ภาพเมืองหลวงในหัวคือเมืองที่ดูศิวิไลซ์ตึกอาคารสูง แบบโซล กรุงเทพ โตเกียว ดูไบ ปักกิ่ง

แต่ทำไมอย่างลอนดอน มาดริด วอชิงตันดีซี ถึงเป็นเมืองที่มีตึกสูงน้อยครับ หลักๆเหมือนก็แค่ประมาณ 10 ชั้น

น่าจะผังเมืองไหม อย่างบ้านผมบ้านที่อยู่ใกล้วัง ก็ห้ามสร้างสูง

แนวความคิดเมโทรโปลิศครับและประชากรไม่เยอะ พื้นที่กว้างแต่ประชากรไม่เยอะ อย่างสหรัฐมีประชากรแค่1/3ของจีนเอง อังกฤษก้มีประชากรเท่าไรแต่มีเมืองใหญ่ๆ 6-7เมือง ไทยมีเมืองใหญ่จริงๆแค่กทม.เอง มันเลยกระจุกตัว

หลายๆ ประเทศประชากรไม่ได้เยอะ และความหนาแน่นไม่ได้มากครับ บางเมืองก็มีเอาไว้แค่บริหารอย่างเดียว

ตัวอย่างเมืองที่ท่านยกมา มันเป็นเมืองที่รวมหลายๆอย่างไว้ที่เดียว พูดง่ายๆ คือทุกอย่างกระจุกนั้นแหละ การพัฒนามันเลยเป็นแบบที่เห็น

มันเป็นเมืองเก่านิ ลอนดอน มาดริด ดีซี ผมว่ามันมีหลายอาคารหลายย่านที่ต้องอนุรักษ์ ไปสร้างมั่วซั้ว พวกสภาเมืองคนในเมืองไม่น่ายอม อย่างไอ้ชิงช้าสวรรค์ลอนดอน กับติดรีๆ เห็นมีข่าวคนต้านอยู่นะตอนจะสร้าง

ที่ท่านยกมา พวกยุโรปที่ไม่สร้างตึกสูงเพราะว่าอนุรักษ์เมืองเก่าครับ อารมณ์เขตพระนครของกรุงเทพ ตึกสูงๆ เขาก็มีครบแต่จะออกไปย่านธุรกิจ เลยใจกลางเมืองไปหน่อย

ส่วนดีซีเพราะมันเป็นเมืองออกแบบมาสำหรับการบริหาร + เรื่องความปลอดภัยของที่ทำการรัฐ ทำเนียบขาว และเขาใช้วิธีกระจายความเจริญออกไปครับ

รวมๆคือเรื่องการจัดฟังก์ชั่นของเมืองกับผังเมืองครับ

ตึกบางอย่างเก่าแต่ยังใช้งานอยู่ก็ไม่มีแผนจะทุบจะย้าย (พวกยุโรปตะวันออกจะชัด)

เมืองใหม่ก็ไปสร้างโซนอื่นเอา จุดจะสร้างก็ต้องไปดูเรื่องผังเมืองรวม/zoning เมืองประกอบด้วย

ผังเมืองครับ เค้าต้องการอนุรักษ์พวก aesthetic สวยงามแบบยุโรปไว้

ผลก็คือบ้านที่อยู่ในเมืองแพงชิบหายวายวอด ใครว่ากรุงเทพแพงแล้วไปเจอเมืองใหญ่ยุโรปอ้วกแตกแน่นอน

ความเจริญกระจายคับ ประเทศที่ท่านยกมาคือพวกพัฒนาแล้ว
เมือง หรือรัฐ เจริญหลายๆ ที่คับ เค้าก้กีะจายความเจริญ แล้วแบ่งผังเมืองให้ชัด
USA
- Washington คือเมืองหลวง มีรัฐสภา การบริหาร เค้าก้อนุรักษ์ไว้
- Newyork แล้วก้ไปอัดตึกสูง แบบศุนย์รวม finance business ที่เมืองนี้แทนคับ
- Chicago ก้ไม่น้อยนะ ตึกสูงเพียบ

London
- ย่าน picadilly ก้จะเปนตึกสูงๆ
- ย่าน kensington ก้จะเปนแนวเมืองเก่าคับ

ฝรั่งเศษ สเปน เยอรมัน พวกนี้ลองไปดุ มันจะมีเมืองเก่าอนุรักษ์ ส่วนใหญ่คือเมืองหลวง ส่วนเมืองเศรษฐกินจะแยกไป

ดูจีน
- ปักกิ่งคือเมืองหลวง อนุรักษ์ มีวัง มีกำแพง
- เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คือเมืองธุรกิจ ไอที เน้นตึกระฟ้า สูงๆ หรูๆ

เคยได้ยินว่ายุโรปไม่อยากให้เอาตึกสูงมาบดบัง สถาปัตยกรรม ของตึกสไตล์ยุโรปดั้งเดิมครับ

เมืองในยุโรปส่วนใหญ่เลยไม่สร้างตึกสูง จะมีแค่เมืองที่โดนถล่มช่วงสงครามโลก เช่น เบอร์ลิน ลอนดอน พวกนี้เลยมีตึกสูงเพราะตึกเก่าๆพังไปหมดแล้ว

ตะวันตก แยกเป็น 2 พวกแล้วกัน

1 ยุโรป
2 อาณานิคมตะวันตก
เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย แคนนาดา
พวกนี้ก็มีตึกสูงทั้งหมดในเขตเมือง ยกเว้นจุดที่มีแผ่นดินไหวบ่อย
New York, Sydney, Toronto ตึกสูงทั้งหมด

ส่วนพวกยุโรป แบ่งเป็น 3 พวก
พวกอดีตนครรัฐ อย่างเยอรมัน มีเมืองเยอะ
กับพวกรัฐศูนย์กลางอย่างฝรั่งเศส มีเมืองเดียว
แล้วก็เขตเศรษฐกิจพิเศษเช่น แฟรงเฟิตของเยอรมัน

ที่ต้องมีเขตเศรษฐกิจ เพราะพื้นที่อื่นอนุรักษ์วัฒนธรรมไว้ ให้คลุมโทนการก่อสร้าง แม้แต่หลังคาก็แปลกไม่ได้

กฎหมายผังเมืองครับ

ในยุโรป มีบ้านเก่าๆ อาคารเก่าๆ อายุหลายร้อยปี อยู่เยอะ ทำให้มีข้อกำหนด จุกจิก เยอะแยะ มาก

ส่งผลให้การสร้างตึกสูงมากๆ เกิน 50 ชั้น เป็นเรื่องที่ปวดหัว มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เมืองทางเอเชีย หรือ อเมริกาเหนือ



นิยาม ของตึกระฟ้า skyscrapers คือ สูงเกิน 150 เมตร

ฝรั่งเศสกับไทย มีจำนวนประชากร กับขนาดประเทศพอๆ กัน

แต่ฝรั่งเศส มีตึกระฟ้า 27 ตึก แต่ไทย มี 142 ตึก



อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย พวกประเทศเกิดใหม่ อายุไม่เยอะ อาคารเก่าๆ โบราณ ไม่มาก พวกนี้ ก็มีตึกระฟ้า เยอะเหมือนกัน

นอกจากเรื่องอนุรักษ์กับผังเมืองที่เข้มงวด
ราคาที่อยู่ในเมืองมันแพงมากก เเต่การเดินทางมันสะดวก
คนทำงานในลอนดอน อยู่เมืองรอบๆตามเส้นรถไฟหลักๆเพียบเลย

ความเร่งของการ urbanization ในยุโรปมันไม่ได้เยอะเหมือนประเทศกำลังพัฒนา

ญี่ปุ่น เกาหลีนี่มันพื้นที่น้อย คนเยอะ ก็ต้องไปแนวสูง

ดีซี ไม่ต้องพูดถึง เป็นหน่วยงานราชการอย่างเดียว แถมประเทศพื้นที่เยอะมาก

มีสิครับ ทำไมจะไม่มี มันเป็นผังเมือง Modern Urban Planning ที่สุดแล้ว
ของเมกานะ ตามที่เม้นบนๆบอกเลยครับ คือเค้ากระจายความเจริญ
ทุกรัฐ จะมี downtown ตัวเมืองเป็นแหล่งงานให้คนเข้ามาทำงานในเมืองกัน
เลิกงานก็กลับบ้าน อาจจะอยู่ใกล้ ตัวเมืองรึอยู่ชานเมืองก็ได้

ถ้าเป็นเมืองจัดๆ อย่าง NY คือการพัฒนาผังพี่แกร คือพัฒนาแนวตั้งเลยด้วยซ้ำ
ตึกสูงเพียบ และอีกอย่างมีการแบ่งโซนนิ่งอย่างชัดเจน ตั้งแต่สร้างประเทศใหม่
โดยการแบ่งนี่ตั้งแต่สมัยค้าทาสใหม่ๆ เป็นแบบ Segregation กรุงเทพก็เป็นแบบนั้น
แบ่งตามรูปแบบการปกครองที่ดิน รวมถึงชาติพันธุ์กันเลยทีเดียว ตามปวศ

แต่ยุคนี้การแบ่งโซนมันเริ่มซับซ้อนมากขึ้น พื้นที่เชิง Mixed used มีมากขึ้น
เช่นโซนแบบ SOHO, Williamsburg ที่เป็น Commercial Zone รวมกับที่พักอาศัย
รวมกับร้านค้า รวมกับแหล่งงาน ตึกมันจะไม่สูงขนาดนั้น มันจะสูงขนาดกลางๆ หรือไม่ก็เป็นตึกแนวราบ
เมืองสมัยใหม่จะเป็นทรงๆนี้กันหมด รวมทั้งในอนคตก็มาทรงนี้กัน มิ้กยูซกันกระจุย
แต่ที่จะแพงขึ้นหลายสิบเท่า แต่เค้าจะทดแทนด้วยถ้าคุณไม่มีเงินพอที่จะอยู่แถวนี้
ก็มาใช้ Urban public space อะไรของตัวเมืองได้ ก็ยังดี บางเมืองเดินยาวๆเลยยังได้
สรุปง่ายๆคือผังเมือง ของเมกาหรือยุโรป มีการจัดโซนนิ่ง ที่ค่อนข้างเป็นระเบียบ กันมานานมาแล้ว

ลอนดอน ตึกสูงไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวครับ แถบ canary whalf มีตึกสำนักงานสูงหลายตึกอยู่ สวยด้วย ติดแม่น้ำ
ผมไป greenwich นั่งรถไฟผ่านประจำ