กรณีที่จะให้เราคุยงานโดยให้เรารออยู่เย็นหลังเลิกงาน โดยไม่มีการนัดล่วงหน้า และไม่ได้ถามว่าเย็นนี้ติดธุระไหม หรือมันมีหน้าที่พนักงานและลูกน้องที่ต้องแสตนบายเวลาตลอด

ผมคงไม่กล้าพูด

แต่คงอัพเดทเรซูเม่ในลิงอิน, jobdb 555

นอกเวลางานมีค่าโอทีให้ไหม ไม่งั้นก็ร้องเรียนกรมแรงงาน


ปล. เค้าเอาเปรียบเรา ก็หางานใหม่ไปพลางๆละกันถ้าโดนบ่อยๆ

ผมมีโอทีแต่โอทีเอาไปซื้อเครื่องดื่มให้ทีมงาน เหมือนทำฟรี

รีพอร์ทก็ต้องมานั่งทำต่อคนเดียว

ถ้าทำกลางวันคือเข้าเนื้อเต็มๆไม่มีโอทีมาชด

ก็บอกเลยว่าวันนี้มีธุระ ถ้าหัวหน้าดีๆเค้าจะเข้าใจแหละ


เคยเจอคนนึงแม่งทำให้หมดศรัทธาในงานแล้วหาทางออกอย่างเร็วคือให้ช่วยงานด่วนคอนเย็น เราบอกว่าไม่สะดวกต้องไปซื้อยาให้แม่ แม่มบอกให้คนอื่นซื้อแทนไม่ได้หรอ WTF มึงต้องให้คนที่ว่างทำแทนกูไหมวะ

แนะนำ ให้คุย ครับ
ที่ทำงานเก่า หัวหน้าฟอร์มมึน เรียกประชุม,คุยงานก่อนเลิกงาน 15 นาที เกือบทุกวัน(ย้ำว่าเกือบทุกวัน)

ลากยาวเลยเวลา ไปเป็นชั่วโมง ทุกครั้ง(ไม่ได้โอที) แต่ในเวลางาน ไม่เคยเรียกไม่รู้ทำไม

ไม่คิดว่าคนอื่นมีนัด มีอะไรบ้าง ในทีมก็กลัว เกรงใจ ไม่อยากขัดต้องอยู่ร่วมด้วยแทบทุกครั้ง

สุดท้ายผมออก ตอนแจ้งออกบอกพี่เค้าไปว่า 1 เหตุผลคือเรื่องนี้ เค้าสวนมาว่า
ทำไมไม่บอกตอนนั้นว่าไม่สะดวก ต้องทำธุระ นู่นนี่นั่น...

โธ่... มรึงต้องคิดได้เองไหม ว่ามันเหมาะ ไม่เหมาะ ที่มรึงมีธุระเลิกไว ยังบอกว่า กลับก่อนนะมีธุระ
ได้ข่าวหลังจากผมออกก็ยังมีนัดแบบเดิมอยู่ อยากรู้เหตุผลเค้าจริงๆ

คุยเถอะครับ ถ้าคุยไม่รู้เรื่องแจ้ง HR ด้วยยิ่งดี

ผมที่เป็น HR ไม่ชอบหัวหน้าแบบนี้เลยเคยทำผมงานเข้ามาแล้ว
หลายๆเรื่องตัดสินใจเองโดยไม่มาปรึกษาข้อกฏหมาย คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นทำได้ ทำเกินหน้าที่ ลุแก่อำนาจ แล้วอ้างประโยชน์บริษัท
ข้ออ้างที่ขอบพูดกัน บริษัทฯโน้นก็ทำ นี่ก็ทำ

โดนร้องสวัสดิการมาแล้ว ใครโดนเรียกละ HR ซิครับรับจบ

ต้องคุยนะครับ
หัวหน้าผมตอนแรกผมก็ไม่กล้าคุย
พอได้พูดครั้งแรก ต่อมาก็ได้คุยกันกระจาย ทุกเรื่องตั้งแต่สแกนนิ้วเข้ายันสแกนนิ้วออก หรืองานเลี้ยงในวันต่างๆ
อย่างเช่น เดือนนี้ผมขอไม่สแกนนิ้วออกได้มั้ย หัวหน้าก็โอเค แล้วคีย์เวลาออกให้แบบ Manual
เรื่องสแกนนิ้วเข้า ผมก็เลทได้เกือบ 1ชม. หัวหน้าก็ให้
โชคดีด้วยที่หัวหน้าผมเข้าใจและใจดีมากก

ควรคุย

และหางานใหม่เผื่อไว้ด้วยครับ


เพราะการหัวหน้าที่เลือกจะทำแบบนี้ แปลว่าเค้าคิดว่าสิ่งเค้าทำมันถูก นั่นหมายความว่าต่อให้เราพูดไป มันก็อาจจะไม่เวิคอยู่ดี


ถ้าคนที่รู้สึกเกรงใจและเข้าใจคน คงไม่เลือกทำแบบนี้ตั้งแต่แรก

ก็ต้องลองพูดดูครับ แต่เผื่อใจไว้หน่อย

เป็นบ่อยมั้ย
ถ้านานๆ ครั้ง (น้อยกว่า 2-3 ครั้งต่อปี) สำหรับผมไม่เป็นไร

แต่ถ้าเป็นแทบทุกเดือน หรือ ทุกสัปดาห์ ผมก็ไม่ไหว คงหางานใหม่

มีครั้งหนึ่งกำลังจะกลับบ้าน ตอนนั้นจะทุ่มนึงแล้ว
เจ้านายมีเมล์มาจากต่างประเทศ เรียกผมประชุมกันตอนนั้นเลย ทั้งที่ไม่ได้รีบอะไร
ตอนนั้นโกรธครับ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้
ช่วงนึงมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยมาก เพราะเจ้านายผมแกชอบคิดอะไรออกก็ทำ ไม่ค่อยวางแผนอะไรล่วงหน้า

ไม่มีไรทำ แกล้งลูกน้อง บางคนเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง

ประสบการตรงเลย ผมเคยคุยแล้ว

ด้วยความที่ที่ทำงานผมอยู่กันในระบบกันเองจริงๆ ไม่มีHR ไม่มีโอที เวลาสรุปประจำปีก็จะมีฟีลแบบประเมินงานกับเจ้าของโดยตรง ซึ่งมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อย พอประเมินประจำปีเค้าก็ประเมินผม ให้ปรับเรื่องนั้นเรื่องนี้ทั่วๆไป อันไหนดีก็ชม

พอเค้าพูดเสร็จจบแล้วทั้งหมด ผมเลยปิดท้ายด้วยเรื่องที่ผมขอ คือพูดตรงๆไปเลย ก็คือเรื่องนี้แหละ

ผมบอกไปว่าให้อยู่เย็นเกินเวลา ผมไม่ติดอะไรเข้าใจได้ แต่อยากให้บอกล่วงหน้ากับผมหน่อย เพราะมันมีหลายครั้งที่ผมต้องยกเลิกนัด ยกเลิกธุระส่วนตัวของผม เพราะเหตุการณ์แบบนั้น ซึ่งเค้ารับฟังครับและหลังจากนั้นเค้าบอกล่วงหน้าตลอดถ้าจะให้อยู่เกินเวลา

ไม่มีข้อดีเลยเหรอครับ ขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือโบนัสมากขึ้น

หางานใหม่ หรือ ทนเป็นผมไม่พูดครับ เพราะควรคิดเองได้

เคยเหมือนกัน
ให้นั่งรอเพื่อนำเสนองานถึงสองทุ่ม คุยไม่กี่นาที

บอกเลย ไกปูครับ หางานใหม่ภายในไม่กี่เดือน