ผมสังเกตุมานานละ เวลาที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้เป็น รบ. เขาไม่ทำไรเกี่ยวกับภาษีเลย ไม่รณรงค์ ไม่จูงใจคนมาจ่ายภาษี

เหมือนไม่อยากให้คนมาสนใจเรื่องนี้ ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนจ่ายเงินให้พวกราชการ นักการเมือง จะได้ไม่ไปยุ่ง ไปเรียกร้อง เวลาที่รัฐประชานิยม ก็รู้สึกเป็นบุญคุณ

ไปเทียบกับพวกภาษีหนักๆ อย่างเมกา คนตื่นรู้เรื่องนี้กันมาก การจ่ายภาษีเป็นค่านิยมของประเทศ เพราะเขารณรงค์กันจริงจัง

คิดว่าผมคิดไปเองมะ

เกิดเป็นคนทุยต้องไม่กระด้างกระเดื่องนะจรั๊บ ต้องไม่รู้เยอะ รู้ลึกและรู้จริงนะจรั๊บ

เดี๋ยวจะลำเลิกบุญคุณไม่ได้ สังคมเราเน้นห้อยโหนเน้นกราบตีนคณะมังกรฟ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในภารกิจพิชิตเป้าหมายชีวิต

Politicians กลุ่มไหนหรือใครคนไหนโหนคณะแมรี่จัวส์ได้รอบจัดที่สุดคนกลุ่มนั้นได้แดกรอบวงในสังคมแบบทุยแลนด์

ยิ่งถ้ามีป้ายอาญาสิทธิ์มังกรฟ้ามอบให้คือห้ามตรวจสอบทุกอย่างโดยเด็ดขาด

ปล.ไม่ใช่แค่เรื่องภาษีหรอกครับที่พวกมันไม่อยากให้คนรู้เยอะรู้จริง

ผมว่าการศึกษา ความรู้ทางการเงินหรือหลักเศรษฐศาสตร์อะไรพวกนี้

พวกมันก็ไม่อยากให้คนพัฒนาตัวเองมากนัก โง่เขลา ยากจน ดักดาน

เป็นฐานเสียง เป็นตัวเบี้ยที่เอาเศษเงินฟาดหัวให้ทำได้ทุกอย่าง

US ก็ไม่ได้รณรงค์นะ แต่เค้าปรับหนักเอาตายเลย
ภาษีมันเป็นหน้าที่อยุ่แล้ว ไม่จ่ายตอนนี้
โดนจับได้ทีหลังปรับอาน

ก็ถ้าเทียบเรื่องการใช้ภาษีแล้ว ไม่ก่อเกิด Productive อะไร


เค้าก็ไม่ด้อยกว่าหน่อยงานไหนแน่ ๆ

ดาราล้มละลายไม่พอ พรี่กันเอาติดคุกด้วย

ใช่ครับ ทรัพยศาสตร์ยังโดนแบนเลย คนเขียนติดคุกอะ

คิดไปเองดิ โลจิคโครตประหลาด มันอยากได้ภาษีจะตาย บังคับใช้แอฟแสกนจ่ายจนแม่ค้า(จอมหนีภาษี)ปฏิเสธเงินโอนนั่นไง

เอาจริงๆไม่มีใครกล้าแตะภาษีเงินได้หรอก ฐานเสียงหาย ยิ่งไปยุ่งกับนิติบุคคลสปอนเซอร์ก็หายอีก
แต่ถ้าเป็นภาษีอื่นๆนี่คือจะทยอยแอบๆมา พวกภาษีน้ำตาล สรรพสามิต อะไรที่ไม่ได้ยุ่งกับรายได้โดยตรง

เคยได้ยินว่า จริงๆ แล้ว สรรพกรรู้หมดใครไม่จ่ายภาษี ใครหนี ใครเล่นตุกติก ถ้าอยากได้จริงแบบท่านว่าทำไมไม่ทำล่ะครับ อย่าบอกว่ากลัวเสียคะแนนนะ ยุคตู่กฎหมายทำไรไม่ได้ ก็ไม่ขยับเรื่องนี้

ผมเคยฟังโค๊ชหนุ่ม มันนี่โค๊ช บอกว่าตัวเองอยากเพิ่มวิชาการเงินในระบบการศึกษา แต่พอไปคุยกับศึกษาธิการ เจอผู้ใหญ่พูดประมาณว่า รู้มากไป ปกครองยาก

พวกนี่กล้ารีดอยู่ชนชั้นเดียวคือชนชั้นกลางครับ

เพราะพงกนี้ หนีก็ไม่ได้ ไม่บ่นไม่ประท้วง ไม่ใช่ฐานเสียง และพอมีแรงจะจ่ายเพิ่มได้

ก็ถ้าใครเป็น active citizen ก็อดกินภาษีสิ

เขารีดแค่คนชั้นกลาง+บริษัทครับ
พวกคนจนไม่ให้รู้ไม่ให้เสีย เลี้ยงไว้เอาภาษีมาโยนจะได้เป็นบุญคุณ

ไม่เกี่ยวกับขวาซ้าย แต่ปัญหาคือการศึกษาไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ต่างหาก

เรื่องการเงินจริงๆควรเป็นความรู้ให้เด็กตั้งแต่ม.ต้นแล้วด้วยซ้ำ แต่แม่งไปเรียนเรื่องอะไรบ้าๆบอๆที่อยู่ในบทเรียนกระทรวงศึกษาปัจจุบันนั่นแหละ (ค่านิยมเหวอะไรเดี๋ยวนี้มีอยู่ปะหนิ) กฎหมายก็เหมือนกันควรได้เรียนตั้งแต่ตรงนั้นละ

ประกอบกับนิสัยคนไทยแม่มไม่ได้เป็นพวกนักตั้งคำถามอะ (แต่ไม่ใช่ตั้งแบบเจ้าหนูจำไม SS นะ)
คือเข้าใจแหละ มันโตมาในห้องเรียนที่ถามเยอะๆกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ ก็เลยกลายเป็นอะไรที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าภาษีตัวเองไปไหนอะไรงี้ เวลาเก็บมันก็เลยเหมือนจ่ายๆไปเพราะแค่เป็นหน้าที่

แค่นั้นเลย จริงๆแล้วเรื่องการลดภาษีหรือลดการใช้จ่ายของรัฐบาลเนี่ยเป็นหลักการของฝั่ง Liberal (ซ้าย) เลยนะ เพียงแต่มันจะตรงกับฝั่ง Conservative (ขวา) ที่ว่าอยากเข้าไปยุ่งกับชีวิตของประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่งเมื่อยุ่งกับประชาชนน้อยสุด = ไม่ต้องใช้เงินไปช่วยเหลือประชาชน = ลดภาษีลงอย่างที่เราเห็นในเมกาตอนนี้

ฉะนั้นแล้วเรื่องบอกว่าฝั่งขวาไม่อยากให้รู้ภาษีนี่ผมว่าไม่ใช่หรอก แค่นิสัยคนไทยไม่ได้กระตือรือร้นเท่าไหร่อยู่ละ
หรือจริงๆอาจจะกระตือรือร้นแหละ แต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาภาษียังไงดี เอาไปเผาเล่นกันแบบนั้น

สรุปไม่ได้คิดไปเอง แต่เชื่อโค้ชหนุ่ม
โอเคนะ

โดนแบนถึงสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองก็จริง คนเขียนไม่ได้ติดคุกครับ เป็นคนสกุลบุนนาค เคยเป็นอดีตเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติสมัย ร.5

แถมตอนถูกขอไม่ให้เขียนต่อ ยังเขียนต่อจนจบ 3 เล่มเลย
เป็นคนธรรมดาทำแบบนี้ไม่ได้หรอก