ย้อนรอย ดิว อริสรา เคยถ่ายคลิปตบรุ่นน้องสมัยมัธยม
กลายเป็นเรื่องทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ อยู่พักใหญ่ สำหรับคลิปหลุดที่มีการระบุว่าเป็นนางร้ายหน้าใหม่ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” หวานใจของนักร้องวัยโจ๋ “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ระหว่างเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯ ที่ไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทตบตีกับรุ่นน้อง ถึงขนาดกระชากหัวโขกกำแพง และบังคับให้อีกฝ่ายก้มกราบที่เท้า ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวอย่าง “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์” ก็ได้ออกมายอมรับว่า คลิปดังกล่าวเป็นสาวดิวตัวจริง โดยส่วนตัวดูแล้วรู้สึกมันส์ เป็นเรื่องตบตีของเด็กๆที่ดูแล้วสนุกสนาน
ล่าสุดทางดาราสาวได้ยอมออกมาเปิดใจ ถึงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเองแล้วเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ในงานเลี้ยงฉลองปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง “After School” ที่ร้านชูก้าร์ บีท บริเวณเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยเจ้าตัวเผยว่าเป็นการทะเลาะกันด้วยอารมณ์ของเด็กๆ เปล่าตบตีเพราะแย่งผู้ชายหรือสาวหล่อ
“คลิปที่ออกมาเป็นเรื่องจริง เป็นตัวดิวเองตั้งแต่สมัยอายุ 15 เหตุการณ์ในวันนั้นมาจากเรื่องของเด็กๆ ที่พูดจาไม่เข้าหูกัน เลยทะเลาะกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องแย่งผู้ชาย หรือตบกันเพราะแย่งสาวหล่อ ตอนนั้นดิวยังเด็กอยู่ ยังไม่รู้จักสาวหล่อ ยังไม่รู้จักอะไรเลย มันเป็นการตัดสินโดยใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ซึ่งผิดมากๆ ดิวก็รู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป และมีคลิปออกมา”
“ที่บอกให้น้องเขากราบเท้า ดิวยอมรับว่ามันแรง ถามว่าใครเป็นคนตั้งกฎข้อนี้ขึ้นมา ดิวก็ไม่อยากโทษว่าเป็นตัวน้อง หรือเป็นตัวดิว ดิวก็ขอพูดว่าเป็นเราทั้งคู่ละกัน ด้วยความที่เรายังเด็กมาก และด้วยอะไรหลายๆอย่าง ตอนนั้นเราคิดว่าการทะเลาะวิวาท หรือการทำอะไรแบบนี้เป็นทางออกที่ดีแล้ว ก็เลยตัดสินใจทำกัน แต่พอมาวันนี้เรารู้แล้วว่ามันผิดมากๆ ตอนนั้นเราก็ได้รับการลงโทษจากครอบครัว และจากสิ่งรอบข้างแล้ว ดิวมั่นใจว่าจะไม่มีภาพอย่างนี้อีก จะไม่มีการทะเลาะวิวาทอะไรแบบนี้อีกแล้ว ครั้งนั้นจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย ก็ขอทุกคนให้อภัย และให้โอกาสดิวด้วย ดิวรู้สึกสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
“คนที่ถ่ายคลิปนี้ไว้คงเป็นเพื่อนๆ คนนี้ก็ยืนอยู่ด้วย คิดว่าน่าจะเป็นของทั้งสองฝั่ง ดิวไม่โกรธคนที่ปล่อยคลิปออกมาหรอก ดิวไม่อยากโทษว่าใครเป็นคนปล่อย และไม่อยากโทษคนปล่อยด้วย เพราะทั้งหมดคือเราผิดเอง และตัวดิวเองก็ไม่ใช่คนปล่อยเพื่อมาสร้างกระแสอะไรแน่นอน จริงๆคลิปนี้เคยหลุดออกมาแล้วครั้งหนึ่ง หลุดมาช่วงหลังจากมีเรื่องเลย ตอนนั้นเราก็รู้สึกแย่”
รับหลังมีข่าวรู้สึกเครียด กลัวทุกคนไม่ให้อภัย เลยเบี้ยวงานไม่กล้าเจอสื่อ ยันปัจจุบันเป็นคนดี กับรุ่นน้องที่เคยมีเรื่อง ก็มีการขอโทษกันไปเรียบร้อยแล้ว
“พอมันเป็นข่าวออกมา แรกๆยอมรับว่าเครียดมากและเฮิร์ท แต่ไปๆมาๆการที่เราออกมายอมรับ มันยังดีกว่าโกหก เหมือนกับเป็นการโกหกตัวเอง และโกหกคนอื่นด้วย มันเป็นเรื่องที่เราทำจริงๆ ก็ไม่เป็นไร กระแสในอินเตอร์เน็ตมีคนบอกดิวว่าโดนด่าเยอะมาก มันก็สมควรโดนเยอะอยู่แล้วค่ะ เพราะมันไม่ดี ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า มันไม่ดีก็สมควรโดนไป”
“ข่าวที่ออกมามีผลกระทบด้านจิตใจมาก มันทำให้ดิวรู้สึกแย่และเสียใจ ที่แบบว่าเราทำลงไปได้ยังไง แล้วก็ทำกับน้องเขาไปได้ยังไง คือมันรู้สึกผิด หลังจากเกิดเรื่องสักพัก ดิวกับน้องคนนั้นก็ได้ติดต่อกัน ก็มีการขอโทษกันเรียบร้อยแล้ว ทุกวันนี้น้องเขาก็ยังเป็นรุ่นน้อง และยังมีการพูดคุยติดต่อกันอยู่”
“ส่วนผลกระทบเรื่องงาน เท่าที่ได้คุยกับพี่โก้ (โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์) ยังไม่มีผลกระทบอะไรค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ดิวเบี้ยวงาน ตอนนั้นพูดตรงๆว่าเสียใจ เราไม่รู้จะต้องทำยังไง ยังทำตัวไม่ถูก รู้สึกกลัว กลัวทุกคนจะไม่ให้อภัย บางคนอาจคิดว่าเราแรงและร้าย ด้วยความที่หน้าตาเราเป็นแบบนี้ ยิ่งมีคลิปออกมายืนยัน แต่ดิวอยากบอกว่า ตอนนี้ดิวเปลี่ยนไปแล้วค่ะ เราจำวันนั้นไว้เป็นประสบการณ์ มันทำให้เราเปลี่ยนไปเลย เราจะไม่ตัดสินใจอะไรโดยใช้อารมณ์ เหตุผลต้องมาที่หนึ่ง แล้วก็อารมณ์รองลงมา”
แนะเด็กรุ่นใหม่ให้ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าเอาแบบอย่าง เพราะไม่ใช่เรื่องเท่อย่างที่คิด รับเป็นบทเรียนราคาแพง พร้อมขอโทษวอนทุกคนให้อภัย
“ส่วนครอบครัวได้ทำโทษดิวไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เขาให้เราออกจากโรงเรียนที่อยู่เลย ด้วยความที่ดิวเป็นคนรักเพื่อนมาก ออกตัวแทนเพื่อน และมีเรื่องแทนเพื่อนตลอด ทางครอบครัวเลยคิดว่า ถ้ารักเพื่อนมากนักก็จับย้ายโรงเรียนไปเลย คือเด็กวัยรุ่นอาจคิดว่า การตัดสินด้วยการตีกัน ทะเลาะกัน ถ้าฉันชนะเธอแพ้มันเท่ แต่อยากจะบอกไว้เลยว่า ให้ดูไว้เป็นอุทาหรณ์ซะว่ามันแย่ อยากให้ทุกคนเอาไปเป็นข้อคิด ไม่อยากให้เอาไปเป็นแบบอย่าง ถ้าเรื่องของดิวมันเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นได้ก็ดี ดิวรับรู้และสำนึกผิดแล้ว สำนึกมานานตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์นั้นแล้วค่ะ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับดิวมากๆ เชื่อว่าข่าวนี้คงไม่มีวันซา ไม่ว่ายังไงกระแสมันก็ยังคงมีอยู่ แต่ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ มันไม่ออกมาวันนี้ วันหน้าก็ต้องออก และเราต้องออกมายอมรับความจริงว่าเป็นตัวเราอยู่แล้ว สิ่งที่ดิวซีเรียสคือกลัวคนมองเราในแง่ลบไปเลย"
"ด้วยลุคเราเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว แต่มันก็ยังโอเคที่ได้โอกาสออกมาพูด และดิวอยากบอกว่าดิวไม่ได้ออกมาแถลงข่าวนะคะ มีข่าวออกไปว่าดิวจะแถลงข่าว คนก็มองว่าดิวเป็นใครถึงต้องออกมาแถลงข่าว อยากบอกว่าดิวไม่ได้ออกมาแถลงข่าว แต่ดิวออกมาเพราะรู้สึกผิดมากกว่า”
“ดิวก็อยากขอโทษทุกคนด้วย ดิวเสียใจมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วคงไม่ทำมันอีกแล้ว ดิวสำนึกผิดและขอให้ทุกคนให้อภัย และให้โอกาสดิวด้วย เพราะอย่างน้อยเราก็กล้าที่จะยอมรับความจริง กล้าสู้กับสิ่งที่เราทำ ตอนนี้ดิวเริ่มต้นใหม่แล้ว และก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากเลยค่ะ”
เมื่อถามถึงหวานใจ “กอล์ฟ พิชญะ” ว่าอย่างไรบ้างกับคลิปที่ออกมา นักแสดงสาวเผยฝ่ายชายให้กำลังใจดีมาตลอด บอกเป็นเรื่องในอดีต ส่วนเรื่องถูกแฟนคลับนักร้องหนุ่มแอนตี้ เจ้าตัวไม่ซีเรียสแต่อย่างใด
“ดิวไม่ทราบว่าแฟนคลับกอล์ฟแอนตี้หรือเปล่า สมมติถ้าเขามองเราแรงก็ไม่เป็นไรค่ะ ดิวไม่ซีเรียส ส่วนตัวกอล์ฟเองก็ไม่ได้ว่าว่าอะไร เขาก็ให้กำลังใจว่าไม่ต้องซีเรียส มันคืออดีตของเรา เราอย่าไปสนใจ โอเคเราออกมายอมรับ เราสำนึกผิดแล้ว ตอนนี้เราเปลี่ยนไปแล้ว กอล์ฟจะให้ดิวยึดติดกับปัจจุบันมากกว่า ส่วนตัวเขาก็ยังเหมือนเดิม ก็ยังให้กำลังใจกันอยู่”
ส่วนภาพหลุดแก้มแนบแก้มกับสาวหล่อ ที่มีรอยสักชื่อเธออยู่ที่บริเวณลำคอ ดิวกล่าวว่าเป็นภาพถ่ายเล่นกันเอง และคงมีคนเอาไปปล่อย ยันสัมพันธ์แค่เพื่อนสนิท บอกอีกฝ่ายรู้สึกไปเองข้างเดียวเลยไปสักชื่อตน
“ภาพที่ออกมาเป็นภาพที่เราถ่ายกันเอง แล้วคงมีคนได้ไปแล้วเอาไปโพส เราสองคนคบกันในลักษณะเพื่อนสนิทค่ะ ก็เหมือนกับกอล์ฟ ก็คือเพื่อนสนิทเหมือนกัน เพียงแต่กับกอล์ฟยังไม่มีถ่ายภาพด้วยกัน เรื่องรอยสักเขาดิวไม่ทราบ อาจเป็นเพราะว่าตอนนั้นเราสนิทกันมาก เขาคงไปสักมา อาจเป็นเรื่องความรู้สึกของเขาที่มีให้เรา แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ตอนนี้ก็คือเพื่อนเหมือนเดิม”
สำหรับเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ปัจจุบันดูสะสวยขึ้น แตกต่างจากในคลิปอย่างเห็นได้ชัด ดาราสาวอ้างเพราะโตขึ้น คอนเฟิร์มไม่เคยพึ่งมีดหมอ แค่ลองฝังเข็มลดหุ่นกับแก้มเท่านั้น
“ถ้าลองไปดูเมื่อ 4 ปีก่อน มันยังเป็นช่วงเบบี้แฟตอยู่ คือถ้าดูทุกคนในช่วงเด็กๆ มันไม่มีใครเหมือนตอนนี้อยู่แล้ว ตอนเด็กหน้ามันจะบวมๆ อ้วนๆ เป็นเบบี้แฟตแก้มป่องๆ แต่พอเราโตมันก็จะผอมลง ตัวเล็กลง ทุกอย่างจะเห็นได้ชัดว่าเราเปลี่ยนไป ดิวยืนยันว่าไม่ได้ไปทำศัลยกรรมอะไรมา แต่อาจจะมีบ้างที่ไปฝังเข็มลดน้ำหนัก ลดแก้ม แล้วจมูกโด่งเลยค่ะ(ฝังเข็มแล้วจมูกโด่งเลยเหรอ) ลองไปหาดูนะคะทำแล้วโด่งจริงๆ มันมีจริงๆ ค่ะ ดิวทำแค่นี้จริงๆ”
เครดิต:
https://mgronline.com/entertainment/detail/9520000105530
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
