ผมก้คิดเหมือนกัน มันหนักตรงไหน ไม่ได้มีความแปลกเลย

หนักน่าจะคนเม้น

ใช่เคส ที่ต้องแกะสูตรอาหารอะไรสักอย่างหรือเปล่า แล้วทีนี้ เชฟคนนี้ก็ไม่ทำตามสูตร (ที่ต้องทำตามทั้งการชั่งตวงวัด วัถตุดิบ และวิธีการ) พอเชฟป้อม ไปถาม ก็เหมือนฮึดฮัดใส่ แล้วบอกว่าจะทำตามวิธีของตัวเอง ก่อนที่เชฟป้อม จะบอกว่าให้ออกจากรายการไป(ท้าทาย) แล้วเจ้าตัวก็วางผ้าคลุมแล้วเดินออกเลย ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่สคริปต์แน่นอน เพราะหลังจากนั้น เชฟคนนี้ หายไปเลย

ถ้าตามดูต่อไป​ ต้องมีเอาไปทิ้งถังขยะเลยบ้าง​ สปอยก่อนเลยถ้าแค่นี้คิดว่าหนัก

เอิ่ม ที่ผมบอกว่าหนักเนี่ยมันคือไม่วิจารณ์ครับ
ผมดู Hell Kitchen ของ Gordon Ramsay เค้ายังวิจารณ์ ยังชิม ยังบอกเลยว่าตรงไหนไม่ดี
จานไหนดิบเค้าก็ชิมก่อนแล้ววิจารณ์
ส่วนเรื่องทิ้งขยะนี่ไม่หนักนะ Gordon นี่ปาของใส่ก็มีมาแล้ว แถมด่าหยาบอีก

ส่วนของ masterchief อันนี้ที่หนักคือทำตัวอีโก้ไร้สาระมาก กะอีแค่ชิม วิจารณ์จุดที่มันแย่มันไม่ได้ยากเลย
แต่ทำเก๊กอีโก้เยอะไปงั้น มันดูไม่โปรอ่ะครับถ้าเทียบกับของฝรั่ง
หรือจะเอาตามสคริปก็ควรเขียนบทให้มันดูโปรหน่อย ชอบหาเอาดราม่ามาใส่แบบไม่น่าใส่

ก็ในเมื่อกรรมการดูออกว่ามันดิบ ยังจะให้กินหรอ

สมมติคนทอดไก่แต่มันดิบในแบบกรรมการระดับนี้เค้าดูออก ยังจะให้กินมั้ย

เอิ่ม​ ก็ของไทยมันเป็นแบบนี้เขาก็บอกว่าชิมที่สเตชั่นแล้วนิไม่งั้นไม่รู้ว่ามันดิบหรอก​ เคสแบบนี้ส่วนมากก็เอามาไว้คนสุดท้ายตลอดแล้วก็เดินเข้าไปตลอด

สรุปแล้วคุณต้องการอะไรจากผมนะครับ
ผมยังไม่เข้าใจมาถึงตอนนี้เลย
ช่วยบอกสิ่งที่ต้องการมาหน่อยครับ

ก็ชิมอย่างอื่นไง ของในจานมันไม่ได้มีแต่แป้ง ก็เลือกชิมแล้วบอกว่าแป้งดิบ ส่วนอย่างอื่นโอเคไง
ยากตรงไหนเนี่ย

เค้าไม่ได้ทอดไก่ชิ้นเดียวแล้วเอามาให้ลองซะหน่อย

ผมก็จะบอกของไทยเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมนท์แรกแล้วนะ​ เข้าใจยากแท้​ ถ้าอยากให้เหมือนที่อื่นแล้วเมนท์ในนี้คงไม่ไปถึงกรรมการหรอก

แล้วที่ผมวิจารณ์ว่ามันไม่โปรเหมือนของฝรั่งแล้วมันผิดตรงไหนอ่ะครับ

ก็ผมชอบของฝรั่งมากกว่ามันดูโปรกว่าเลยวิจารณ์แบบนี้

แล้วผมไปบอกตอนไหนว่าอยากให้ของไทยเหมือนของฝรั่ง

ผมว่าคุณอ่ะตีความไปเอง ไม่น่าใช่ผมนะ

หรือสรุปคือคุณต้องการให้ผมบอกว่ารายการนี้คือดีสุดๆ ไม่เหมือนรายการไหนเลย แบบนี้ป่ะครับ จะได้จบๆ

อีโก้ทั้ง สองฝั่ง

ฝั่งเชฟ อาจจะไม่พอใจที่ เห้ยยังไม่ทันกินเลย มาตัดสินแล้ว ว่าดิบ แต่กรรมการก็บอกแล้วลักษณะนี้คือดิบ ซึ่ง เชฟ อาจจะเข้าใจมาตลอดว่าแบบนี้คือสุกแล้วสำหรับเค้า มันกินได้ ไม่ลองชิมก่อนละ แล้วมาตัดสิน

ส่วนกรรมการ ตรงนี้คือ อีโก้ในขอบเขตของกรรมการ คือ เค้ารู้เค้าเห็นเค้าผ่านมาพอสมควร ที่จะบอกว่า นี่คือดิบ เค้าไม่กิน ไม่ชิมเลย เพราะมันไม่ผ่านตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยไม่ต้องชิม มันคืออีโก้ในขอบเขตของกรรมการ ซึ่งตรงนี้ กรรมการไม่ผิดอะไรเลยนะ เหมือนทำอาหารบางอย่างที่เนื้อต้องสุก ถ้าไม่สุก จะฝืนกินทำไม

ในมุมของผม ผมคงกล้าๆกลัวๆที่จะไปกิน ร้านที่ เชฟ คนนี้ทำ เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาด เค้ามีโอกาสที่จะไม่รับ คือมีโอกาสนะ ไม่ใช่เค้าไม่รับแน่ๆ เพราะนี่เป็นเพียงเหตุการ์ณเดียวที่แสดงออกอีโก้ไม่ยอมรับ แต่เพราะอาจจะเพียงแค่อารมโกรธว่ายังไม่ทันชิมแล้วมาตัดสิน ก็เลยพาลไปเรื่องอื่น

เชฟ ทำแบบนี้ ถ้าไม่เก่งจนดังสุดๆไปเลย เป็นเพียงแค่เชฟดังเฉยๆ คนรอซ้ำเยอะนะ เพราะยอมหักไม่ยอมงอ มันมักดึงดูดคนแย่ๆเข้ามาลองของ อยู่ในที่แจ้ง เสียเปรียบ ยกเว้นจะเก่งสุดๆ จนแข็งแกร่งจัดๆ

เค้าชิมก่อนเอาอาหารมาวาง แต่รายการมันตัดออก ส่วนไอ้เห้นว่าแป้งไม่สุกแล้วไม่พูดไรเนี่ย มันก้คลิปรูปแบบเดิมๆ บางเคสมันก้ชิมส่วนอื่น แม้จะชมส่วนอื่น แต่ถ้ามีอะไรไม่สุกมา = ตกรอบหมด ต่อให้อาหารอร่อย ความคิดสร้างสรคืสุดยอดก้ตกรอบ

ส่วนที่ดราม่าก้ไม่เกี่ยวกับชิมไม่ชิม แต่ไมเซฟมันไม่ยอมรับว่าแป้งไม่สุกแค่นั้น

ได้กระแสอยู่นะอีพีนี้

ในแง่ Professional ไม่ควรมีหรอกแป้งดิบ ของดิบ ไอ่เรื่องเขียงก้เหมือนกัน อีกอันก้เรื่องแถ เชฟเคอร์ก็ด้วย

กรรมการก็บอกหวังว่าจานนี้จะสุก คงได้ชิมมาก่อนหน้านี้แล้ว แบบนั้นก็น่าชิมองค์ประกอบอื่นในจานที่เสิร์ฟด้วย วัตถุดิบหลักจริงๆ ก็ แอปเปิล ไม่ใช่แป้ง (แต่ก็มองไม่ออกว่ามีแอปเปิ้ลในองค์ประกอบอื่นมั้ย)

กอร์ดอนมันชิมจริงนะครับ ขนาดมีผู้เข้าแข่งขันใช้มือสดขยำทำครีมมาปาดเค้กเพราะเวลาไม่ทัน กอร์ดอนคือชิมหมดตอนสุดท้ายค่อยด่ารวดเดียวบันเทิงดี

กรรมการมันชิมก่อนเอาอาหารมาวางแล้ว มันถึงตรวจแป้งก่อน มันแค่ใช้สคลิปทำเป้นไม่ชิม(บางเคสมันก้ชิม แต่ก้เหมือนดิบ = ตกรอบ) คนดูรายการบ่อยๆก้เดารูปแบบออก แล้วมาบอกเหตุผลว่าแป้งดิบ จึงตกรอบ ส่วนเซฟมันไม่ยอมรับว่าแป้งดิบ

สรุป มันสคลิปรายการรูปแบบหนึ่ง แต่ที่ดราม่า เพราะเซฟไม่ยอมรับว่าแป้งไม่สุก ต่อให้ใช้สคิปที่เคยชิมส่วนอื่น ก้เซฟมันก้เถียงเหมือนเดิมแหละ เพราะมันตกรอบจากแป้งไม่สุก ไม่เกี่ยวเกี่ยวรสชาติ