ถ้าท่านเป็นผจก.ทีม ถามหน่อยครับ
ท่านจะไปซื้อนักเตะมาเพิ่มอีก แล้วท่านบอกนักเตะว่า ตอนนี้ทีมมีตัวเกินโควต้าลงสนามแล้วนะ ถ้าย้ายมา อาจจะให้อยู่ทีมสำรองไปก่อน จนกว่าจะมีตัวเจ็บ ถึงจะได้เข้ามาในทีมนะอย่างนี้เหรอ

แล้วท่านคิดว่าจะบอกนักเตะว่า เดี๋ยวไว้รอท้ายๆ ฤดูกาลพอตัวเริ่มเจ็บ เดี๋ยวคุณก็จะได้มาอยู่ในทีมอย่างงี้เหรอ

พวกเราเป็นแฟนบอล เราบอกทีมว่า ซื้อๆ มาเหอะ เหลือดีกว่าขาด
แต่คนเป็นผู้จัดการทีม เขาต้องบริหารนักเตะ ทำให้นักเตะทุกคนในทีมมีความสุขด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะให้ทุกคนได้เล่นได้ลงสนาม ไม่งั้นมันก็มีปัญหาในห้องแต่งตัว ต้องรับมือกับความรู้สึกของนักเตะอีก
ขนาดมี 23 คน ปีนี้เวลาประกาศชื่อนักเตะมา ยังมีคนถามว่าอ้าว เคียซ่าหายไป
อ้าวเอนโดละ ซิมิคาสเจ็บเหรอ เอลเลียตหายไปไหน
พวกนี้เคยไม่อยู่ในทีม เพราะทีมเต็มทั้งที่ไม่เจ็บ แต่ต้องลงไปเล่นทีมสำรองมาแล้วทั้งนั้น

แล้วเรื่องนักเตะดาวรุ่่ง ถ้าท่านไม่ให้โอกาสเลย แล้วบอกว่าไว้ใจไม่ได้
งั้นสโมสรก็ไม่ต้องมีดาวรุ่งแล้วแหละครับ ถ้าไม่มีใครได้รับโอกาสให้ลงเล่น
ถ้าทุกปี สโมสรซื้อตัวมาเต็มโควต้าหมด ขนาดพวกที่ซื้อมา ยังไม่มีโอกาสอยู่ในทีมชุดใหญ่ทุกคน
แล้วคุณให้โค้ชเด็กบอกนักเตะดาวรุ่งว่าไงครับ
บอกให้เขาตั้งใจซ้อมนะ แต่พวกคุณไม่มีที่ให้ลงหรอก เพราะตัวชุดใหญ่ที่ซื้อมา ยังแย่งกันลงอยู่เลย

คือหลายคนคิดแบบคนไม่ได้บริหารทีม ไม่ได้คุมซ้อม ไม่ได้เลือกนักเตะลง ไม่ได้เป็นคนเดินไปบอกนักเตะว่า คุณไม่ได้อยู่ในทีมนะ ไม่ได้เป็นคนไปจูงใจนักเตะให้ย้ายทีมมา แต่ไม่การันตีนะว่าคุณจะได้อยู่ทีมชุดใหญ่ไหม
หลายคนคิดแบบแค่แฟนบอล ที่ซื้อๆ มาเถอะ ไม่ใช่เงินเรา เหลือดีกว่าขาด
บริหารทีมมันไม่ได้เรื่องง่ายๆ ขนาดนั้นนะครับ

ขนาดเชลซีทุ่มซื้อตัวมาเพียบ ยังต้องปล่อยยืมออกไป เพื่อให้นักเตะได้ลงเล่น ไม่งั้นอยู่ก็ไม่มีความสุข กลายเป็นปัญหาบรรยากาศในทีมไม่ดีอีก

เหมือนจะพอนะครับ แต่สำหรับผมควรมีนักเตะให้พร้อมใช้มากกว่านี้ครับ(อย่างน้อยอีก1-2คน ในตำแหน่งกองหลัง+ปีกขวาธรรมชาติ) ยิ่งทุกวันนี้มีโปรแกรมเตะ4ถ้วย UCLเตะเพิ่มมาอีกอย่างน้อย2นัด ถ้าซวยก็4นัด ไหนจะโปรแกรมทีมชาติอีก ผมมองว่าทีมควรมีนักเตะที่โรเตชั่นได้มากกว่าปัจจุบันครับ

ถ้ามี23คน แล้วไม่มีใครเจ็บแบบที่ท่านว่าเลยก็คงดีนะครับ ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ ไม่ต้องซื้อก็ได้ครับ

ส่วนดาวรุ่ง ปีนี้น่าจะเห็นแล้วนะครับว่ายังไม่มีใครดีพอที่จะขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ แบรดลีย์ฟอร์มดี ใช่ ผมไม่เถียง แต่ถ้าเจ็บออดๆแอดๆก็เท่านั้นครับ ส่วนควอนซ่าห์+จุก ออกทะเลเมดิเตอเรเนียนไปนานละครับ

ใช่ครับ ผมเป็นแค่แฟนบอล แต่แนวทางการซื้อตัวหรือบริหารการจัดการมันควรดีกว่านี้ครับ

ถ้าไม่ถูกใจท่าน ขออภัยไว้ด้วยครับ

แค่ซื้อตัว+ค่าเหนื่อย
ที่เหลือน่าด่าที่ไหน
ขยายสนาม ย้ายสนามซ้อม

ถ้าห่วย ขอขยายความแบบผบห.แมนยู

สนามใหญ่ facilities ดีหมด แต่ทีมไม่เคยประสบความสำเร็จอะไร มูลค่ามันก็ลดลงเองล่ะ ปีหน้านี่ล่ะมาดูฝีมือทีมงานที่แกหามาทั้งหมดจะทำให้ทีมไปอยู่ตรงไหน

คือแบบ มันเหมือนว่า ดูจากเอกสารสถิติแล้วมันจะเป็นไปตามนั้น แสดงว่าไม่ควรให้สัญญาที่นักเตะพอใจได้
เพราะตามสถิตินั่นคือเล่นไม่ดีแน่นอน โดยไม่สนใจอะไรเลยนอกจากตัวเลขสถิติตามอายุ

แต่ผมมองว่ามันก็น่าจะให้ได้แหละ สัญญาฉบับสุดท้ายในอาชีพ ไม่ใช่สัญญายาว 4 ปี
แค่ 2-3 ปี มันก็เหมือนเป็นของขวัญตอบแทนจากสโมสรแหละ

ไม่ใช่แค่โมนะ ผมกำลังพูดถึงพวกนักเตะซีเนียร์หลายๆคน

จากสถิติข้างบนคือแบบพออายุ 32 แล้วคือ พอแล้วทิ้งไปได้เลย

แล้วหันมาฝั่งคู่แข่งอย่าง ซิตี้

ตอนยุคที่แล้ว พวกนักเตะแบบ ดาวิด ซิลบา ยายา ตูเร่ แวงซอง คอมปานี พวกนี้ทีมก็พยายามเก็บไว้ให้ไดนานที่สุด ด้วยสัญญาที่นักเตะจะพอใจมากที่สุดเท่าที่ศักยภาพเค้ายังไหว ซึ่งแต่ละคนก็ตอบแทนสัญญาอย่างเต็มที่ จนถึงวันที่พวกเค้าตัดสินใจที่จะถอยไปเอง

ในขณะที่ทางเรา อายุเกิน เสี่ยง ไม่ต่อ พร้อมปล่อย แม้ฟอร์มจะดีโคตรๆก็เถอะ

ไม่ต้องขออภัยผมหรอกครับ เราแฟนบอลรักสโมสรด้วยกันทั้งคู่ แค่เห็นแตกต่างกัน และท่านกับผมก็คุยกันดีๆ
ผมแค่อยากอธิบายในมุมว่า เวลาบริหารจัดการทีมมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะครับ ไม่ใช่แค่ซื้อตัวมาเยอะๆ ก็ได้เปรียบแล้ว
ถ้าพูดอะไรเกินเลย ก็ขออภัยเช่นกันครับ

ผมชอบนะ
ไม่ชอบพวกประธานสโมสรที่ทุ่มเงินเยอะๆ หาช่องช่องทางกฎการเงินเอาเงินมาทุ่มหรือมาฟอก
ชอบสโมสรที่ใช้เงินสมเหตุสมผลมากกว่า

มันไม่ใช่ทิ้งไปเลยหรอกครับ ถ้าผลงานถึง มันก็มีเหตุผลให้ต่ออยู่
เพียงแต่ว่าเงื่อนไขมันก็จะเปลี่ยนไป โดยเงินที่ได้ อัตราส่วนของแบบตายตัวจะน้อยลง เงินจะไปอยู่ในส่วนตามผลงานมากขึ้น จำนวนปีในสัญญาก็จะน้อยลง ส่วนเรื่องการลงเล่น ไม่แน่ใจว่าจะมีเงื่อนไขการันตีไหม

สรุป คือ อายุมากขึ้น ต้องได้สัญญาจำนวนปีน้อยลง และอัตราส่วนเงินตายตัว กับ ตามผลงาน จะเปลี่ยนไปตามผลงานมากขึ้น

มองมุมแฟนบอล - ให้ ๆ ไปเถอะ ถือว่าตอบแทนที่ทำผลงานดี ๆ กันมาหลายปี
แต่พอให้ไปแล้ว ถ้าฟอร์มตกเมื่อไร ผลกระทบเกิด เพราะตัวที่มาแทนเป็นเกรดตัวสำรอง ที่ยังไม่พร้อมแทนจริงจัง (จ้างตัวเก่าแพง ตัวใหม่ที่จะซื้อก็ยากที่จะเป็นเกรดตัวจริง)

พอถึงตอนนั้นก็จะมีพวกมาด่า ไอ้บัง อย่างโน้นอย่างนี้

ยังมีคนคิดว่าพวกที่ด่าบอร์ดนี่คือพวกที่อยากให้ทุ่มไม่อั้นทุกตลาดอีกหรอวะ

แค่ต่อยอดอย่างที่ควรจะเป็นในขณะที่ทีมอยู่ระดับที่ดีแค่นั้นที่เค้าบ่น

ไม่ใช่ก่อนตลาดเปิด pr ระเบิดคลัง ปิดตลาดเงียบกริบเหมือนเดิมกี่รอบละมุกนี้

หลังๆนี่ไม่คาดหวัง ยังผิดหวังเลยเรื่องลงตลาดนักเตะหลังคว้าแชมป์เมเจอร์มาทั้งหมด

แบนาโด้ปีนี้เพิ่งจะ 31 เอง ซึ่งฟอร์มก็หดหายไป ถ้าเทียบกับช่วงพีคเมื่อ 2-3 ปีก่อน
วอคเกอร์ที่ปล่อยออก ตอนอายุ 33
ดาวิด ซิลบา ปล่อยออก ตอนอายุ 34
ยาย่า ปล่อยออกตอน 34
กอมปานี ปล่อยออกตอน 33

หรือแม่แต่ KDB ที่ยังไม่ได้สัญญา ตอนนี้อายุ 33

เทียบกับเราก็ได้ครับ

VVD ตอนนี้อายุ 33
Mo ตอนนี้อายุ 32

ผมไม่มีปัญหาหรอกจะต่อไม่ต่อน่ะ แต่ด้วยเหตุผลที่อธิบายมา มันก็ฟังได้ นี่ตัวที่ท่านยกตัวอย่างมา ออกจากเรือด้วยอายุประมาณนี้กันหมดเลย

VVD อาจจะดีหน่อย เป็น CB ไม่ได้ใช้ร่างกายเยอะคนอื่น แต่กอมปานีก็ไปตอนอายุเท่ากัน เห็นไหมฮะ

VVD MO อยากอยู่ต่อ ดีอยู่ละครับ แต่ในเมื่อหลายๆปัจจัยบ่งบอกว่า ศักยภาพอาจจะไม่เท่าเดิม ทำไมถึงควรจ่ายเงินด้วยราคา Prime เหมือนเดิม นั้นต่างหากที่ตกลงกันไม่ได้ ไม่ใช่สโมสรไม่อยากต่อ แต่มันต้องไม่ใช่ต่อสัญญาทุกราคาที่นักเตะเรียก ก็เท่านั้นครับ

ไม่งั้นไม่มีข่าวคุยกันต่อถึงตอนนี้หรอกครับ อยากปล่อยจริงปล่อยเงียบแบบ ดุม มาเน่ ฟีมีโน่ก็ได้

เกือบห่วย แต่โชคดีเลือกโค้ชมาได้ดี เลยได้โค้ชแบกซะ
Jk หลายปีที่ผ่านมาวางรากฐานไว้ส่วนนึง
คอนดูก่อน เมื่อไม่มี3ตัวหลักที่ปล่อนหมดสัญญา ทีมจะเป็นไงต่อ
ถ้ายังอยุ่ระดับบน ผมจะยอมรับว่าเค้าของจริงเครื่องบริหาร

ถ้าแยกมาเป็นนโยบายย่อยๆ จะไม่ค่อยชอบนั้นนี้เยอะ แต่รวมๆก้อดีแหละ นี้พูดแบบแฟร์กะเขานะ เพราะผมก้อด่าเยอะเรื่องไม่ยอมต่อยอดความสำเร็จ ได้แชมป์ทีหยุดที แม่ม โครตจะเบื่อ ไปให้สุดทางสายรุ้งก้อไม่ได้ ต้องคอยสร้างใหม่ ได้แชมป์ ห่วย สร้างใหม่ ได้แชมป์ ห่วย วนเป็นลูป

คือยังไงดีครับ ที่ผมยกทางเรือมาคือพวกนั้นเค้าเลือกไม่ต่อสัญญาเอง โดยที่ทีมพยายามรั้งแล้ว แม้ฟอร์มจะไม่ดีมาก ก็พยายามรั้งไว้

เรื่องอายุเป็นประเด็นรองไม่ใช่ประเด็นหลักครับ แต่เป็นเรื่องฟอมครับ ที่ทำให้พวกนั้นเค้าเลือกที่ไม่ต่อ
อย่างพวก ยาย่า กอมปานี ดาวิด ซิลวา พวกนี้ทีมก็ยังอยากจะให้ต่อไปอีกด้วยซ้ำ โดยไม่มีเรื่องลดค่าเหนือยมาเป็นประเด็นเลยด้วยซ้ำ

แต่ของเรา ทั้งโม ทั้งฟานไดจ์ ฟอร์มกำลังดีทั้งสองคน แต่เราเลือกที่จะทำแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตฟอร์มจะดีหรือไม่ดี ฉะนั้นจะให้จ่ายด้วยเรทสูงสุดได้ยังไง แล้วทีมเราก็ควรเสียนักเตะระดับนี้ไปเพราะแบบนี้เหรอครับ

ผมไม่ได้บอกนักเตะผิดไม่ผิด ทุกคนต่อรองได้หมดแหละครับ

นักเตะก็คิดว่าฟอร์มดีต่อเนื่องได้ สโมสรก็มีสิทธิ์คิดในมุมความเสี่ยงของสโมสร เพราะงั้นถึงต้องมีการคุยกันไงครับ หาตรงกลางให้ได้ หาไม่ได้ก็แยกย้าย

เจ้าของอาจจะยื่นสัญญาโง่ๆให้บังก็ได้ 5 หมื่นต่อสัปดาห์ หรือ เจ้าของยื่นสัญญาเท่าเดิมให้ก็ได้แต่บังไม่พอใจ เพราะฟอร์มดี และ คิดว่าควรได้มากกว่านี้ จึงเกิดการต่อรองกัน

แค่บอกว่า สิ่งที่ผมแปะไปมันอาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าของคิดซึ่งมันใช้สถิติตัวเลขมาคำนวน แทน ความรู้สึกแบบเราๆ ผมว่าสิ่งที่เจ้าของมันกลัวที่สุดคือเป็นแบบ โอบา โอซิล อเล็กซิส ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็เตรียมแบกค่าเหนื่อยไปตามระยะสัญญา และ มันจะปรับปรุงทีมได้ยากในอนาคต --> และ เราก็จะด่าเจ้าของอยู่ดีว่า ไม่เตรียมตัว