vivo X200 Ultra ไม่อยากจะเขียนเยอะๆยาวๆ เพราะเขียนถึงก่อนหน้านี้มาหลายโพส แต่ก็จำเป็นต้องเขียนยาวอีกจนได้ !!!
คุณสมบัติที่โดดเด่นคือระบบกล้องที่ล้ำสมัย ด้วยกล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony LYT-818 ขนาด 1/1.28" แต่รองรับโฟกัส 35มม. ในขณะที่กล้อง Super Periscope ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL HP9 ความละเอียด 200MP ที่ยังคงเป็นเซ็นเซอร์เทเลโฟโต้ที่มีความละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีในสมาร์ทโฟน เพิ่มเติมคือ ชิปประมวลผลภาพใหม่ + อัลกอริทึมใหม่ โหดกว่าเดิมเยอะ โดยเทียบกับกล้อง Sony A6700 แล้วให้คุณภาพที่ดีกว่า (vivo ว่าแบบนั้น)
รายละเอียดประกอบไปด้วยคุณสมบัติดังนี้
1.) กล้องสามตัวระดับสูงสุด
เลนส์มาสเตอร์โฟกัสของ ZEISS ทั้งสามตัว ได้แก่
- 14 มม. "Eagle Eye"
- 35 มม. "Humanistic Eye"
- 85 มม. "Portrait Lens King"
เลนส์ Ultra Wide 14 มม. "Eagle Eye"
ZEISS × Blueprint × Sony LYT-818 รูรับแสง 1/1.28" f/2.0 CIPA 5.0 ระดับ 2° , รองรับ OIS ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลมุมกว้าง , รับแสงเข้าดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน 181%
เลน์หลักขนาดใหญ่ 35 มม.
การเคลือบ Zeiss T* : เทคโนโลยีการเคลือบสะท้อนแสงต่ำพิเศษ GLC 2.0 ครั้งแรก ลดแสงสะท้อนได้น้อยกว่า 0.1%
ZEISS × Blueprint × Sony LYT-818 ขนาด 1/1.28" , f/1.69 , ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล CIPA 5.0 , OIS
เลนส์ 35 มม. มีมุมมองภาพกว้าง 63° ใกล้เคียงกับดวงตาของมนุษย์มากที่สุด
เทคโนโลยีสเปกโตรสโคปีเลียนรุ่นที่สามของ vivo VCS
เลนส์เทเลโฟโต้ ZEISS APO Super TelePhoto II
เทคโนโลยีปริซึมน้ำหนักเบาพิเศษตัวแรกและการออกแบบเลนส์ Periscope สามกลุ่มรุ่นแรกของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล CIPA 5.0 OIS ปริมาณแสงเข้าดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน 38% พร้อมเลนส์กระจกกระจายแสง 3 ชิ้น และเลนส์กระจกโปร่งใส 13 ชิ้น
ความสามารถในการป้องกันภาพสั่นได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 41%
ทั้ง 3 เลนส์รองรับเทคโนโลยีสเปกโตรสโคปีเลียนรุ่นที่สามของ vivo VCS จะรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120 fps ในกล้องทุกตัว และสามารถสลับเลนส์ระหว่างการบันทึกได้อย่างราบรื่น มาพร้อมกับฟีเจอร์ Live Photo ใหม่ และระบบกันสั่น 5 แกน
เลนส์แต่ละตัวอยู่ในระดับกล้องหลักและสามารถทำงานแบบเดี่ยวๆได้โดยไม่ต้องตกแต่งใดๆ ดังนั้นชุดเลนส์นี้จึงรับประกันการถ่ายภาพที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนได้อย่างแน่นอน
อีกทั้ง vivo ได้เปิดตัวอัลกอริธึม BluePrint (BlueImage 2.0) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ X200 Ultra ซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ เช่น การย้อนแสงและการเก็บรายละเอียดในที่แสงน้อยด้วย
2.) FullLink Dual Core ISP
นอกจากชิป V3+ ISP ของ vivo แล้ว X200 Ultra ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพถ่าย AI ISP ที่ทรงพลังในการประมวลผลระดับสูงตัวแรกของอุตสาหกรรม นั่นคือ vivo VS1 โดยใช้สถาปัตยกรรมการปรับปรุงคุณภาพของภาพจากเอาท์พุตข้อมูล RAW โดยองค์ประกอบไวต่อแสง ชิป VS1 จะทำการประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น และทำงานร่วมกับ V3+ ที่รับผิดชอบการประมวลผลขั้นสุดท้าย ทั้งหมดนี้เกิดภายในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการกดชัตเตอร์หนึ่งครั้ง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ พลังการประมวลผลที่มากขึ้นจากชิป 2 ตัว จะทำให้มีการปรับปรุงภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
3.) โหมดภาพบุคคลใหม่
ด้วยอัลกอริทึมใหม่ที่ X200 Ultra นำมาใช้สำหรับการถ่ายภาพบุคคลในตอนกลางคืนระดับมืออาชีพ แต่ยังรวมไปถึง ทิวทัศน์ ภาพนิ่ง และการบันทึกวิดีโอระดับ 4K 120fps (8K 30fps) ได้ทุกเลนส์ โดยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายในทุกความยาวโฟกัส ให้ช่วงไดนามิกสูงถึง 14EV อีกด้วย
และยังมีคุณสมบัติของปุ่มชัตเตอร์ใหม่ใน vivo X200 Ultra ที่มาพร้อมความสามารถครบครันกว่าแบรนด์อื่นๆ
✅ ซูมแบบเลื่อนสไลด์ได้
✅ กดค้างไว้เพื่อเข้าสู่โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst)
✅ กดชัตเตอร์แบบ Full Press
✅ กดครึ่งหนึ่งเพื่อล็อกโฟกัสได้
✅ เลื่อนเพื่อปรับการรับแสงได้ (Exposure)
✅ คลิกสองครั้งเพื่อเปิดแอปกล้องอย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากระบบกล้องอันทรงพลังแล้ว vivo X200 Ultra ยังมีหน้าจอความละเอียด 2K พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz ซึ่งมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหน้าจอ 1.5K ในรุ่นพื้นฐานและรุ่น Pro มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ของ Qualcomm ทำให้เป็นการอัปเกรดที่สำคัญเหนือรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังอาจมีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 90W และชาร์จแบบไร้สาย 40W
อีกทั้ง vivo X200 Ultra ยังจะรองรับชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับถ่ายภาพขั้นเทพถึง 2 ตัว คือ ชุด Photography Kit และ เลนส์เสริม ZEISS Super TelePhoto ที่จะเพิ่มการซูมแบบออปติคอลเป็นระยะ 200มม. (8.7 เท่า)
ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายแบบไม่สูญเสียความละเอียด (Loseless Zoom) ที่ระยะสูงสุด 70X จะดูดีเทียบเท่า 30X (ซึ่งเป็นระยะ Loseless Zoom สูงสุดหากไม่ต่อเลนส์เสริม)
โดยเลนส์ซูม ZEISS Super TelePhoto ออปติคอล 200 มม. (8.7x) (f/2.3) มีระยะซูมที่มากกว่าเลนส์ 85 มม. ในเครื่องถึง 2.35 เท่า ใช้โครงสร้างออปติกแบบ Kepler ด้วยเลนส์แก้วโปร่งใสที่มีการส่งผ่านแสงได้สูง 3 กลุ่ม กลุ่มละ 13 ชิ้น
ส่วน Vivo X200 Ultra Photography Kit มีรายละเอียดดังนี้
▫️การเชื่อมต่อแบบ Type-C
▫️มีแบตเตอรี่ 2300mAh
▫️ตัวเคสมีดีไซน์แบบ Bracket ซึ่งใช้ยึดกล้องให้ตั้งตรง
▫️ปุ่มบันทึกวิดีโอในคลิกเดียวแบบใหม่
▫️ดีไซน์กล้องสไตล์ย้อนยุค
▫️สายคล้องไหล่แบบมืออาชีพและทันสมัย
▫️ขาตั้งในตัว
สเปค vivo X200 Ultra
หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.82 นิ้ว , ความละเอียด 2K (3200 × 1440 พิกเซล) , รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , อัตรารีเฟรชแบบแปรผัน 120Hz , ความสว่างสูงสุด 4500 nits ครอบทับด้วยกระจก Armor Protection
CPU : Snapdragon 8 Elite
GPU : Adeno 830
RAM : 12GB/16GB ชนิด LPDDR5x
ROM : 256GB/512GB/1TB ชนิด ,UFS 4.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
ระบบกล้อง :
ระบบอัลกอริทึมประมวลผลภาพ BluePrint
เลนส์ ZEISS APO Optics
เคลือบเลนส์ ZEISS T*Coating
ชิปประมวผลภาพแบบคู่ vivo V3+ และ VS1 ISP
ระบบกล้อง ZEISS Optical 3 ตัว ประกอบด้วย
กล้องหลัก 35mm 50MP (Sony LYT818 ขนาด 1/1.28 นิ้ว) , OIS , f/1.69
กล้อง 14mm Ultra Wide 50MP (เซนเซอร์ Sony LYT818) , OIS , f/2.0
กล้อง 85mm Super Periscope 200MP (เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP9 , ขนาด 1/1.4 นิ้ว , f/2.3
รองรับ Optical Zoom 3.7 เท่า , Digital Zoom สูงสุด 100 เท่า
กล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ 3D Ultra Sonic
รองรับลำโพงคู่แบบสเตอริโอ + ระบบเสียง Hi-Fi
รองรับปุ่ม Shutter แบบ Capasitive
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68/IP69
รองรับ Wi-Fi 7 802.11 be, Bluetooth 5.4, GPS: L1+L5, Beidou: B1C+B1I+B2a+B2b, GLONASS: G1, Galileo : E1+E5a+E5b, QZSS: L1+L5, NavIC : L5 , NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 3.2
แบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 90W, ชาร์จไร้สาย 40W และการชาร์จไร้สายย้อนกลับ
รองรับ Bypass charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 15 + Origin OS 5.0
#ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศจีน
- รุ่น 16GB+1TB ราคา 7999 หยวน (ประมาณ 36,500 บาท)
- รุ่น 16GB+512GB ราคา 6999 หยวน (ประมาณ 31,900 บาท)
- รุ่น 12GB+256GB ราคา 6499 หยวน (ประมาณ 29,690 บาท)
ส่วนชุดเลนส์เสริมและ Photography Kit มีจัดเซ็ทขายดังนี้
• ชุดเทเลคอนเวอร์เตอร์เลนส์เทเลโฟโต้ Zeiss 2.35X (เคส + เลนส์) ราคาพิเศษ 1299 หยวน (ประมาณ 5,900 บาท)
• ชุด Photography Kit (เคส + กริป) ราคา 699 หยวน (ประมาณ 3,190 บาท)
• ชุดเทเลคอนเวอร์เตอร์เลนส์เทเลโฟโต้ Zeiss 2.35X + Photography Kit (เคส + กริป + เลนส์) ราคาพิเศษ 1699 หยวน (ประมาณ 7,760 บาท)
• ชุด Master Photography (vivo X200 Ultra 1TB + เคส + กริป + เลนส์) ครบชุดราคา 9699 หยวน (ประมาณ 44,300 บาท)
โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 เมษายน เป็นต้นไป (บางเซ็ทเริ่มวางจำหน่ายเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป)
Source : vivo
Article By : #โลกไอทีวันนี้

ของจริงจะแจ่มขนาดไหนนะ

s24u ลวนๆเนาะ 512กำลังดี

เข้าไทย 40k+

ตัว Pro ก็แจ่มแล้ว Ultra นี่น่าขนลุก

ผมนี้ อยาก พรีเครื่องหิ้วจากจีนเลยครับ เซ็ทที่มี Grid + กล้องซูม มาด้วย ราคาก็ไม่ได้แรงเหมือนที่คาดไว้
เมก้าเซ็ท 9พันกว่าหยวน ตกที่ 4หมื่นกว่านิดๆ แต่เข้าไทยจริง ก็น่าจะ 5หมื่น เฉียดๆ 6หมื่น ++

กระซิบเบาๆตามนี้เผื่อใครสนใจแต่ไม่รู้

"Vivo จีน เข้าศูนย์ไทยได้นะ ประกันวิ่งเท่ากัน

https://www.vivo.com/th/content/IWS-TH

อันนี้ลิสต์ของรุ่นเก่าๆ แต่รุ่นใหม่ไม่น่าพลาดหรอก

ละไปใช้บริการมาแล้ว บอกเลยแม่มเทพชิหาย ไม่งี่เง่าด้วย แต่ต้องเข้าใจว่าถ้าไม่มีอะไหล่ต้องรอนะ อันนี้ทุกเจ้าเป็นเหมือนกัน

ปล. แม่งอ่านละยังกะ PC มาขายของ ชิหาย

ดีแล้ว ผมก็อยากให้คนรู้จักแบรนด์อื่นนอกจากซัมซุงบ้าง

จริงๆตัว vivo x100 ก็ทำไว้ดีละนะ คิดว่า x200 ถ้าไม่ได้มีอะไรพลาดก็น่าจะเหมือนกัน