[RE: มารัตไม่ได้มาชั่ง ชาตรีรู้ได้ไงเกินมา300]
เซย์มายเนม พิมพ์ว่า:
ประตูขึ้นนำ พิมพ์ว่า:
เซย์มายเนม พิมพ์ว่า:
ไม่ต้องใช้ตรรกะอะไรเลย เอาง่ายๆแค่ไปพูดด่าคนทำถูกต้องตามกติกามันก็ไม่ใช่แล้ว
ผมว่า แล้วแต่มุมมองนะครับ
ถ้ามองในฐานะนักกีฬา ก็ตามที่ท่านว่าเลย
ถูกต้องตามกฎกติกา ก็เรื่องนึง
แต่หัวใจนักสู้ ก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ
และจากที่ผมเคยฟังคุณชาตรีพูดส่วนตัวหรือพูดเป็นหมูคณะกับนักสู้ของเค้า
เค้าเน้นหัวจิตหัวใจ
เค้าต้องการส่งเสริมคนที่มีหัวจิตหัวใจนักสู้ให้กลายเป็นบุคคลระดับตำนาน
ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเป็นที่น่าจดจำไปอีกหลายสิบปี
"กฎกติกามารยาท เป็นเรื่องรอง"
ซึ่งด้วยค่านิยมแบบนี้ ผมไม่แปลกใจที่เค้าจะโจมตีไคโตะครับ
สมมติเล่นๆ ในอนาคตมีนักมวยระดับฟลอย เมเธอเวท โผล่ขึ้นมา แต่สู้ไม่สมศักดิ์ศรี เน้นผลมากเกินไป ผมว่าคุณชาตรีแกก็คงไม่ปลื้มนะ วิธีคิดและค่านิยมของแกถือเป็นคนส่วนน้อยพอสมควรครับ
ผมมองแบบชาวบ้านๆเลยนะครับ คือถ้าไคโตะใจไม่สู้ กลัวหรือไม่กล้าต่อย
การประกบคู่มันจะไม่เกิดขึันแต่แรกหรือเปล่าครับ
ถ้ามารัตทำน้ำหนักได้ตามกติกาไคโตะก็ต้องต่อยถูกไหมครับ
ดังนั้นที่ไฟต์นี้ไม่เกิดขึ้นเป็นเพราะไคโตะไม่มีหัวใจนักสู้หรือเพราะมารัตทำน้ำหนักไม่ผ่านกันแน่
การที่ชาตรีออกมาพูดโจมตีไคโตะแบบนี้มันจึงไม่สมควร ไม่ถูกต้อง
ไฟต์ไม่เกิดถ้าจะด่าควรด่ามารัตถึงจะถูกต้อง
ผมไม่ได้จะเถียงอะไรกับท่านนะ
เพราะมันขึ้นอยู่ว่าท่านยืนตรงไหน มองมุมไหน ?
ผมเพียงถือป้ายบอกทาง
ถ้ามองในมุมมองของกีฬา ท่านพูดถูก
ถ้ามองตามกฎกติกามารยาท ท่านก็พูดถูก
ถ้ามองแบบคิดคำนวณ ว่าใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ ท่านก็พูดถูก
ถ้ามองตามคนส่วนใหญ่ ท่านก็ถูก
แต่หากท่านมองในมุม Fighter มองในมุมจิตวิญญาณการต่อสู้
ท่านอาจจะเห็นต่างออกไปก็ได้ครับ
ส่วนตัวผม มองว่า ONE และคุณชาตรี จุดยืนแบรนด์เค้าชัดเจนครับ
(เหมือนที่ apple ในยุค Steve Jobs เน้นคิดต่าง เน้นความเรียบง่าย)
เป็นแบรนด์ที่เชิดชูศิลปะการต่อสู้ เชิดชูคนที่เป็นนักสู้
ฉะนั้น ความเป็นนักสู้จึงมาก่อนสิ่งอื่นใด ส่วนกฎกติกามารยาทเป็นลำดับถัดๆไปครับ
ดูได้จาก เงินรางวัลและคำยกย่อง (และคำตำหนิ)
จะเห็นว่าเงินรางวัลต่างๆ มาจากผลรวมของการต่อสู้เป็นหลัก ไม่ได้มาจากผลแพ้ชนะส่วนตัวเป็นหลัก