กฎเกณฑ์ผลกำไรและความยั่งยืน (PSR) ของ พรีเมียร์ลีก จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปอีก 1 ปี ภายหลังบรรดาสโมสรมีมติร่วมให้เลื่อนการใช้งานระบบ Anchoring ออกไปอีกหนึ่งปีในการประชุมหนล่าสุด

ในตอนแรก สโมสรต่างๆ ได้ตกลงที่จะลงนามในระเบียบปฏิบัติใหม่เพื่อแทนที่ PSR ที่มีอยู่ซึ่งก่อให้เกิดข้อถกเถียง

แผนการนำอัตราค่าใช้จ่ายของทีมใหม่มาใช้ ซึ่งจำกัดให้สโมสรต่างๆ ใช้รายรับได้เพียงแค่ร้อยละ 85 ไปกับค่าจ้างผู้เล่น การย้ายทีม และค่าธรรมเนียมเอเยนต์ ถูกเลื่อนออกไป

ระบบที่เรียกว่า Anchoring ได้รับการผ่านมติชั่วคราวโดยสโมสรเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะนำมาใช้ในฤดูกาลหน้า

ปัจจุบันสโมสรต่างๆ ได้ลงมติให้เลื่อนการนำระบบนี้ออกไปเป็นเวลาอีกหนึ่งปี โดยกฎที่มีอยู่จะยังมีผลบังคับใช้ในฤดูกาลหน้า

มีรายงานว่าการตัดสินใจเลื่อนการนำกฎใหม่มาใช้นั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่ แมนฯ ซิตี้ ยื่นคำร้องคัดค้านกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง (APT) ฉบับล่าสุด

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมปัจจุบันแจ้งต่อ พรีเมียร์ลีก ว่าพวกเขาจะยื่นเรื่องขออนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับการแก้ไขกฎข้อบังคับของ APT

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะคดีดังกล่าวได้สำเร็จ เมื่อคณะอนุญาโตตุลาการตัดสินว่ากฎบางประการเกี่ยวกับข้อตกลงกับฝ่ายที่เชื่อมโยงกับสโมสรนั้น "ผิดกฎหมาย" ในรัฐธรรมนูญของอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม พรีเมียร์ลีก ได้จัดการแก้ไขกฎดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสโมสรส่วนใหญ่ลงมติเห็นชอบ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA) ขู่ว่าจะดำเนินคดีกับ พรีเมียร์ลีก กรณีเสนอให้ใช้ระบบ Anchoring เข้ามา

ระบบดังกล่าวจะจำกัดการใช้จ่ายของสโมสรในการย้ายทีม ค่าจ้าง และค่านายหน้า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับรายได้ที่เหล่านักเตะจะได้รับ

อัตราส่วนที่แน่นอนยังไม่ได้รับการกำหนด แต่คาดว่ากฎใหม่จะ "ยึด" การใช้จ่ายให้อยู่ที่ประมาณ 5 เท่าของรายได้ของสโมสรที่อยู่อันดับท้ายๆ

สโมสรทั้งหมด 16 แห่งลงคะแนนเสียงสนับสนุนการใช้ระบบยึดเมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอสตัน วิลล่า ลงคะแนนไม่เห็นด้วย ขณะที่ เชลซี งดออกเสียง

กฎ PSR ของพรีเมียร์ลีกฉบับปัจจุบันได้จำกัดให้สโมสรขาดทุนไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ในช่วงระยะเวลาสามปี

โดยเมื่อปีที่แล้ว แอสตัน วิลล่า ได้เสนอแนวคิดที่จะเพิ่มเกณฑ์ดังกล่าวจาก 105 ล้านปอนด์ในสามปีเป็น 135 ล้านปอนด์

5เท่าจากสโมสรรายได้น้อยสุด. พวกทีมใหญ่ๆคงยอมหรอก

อาจจะยกเว้น ลิเวอร์พูลไว้ทีมนึงละกันครับ เพราะถ้ากฏใช้ได้ FSG นี่ลูปปากหวานเจี๊ยบเลย

กฏ บ้าบอ สปอนด์เซอร์อัดฉีดเงินเพิ่ม ให้เท่าทีมใหญ่ ก็ไม่ได้ ทีมเล็ก โงหัวไม่ขึ้น นอกจากขายนักเตะทำกำไร ส่วนทีมใหญ่ๆ มันสร้างมาก่อนปั้นเงิน อัดฉีดเงิน อัดฉีดสปอนด์เซอร์มาก่อนแล้วไง สบายตัวไม่เดือดร้อน เหมือน คนนึงมีเหรียญหยอดตู้ตุ๊กตา 100 เหรียญ กับ อีกคนมี 10 เหรียญ แล้วบอกมีเหรียญเท่าเทียมกัน ยุติธรรม มักมัก พอกฏเพื่อจะให้ ทีมเล็กโตขึ้นได้ ทีมใหญ่ ก็ออกแนวไม่ยอมไปอีก กลัวทีมตัวเอง ใช้จ่ายน้อยลง เอาเปรียบเค้าบอกยุติธรรม พอยุติธรรมบอกไม่เห็นด้วย นี่แหละหนา ผลประโยชน์

สุดท้ายผลกระทบมันก็มาตกกับลีกนั่นแหละ ลำพังค่าลิขสิทธิ์ที่แบ่งให้ทีมเล็กเท่ากับทีมใหญ่ก็น่าจะพอแล้วในการทำทีมไม่ต้องมากำจัดอะไรกับทีมใหญ่ขนาดนั้น

จริงๆที่มันยากคือ จะทำยังไงให้เท่าเทียมในลีคกับยุโรป

เพราะถ้าเอาเท่าเทียมจริงๆมันต้องทำเพดานเงินให้ต่ำเลยแบบ 300ล้านพอ แบบนี้ 20ปีติด ทีมใหญ่จะกลายเปนทีมกลางทันที

แต่ในยุโรปคงสุ้ไม่ได้เลยนะ

กฎนี้เขาสร้างมาเพื่ออะไรนะครับ ผมลืมไปละ

ในความรู้สึกถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ กฎ Anchoring ดูแฟร์สุดเพราะมีตัวแปลตัวเดียวคือ 5 เท่าของรายรับทีมบ๊วย ฉะนั้นทีมที่เหลือก็มีงบให้ใช้เท่ากัน ไม่ห่างแบบ PSR ที่ทีมใหญ่มักหาเงินได้เยอะกว่าทีมเล็ก แต่กฎนี้จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันดึงผู้เล่นเก่งๆเข้าลีกยากขึ้นไหม เพราะค่าเหนื่อยจะน้อยลง แต่ในความรู้สึกคือยั่งยืนกว่า

แล้วเดี๋ยวจะมีกฎใช้เงินได้ 70-80% ของรายได้ออกมาอีกนี่ ใช่ไหม?

หลักๆ คือ เพื่อให้สอดรับกับ กฏ FFP ของ ยูฟ่า ครับ
แล้วลีกต่างๆ ในประเทศ ก็มาปรับแต่งรายละเอียดกันไปแล้วแต่ประเทศ

ลีค อื่นๆ นี่ไม่รู้นะครับ แต่ถ้าเอาในอังกฤษ โมเดลแรกเริ่ม
เขาไม่อยากให้เป็นแบบ ลีดส์ เมื่อปีที่ล้มละลาย จนโดนปรับตกชั้น

ที่ทุ่มเงินซื้อนักเตะเข้า จ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะแพงๆ
แต่รายรับหลักของทีม ผูกไว้กับการไปเตะ UCL เป็นหลัก
เพราะ อินคัม อื่นๆ แทบไม่มี
ซึ่งมันประสบความสำเร็จในช่วงแรกก็จริง
แต่ผลสุดท้าย พอไม่ได้ไปเตะ UCL ติดๆ กัน
ก็ทำให้รายได้หลัก หายไป

คุมบ้างก็ดี มันเฟ้อไปหมดแล้ว

เข้าใจว่าเพื่อกันไม่ให้สโมสรใช้จ่ายเกินตัวครับ ป้องกันไม่ให้สโมสรล้มละลาย แบบพวกที่อัดฉีดเงินมาจากเจ้าของ แล้วสโมสรต้องไปติดหนี้เจ้าของแทนแล้วถ้าเจ้าของจะขายก็ยาก ถ้า worst case ก็คือสโมสร อาจจะต้องขายทรัพย์สินมาคืน อาจจะสนามหรืออะไรอื่นๆ

จากที่ทีมบอลจะเป็นมรดกของประเทศ อาจจะหายไปได้เลยไรงี้

ขอบคุณครับ เห็นภาพเลย

ขอบคุณครับ มองมุมนี้ก็มีประโยชน์ครับ
ผมก็มองแต่ในมุมเจ้าของทีมผม ไม่สามารถใช้เงินได้เต็มที่เลยเท่านั้น
โอเคครับ เคารพกฎกันไป