เห็น tesla model Y รุ่นใหม่สวยดีครับ ราคาก็คงต้องเก็บตังค์พอควร (อีกสัก 4 ปี) ลองกดคลิ๊กเลือกดูมาสะดุดตามว่า ดอกเบี้ยรถ EV เช่าซื้อนี่แพงเอาเรื่องเลยนะ ไหนจะประกันอีก โห... กลายเป็นว่า อาจต้องลองมอง EV ค่ายจีนบ้าง เลยอยากถามท่านที่ใช้รถ EV ค่ายจีนไว้เผื่อตัดสินใจ

1. ใช้รถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร
2. ตอนซื้อดอกเบี้ยเช่าซื้อแพงมากกว่ารถน้ำมันไหม
3. ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา พวกประกัน ค่าซ่อม หรืออุบัติเหตุ หนักมากไหม
4. คิดว่าค่าย EV จีนคุ้มค่าไหม หรือถ้าย้อนกลับไปได้จะยังซื้อ EV จีนอยู่รึเปล่า

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

1. BYD Sealion7

2. ซื้อสด Early bird

3.พึ่งขับมาได้ 7000 โลครับ ยังตอบอะไรมากไม่ได้ ยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ประกันตกประมาณ 3หมื่นบาท

เคยเคลม 1 ครั้ง ขาจอHUDหัก (ไม่รู้ว่าหัก แต่ตอนเอาเข้าเช็คเห็นในกลุ่มบอกว่า ให้ลองเช็คดู เป็นหลายคัน

เลยบอกให้ช่างเช็ค)

เอารถเข้าวันเสาร์ ศูนย์แจ้งว่า ส่วนเบิกอะไหล่ทำการวันจันทร์

วันจันทร์ศูนย์โทรมา บอกให้เอารถเข้ามาทำได้วันพฤ-ศุกร์

วันพฤหัสเอารถเข้า ศุกร์ได้รถคืน สรุปรอเคลมได้ภายใน 5 วันทำการ

3.2 ค่าใช้เรื่องน้ำมัน ผมขับรถวันละ 60 โล + + แต่ก่อนค่าน้ำมัน(E20) 8000 + + ต่อเดือน ค่าไฟ 4XXX

เปลี่ยนหม้อเป็น TOU ตอนซื้อรถ สรุปคือ ค่าน้ำมันหายไปเลย ค่าไฟเท่าเดิม

4.ส่วนตัวในCondition ที่ผมใช้อยู่ ถือว่าคุ้ม ย้อนไปได้คงซื้ออีกแน่นอน

ซึ่ง Condition ที่ว่า

1.ผมมีรถหลายคัน

2.ผมสะดวกชาร์จที่บ้าน ตลอด (ซื้อรถมา ยังไม่เคยชาร์จ DC เลยซักครั้ง)

สุดท้าย

1.จะแนะนำให้คนอื่นซื้อไม่ ก็ตอบว่าไม่ครับ ตั้งแต่ซื้อรถไฟฟ้าเจ๊กมาใช้ น้ำหนักการคุย

เรื่องรถกับคนอื่นเหมือนเป็นชนชั้นจัณฑาล ไม่สามารถคุยในหลายเรื่องด้วยเหตุผลได้

ไม่มีน้ำหนักในเหตุผลเพราะขับรถเจ๊ก ไม่อยากแนะนำให้คนอื่นต้องรับภาระทางจิตใจกับการออกรถ

2.ผมขับอยู่ 3 ยี่ห้อ ปัจจุบัน ถ้าใครถามเรื่องรถผมแนะนำให้ไป Toyota หมด

ไม่มีอะไรดีเท่ากับการมีรถที่อยู่ด้วยและสบายใจ ที่สุดแล้ว เป็นรถที่แนะนำไปแล้วจะเป็นผลดีทั้งคนแนะนำและ

คนขับ

3.ตัว BYD เอง เคสเคลมนานรออะไหล่ เป็นเรื่องจริงที่ มีให้เห็นเต็มไปหมดไม่มีอะไรให้อวย

จะพูดว่ารถดี คงพูดได้แค่เพราะโชคดีที่ยังไม่พัง

เพราะรถมันจะโอเคแค่ไหนถ้าเป็นรถเจ๊กในinternet นับเป็นเศษเหล็กใส่ถ่านวิ่งได้เสมอ

1. BYD Sealion7

2. ซื้อสด Early bird

3.พึ่งขับมาได้ 7000 โลครับ ยังตอบอะไรมากไม่ได้ ยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ประกันตกประมาณ 3หมื่นบาท

เคยเคลม 1 ครั้ง ขาจอHUDหัก (ไม่รู้ว่าหัก แต่ตอนเอาเข้าเช็คเห็นในกลุ่มบอกว่า ให้ลองเช็คดู เป็นหลายคัน

เลยบอกให้ช่างเช็ค)

เอารถเข้าวันเสาร์ ศูนย์แจ้งว่า ส่วนเบิกอะไหล่ทำการวันจันทร์

วันจันทร์ศูนย์โทรมา บอกให้เอารถเข้ามาทำได้วันพฤ-ศุกร์

วันพฤหัสเอารถเข้า ศุกร์ได้รถคืน สรุปรอเคลมได้ภายใน 5 วันทำการ

3.2 ค่าใช้เรื่องน้ำมัน ผมขับรถวันละ 60 โล + + แต่ก่อนค่าน้ำมัน(E20) 8000 + + ต่อเดือน ค่าไฟ 4XXX

เปลี่ยนหม้อเป็น TOU ตอนซื้อรถ สรุปคือ ค่าน้ำมันหายไปเลย ค่าไฟเท่าเดิม

4.ส่วนตัวในCondition ที่ผมใช้อยู่ ถือว่าคุ้ม ย้อนไปได้คงซื้ออีกแน่นอน

ซึ่ง Condition ที่ว่า

1.ผมมีรถหลายคัน

2.ผมสะดวกชาร์จที่บ้าน ตลอด (ซื้อรถมา ยังไม่เคยชาร์จ DC เลยซักครั้ง)

สุดท้าย

1.จะแนะนำให้คนอื่นซื้อไม่ ก็ตอบว่าไม่ครับ ตั้งแต่ซื้อรถไฟฟ้าเจ๊กมาใช้ น้ำหนักการคุย

เรื่องรถกับคนอื่นเหมือนเป็นชนชั้นจัณฑาล ไม่สามารถคุยในหลายเรื่องด้วยเหตุผลได้

ไม่มีน้ำหนักในเหตุผลเพราะขับรถเจ๊ก ไม่อยากแนะนำให้คนอื่นต้องรับภาระทางจิตใจกับการออกรถ

2.ผมขับอยู่ 3 ยี่ห้อ ปัจจุบัน ถ้าใครถามเรื่องรถผมแนะนำให้ไป Toyota หมด

ไม่มีอะไรดีเท่ากับการมีรถที่อยู่ด้วยและสบายใจ ที่สุดแล้ว เป็นรถที่แนะนำไปแล้วจะเป็นผลดีทั้งคนแนะนำและ

คนขับ

3.ตัว BYD เอง เคสเคลมนานรออะไหล่ เป็นเรื่องจริงที่ มีให้เห็นเต็มไปหมดไม่มีอะไรให้อวย

จะพูดว่ารถดี คงพูดได้แค่เพราะโชคดีที่ยังไม่พัง

เพราะรถมันจะโอเคแค่ไหนถ้าเป็นรถเจ๊กในinternet นับเป็นเศษเหล็กใส่ถ่านวิ่งได้เสมอ

ที่เห็นแว่บๆ Aion Y Plus - Deepal พวก 07 เหมือนจะดอกเบี้ย 0% อยู่นะครับ

ส่วน Tesla ตัว Y เก่า 0% และ 3 HL 0.99% ครับ

1. ใช้รถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร
รถเมีย Ora good cat Ultra
2. ตอนซื้อดอกเบี้ยเช่าซื้อแพงมากกว่ารถน้ำมันไหม
เมียผมให้แม่กู้สหกรณ์มาซื้อสดเลย จ่ายสหกรณ์คืนเอาดอกเบี้ยคงที่ต่ำมาก
3. ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา พวกประกัน ค่าซ่อม หรืออุบัติเหตุ หนักมากไหม
ประกันแพงจริง แต่รถยังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยตอนนี้
4. คิดว่าค่าย EV จีนคุ้มค่าไหม หรือถ้าย้อนกลับไปได้จะยังซื้อ EV จีนอยู่รึเปล่า
EV มันก็มีแต่เจ๊กหนิครับ เทสล่าก็ไส้ในฝรั่ง ปลอกข้างนอกก็เจ๊กอยู่ดีหนิ มันครองตลาดแล้ว

จะเชียร์ให้คนซื้อรถไฟฟ้าเฉพาะเขามีรถน้ำมันอยุ่แล้วเท่านั้น
แล้วเอารถไฟฟ้ามาเที่ยวใกล้ๆหรือใช้ในชีวิตประจำวัน
หรือว่าถ้าใช้แค่ในชีวิตประจำวัน เอาเล็กๆอย่างน้องง่วงมาเลย สะดวกจัด

รถเมียผมจาก mg3 2016 มารถไฟฟ้า ค่าน้ำมันไปกลับทำงานจากเดือนละ 3,500 เหลือเดือนละ 400
ไปกรุงเทพ ไปเชียงใหม่เหลือ 400 กว่าบาท แบบไปกลับนะ ต้นทางพิดโลก

เวลาเดินทางมันจะบวกเวลาเพิ่มเอา อาจชาร์จ 1 จุด 40 นาที ก็บวกไป
แลกกับค่าน้ำมัน 500-1,000

ตอนนี้เมียผมเอะอะเอารถไฟฟ้าออกอย่างเดียว เมื่อก่อนยังมาติดผมแว้นไปในเมืองไง
ตอนนี้รถไฟฟ้าโลละเกือบบาท ก็ยังประหยัดกว่ามอไซค์อยู่อีก แถมแอร์เย็น ไม่เปียกฝน ใส่ของได้เยอะ

พึ่งถอย AION V มาครับ
ดอก 1.88 ดาว25%

ค่าใช้จ่ายปีแรกฟรีค่าประกัน ปีต่อไปน่าจะประมาณ20000+

ตอนนี้ใช้มาเดือนกว่า โอเคดีทุกอย่างครับ ชอบมาก
จุดประสงค์หลักคือ ผมมีลูกเล็ก ต้องจอดรอในรถนานๆ เช่นป้อนข้าวในรถ ลูกนอนหลับ ระหว่างรอเดินทางกลับบ้าน รถนั่งสบายมากครับ กว้าง โปร่ง เปิดแอร์จอดรอได้เป็นชั่วโมงสบายๆ เหมาะกับรถครอบครัว

ก่อนหน้าใช้รถน้ำมันค่าน้ำมันเดือนละ 6-7พัน
เดือนที่แล้วเสียค่าชาตตามปั๊มเหลือ พันกว่าบาท

รอมาติด วอลชาร์ตที่บ้าน กับเปลี่ยนเป็น TOU น่าจะถูกกว่าเดิมครับ
ถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนรถพอดี เลยออกไฟฟ้ามา คันเดิมไว้เป็นสำรอง


เรื่องบริการหลังการขายต้องมาลุ้นกัน

1. ใช้รถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร
BYD Atto3 ซื้อวันเปิดจองวันแรก (ชาวยอดดอย)
2. ตอนซื้อดอกเบี้ยเช่าซื้อแพงมากกว่ารถน้ำมันไหม
ดอกเบี้ยพอ ๆ กันครับ ผมได้ดอก 2.19% ครับ ผ่อน 5 ปี ไม่ได้ต่างจากรถญี่ปุ่น ตัวที่ดอกปกติมากนัก
3. ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา พวกประกัน ค่าซ่อม หรืออุบัติเหตุ หนักมากไหม
ประกันแพงกว่ารถน้ำมันญี่ปุ่นประมาณ 10-15% ครับ แต่ที่หนักใจคือ พอราคามือ 1 ลด ทุนประกันลดด้วย ในขณะที่เบี้ยไม่ลดตาม
4. คิดว่าค่าย EV จีนคุ้มค่าไหม หรือถ้าย้อนกลับไปได้จะยังซื้อ EV จีนอยู่รึเปล่า
ก็คงซื้อครับ พอขับรถไฟฟ้าแล้ว ชีวิตมันดีอยู่นะครับ ไม่อยากกลับไปขับ ICE แล้ว แต่อาจจะดีเลย์เวลาในการซื้อหน่อย เพราะจะได้ดีลที่ดีกว่า

วิ่งจริงใช้ในเมือง 100% น่าจะได้สักกี่กิโลครับ อัตรากินไฟเป็นยังไงบ้าง

Aion น่าสนใจมาก แต่ติดใจผมอย่างที่เป็นค่ายที่ให้เข้าเช็คระยะบ่อยไปทุก 10,000 โล แล้วไม่แถมซ่อมบำรุงฟรีมาเลย นี่คือขับ 3-4 เดือนต้องเข้าละ

พวกรถไฟฟ้าจริงๆไม่ต้องเข้าบ่อยผมว่าประมาณ BYD กำลังดี 20,000 โล ค่อยเข้า ส่วนของผม Volvo ปีละครั้งรอบละ 30,000 โล

โจทย์ใหญ่คือ ต้องอยู่บ้านที่สามารถติดตั้งwallchartได้ และไม่ใช้เดินทางไกลๆบ่อยมากนัก
ถ้ามีรถสำรองยิ่งดีใหญ่
เรื่องเคลมบางคนก็ว่าช้า บางคนก็ว่าเร็ว
ส่วนตัวรอdolphin minor ไม่เกินปีนี้คับ

1. ใช้รถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร
ส่วนตัว "โลมา" ตัวประกอบไทย / พี่ "แมวดี" รุ่นยอดดอย


2. ตอนซื้อดอกเบี้ยเช่าซื้อแพงมากกว่ารถน้ำมันไหม
ดอกเบี้ยก็ตามปกติ ที่น้ำมันถูกกว่าส่วนใหญ่เป็นลิสซิ่งของค่ายรถ เลยทำเรทดอกเบี้ยดีกว่า

3. ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา พวกประกัน ค่าซ่อม หรืออุบัติเหตุ หนักมากไหม
ประกัน 2 หมื่นกว่า แพงกว่าน้ำมันนิดหน่อย แต่ถ้าเทียบ segment เดียวกันอย่าง เอทีฟ ตัวท็อป ของตัวเองอีกคัน กับ วิริยะ ก็ 2 หมื่นกว่าเหมือนกัน แต่โลมาแพงกว่า 3 พัน

ยังไม่เคยเคลม อุบัติเหตุ ส่วนเคลมเท่าที่ดูในกลุ่ม มีทั้งช้าและเร็ว ขึ้นอยู่กับดีลเลอร์จริงๆ


4. คิดว่าค่าย EV จีนคุ้มค่าไหม หรือถ้าย้อนกลับไปได้จะยังซื้อ EV จีนอยู่รึเปล่า
คุ้มครับ ประหยัดไปได้เยอะ ยิ่งมี PT-EV max ไปกลับลำปางเชียงใหม่ ผมแค่ 19 บาทเอง

ผมมีรถ3คัน
1.Vios 2012
คันนี้เน้นวิ่งงานปรับจูนประหยัดน้ำมันสุดๆ
2. JAZZ 2015 ตัวนี้รถหลักใช้ออกงาน
3.City 2015 ตัวนี้เน้นจอดเพราะเปลืองน้ำมัน ไม่ได้แต่ง

ตอนนี้ว่าจะขาย ซิตี้ไปออก Atto3 มีแต่คนบอกคิดดีๆจนลังเลเพราะอยู่คอนโดไม่มีที่ชาร์ตด้วย แต่รถน้ำมันผมเป็นเซกเมนท์เดียวกันหมดเลย ไม่เข้าใจว่าตอนนั้นคิดอะไรออกรุ่นใกล้กันขนาดนี้
ส่วนรถน้ำมันคงเก็บไว้เป็นตัวเลือกตอนออกต่างจังหวัด

ผมวิ่งในเมืองเป็นหลัก มีออกต่างอำเภอบ้างได้ประมาณเกิน 400กว่าๆครับ อัตรากินไฟผม 14.5-15 kwh/100km ครับ เพราะผมเปิด mode สบายด้วย ไม่ใช้โหมดประหยัดเลยครับ มันขับไม่สมูท
ถ้าเปิดคงได้ระยะคืนมาอีกพอสมควร
ส่วนเข้าศูนย์ยังไม่ได้เข้าเลยครับพี่งได้พันกว่ากิโล เดี่ยวรอรอบ3เดือน 5000กิโลครับ