tournament ครั้งที่ 2 ขึ้นมา เพื่อเชิญชวนศัตรูของเขาทุกคนให้มาเข้าร่วมเพือที่ ไบซัน จะได้จัดการเชือดรายตัวได้ง่ายๆ ซึ่งในศึกครั้งสุดท้าย อาคุม่า นักสู้ลึกลับที่ ไบซัน ไม่ได้เชิญ ได้เข้ามาจัดการไบซันด้วยท่า "อเวจีสังหาร" (Shun Goku Satsu) ซึ่งทาไม้ตายนี้ ส่งผลให้วิญญาณของ ไบซัน สูญสิ้นไปและไม่สามารถไปหาร่างอื่นได้อีกแล้ว


ท่าโหด แมงสาบถึงกับสลาย ^^


ข้อมูลอื่นๆ
วันเกิด:ไม่ปรากฏ
สัญชาติ: ไม่ปรากฏ
สูง: 182cm
น้ำหนักตัว: 96kg
กรุ๊ปเลือด:A
ชื่นชอบ: ปกครองโลก
ไม่ชอบ: คนใต้ปกครองที่ไร้ประโยชน์
สไตล์การต่อสู้: Psycho Power

ผมอยากมีอะไรกับชุนหลี

----------------------------------------------------------------------------------


มาว่าเรื่องของเกมกันบ้าง ซึ่งเกมนี้นั้น มีประวัติความเป็นมามากว่า 20 ปี แล้ว เกมนี้เรียกได้เป็นต้นแบบเกมแนวไฟต์ติ้ง 2 D ที่ออกตามกันมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น King Of Fighter , Art of Fighting, Fatal Fury หรือแม้กระทั่ง Guity Gear

Street Fighter (1987)

จุดเริ่มต้นของ ถนนแห่งนักสู้ Street Fighter เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อปี 1987 ซึ่งสร้างความแปลกใหม่ นับว่าเป็นกมแนวไฟต์ติ้ง ตัวแรกๆของยุคที่เปิดตัวออกมา จำได้ว่าเคยมีเข้ามาในประเทศไทยด้วย ระบบการเล่นใน Street Fighter เป็นจุดเริ่มต้นของการบังคับในภาคนี้เลย ซึ่งระบบที่เกม SF เปิดตัวมา จะมี 6 ปุ่ม แบ่งเป็นปุ่มต่อย 3 ปุ่ม ต่อย เบา กลาง หนัก และปุ่มเตะ 3 ปุ่ม เบา กลาง หนัก และตัวละครในภาคนี้ เราต้องบังคับเป็น ริว (RYU) พระเอกของซีรีย์ ภาคนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกของท่าไม้ตายประจำซีรีย์ อย่าง ฮาโดเคน( Hadouken) โชริวเคน ( Shoryuken) และ เทตซึมากิ เซ็นปู เคียกกุ (Tatsumaki Senpuu Kyaku) หรือที่คนไทยเรียกว่า ลูกเตะพายุหมุน ด้วย (ขำๆว่า สะเบ็ดเจ็ดปู้เค๊ด)

เนื้อเรื่องของ SF ภาคแรก คือ ริว เป็นหนุ่มนักสู้ ที่ต้องการฝึกปรือฝีมือ โดยออกเดินทางทั่วโลกเพื่อพิชิตคู่ต่อสู้เก่งๆทั่วโลก ใน SF ภาคแรก จะแบ่งประเทศที่ ริว ต้องเดินทางไปรอบโลกได้แก่ 5 ประเทศ คือ ประเทศจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา และ ประเทศไทย ซึ่งแต่ละประเทศจะมีคู่ต่อสู้ 2 คน แต่ละประเทศมีคู่ต่อสู้ที่ ริว จะต้องเผชิญหน้ามีดังนี้





1. ประเทศ ญี่ปุ่น - Retsu , Geki
2. ประเทศจีน - Gen, Lee
3. ประเทศอังกฤษ -Birdie, Eagle
4. ประเทศ อเมริกา - Mike, Joe
5. ประเทศไทย Adon, Sagat ** ส่วน Ken นั้นจะมาให้เลือกก็ต่อเมื่อเราเล่นแบบต่อสู้กันเอง โดย Ken ไม่สามารถนำมาเล่นเป็นเนื้อเรื่องเหมือน Ryu ได้

ใน SF หลังจากนี้ ศัตรูหลายๆตัวยังคงมีบทบาทในภาคหลังๆออกมา เช่น Gen, Adon, Birdie ฯลฯ แต่บางตัวก็หายไปเลย เช่น Retsu และ Joe และบอสใหญ่ในภาคนี้ได้แก่ Sagat ซึ่ง Ryu ได้ฝากรอยแผลเป็นไว้ที่หน้าอกของเขา และ Sagat ก็กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตนับแต่นั้นมา

**หมายเหตุ เกมนี้ ได้ลงบนเครื่อง TurboGrafx-16 ใช้ชื่อว่า Fighting Street

Street Fighter II (1991)

ภาคต่อจาก Street Fighter ที่ได้ผู้สร้างคนเดิมอย่างคู่หู อากิระ นิชิตานิ (Akira Nishitani) และ อากิระ ยาซูดะ (Akira Yasuda) มาสร้างภาคต่อให้ ซึ่งภาคนี้ดังเป็นพลุแตกจริงๆ ถ้าคอเกมตู้สมัย 10 ปีแล้วไม่รู้จักเกมนี้ถือว่าเชยระเบิดจริงๆ ซึ่งห้างไหนไม่มีเกมตู้เกมนี้ถือ... (เติมเอาเอง) ระบบการต่อสู้ยังคงเดิม และมีการเพิ่ม การทำ Combo ด้วย ในภาคนี้มีสามารถเลือกตัวละครได้ทั้งหมด 8 ตัว และแต่ละตัวก็มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง นอกจาก ริว และ เคน ที่กลับมามีบทบาทเหมือนเดิมแล้ว ในภาคนี้ CAPCOM ได้ให้กำเนิดตัวละครตัวใหม่เพิ่มมาอีก 6 ตัว นับรวมทั้ง ริว และ เคน ด้วยก็เป็น 8 ตัวที่เราเลือกเล่นได้ และบวกด้วย บอส อีก 4 ตัว ส่วนตัวละครแต่ละตัวก็มาจากประเทศต่างๆทั่วโลกเช่นเดิม

รายชื่อตัวละครในถาค SF II ที่สามารถเลือกเล่นได้ มี





ริว - Ryu
เคน - Ken
ชุนลี Chun Li
บลังก้า - Blanka
กิลด์ - Guild
ซานกีฟ - Zangief
ดัลซิม - Dhalsim
อี.ฮอนดะ E. Honda (ตัว อี ย่อมาจาก Edomondo )

บอส 4 ตัว
บัลร๊อก Balrog(ชื่อในภาคญี่ปุ่นเรียกว่า เอ็ม ไบซัน)
เวก้า - Vega (ชื่อในภาคญี่ปุ่นเรียกว่า บัลร๊อก)
ซากัท - Sagat
เอ็ม ไบซัน - M. Bison (ชื่อในภาคญี่ปุ่นเรียกว่า เวก้า)

และต่อมาทาง CAPCOM ก็ได้ออกเวอร์ชั่นอัพเดตตามหลังต่อมามาย นับเฉพาะที่ลงอาเคต มีดังนี้

Street Fighter II: Champion Edition





- บอสทั้ง 4 ตัวสามารถเลือกนำมาเล่นได้
- สามารถเลือกตัวละครซ้ำกันได้
- มีการปรับเปลี่ยนสีสันต์ของฉากหลัง แต่ยังสภาพแวดล้อมเดิมๆ
- ปรับสมดุลของนักสู้แต่ละตัวดีขึ่น

Street Fighter II: Hyper Fighting
- เกมเพลย์ที่ปรับให้เร็วขึ้นมาก
- ตัวละครหลายตัวสามารถใช้ท่ากลางอากาศได้ อย่างท่า ลูกเตะพายุหมุน ของ ริว หรือท่า สปินนิ่ง คิ๊ก ของ ชุนลี
- สีเครื่องต่างกาย หรือ สีผิว ของตัวละครหลากหลายขึ้น

Super Street Fighter II: The New Challengers





ภาคนี้ CAPCOM มีการปรับเปลี่ยนมากมาย ทั้งการปรับเปลี่ยนฉากใหม่ ๆ หน้าตาตัวละครช่วงเลือกตัวก็เปลี่ยนไป รวมถึงเอ็นจิ้นตัวใหม่ที่ใช้พัฒนา ก็เปลี่ยนไปใช้ CPS-2 เอ็นจิ้นของ CAPCOM ที่พัฒนาสำหรับเกมอาร์เคตโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มตัวละครใหม่มาด้วย

- มีการเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาอีก 4 ตัวได้แก่
Fei Long เฟย์ ลอง
Dee Jay ดี เจย์
T.Hawk ที. ฮอร์ก ** ตัวที ย่อมาจาก Thunder
Cammy แคมมี่
- บอส ทั้งสี่ตัว มีการอัพเกรดท่าต่างๆของแต่ละตัว
- บอสทั้งสี่ตัวมีฉากจบเฉพาะของตัวเอง
- แต่ละตัวละครเปลี่ยนสีเสื้อหรือสีผว ได้ถึง 8 สี
- ตัวละครทั้ง 8 ตัวดั่งเดิม บางตัว ฉากได้มีการปรับเปลี่ยนสีสันต์ของฉาก และดนตรีประกอบ
- มีคะแนนสำหรับ first attack, combos และ reversals.
- ความเร็วของภาค Street Fighter II: Hyper Fighting ถูกตัดออกไป

Super Street Fighter II Turbo( หรือในภาคญี่ปุ่นว่า Super Street Fighter II X: Grand Master Challenge)
- มีเกจ SUPER ซึ่งถ้าเกจนี้เต็ม เราสามารถใช้ท่าไม้ตายสุดยอดที่มีความรุนแรงในแต่ละตัวได้ (เป็นครั้งแรกที่มีเกจ ท่าไม้ตายสุดยอดในซีรีย์ SF)
- มีการปรับความเร็วเพิ่มจาก Super SF2 ให้ใกล้เคียงกับระดับของ Hyper Fighting
- อบิลีตี้ Tech ซึ่งอบิลิตี้นี้สามารถลดความรุนแรงของท่าทุ่มได้
- มีตัวละครลับ ซึ่งก็คือ อคูม่า ( Akuma )หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โกคิ (Gouki)
- ไม่มี โบนัส สเตท
- เวลาตัวละครที่ใช้ท่ากลางอากาศ อย่าง โชริวเคน หรือ ซัมเมอร์ซอลท์ คิ๊ก ไม่เป็นอมตะตลอดเวลา ประมาณว่าอาจมีการปะทะด้วยกันทั้งคู่ได้ ซึ่งภาคเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น โชริวเคน หรือ ซัมเมอร์ซอลท์ คิ๊ก เวลาโจมตีแล้ว ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะกระโดดสวนขึ้นไปยังไงก็ โดนโจมตีอยู่ดี

Street Fighter Alpha : Warrior's Dreams หรือภาคญี่ปุ่นเรียกว่า Street Fighter Zero (1995)

เนื้อเรื่องในภาคนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจาก Street Fighter ภาคแรก และเกิดก่อนเหตุการณ์ Street Fighter II ดังนั้นตัวละครในภาคนี้จึ้งดูหนุ่มและดูเด็กขึ้น นอกจากการดีไซด์ของตัวละครยังเป็นแบบตูนเฉดด้วย และในภาคนี้เองก็ได้มีตัวละครจากซีรีย์อื่นๆของ CAPCOM มารวมแจมในภาคนี้ด้วย อาทิ เช่น Guy จาก ซีรีย์ Final Fight เกมเดินตะลุยแนว 2 D ที่ขึ้นชื่อของ CAPCOM นอกจากนี้ ยีงมีตัวละครเก่าๆ จาก Street Fighter ภาคแรก กลับมาด้วย เช่น Gen, Birdie และ Adon ส่วนเพิ่มเติมก็มี Dan ตัวละครที่ Capcom ตั้งใจสร้างมาเพื่อล้อเลียน Ryo และ Robert 2 พระเอกจากเกมไฟต์ติ้ง Art of Fighting ของ SNK คู่แข่งของ Capcom นั้นเอง





ส่วนระบบการเล่นนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนไปอีกเช่นกัน มีระบบ Counter Zero ที่เพิ่มขึ้นมา โดยระบบนี้ทำให้เราสามารถเค้าท์เตอร์การโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ แต่เราต้องเสียเกจซูเปอร์คอมโบไป หนึ่งเกจ นอกจากนี้ยังมีระบบ Chain Combo ที่เราสามารถกดปุ่มโจมตีเรียงต่อๆกัน จะเป็นการทำคอมโบต่อเนื่องได้ เช่น กดต่อย เบา ต่อย กลาง ต่อยหนัก ต่อเนื่อง จะได้ 3 Hit Combos เป็นต้น และระบบเกจซูปเปอร์คอมโบจะเป็น 3 เกจ

Street Fighter Alpha 2 (1996)

ภาคนี้ Capcom ขนตัวละครจากภาคที่แล้วกลับมาครบครัน และก็เพิ่มตัวละครดังๆ จาก Street Fighter II เข้าไปอีกด้วยเช่น Zangief และ Dhalsim นอกจากตัวละครเก่าๆจากซีรีย์ SF II ยังมีตัวละครจาก Final Fight เพิ่มมาด้วยอีกเช่นกัน คือ Rolento และยังเปิดการเปิดตัวละครใหม่ๆที่ไม่เคยเปิดตัวในซีรีย์ไหนของ Capcom มาก่อนด้วย คือ Sakura แฟนพันธุ์แท้ของ ริว นอกจากนี้ ยังการปรากฏตัวของริวร่างมารด้วย ( Evil Ryu )





ระบบการเล่นก็ยังต่อเนื่องมาจากภาคที่แล้ว และ Counter Zero ก็สามารถกดได้ทั้ง เตะ หรือ ต่อย ซึ่งภาคที่แล้วตัวละครจะ เตะ หรือ ต่อย ใน CZ ได้แบบเดียว ส่วนระบบ Chain Combo บางตัวไม่สามารถทำได้แล้ว แต่บางตัวก็กดยากขึ้นมาก แต่ CAPCOM ได้ใส่ระบบช่วยการทำคอมโบคือ Custom Combo ขึ้นมา
ต่อมาในการพอร์ตลงเครื่องคอนโซลแพลต์ฟอร์มตางๆ CAPCOM ได้ใส่ตัวละครเพิ่มมาอีก คือ Cammy
Street Fighter Alpha 3 (1998)
ภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจากภาค Alpha 2 เช่นเดียวกันกับระบบการต่อสู้ที่ Capcom เพิ่มเติมมาอีกแล้ว ซึ่งระบบใน ภาคนี้จะแบ่งสไตล์การต่อสู้เป็น 3 แบบ คือ ระบบ Z-Ism ระบบ V Ism และ ระบบ X Ism ซึ่งทั้ง 3 ระบบมีความแตกต่างกัน โดย

Z-Ism จะสามารถใช้ Counter Zero ระบบจะเหมือนกับซีรีย์ SF Alpha ทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมา
V Ism ก็คือการทำ Custom Combo ระบบที่เพิ่มขึ้นมาใน SF Alpha 2 แต่ในขณะที่ใช้ CC สามารถเดินหน้า ถอยหลัง ได้ตามปรกติ ซึ่งภาค Alpha 2 เมื่อเรากดใช้ CC เราไม่สามารถถอยหลังได้ และเกจ CC เมื่อ เราสะสมได้เพียง 50% ก็สามารถใช้ได้เลย
X Ism เป็นระบบที่อิงมาจาก Super Street Fighter II มีเกจคอมโบเพียงเกจเดียว ไม่สามารถป้องกันกลางอากาศได้ แต่มีขอดีตรงที่โจมตีได้รุนแรงกว่า 2 ระบบที่ผ่านมา และตัวละครเมื่อเลือกต่อสู้สไตล์นี้ สไตล์การต่อสู้จะย้อนกลับไปเหมือนภาค Super Street Fighter II เช่น ลูกพลังฮาโดเคนจะเปลี่ยนไป เครื่องแต่งกายของชุน ลีจะกลับไปเหมือนชุดเดิมในภาคนั้น และยังสามารถกดใช้ท่า สปินนิ่ง คิ๊ก ได้ด้วย ฯลฯ

นอกจากนี้ Capcom ยังเพิ่มเกจ ของการ์ดมาด้วย ซึ่งระบบนี้ Capcom ทำไว้เพื่อกันไฟต์เตอร์ที่ชอบเน้นรับอย่างเดียว เพราะเกจนี้ เมื่อตัวละครป้องกันการต่อสู้บ่อยๆ การ์ดจะแตกได้ แต่เกจนี้สมามารถคืนสภาพได้ เมื่อตัวละครเว้นระยะจากการป้องกัน หรือขณะรุกใส่คู่ต่อสู้อยู่






ส่วนตัวละครนั้น ภาคนี้ Capcom ขนตัวละครที่แฟนๆชื่นชอบจาก SF II กลับมาครบครัน ไม่ว่าจะเป็น E. Honda, Blanka, Cammy และ Balrog ถ้าในเวอร์ชั่น อาร์เคตจะมีทั้งหมด 25 ตัว ซึ่งตัวละครใหม่ๆที่เพิ่มขึ้นมา คือ Cody จาก ซีรีย์ Final Fight นักมวยปล้ำหญิง Rainbow Mika คู่ปรับของ ซากุระ อย่าง Karin Kanzuki และ 2 ทหารหญิงจากองค์กร ชาโดว์ ลู Juli และ Juniในเวอร์ชั่นคอนโซล Capcom ก็เพิ่มตัวละครอย่าง Dee Jay, Fai Long, T.Hawk, Guile ฯลฯ สรุป รวมทุกเวอร์ชั่นที่ลงคอนโซล SF Alpha 3 มีนักสู้ถึง 36 คนเลยที่เดียว - -a

Street Fighter III (1997)

Capcom ได้ลงมือสร้างภาคนี้ก่อน Street Fighter Alpha 3 (1998) เพื่อฉีกแนวจากซีรีย์ SF Alpha โดยใช้เอ็นจิ้นตัวใหม่ CPS-3 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับเอ็นจิ้นที่สร้างเกมไฟต์ติ้ง โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ (JoJo's Bizarre Adventure และ Red Earth ซึ่งกราฟฟิกในภาคนี้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากตูนเฉดแบบซีรีย์ Alpha เป็นแบบสมจริงสมจังมากขึ้น ซึ่งในซีรีย์หลัก SF III นี้ก็มีภาคที่ต่อเนื่องตามมาอีก เหมือนกับ ซีรีย์ SF II และ Alpha

Street Fighter III: New Generation (1997) Street Fighter III 2nd Impact (1997) Street Fighter III 3rd Impact (1999)

ในภาคนี้ Capcom ตัดสินใจนำตัวละครหลักในซีรีย์นี้กลับมาแค่ 2 คน เท่านั้น คือ RYU และ KEN นอกนั้นใช้ตัวละครใหม่ๆทั้งหมด ไม่มีการนำตัวละครจากเกมอื่นๆของ Capcom มาใช้เลย และมีมาให้เกมเมอร์ได้เล่นแค่ 10 ตัวเท่านั้น

และแน่นอนว่าขึ้นภาคใหม่ Capcom ก็ต้องใส่ ระบบใหม่ๆเข้ามาอีกด้วย ซึ่งระบบภาคนี้คือ ระบบ Parry Block ระบบนี้จะเป็นเหมือนระบบการ์ดที่เราสามารถ โจมตีต่อสู้กลับคืนได้เลย แต่ระบบค่อนข้างจะยากสำหรับเกมเมอร์คอไฟต์ติ้งทั่วไปอยู่มาก เนื่องจากเราต้องกะจังหวะการโจมตีให้ดี ถึงจะใช้ Parry Block ได้ถูกจังหวะ คือ ในช่วงเวลาที่คู่ต่อสู้โจมตีเข้ามา เราต้องกะจังหวะกดเดินหน้า หรือกดลง ให้พอดีกับจังหวะที่โจมตีเข้ามา เราก็สามารถ Parry Block ได้พอดี แต่ถ้าพลาด เราก็รับการโจมตีไปเต็มๆ
ระบบนี้เรียกว่าเป็นระบบที่สามารถพลิกโอกาสได้เพียงเสียววินาทีจริงๆ จากจะแพ้กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้โดยง่าย และข้อดีอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบไหน ทั้งท่าโจมตีแบบธรรมดา เตะ ต่อย ฯลฯ หรือ ท่าพิเศษอย่าง ฮาโดเคน หรือ ท่าไม้ตายสุดยอด ถ้าเรา Parry Block ได้ พลังก็จะไม่ลด แตกต่างจากการการ์ดแบบธรรมดา เพราะถ้ากันพวกท่าพิเศษหรือท่าไม้ตายสุดยอด พลังกายก็จะลดไปตามฮิตของการโจมตีที่ป้องกัน

เนื่องจากไม่ว่าตัวละครใดๆก็สามารถ Parry Block ได้ ทำให้ความสามารถต่างๆของตัวละครไม่เหลื่อมล้ำกันมาก เกมเมอร์ที่ฝีมือดี Parry Block คล่องสามารถใช้ตัวละครที่ใช้ยากๆจัดการพวกตัวละครที่มีความสมดุลสูง อย่าง Ryu และ Ken ได้ง่ายดายมาก เรียกว่าใน Street Fighter III วัดกันที่ฝีมือการ Parry Block ล้วนๆเลย

และอีกระบบที่เพิ่มขึ้นมาคือ EX special เป็นระบบที่ เหมือนกับซีรีย์ Darkstalkers อีกหนึ่งเกมตระกูลไฟต์ติ้งจาก Capcom คือการโจมตีที่รุนแรงขึ้น แต่ไม่แรงถึงระดับ ท่าไม้ตายสุดยอด เช่น ถ้า ริว ปล่อย ฮาโดเคน ออกมา แบบธรรมดาจะโดนแค่ 1 ที แต่ถ้าเป็น EX special ฮาโดเคนจะออกมาทีล่ะ 2-3 ลูกติดๆกัน แต่ในการใช้ท่า EX special จะลดเกจของท่าไม้ตายสุดยอด ลงไปด้วย

พูดถึงท่าไม้ตายสุดยอดนั้น ในภาคนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนไปนิดหน่อย คือ จะมีท่าไม้ตายสุดยอดของแต่ละตัวละครอยู่ 3 ท่า ซึ่งเราจะเลือกใช้ได้เพียงท่าเดียวเท่านั้น และเกจของท่าไม้ตายสุดยอด ก็ไม่กำหนดตายตัว บางท่าไม้ตาย อาจเก็บได้ 3 เกจ บางท่าก็แค่ 1 เกจ เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบเกจวัดความมึนด้วย ซึ่งเกจนี้จะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเราถูกโจมตี และเมื่อเราถูกโจมตี จนเกจนี้เต็ม เราก็จะมึนได้ทันที ดังนั้นต้องระมัดระวังในการเข้าแลกกับคู่ต่อสู้พอสมควร

และในปีเดียวนั้นเอง หลังจากออก Street Fighter III: New Generation ออกมาชิมลางไปก่อนแล้ว Capcom ก็ตัดสินใจเข็น Street Fighter III :2nd Impact ตามออกมาติดๆ และอีกปี 2 ต่อมา ก็ตามด้วย Street Fighter III :3rd Impact ซึ่งในการเข็นภาคเสริมออกมาอีก 2 ภาคนั้น Capcom ไม่ได้ มีการอัพเกรดระบบเพิ่มมาด้วย แค่มีการเพิ่มตัวละครมาใหม่ๆอีกเท่านั้นเอง ในภาค 3rd Impact นอกจากตัวละครที่เพิ่มเติมขึ้นมาอีกมากมายแล้ว ดนตรีประกอบในภาคนี้ก็ได้รับการกล่าวถึงมากมายเช่นกัน เพราะในภาคนี้ดนตรีประกอบมีมากมายหลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็น Jungle, Hip-Hop และ Drum and Bass
แต่ถึงกระนั้นก็ตามกระแสของ Street Fighter III ทั้ง 3 ภาคก็เริ่มจะแผ่วๆลงไปแล้ว ไม่ฮิตเปรี้ยงปร้างต่อเนื่อง เหมือนช่วง SF II ต่อด้วยซีรีย์ Alpha ซึ่งเหตุผลหลายๆเหตุผลที่คาดการณ์กันว่าทำไม่ ซีรีย์นี้ไม่ฮิต ประกอบด้วย

1. เปิดตัวในช่วงกระแสเกมตู้อาเคตเริ่มอยู่ในช่วงขาลง
2. เกมไฟต์ติ้งแนวใหม่ๆอย่าง 3D เช่น Tekken มีความแปลกใหม่ในตลาด ฮิตมากมายในช่วงนั้น
3. ไม่มีความแปลกใหม่
4. ซีรีย์นี้เริ่มเสื่อมความนิยมลง หลังจากถึงจุดพีกสุดในช่วง SF II และซีรีย์ Alpha

หลังจากจบจากภาคนี้ไป Capcom ก็ผลักดันให้เฟรนไชส์ Street Fighter เปลี่ยนแนวจาก 2 D ไปเป็น 3 D ตามสมัยนิยม ในชื่อว่า Street Fighter EX แต่ก็ไม่ได้สร้างความฮือฮาเลย แทบจะเป็นการขุดหลุมฝังซีรีย์ให้ตายเร็วขึ้นไปอีก ซึ่งเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ ซีรีย์ SF คือการต่อสู้แบบ 2D ไม่ใช่แบบ 3D และยิ่ง Capcom ไปทำแบบนั้นก็แทบเหมือนทำลายจิตวิญญาณของเกมนี้เลยทีเดียว

ตัวละครใหม่ๆในภาค New Generation



ภาค Street Fighter III : 2nd Impact



ภาค Street Fighter III : 3rd Impact



Street Fighter IV (2008)
ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีย์นี้ หลังจากเว้นวรรค ห่างหายไปนาน เกือบๆ10 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เหมือนเป็นการสวนกระแสกลับมาเป็น 2D อีกครั้ง หลังจากเสียผู้เสียคนไปกับ Street Fighter EX ในการกลับมาครั้งนี้ นอกจากสไตล์เกมเพลย์ที่เหมือนเดิม ยังได้เพิ่มลูกเล่นขึ้นมาอีก โดยระหว่างการต่อสู้ เกม จะปรับกราฟฟิกให้เป็น 2.5 D และระบบการต่อสู้ใหม่ๆขึ้นมาที่เรียกว่า Revenge

ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมามากจากสมัยก่อน ทำให้ภาพที่ปรากฏให้ดู ดูอลังการ ตระการตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพการปล่อย ฮาโดเคน ของ ริว หรือ โชริวเคน ของ เคน และยิ่งภาพเปิดตัวที่เปิดมาในตอนแรกสุดก็สร้างความฮือฮามากมาย แต่ก็ไม่วายมีข้อสงสัยว่าเกมจะไปได้สวยหรือไม่ เนื่องจากภาคล่าสุดอย่าง Street Fighter EX ก็แป้กมาแล้ว


[img:dl2

Street Fighter IV (2008)
ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีย์นี้ หลังจากเว้นวรรค ห่างหายไปนาน เกือบๆ10 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เหมือนเป็นการสวนกระแสกลับมาเป็น 2D อีกครั้ง หลังจากเสียผู้เสียคนไปกับ Street Fighter EX ในการกลับมาครั้งนี้ นอกจากสไตล์เกมเพลย์ที่เหมือนเดิม ยังได้เพิ่มลูกเล่นขึ้นมาอีก โดยระหว่างการต่อสู้ เกม จะปรับกราฟฟิกให้เป็น 2.5 D และระบบการต่อสู้ใหม่ๆขึ้นมาที่เรียกว่า Revenge

ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมามากจากสมัยก่อน ทำให้ภาพที่ปรากฏให้ดู ดูอลังการ ตระการตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพการปล่อย ฮาโดเคน ของ ริว หรือ โชริวเคน ของ เคน และยิ่งภาพเปิดตัวที่เปิดมาในตอนแรกสุดก็สร้างความฮือฮามากมาย แต่ก็ไม่วายมีข้อสงสัยว่าเกมจะไปได้สวยหรือไม่ เนื่องจากภาคล่าสุดอย่าง Street Fighter EX ก็แป้กมาแล้ว





ทาง โยชิโนริ โอโนะ (Yoshinori Ono) โปรดิวเซอร์ที่เข้ามาดูแลการผลิตในภาคนี้ ก็ตกปากรับคำว่าจะมีการนำตัวละครหลักๆจากซีรีย์ SF II เข้ามา เนื่องจากในภาคนี้ ได้รับความแพร่หลายเป็นอย่างสูง มีความคลาสสิคในตัวมันเองอยู่มากมาย และตัวละครที่ ได้รับการยืนยันมาแล้ว นอกเหนือจาก ริว เคน ชุนลี ดัลซิม และ คริมสัน ไวเปอร์ แล้วก็มี อาคุม่า

ในส่วนของ Sagat นี้ไม่ต้องพูดถึงทั้งเลือดเยอะและท่าอัดที่รุนแรง รวมถึงท่าก้านคอแล้วต่อด้วย Ultra หรือ Super ซึ่งขอบอกว่าไม่ต้องสืบ โหดแน่นอน ดังนั้นแล้ว เป็นที่ปวดหัวของเหล่านักสู้ที่ต้องเจอกับ 2 ตัวนี้แน่ๆ
ด้วยเหตุนี้ Ryota Mitsuma ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ของ SF IV เวอร์ชั่นเกมตู้ได้ออกมายอมรับว่าทั้ง Seth และ Sagat นั้นเก่งเกินกว่าที่ทีมงานคาดไว้ โดยเผยว่า "ทั้ง Seth และรวมถึง Sagat นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้ ผู้เล่นที่เล่นเก่งในตัวละครอื่นๆอาจจะเอาชนะผู้เล่นคนอื่นๆที่เล่น Sagat เก่งรวมถึง Seth ได้อัตราส่วนที่พอดีๆ แต่ถึงกระนั้นก็ตามทั้ง Seth และ Sagat ก็ยังแข็งแกร่งกว่าตัวละครอื่นๆอยู่ดี"
แต่จะว่าไปแล้ว ไดโกะ แชมป์ Street Fighter IV คนล่าสุด เป็นแชมป์ด้วยตัวละครที่ชื่อว่า Ryu นะจ้ะ



และนี้ก็เป็นประวัติความเป็นมาของซีรีย์เกมไฟต์ติ้งระดับขึ้นหิ้งเกมหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะได้รับการกล่าวถึงเสมอๆ เหมือนคนๆหนึ่งที่ผ่านเวลามาเนิ่นนานกว่า 20 ปี ผ่านจุดสูงสุด และ จุดต่ำสุดมาหมดแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเป็นตำนาน ของถนนนักสู้สายนี้ไม่เปลี่ยน ถนนสายนี้ยังทอดยาวไปอีกไกลนัก...


credit : street4you.blogspot.com/ ,
www.online-station.net ,
www.dek-d.com/[/size]

เวก้า หรือ บัลล๊อค กันแน่ ตอนเด็กๆๆเรียก บัลล๊อค

ต้องแบ่งเป็นหลายๆ โพส... เห็นแล้วเซ็งแทน...

งง เวก้า บัลล็อค ไมค์ ... สลับรูปกันมั่วเลย

ถ้า จขกท. ไม่เบลอ ผมก็มั่วแหละ รู้สึกงงๆ

******ส่วนที่สับสนว่าทำไม บัลล๊อคในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นชื่อ M.Bison พอมาเปิดตัวในอเมริกาจึงกลายเป็น บัลล๊อค ก็เพราะ Capcom กลัวว่าจะเกิดการฟ้องร้องจากยอดนักมวยในยุคนั้นก็คือ Mike Tyson เพราะใครๆที่ได้เห็นตัวละครตัวนี้ก็ต้องนึกว่านี้มัน ไมค์ ไทสัน แน่ๆ แถม Capcom ก็ตั้งชื่อคล้ายๆกันอีก ไบซัน ไทสัน เลยเพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องร้องหัวโต จึงต้องมีการสลับชื่อดัวยประการฉะนี้แล******