เอาตามข้อมูลทางการที่หมอทั่วๆไปใช้ละกันครับ(หมอเฉพาะทางหรือดูแลคนไข้กลุ่มนี้คงมีข้อมูลมากกว่า)

1.ถ้าคุณติดสูบบุหรี่อยู่ คุณมาดูดพอต อันนี้ดี มันช่วยในแง่ถ้าคุณตั้งใจจะลดการสูบุหรี่ลง หรืออยากเลิกบุหรี่ ช่วยให้ลดการสูบ และเลิกบุหรี่ได้จริง
แต่ถ้าคุณเปลี่ยนมาดูดพอต แค่เพราะว่าคิดว่าดูดแล้วสุขภาพโอเคกว่าบุหรี่ อันนี้paperบอกว่าไม่ช่วยใดๆ

2.กระตุ้นการเสพติดได้ "มากกว่า" จึงมีแนวโน้มจะที่ดูดมากว่าบุหรี่มาก (จึงไม่ได้สุขภาพดีกว่าในคนไม่ได้ตั้งใจจะเลิกดูด) แล้วก็มีความเสี่ยงมากกว่าที่จะกระตุ้นให้"เริ่ม"ดูดในกลุ่ม virgin ที่ไม่เคยสูบ(คนดูดพอตจำนวนมาก ไม่เคยดูดบุหรี่) บวกกับความเข้มข้นของ nicotine มีความกังวลมากขึ้น เพราะเด็กวัยรุ่น ที่กลไกการควบคุมสมอง การยับยั้งชั่งใจยังไม่ดี ไปเจอพอต ผลเสียระยะยาวจะเยอะกว่าดูดบุหรี่ จากปริมาณที่ได้รับโดยเฉลี่ย ไม่ใช่ปอดพัง สมองจะพังไปด้วย

3.ดูดnicotine เข้าไป มันไม่ใช่ ไม่มีผลเสีย คนเข้าใจว่าดูดแค่nicotine ไม่มีสารทาร์ไม่มีสารเคมีโน่นนี่แบบบุหรี่ เป็นการเข้าใจผิด คนได้ผลประโยชน์ทั้งหลายจะชอบบอกแต่ว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ (ก็จริงมั้งทางทฤษฎี)

แต่ในการดูดพอตมันก็มีการผสมสารเคมีอื่นๆลงไปด้วย หนึ่งคือ nicotine ก็มีผลเสีย
สารอื่นก็อันตราย ช่วงแรกที่ตายกันเยอะก็มี THC+ Vit E ตายไปหลักร้อยนะถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้ ถ้า legal จะต้องไม่มี แต่พวกไม่มีมาตราฐานก็อาจจะมีผสมอยู่
ยกตัวอย่างเพิ่มก็ Diacetyl Formaldehyde Heavy Metals อื่นๆซึ่งก็ก่อโรคทั้งนั้นเลย

พอทน่ากลัวตรงสารเคมีเยอะกว่า และติดหนักกว่าเดิมอีกดูดแบบถี่และเยอะกว่าบุหรี่ ตามที่แพทย์บอกมันทำลายสมองด้วย
สูบบุหรี่ไปเลยยังดีกว่า

ถ้าน้ำยามันควบคุมการผลิตได้ตามมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้กัน ยังไงก็อันตรายน้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้ครับ ปลงกับนกแก้วนกขุนทองที่เห้นพาดหัวคลิกเบตก็พูดตามๆกันมาเหมือนเฟคนิวส์โดยไม่ศึกษาให้ละเอียด แต่ก็นั่นแหละธรรมดาประเทศไทย สำหรับประเทศไทยเห็นด้วยว่าควรกำจัดให้หมด เพราะพวกไม่มีปัญญาควบคุมอะไรทั้งนั้น ดูดบุหรี่จริงไปดีกว่า

พอตแม่งพ่นกันทั้งวัน ห้อยคอเลย นั่งทำงานอยุ่เดินไปนอกห้อง หวดมา 3 พัฟฟ

บุหรี่ต้องลงไป ยืนตากแดด ตากลม หลบๆซ่อนๆ ดูดเสร็จล้างมือ แปรงสีฟัน เคี้ยวหมากฝรั่ง พ่นสเปรย์ดับกลิ่นอีก กูไม่ดูดแม่งล้ะสาด

ผมว่า พอท ดูที่ Dr.Tany มารายการ CK

เอางี้ครับ

คนคิดบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเอาไปขาย คือ เภสัชจีน ทำมาเพื่อกะให้ตัวเองเลิกบุหรี่

ผลคือติดทั้งคู่

ผมว่า บุหรี่ไฟฟ้ามันอยู่ที่น้ำยานิโคติน แล้วไอคนดูดตอนนี้ส่วนใหญ่ มันไม่ได้ซื้อมาเพื่อเลิกบุหรี่แน่ๆ

แต่ซื้อมาเพราะว่ามันสะดวก แล้วบางคนมันหัวหมอ เจอป้ายห้ามดูดบุหรี่ มันก็บอกว่า ดูดบุหรี่ไฟฟ้า (ที่จีนอัปเดตป้ายว่าห้ามดูดทั้งคู่ ในที่ห้ามดูด)

ในไทยผมเคยเห็นมันดูดบน BTS ด้วยซ้ำ แล้วคือพอแอบดูด มันอมควันนานกว่าบุหรี่ทั่วไป แถมดูดที่ไหนก็ได้ไปอีก

กลายเป็นปอดพังกว่าเดิม เกิดนิยามโรคใหม่ขึ้นมาคือ EVALI -> E-cigarette or Vaping product use Associated Lung Injury

ที่น่าตกใจคือ เด็กสุดตอนนี้ที่เป็นโรคนี้คือ อายุ 12 ขวบนะครับ(ที่อังกฤษ) และอายุน้อยสุดที่ตุยก็คือ 15 ขวบ

เผลอๆได้เด็กไทยทำ New low อะครับ (หรืออาจจะอินโดก็ได้ เพราะก็เจอปัญหาเด็กดูดบุหรี่อยู่ แล้วไม่มีกฏหมายจำกัดอายุด้วย เคยดูสารคดีคือ เด็ก 9 ขวบมันเริ่มดูดบุหรี่จริงและ)

อันนี้เด็ก 12 ที่ไทย อันนี้แสดงให้เด็กว่า ปัญหานี้ มัน World wide

หมอแกพูดจนปากจะแหก พวกบอกอิสโอเค หัวปวด

ไม่ทันขาดคำครับ ...

พอตมันไม่ได้เผาไหม้แค่ทำให้ระเหยใช่ไหม (ผมไม่ได้คุยกับพวกที่ดูดพวกนี้นานละ) ถ้าผมเข้าใจถูกอันตรายมันคนละแบบ

เอาบุหรี่ก่อน บุหรี่มันคือเอาไปเผา ดังนั้น มันเกิดการเปลี่ยนแปลงจาก 1 ไปเป็นหลายๆตัวมาก อาจจะเป็นร้อยๆสาร อันตรายต่อตัวมันก็จะน้อย แต่มีหลายแบบหลายตัว หรือเราจะจัดเป็นกลุ่มๆก็ได้

ในขณะที่พอต มันคือการระเหย ใส่อะไรไปมันก็เข้าปอดไปแบบนั้น สมมติว่าในหัวเชื้อมี 4 สาร เราก็ได้แต่ไอ้ 4 สารนั่นแหละ ดังนั้นเราจะได้รับอันตรายจากสารไม่กี่ตัว แต่ได้เยอะต่อตัว

มันเทียบตรงๆไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราแพ้แบบไหนด้วย ก็เลือกเอาตามอัธยาศัย

อันตรายทั้งคู่ครับ ถ้าไปสูบใกล้งูจงอาง