พอไปเตือน ให้ไปหาหมอ ก็หาว่าไปด่าเค้าอีก เตือนลำบากเลยคนพวกนี้

ผมกลับคิดว่า บดว รู้ตัวว่าทำไร
แต่ที่ทำอยู่เพราะเป็นงานของเค้า
/ผมอาจผิดก็ได้

ถึงขั้นนี้เเล้วเล่ามาเหอะครับ

ไม่ใช่แพทย์
อย่าไปวินิจฉัยอะไรใครมั่วซั่วครับ ถ้ายังไม่ได้ซํกประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจแลป
ที่พูดๆกัน นั่นคือความเห็น ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค
แม้แต่แพทย์หาแสง ที่สื่อชอบลากไปวินิจฉัยโรคคนอื่นผ่านหัวข้อข่าว คลิปคนดังบ่อยๆ
คนในวงการเองก็ยังรู้สึกแปลกๆเลยครับ

จากมุมมองและประสบการณ์ผม ที่ไม่ได้อิงเรื่องการแพทย์ใดๆ
ผมว่าสิ่งที่ บ. ทำ มันคือกลไกในการปกป้องตัวเองของน้องแก

ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็โดนบูลลี่มาตลอด
จากทั้งครอบครัวตัวเอง จากเพื่อนและครูที่ รร.

พอโดนบ่อยเข้า สิ่งที่มันเกิดมาเองคือ
ผมต้องหาอะไรมาปกป้อง ไม่ให้พวกนี้กล้ามาบูลลี่ผม
สิ่งๆนั้นคือ การประดิษฐ์คำ เพื่อใช้ด่าคนอื่นกลับแบบแรงๆ
และสุดท้ายมันทำให้ผมกลายเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนกลุ่มใหญ่

พอมีคนชอบ ผมเลยพัฒนามันขึ้นเรื่อยๆ อย่างมั่นใจ
และพาอีโก้ตัวเองขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงจนแทบทะลุเพดาน
ตอนนั้นใครสวนมา เจอผมสวนกลับหนักกว่า
และผมคิดว่าผมเป็นฝ่ายชนะเสมอมา

ตอนนั้นถ้าถามว่าผมเป็นโรคไหม
ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นอะไรนะ

แต่แน่นอนว่า กลไกที่ผมพัฒนามา
สุดท้ายมันทำให้ผมเป็นคนนิสัยแย่ๆ คนหนึ่ง
กว่าจะรู้ ก็ต้องบอกว่า ผ่านเรื่องต่างๆ มาอย่างสาหัสสากัน

ทุกวันนี้ ผมค้นพบกลไกในการป้องป้องตัวเอง
โดยที่ไม่จำเป็นต้องกดใครลงมาละ
ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้
มีเวลาไปทำโน่น ทำนี่ แฮปปี้กับชีวิตตัวเองขึ้นเยอะ

ปัญหาทางจิต เอาแค่โรคเครียดก็พอ
เริ่มตากเจ้าตัวต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองเริ่มผิดปกติ แล้วยอมสมัครใจไปคุยกับหมอ
ไม่งั้นรักษายาก เพราะเจ้าตัวจะคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แล้วไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมกินยา ไม่ปรับพฤติกรรมตัวเอง


ป.ล. อย่าเพิ่งชี้ว่าเขาเป็นโรค เพราะเราไม่ใช่หมอครับ
ถ้าออกความเห็นอะไรก็ควรเลี่ยงคำว่าเป็นโรคไว้ก่อนจะดีกว่า

จริงๆผมว่า การที่จะว่าใครว่าเป็นโรคไหม ให้แพทย์ตรวจและวินิจฉัยดีกว่า การที่เราไม่ใช่หมอทางด้านจิตเวชแล้วไปตัดสินว่าเขาเป็นโรคเนี่ย ไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ถูกกล่าวหา

ถ้าเกิดเราไปว่าเขา แล้วเขาไปตรวจแล้วเป็นคนปกติ เขาก็โดนด่าฟรีทั้งๆที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรสักหน่อย

โดนฟ้องได้นะครับไปกล่าวหาคนอื่นลอยๆว่าเป็นโรคเนี่ย ที่สาธารณะกับคนไม่รู้จักถึงจะไม่ชอบเค้าเราไม่ควรไปกล่าวหาอะไรเค้านะถ้าเราไม่มีหลักฐานหรือมีหลักฐานถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่มีผลกับสารธารณะก็จัดกดารส่วนตัวไม่ควรมาป่าวประกาศ ยิ่งอย่างท่านตามตัวในชีวิตจริงไม่ยากด้วยเพราะชอบมาแชร์ธุรกิจตัวเองบ่อยๆ

ไม่อ่ะ ผมก็เคยอยู่กับคนที่ป่วยโรคหลงผิด บดว ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับโรคหลงผิด หรือโรคหลงตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่วินิจฉัยด้วยแพทย์ อย่าเพิ่งมั่นใจแล้วไปตัดสินแค่จากพฤติกรรมบนโลกโซเชียล เพราะอาการทางจิตมันมีความลึกลับซับซ้อนกว่านั้นมาก ไม่ใช่ทุกคนทำพฤติกรรมแบบนี้ปุ๊บจะตีความได้ว่าเป็นโรคนี้เลย

บดว อาจจะเป็นโรคอื่นผสมอยู่ ต้องให้แพทย์เป็นคนวินิจฉัย คนนั่งอ่านแค่ข้อความผ่านโซเชียลไม่ควรมานั่งวินิจฉัยเอาเองเป็นตุเป็นตะ หมอยังไม่กล้าคอนเฟิร์มเลย แล้วคุณไม่ใช่หมอทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะ

อันนี้ ผมขอเถียงเลยครับ นี้โรคอาการทางจิต เป็นโรคที่ยาก ที่ คนเป็นจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่คนรอบข้างมองว่าปกติ แล้ว ช่วยกันสังเกตุแล้วพาไปรัษา หรือปรึษาแพทย์ทั้งนั้นครับ เหมือนน้องที่ผมเจอมา เค้าเป็นแน่ๆ อาการเค้าไม่ผิดปกติหลายอย่าง ถ้าเราช่วยกัน ให้คำแนะนำ หรือ พาพบหมอได้ทัน จะช่วยรักษาเค้าได้
อย่างน้อยที่สุด คำแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ ควรเป็นคำแนะนำพื้นฐานที่สมควรทำได้หากเราเป็นห่วง หรือสงสัย

ผมยกตัวอย่างกรณีพี่เสกโลโซเลยครับ ได้ชาวเน็ตช่วยไว้เลยว่า สังเกตุการณืพี่แกไลฟ์ผิดปกติ มีแววเป็นโรคไบโพล่า ชาวโซ่เชี่ยลเป็นห่วง แจ้งไปทางครอบครัว สุดท้ายนำมาซึ่ง การพาพี่เค้าไปรักษาบำบัดได้ทัน ครับ แล้วกลับมาเป็นพี่เสกร่างปกติ แบบทุกวันนี้

ไปบอกว่าเค้าเป็นโรคนั้น โรคนี้ ท่านเป็นหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวโรคนี้เหรอครับ

กล่าวหากับเป็นห่วง นี้ต่างกันนะครับ

กรณีพี่เสก ชาวเน็ตบอกเป็นไบโพล่า สุดท้าย ได้พาพี่เสก ไปหา หมอ จริง แล้วเป็นจริงบำบัดจริงนะครับ

ไม่มีใครบอกพี่เสกเป็นบ้า เค้า เป็นห่วง ทั้งนั้นครับ แต่ไอประเภทไปด่าเค้า สันดารเสียนิสัยแย่ อันนี้ ไม่น่าฟ้องกว่าเหรอครับ

งั้นผมขอถามท่าน นะครับ
น้องคนที่ ผม ช่วยเหลือเค้าอยู่

เธอมีการ การ คิดว่ากล้องวงจรปิดทุกตัว ถูกแฮีกได้คอยจับภาพเธอ จะพยายามอยุ่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด
คิดว่าตอนนี้ มีคนตามฆ่าเธออยู่ มีคนบอกใบ้เธอในทวิตเตอร์ จริงๆมาแค่จากการไถฟีต สเปะสปะแล้วตียความเองว่าจะเกิดเหตุการณืไม่ดีกับเธอ มือถือเธอมี 4-5 เครื่อง แต่ยังไม่พอ วานให้ผมช่วยซื้อซิมให้ เพราะคิดว่าอีก 4 เครื่องนั้นโดนแฮ๊กหมดแล้วต้องซื้อเครื่องใหม่เลย ท่านรู้ไหมตอนผม พาเธอไปส่งที่เซเว่น นางระแวงมาก บอกกลัวนู้นกลัวนี่ไปหมดเลย แล้วจังหวะนรก ไอเ้ด็กเปรค เด็กแว๊น แม่งเบิ้ลมอไซท่อเสียงดังชิบหาย ทำนางตกใจแบบกระเจิง นึกว่ามีคนยิงนาง วิ้มล้มลุกคลุกคลาน เข่าเป็นแผลเลือดออก บอกไม่ไหวแล้ว อาการตื่นกลัวมาก ผมต้องอุ้มแบกนาง กลับโฮสเทลผมมาทำแผล นางฝากคีย์การ์ให้ผมไปเอาของที่คอินโดนางนางไม่กล้าไปเพราะกลลัว ผมไปแล้วทำตียกาณืดหัก จน แสกนไม่ได้ นาง ก็บอกมีคนจะทำร้ายเทอโดยเปลี่ยนเคีย์การฬห้ใช้งานไม่ได้

ท่านว่าที่ผมพูดมา คนปกติเป็นกันไหมครับ แล้วถ้าเอาตามตตรกะท่านผมไม่ใช่เหมอ แต่ผมไม่มีสิทธิ์สงสัยหรือบอกว่าเธอเป็นแล้วหาทางช่วย แบบนั้นเหรอครับ แล้วปล่อยเธอไปทั้งแบบนี้เหรอครับ

ปัจจุบันผมหาทางช่วยอยู่ ท่านไม่รุ้หรอกอาการเค้าหนักขนาดไหน ทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นหน้านางเลย นางใส่เมือง แบบนักสืบ ใส่วิกปลอมตัวพร้อมแมส อยู่แบบหวาดระแวง ผมที่ พยายามหาหนทาง ช่วยนาง ก็ทำได้อค่ ทำอะรให้เค้ารู้สึกปลอดภัยไว้ก่อนละกัน

ที่พูดมา ผมแค่อยากถามท่านว่า ผมไม่ใช่หมอ แต่ผมไม่มีสิทธฺ์ บอก ใช่ไหมครับ ว่า คนที่ผมดูอยู่ตอนนี้ผิดปกติ

ชาวเน็ต
เถียงหมออีก
ไม่ต้องเรียนหมอละครับ

ความเมตตา ปรารถนาดี อยากช่วยเหลือคนอื่น น่ายกย่องครับ
แต่ก็ควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมครับ

หนักแล้วครับ อาการ บางอาการ ดูง่าย ว่าเป็นหรือไม่เป็นผิดปกติหรือไม่ผิดปกติ
โดยไม่ต้อง ถามหมอด้วยซ้ำครับ เคาา ที่มีให้เรียนรู้ก็กรณี พี่เสก ชาวเน็ตเตือนว่า อาการพี่เสกไม่ไหวแล้ว เป็นไบโพล่า ก็ได้ชาวเน็ตไม่ใช่เหรอครับ ที่เตือนไปทางครอบครัว สุดท้าย ครอบครับพาไปรักษาบำบัด