ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 5425
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 11, 2025 21:35
[RE: แนะนำประกันมะเร็งชนิดเจอ จ่าย จบ หน่อยครับ]
คำว่า "วงเงินที่เหมาะสม ราคาที่โอเค" นี่ไม่สามารถบอกอะไรได้เลยครับ
วงเงิน 500,000 - 1 ล้าน - 2 ล้าน - 5 ล้าน เท่าไหร่คือเหมาะสมสำหรับท่านครับ
ราคาที่โอเค เท่าไหร่คือโอเคครับ
เบี้ยปีละ 5000-10,000-20,000-50,000 เท่าไหร่คือโอเคสำหรับท่านครับ
ซื้อประกัน เรามักดูว่าจ่ายไหวที่กี่เปอร์เซนต์ของรายได้ทั้งปี
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10-20% ขึ้นกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ของเรา
ดังนั้นตอบไม่ได้ว่าเท่าไหร่คือโอเคสำหรับท่านนะครับ
ท่านคงต้องกำหนดบัดเจ็ทคร่าวๆ มาเองก่อนครับ
รายละเอียดของประกันมะเร็ง หรือจริงๆ เรียกให้ถูกคือประกันโรคร้ายแรง เพราะมันมีโรคอื่นอีก
มันเยอะมากๆ ไม่มีทางเขียนแนะนำได้หมดแน่ๆ
แต่หลักๆ ตอนนี้เอาเฉพาะของ AIA นะ มีสามแบบ
1. เบี้ยทิ้ง เจอจ่ายจบ
ตรวจเจอระยะเริ่มต้น ได้ 40% ของทุนประกัน เช่น ทำทุนไว้ 1 ล้าน เจอระยะเริ่มต้นได้ก่อน 400,000
เจอระยะรุนแรงหรือลุกลามได้ 100% ของทุนประกัน แล้วจบสัญญา ทำใหม่เพิ่มอีกไม่ได้
จ่ายรวมสูงสุด 140% แต่ถ้าเจอตอนรุนแรงเลย ก็ได้แค่ 100% ไม่สามารถย่้อนไปเอา 40% ได้
โรคร้ายแรง ไม่ได้มีแค่มะเร็ง ยังมีอย่างอื่นอีก เช่น โรคหัวใจ
ข้อดี เบี้ยถูกตอนอายุน้อยๆ ทุน 1 ล้านตอนอายุ 30-40 เบี้ยหลักพัน แต่อายุเยอะขึ้นจะยิ่งแพง
อายุ 61 อาจจะแพงกว่าตอน 31 เกือบสิบเท่าได้
ข้อเสีย เบี้ยทิ้ง ถ้าทำไปเรื่อยๆ จนอายุเยอะ เบี้ยแพง ไม่อยากทำต่อ ก็เลิกทำ เบี้ยที่ส่งมา ไม่มีมูลค่าในกรมธรรม์
2. เบี้ยทิ้ง เจอจ่าย ยังไม่จบ คุ้มครองต่อ
แบบนี้หลักการเหมือนแบบแรก แต่พอตรวจเจอระยะรุนแรง จ่ายทุนประกันแล้ว
ยังมีการคุ้มครองต่ออีกถึงอายุ 99 โดยไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยอีก
โดยมีเงื่อนไขการจ่ายในโรคอื่นๆ หรือการเป็นซ้ำ ซึ่งรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ต้องไปศึกษาเพิ่มเอาเอง
แต่ผลประโยชน์โดยรวมสูงสุด 800% ขึ้นกับเป็นซ้ำหรือเป็นโรคอื่นในระยะเวลาตามเงื่อนไข
แบบนี้เบี้ยแพงกว่าแบบแรกหน่อย แต่ข้อดีคือ บางคนเป็นโรคหนึ่งแล้วรอดมารักษาหาย ก็ยังคุ้มครองโรคอื่นต่อตามเงื่อนไข
3. เบี้ยไม่ทิ้ง มีมูลค่ากรมธรรม์
แบบนี้เหมือนการรวมร่างกันระหว่าง ประกันชีวิตตลอดชีพ และประกันโรคร้ายแรง
เบี้ยจะแพงกว่า แต่เบี้ยคงที่ 20 ปี แล้วก็คุ้มครองต่อไปถึงอายุ 99 ปี
เบี้ยที่ส่งไปไม่หายไปไหน วันหนึ่งถ้าเราตาย ผู้รับผลประโยชน์ก็ได้่รับทุนประกันไป
แบบนี้ จะจ่ายระยะเริ่มต้น 20% และถ้าเจอระยะรุนแรงจะจ่ายที่เหลือ 80% รวมแล้วจะไม่เกิน 100%
ถ้าเจอตอนรุนแรงเลย ก็ได้ 100% เลย
พอจ่ายทุนประกันแล้ว ถือว่าสัญญาจบ
ทั้งนี้ประกันแบบนี้ มักทำไว้เพื่อได้เงินก้อน เอาไปรักษาตัว หรือเอาไปช่วยค่าใช้จ่ายนอกรพ.
เช่นต้องออกจากงาน ต้องเดินทาง ต้องใช้ยาดีๆ ต้องกินอาหารเสริม
ถ้ามีกำลังพอ มักจะแนะนำให้ทำประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรงควบกัน
การมีประกันสุขภาพมีประโยชน์นะครับ แม้ว่าเราจะไปใช้สิทธิรักษาพื้นฐานของเรากับรพ.รัฐได้
อย่างแรก เราไม่ต้องเสียเวลารอคิว รพ.รัฐบางที ถ้าจะมีผ่าตัด แล้วมีคิวยาว บางทีรอ 2-3 เดือน
ซึ่งเวลาที่รอเนี่ย อาจจะทำให้มะเร็งลุกลามไปมากขึ้นก็ได้
เคยมีเคสที่ตรวจเจอชิ้นเนื้อที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นมะเร็งที่ไทรอยด์
แต่ไปใช้สิทธิพื้นฐาน รักษารพ.รัฐ รอคิว 3-4 เดือน
ตอนแรกยังไม่เป็นมะเร็ง แต่พอถึงวันผ่าจริง เนื้อร้ายกลายเป็นมะเร็งแล้ว ตอนนั้นต้องเปลี่ยนการรักษา
แทนที่จะแค่ผ่าตัดก้อนเนื้อออกไป ก็ต้องกลืนแร่ด้วย
อย่างที่สอง เราเลือกหมอที่เก่งๆ เฉพาะทางได้ สมมติหมอคนนั้นที่เก่งด้านนั้นระดับต้นๆ ของประเทศ
อาจจะประจำอยู่บางรพ. ถ้ามีประกันสุขภาพ เราก็มีทางเลือกให้ตัวเอง มีโอกาสรักษาหายได้มากขึ้น
เพิ่มโอกาสรอดชีวิตครับ
แก้ไขล่าสุดโดย James Bourne เมื่อ Tue Feb 11, 2025 21:41, ทั้งหมด 1 ครั้ง