Top Comment [RE: Googleรีวิวคาเฟ่ Human Zoo]
เจอโพสนี้แล้วชอบเลยเอามาแชร์
เครดิต
อนิศ โอสถานุเคราะห์
ดราม่ากันจัง แล้ว รู้กันรึเปล่า ว่า Human Zoo ที่เถียงกันอยู่นี่ องค์ประกอบมันต้องมีอะไรบ้าง
จากที่มีคนไปนั่งจิบเครื่องดื่มดูคนทำงาน แล้ว เกิดเสียงถกเถียงว่า ทำไมถึงไป ดื่มด่ำบรรยากาศ คนจนกว่าทำงานให้ดู แล้วก็เลยด่ากันไปถึงขนาด Human Zoo
คราวนี้ ก็มีคนมาถกเถียงมากมาย อ้าวเฮ้ย งั้นทุกอย่าง มันก็ Human Zoo หมดแหละ
พ่อค้าที่ลวกก๋วยเตี๋ยว เรานั่งดู รอชิม
ร้านมิชลิน ที่เชฟ อยู่ในห้องกระจก ย่างเนื้อโชว์ วิ่งกันไปมาก่อนเสริฟ
เชฟ โอมากาเสะ หั่นปลา
โคโยตี้บาร์ ทุกแห่ง ในประเทศ รัชดา ภูเก็ต พัทยา
บาร์เทนเดอร์ เขย่าเหล้าโชว์
ตำรวจโบกจราจร
แม้กระทั่ง ลิซ่า ที่ขึ้นคอนเสิต คนไปยืนดู ยืนกรี้ด ถ้าคนดูคน มันจะกลายเป็น Human Zoo หมดเลยรึ
ก็ออกจะเกินไป
องค์ประกอบ มันมี 3 อย่างครับ
1. ตัว “คน” (Humans as Exhibit)
• คนกลายเป็น “วัตถุแสดง” แทนที่จะเป็น “ผู้มีชีวิต”
• มีการเลือก “คน” ที่แตกต่างจากมาตรฐานสังคม เช่น:
• ชนเผ่าแปลกตา
• ชาติพันธุ์ที่ห่างไกล
• ผู้มีรูปลักษณ์แปลกกว่าคนทั่วไป
• ทำให้ผู้ดู “รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า” หรือ “แปลกประหลาดดีน่าดู”
ตัวอย่าง: สมัยอาณานิคมยุโรป จัดแสดงคนแอฟริกัน, เอเชีย, หรือชนพื้นเมืองในงานแฟร์ต่างๆ
2. พื้นที่และการจัดแสดง (Exhibition and Setting)
• สร้างพื้นที่จำลองให้คนถูก “ขังกรง” แบบสัตว์
• บรรยากาศทำให้คนถูกวางใน “กรอบ” หรือ “ธีม” เช่น
• สร้างกระท่อมแบบเผ่า
• ใส่เสื้อผ้าแบบดั้งเดิม
• ใช้ฉากประกอบให้ดู exotic หรือ primitive
ตัวอย่าง: World’s Fair (นิทรรศการโลก) ปลายศตวรรษที่ 19 มีการสร้างหมู่บ้านชนเผ่าให้คนเดินดู
3. ผู้ชม (Audience as Observer)
• ผู้ชมมีอำนาจแบบ “นักสำรวจ” หรือ “ผู้พิพากษา”
• มองผู้ถูกจัดแสดงด้วยความอยากรู้อยากเห็น รู้สึกถึงความเหนือกว่า หรือความบันเทิง
• Human Zoo เลยสะท้อน “อคติ” และ “การควบคุม” ในสังคมแบบเงียบๆ
เรื่องนี้ ครบองค์ประกอบไหม ถ้าครบก็ไปแจ้ง องค์กรณ์ สิทธิมนุษยชน หรือ จนท ให้มาจัดการ แต่ถ้าไม่ครบ ก็อย่ากระแดะกันนักเลย แค่นี้ โลกก็อยู่ยากพอแล้ว
และสุดท้ายผมว่า อยู่ที่ใจคนมองด้วย
ใครที่มองว่า เป็น ภูมิปัญญาท้องถิ่น มองด้วยความปลาบปลื้ม ว่าเออเขาเก่งเนอะ มีความชื่นชม
คนใจสูงมองมันก็เป็น ศิลปะการทำงานชนิดหนึ่ง
กลับกัน ใครมองว่า Human Zoo ก็คือ คุณไปมองว่าคนเหล่านี้ แต่งตัวมอซอ ดูจน คุณรู้สึกว่าคุณเหนือกว่าเขา
คุณก็เลยไปสงสารเขา ทั้งๆที่เขาอาจจะภูมิใจ ในงานสุจริตของเขาก็ได้ มันก็เลยกลายเป็น ดราม่าไป
สุดท้าย ถ้าคนเหล่านั้น เต็มใจทำงาน รับค่าจ้างไม่ได้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว อยากออกเมื่อไหร่ก็ได้ ข้อตกลงบอกไว้แต่แรก ว่าสภาพการทำงานคือแบบนี้ ยังรับทราบและเต็มใจทำ มันก็เรื่อง ปกติของการทำงาน
ส่วน ใครมองว่า เป็น Zoo เซอ อะไร ถ้าให้สรุปตรงๆก็คือ
ใจมึงไปเหยียดเขา มึงก็เลยมองอย่างนั้น เขาอยู่ดีๆดันไปสมเพชเขา ก็แค่นั้นเอง
https://www.facebook.com/anit.osathanugrah/posts/pfbid0gkkw66RG5rDXCxYrh1kbWioD5reDGpJkp1fVcXvA8h6nQFR8kUWbcH35SmyEyYL3l