ก็ในมู้นี้พูดถึงค่าตัว concert coachella ไม่ใช่ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์แบรนด์หรือถ่ายโฆษณาอ่ะ

ถ้า lisa จะมากกว่า head stage อย่าง travis หรือ greenday หรือ post malone ได้ เพราะยอดฟอล ตามที่ท่านว่ายกตัวอย่างมา แบบนี้ค่าตัว concert อื่นๆ selana gomez ก็มากกว่า taylor swift อ่ะดิ

เรื่องแบบนี้เราไม่รู้มูลค่าที่แหละจริงหรอก สำหรับผมมันก็เป็นไปได้ด้วย เพราะต่อให้ด้านดนตรีLisaอาจจะดูด้อยกว่า แต่ความเป็นเซเลปดึงดูดมันก็ไม่แน่ เราก็ไม่รู้เขาตีมูลค่าศิลปินยังไง

ค่าตัวงาน Coachella แต่มูลค่าศิลปินมันก็ผูกกับค่าแบรนด์ ค่าโฆษณาอยู่ดีละครับ มันไม่ได้ถูกแยกออกจากกันหรอกตอนเสนอราคาน่ะ

คือมันก็อาจจะไม่ได้มีเป็นสัดส่วนในการเสนอราคาแบบ 100% แต่มันก็มีผลแน่นอน

ยิ่งศิลปินคนฟอลเยอะ การแสดงหรือการโปรโมทงานก็ถูกพูดถึงปากต่อปากใน SNS ต่อๆไปอีก

หรืออย่างถ้าจะไปแสดงที่ Coachella 2-3 วันได้เท่านี้ ไปถ่ายโฆษณาแบรนด์นึง งานนึง ก็อาจจะได้เท่ากันแล้วเลยต้องเพิ่มแรงจูงใจด้วยการเสนอค่าตัวให้เยอะกว่าเบสปกติ

แล้วทำไมใน lineup ไม่ใส่ชื่อแรกๆ ที่มาเลยอ่ะครับ เพราะลำดับความสำคัญต่อ brand coachella คือ lineup ศิลปิน อันนี้เวทีเดียวกันชื่อยังไม่ได้เด่นเท่า missy เลย เพราะขนาดของชื่อใน lineup คือความสำคัญและตัวเด่นของแต่ละเวที

ผมยังหาความ makesense ในค่าตัวขนาดนี้ไม่ออก แถมแหล่งที่มาก็ดันเป็นแนว trust me bro อีก

ถ้าจริง กาก้าน่าจะได้เยอะกว่านี้อีกหน่อยนะเทียบจากโชว์เจ๊แกแล้ว

มันตั้งแต่รอบค่าเซ็นสัญญาแล้วว่าได้6พันล้าน แต่พวกฝรั่งมันเก็บสถิติหมดพวกค่าเซ็นสัญญา แต่ของลิซ่ามันติดอันดับเลย แล้วถ้าได้6พันล้านจริงมูลค่ามันคือท็อป3ของวงการดนตรีโลก จะไม่เป็นข่าวที่ต่างประเทศแทบจะเป็นไปไม่ได้ นี่เห็นมีแต่แหล่งข่าวเกาหลีกับที่ออกมาจากกลุ่มแฟนคลับคนไทย ทั้งๆที่สัญญามันเกี่ยวกับค่ายเพลงที่อเมริกาแท้ๆแต่ทางนั้นไม่เล่นข่าวเลยสัญญามูลค่าขนาดนี้

อันนั้นมันสัญญากับค่าย RCA record ป้ะครับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ coachella เลย มู้นี้พูดถึงแค่ความเป็นไปได้ของค่าตัวในคอน coachella ซึ่งจากข้อมูลที่จขกท. ลง ที่มาของแหล่งข้อมูลก็แทบจะไม่มีความน่าเชื่อถือเลย เพราะช่องทางของ hiphop hypehub มีแค่ ig กับ tiktok ที่ผู้ติดตามหลักหมื่น

Post Malone อีก

มีปัจจัยอื่นๆนอกจากพาร์ทดนตรีด้วยครับ ความเป็นอินฟลู เซเลบไรงี้

Travis Scott นี่ยังไงพอรู้ไหมครับ ทำไมชื่อแยกไปคนเดียวเลย

ท่านน่าจะเข้าใจผิดนะครับ

สมมุติ ลาบูบู้ปกติขายได้เดือนละ 10 ตัว พอลิซ่าจับปุ๊บ กลายเป็นขายได้วันละ 100 เท่ากับลิซ่าสมารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าได้ 10 เท่า ต่อให้ยอดขายจะตกภายหลัง (ไม่ใช่ฟองสบู่แตก เพราะการโก่งราคาสินค้าเป็นเรื่องของ resale เจ้าของแบรนด์ไม่ได้เกี่ยวตรงนี้เพราะขายราคาเดิมตลอด) แต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ณ ช่วงเวลานึงๆ + ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากคนที่ไม่ใช่ลูกค้าประจำ และมันต้องมีบ้างแหละที่จะมีลูกประจำเพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่ๆที่เข้ามาเพราะลิซ่า นั่นคือสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องการครับ แล้วลิซ่าสามารถทำแบบนี้ได้ในทุกวงการ จึงไม่เปลกที่มูลค่าการตลาดจะสูงและเจ้าของแบรนด์หลากหลายยอมที่จะจ่ายเพื่อโอกาสตรงนี้

ส่วนรองเท้าทราวิสแพงยังไงก็แพงเท่าเดิม ใช่ครับ เพราะมันไม่มีเกิดการขาดตลาด จึงไม่มีตลาด resale ที่ราคาจะขึ้น-ลงตามความนิยมในช่วงเวลานึงๆ

ปล. ผมไม่ได้บอกว่าทราวิสดังน้อยกว่าลิซ่านะ แต่ impact ของลิซ่าต่อยอดขายสินค้ามันชัดเจนมากครับ

อาจจะคนออกแบบตีมมั้งครับ