ยาวหน่อยแต่อยากให้อ่านเขียนดีมากๆ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างได้ดีว่าทำไมมาดริดถึงยืนอยู่จุดนี้ได้


ข่าว “มือขวาเปเรซชอบคลอปป์” สะท้อนการบริหารทีมสไตล์มาดริด…?

เมื่อวันพุธที่ผ่าน MARCA รายงานว่า ‘อนาส ลาฆ์รารี‘ มือขวาและที่ปรึกษาของ ‘ฟลอเรนติโน่ เปเรซ’ ชื่นชอบและแนะนำให้ ‘ท่านประธาน’ เลือก ‘เจอร์เก้น คลอปป์‘ มาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมแทนที่ ‘คาร์โล อันเชล็อตติ‘…

ท่ามกลางกระแสข่าวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือว่า ‘ชาบี อลอนโซ่’ จะกลายเป็นโค้ชคนใหม่ของ ‘ราชันชุดขาว’ แบบแทบจะเป็นตัวเลือกเดียว และดูจะลงตัวทุกอย่าง

ท่ามกลางข่าวที่เอเย่นต์ของ ‘คลอปป์’ ออกมาปฏิเสธข่าวลือพร้อมยืนยันว่าอดีตตำนานโค้ชลิเวอร์พูลมีความสุขดีกับนำแหน่งผู้บริหารทีมใสเครือเร้ดบูลล์

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ซีอีโอของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ออกมายอมรับว่ามีข้อตกลงกับ ‘อลอนโซ่’ ว่าหากมีอดีตสโมสรที่ ’คุณชาย’ เคยค้าแข้งด้วยติดต่อมา ทางสโมสรจะไม่ขวางทางแต่อย่างใด

ชื่อของ ‘อนาส ลาฆ์รารี’ ก็โผล่ออกมาแบบ Out of Nowhere พร้อมให้เกิดความสงสัยเล่นว่า

1.เขาเป็นใคร ?

2.เขามีบทบาทอะไรกับเรอัล มาดริด ?

3.ทำไม ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ถึงต้องฟังเขา ?

และที่สำคัญที่สุดเลยคือ ?

4.ทำไม ‘เปเรซ’ ต้องเชื่อในสิ่งที่เขาแนะนำ ?

ต้องบอกก่อนว่า ‘อนาส ลาฆ์รารี‘ เป็นบุคคลที่ไม่แม้แต่จะมีข้อมูลในวิกิพีเดีย ซึ่งตรงตามคอนเซปต์ ‘บุคคลลึกลับ’ ที่บอร์ดบริหารของสโมสรมักจะเป็นกัน

กล่าวคือ ผู้มีอำนาจหรือผู้ตัดสินใจด้านกลยุทธ์ของเรอัล มาดริด มักจะไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนกัน ไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อแม้แต่ครั้งเดียว และมักจะวางตัวเปรียบเสมือนคนไร้ตัวตน ออกแนว ‘เข้าไม่ถึง’

‘โฆเซ่ อังเกล ซานเชซ‘ หรือชื่อย่อคือ ‘JAS’ ซีอีโอและอีกหนึ่งขุนพลข้างกายของเปเรซก็เป็นอีกคนที่ ‘เก็บตัว’ อย่างลึกลับ ไม่เคยปรากฎว่าให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่เคยเอ่ยปากถึงแผนงานหรืออนาคตของทีม แต่มักจะเป็นตัวแทนของทีมในการประชุมต่าง ๆ เสมอ เช่น การประชุมสมัชชาลาลีกา การประชุมกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน เป็นต้น

กลับมาที่ ‘ลาฆ์รารี‘ ที่แม้จะไม่มีข้อมูลถึงตัวเขาในวิกิเดีย แต่ถึงอย่างไรหลาย ๆ สื่อก็เริ่มเปิดเผยข้อมูลของเขาออกมากันหมดแล้ว

ตามข้อมูลจาก MARCA ‘อนาส ลาฆ์รารี’ คือนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโมร็อคโก อายุเพียง 37 ปี และเป็นมันสมองเบื้องหลังโปรเจ็คต์ ‘ซูเปอร์ ลีก’…

สัมพันธ์ของคนนามสกุล ‘ลาฆ์รารี‘ กับฟลอเรนติโน่ เปเรซ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของ ’อนาส‘ ผู้ซึ่งเป็นวิศวกรและเป็นเพื่อนของเปเรซ (เปเรซนอกจากจะเป็นประธานสโมสรเรอัล มาดริด แล้ว ยังเป็นวิศวกรโยธาและเป็นประธานกรรมการบริหารของ ACS หนึ่งในบริษัทก่อสร้างและบริษัทด้านวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก)

‘อนาส‘ โตขึ้น พร้อมกับเข้าเรียนในสาขาคณิตศาสตร์การเงินที่ฝรั่งเศส ก่อนจะเข้าทำงานในฐานะนักวิเคราะห์ให้กับธนาคาร จุดเปลี่ยนอยู่ที่ปี 2011 ซึ่งลาฆ์รารีได้เข้าไปเป็นหุ้นส่วนในบริษัท Key Capital ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนในมาดริด และเขาก็ได้ให้คำปรึกษากับเปเรซในด้านการตัดสินใจด้านการลงทุน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ

ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ดอนเปเรซ’ กับ ‘ลาฆ์รารี‘ แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาได้เข้าให้คำปรึกษาในการหาเงินลงทุนสำหรับการสร้างสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดยเฉพาะในช่วงโควิดและช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งสโมสรประสบปัญหาด้านเงินทุน

โดยสรุปคือ ‘อนาส ลาฆ์รารี’ ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในสโมสร แต่เป็นคนใกล้ชิดของท่านประธาน โดยเฉพาะในด้านธุรกิจ และการหาเงินทุน รวมถึงมีส่วนสำคัญในด้านการสร้างสนามเบร์นาเบว และที่สำคัญคือมีส่วนกับ ’ซูเปอร์ ลีก‘ โดยเป็นคนที่เปเรซรับฟังและให้ค่าพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเรื่องนี้จริง ๆ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ใครคือ ‘มือขวา’ เปเรซ แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือเราควรจะเชื่อใคร ? โดยเฉพาะในแง่ของคนที่ตัดสินใจด้านกีฬาของสโมสร

เพราะหาก บาร์เซโลน่า มี ’เดโก้’ ที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาและเลือกนักเตะหรือผู้จัดการทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี ‘ชิกิ เบกิริสไตน์’ ที่เป็นขุนพลสำคัญในการสร้างทีม ‘เรือใบสีฟ้า‘ ร่วมกับ ’เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’

‘มอนชี่’ คือผู้สร้างทีมและหานักเตะให้กับแอสตัน วิลล่า หรือ เซบีย่าในยุคทอง

คำถามคือ แล้ว ’เรอัล มาดริด‘ มีใคร ?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า โครงสร้างการบริหารของ ‘ราชันชุดขาว’ เป็นแบบนี้…

นายใหญ่: ฟลอเรนติโน่ เปเรซ

มือขวานายใหญ่ตัวจริง: โฆเซ่ อังเกล ซานเชซ

หัวหน้าสเกาต์: ยูนี่ กาลาฟัต

’ฟลอเรนติโน่ เปเรซ’ แม้จะอยู่ในวงการฟุตบอลมานาน เป็น ’มาดริดดิสต้า‘ ตัวจริงเสียงจริง แต่ขึ้นชื่อว่าหัวเรือใหญ่สุด หน้าที่จริง ๆ ของเปเรซจึงอยู่ที่การตัดสินใจสำคัญ ๆ มากกว่า อีกอย่างยังไงเปเรซก็คือ ‘นักธุรกิจ’

‘โฆเซ่ อังเกล ซานเชซ‘ ที่เป็นซีอีโอ ดูเหมือนจะเป็นผู้อำนวยการกีฬาด้วย แต่จริง ๆ หน้าที่หลักของ ’JAS‘ เน้นไปที่การตลาดและการเงินของทีมมากกว่า

นอกจากนี้ ’JAS’ ไม่ถือว่าเป็นคนฟุตบอล เขาถูกเปเรซดึงตัวมาทำงานด้วยตั้งแต่เป็นประธานสมัยแรกในตำแหน่งการตลาด หลังก่อนหน้าที่เคยทำงานด้านการตลาดอยู่ในบริษัทเกมอย่าง SEGA และย้อนไปสมัยเรียน JAS เรียนด้านปรัชญา ไม่เคยข้องเกี่ยวกับโลกฟุตบอลมาก่อน

แต่..คนที่มีอำนาจมากที่สุดในทีมรองจากเปเรซ คนนั้นก็คือ ‘JAS’

ครั้งหนึ่ง คาร์โล อันเชล็อตติ เคยเล่าว่า คนที่โทรไปหาเขาเพื่อชวนกลับมาคุมมาดริดรอบ 2 คนนั้นก็คือ ‘โฆเซ่ อังเกล ซานเชซ‘

ส่วน ‘ยูนี่ กาลาฟัต‘ ที่มีบทบาทสำคัญในการนำนักเตะดาวรุ่งมาสู่ทีม เช่น วินิซิอุส, โรดรีโก้, เอ็นดริก แต่ก็อยู่ในส่วนของการ scouting เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาด

จะเห็นได้ว่า เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ไม่มี ‘ผู้อำนวยการกีฬา‘ หรือ Sport Director…

เอาง่าย ๆ ในฤดูกาลนี้ที่มาดริดถูกวิจารณ์ว่าวางแผนทีมล้มเหลว โดยเฉพาะในการเสริมทัพ คำถามคือ แล้วใครเป็นคนวางแผนทีม ?

ก่อนหน้านี้ช่วงที่ทีมประสบความสำเร็จ ข้อสงสัยเรื่องใครเป็นใครในบอร์ดบริหาร มักไม่ค่อยถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นเท่าไหร่ กลับกัน ยังถูกชื่นชมอยู่บ่อยครั้งว่า นี่ขนาดทีมไม่มีผู้อำนวยการกีฬายังประสบความสำเร็จขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม การไม่มี Sport Director ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย

ข้อเสียคือ หลาย ๆ ครั้งเราก็มักจะเห็นความขัดแย้งหรือความเห็นต่างของคนเป็นประธานหรือเจ้าของทีม กับ ผู้อำนวยการกีฬาเกี่ยวกับแนวทางการทำทีมอยู่บ้าง

ส่วนข้อดี…ซึ่งอยู่ในแบบของเรอัล มาดริด คือ การที่อำนาจตัดสินใจขึ้นอยู่กับ ‘ท่านประธาน‘ เพียงคนเดียว แนวทางการทำทีมชัดเจน มีการตัดสินใจที่เร็ว และค่อนข้างมีเสถียรภาพ ไม่เกิดอำนาจหลายชั้น

อย่างไรก็ตาม หากใครสงสัยว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ ‘ฟลอเรนติโน่ เปเรซ’ ไม่เลือกใช้ ‘ผู้อำนวยการกีฬา’ ที่เป็นคนฟุตบอลโดยแท้จริง ข้อความนี้ที่มาจากหนังสือ ‘วิถีแห่ง เรอัล มาดริด’ ซึ่งเขียนโดย สตีเฟน จี. เมนดิส น่าจะตอบข้อสงสัย รวมถึงอธิบายแนวคิดในการบริหารทีมสไตล์มาดริดได้เป็นอย่างดี

“หลังจากที่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ได้รับเลือกเป็นประธานสโมสรเรอัล มาดริด ในปี 2000 ฟลอเรนติโน่ได้ขอให้ คาร์ลอส มาร์ติเนซ เด อัลบอร์เนซ (อดีตผู้จัดการทั่วไปของสโมสร) รับตำแหน่งฝ่ายบริหารในทีม โดยเฉพาะในด้านการบริหารการเงินและกฎหมาย ซึ่งเหตุผลที่ฟลอเรนติโน่ต้องการตัวคาร์ลอสมาบริหารทีมเป็นเพราะ คาร์ลอสไม่ได้เป็นแฟนฟุตบอล และไม่ใช่แฟนบอลเรอัล มาดริด ฟลอเรนติโน่อยากได้คนที่ไม่มีความโลเลเพราะความลำเอียงที่เกิดจากความชอบ…”


จากเพจ มาดริดดิสต้า

คหสต ของผมคือการที่ทีมไม่มีผู้อำนวยการด้านฟุตบอล ก็เลยมองไม่เห็นปัญหาภายในของทีม ซึ่งคนดูอย่างเราๆมองออกหมดว่าทีมต้องการอะไรขาดอะไร

แต่ทั้งนี้ อันเช ดันจัดการปัญหาได้หมดจดทำทีมน่าเบื่อแต่ได้แชมป์

พอวันนี้ทีมแย่ นักเตะฟอร์มตก ตัวเก่งออกไปไม่มีตัวทดแทน เล่นน่าเบื่อเล่นแย่แล้วทีมดันผลงานไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น

สุดท้ายแจ้หมดมุขฟอร์มตกแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนคนจริงๆ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าแจ้มันเก่งเรื่องการจัดการมาก ซึ่งบางทีแท็กติกอาจจะขัดใจแต่การจัดการเรียกว่าไม่มีข้อต้องติเตียน

ปัญหาของคลอปน่าจะเรื่องภาษาอย่างเดียวแหละ บอสเป็นเหมือนนักพูดมากกว่านักวางแผน

แล้วมือซ้ายละครับ?

ชอบเคล็ดครับ ล้มบ่อยไปหน่อย

ผมนึกถึง Chelsea ยุคเสี่ยหมี่
ที่ให้เจ๊ Marina คุมการซื้อ-ขาย ทั้งหมด
เรื่องซื้อพวกตัวแพงๆ ออกแนวแป้กซะเยอะ
แต่ดีตรงการขาย กับ เลือกโค้ช(ดีกว่าปัจจุบัน)
ตัดมาที่ปัจจุบันมี DOF 2 คน, มีทีมสรรหา
ภาพรวมจนถึงตอนนี้ทั้งซื้อ-ขาย, เลือกโค้ช
ยังสู้ยุคเจ๊ไม่ได้ (แต่ดีตรงการคุมค่าเหนื่อย)

มือซ้าย ขาดดด

มือซ้ายโดนเจ้าทะเลแดก

ผมว่าคล็อปไม่เหมาะคุมมาดริด เพราะคาแรกเตอร์บริหารแบบครอบครัว

มาดริดมันเหมาะกับคนบริหารแบบใจเพชร จะเปลี่ยนใหม่ก็ตัด ไม่เก็บ

ถ้าคล็อปคุมมาดริด ผมว่าไม่ได้ขาย ราอูล คาซิยาส โรนัลโด้ คล็อปเก็บไว้หมดแน่

คนที่เหมาะน่าจะเป็นซีดาน อันเช่นั่นแหละ ถ้าไม่ใช่ 2 คนนี้ ก็ เอนริเก้

เวนคั่ม