เอาจริง สแกนจ่าย ง่ายสุดน่ะท่าน ในไทย

แต่งง ว่าทำไมไม่ทำแบบนั้น

ปัญหาหลักมันคือชนซ่อมนาน

ประกันแพง

ไรงี้มากกว่า

ต้องบอกว่า รถคนเก่าท่านก็ซดน้ำมันเกินไป Eco car ที่ไม่ economy เลย แต่อย่างว่า ส่วนนึงราคาน้ำมันเราแพงเมื่อเทียบกับค่าไฟเติมรถ คนละเรื่องเลย

ของผมนะ
ไม่เคยรอ ไม่เคยจอง ไม่เคยวางแผน
เต็ม100%จากบ้าน
จอดฉี่ 6นาทีผมก็ชาร์จ
จอดซื้อกาแฟเข้า7-11 15นาที ก็ชาร์จ
จอดกินข้าว20นาที ก็ชาร์จ
ชาร์จโดยไม่ดูว่าเหลือกี่%ได้มากี่%
ไม่เคยรอชาร์จจน 70%80%90% แม่งเสียเวลาชิบหาย
เอารถน้ำมันแวะยังไงแวะชาร์จแบบนั้น
ปั๊มนี้คนชาร์จอยู่ก็ไปปั๊มหน้า จุดชาร์จมีแทบจะปั๊มเว้นปั๊มแล้ว
แถมปั๊มที่มีจุดชาร์จแต่ไม่มีป้ายบอกก็มีอีกเพียบเยอะมากๆ
การไฟฟ้า PEA แต่ละอำเภอริมถนนก็มีที่ชาร์จแทบทุกที่
ศูนย์ BYD เองก็มีเยอะมากๆ

ไม่เคยสนใจรถ ev จนคนที่บ้านออกโลมา ได้นั่งได้สัมผัส มีหลายอย่างน่าสนใจ แต่ก็แอบขัดใจในบางส่วน เอาจริงผมใช้งานวิ่งในเมืองวันละ 20-30โล ไม่ค่อยได้ไปไหนมากมาย ไปก็เอารถ ev ที่บ้านเนี่ยออกกัน ถ้าจะซื้อก็ลังเล เพราะไม่ได้ใช้อะไรมากเลย แต่ต้องมาเป็นหนี้ผ่อน 7-8พัน ต่อเดือน คันน้ำมันเติม ไม่ถึง3พัน/เดือน คิดไปคิดมาเลยใช้รถเก่าไปก่อน อีกสัก 4-5ปีค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้ศึกษาวนไป aion ut ก็น่าสน ชอบรถทรงท้ายตัด mg4 ก็ชอบ แต่ติดที่เจ้าของใหญ่อ่ะนะ

ผมก็พึ่งเปลี่ยนจาก Swift ไป MG4 แฮปปี้มากเหมือนกันครับ

ใช้ตัวเดียวกันเลยครับ เหมาะเป็นตัวเริ่มต้นที่ดี

ส่วนตัวขายน้ำมันทิ้งไป 1 คันเเล้ว
เเละในอนาคตจัดเพิ่มเเน่นอน ไว้สำหรับวิ่งทางไกล

เเต่ไม่ซื้อก่อนเเล้วครับ จะรอก่อนเพราะไม่อยากติดดอย

ผมใช้neta v2
-ใช้ใน กทม.สบายๆเลย
จากเติมน้ำมันเดือนละประมาณ 3-4พัน เหลือเดือนละประมาณ ไม่เกิน1,000

-ขับทางไกล กทม.-พิษณุโลก แวะชาร์จ1ครั้ง แถวๆชัยนาท ก่อนเข้านครสวรรค์(ประมาณ 180-200 กม. แบตจะเหลือประมาณ 25%) ชาร์จประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้ 80% ได้ถึงพิษณุโลกพอดี

ส่วนตัวอยู่คอนโด กทม. ชาร์จปั๊มPTT ตลอด ใช้ระบบจองยังไม่เจอปัญหา
มีครั้งนึง s07 ถอดหัวชาร์จไม่ได้ทำให้เข้าชาร์จช้านิดนึง(ไม่เป็นไร) อีกครั้งAT3 ชอปปิ้งเพลินต้องให้คอลเซนเตอร์โทรตามมาเอารถออก

มันไม่กินเยอะเท่าน้ำมันแบบนั้นครับ

ผมเข้าใจว่าน้ำมันมันวิ่งตามรอบ เกียร์สูงเกียร์ต่ำ กินน้ำมันก็ตามรอบวิ่ง พอวิ่งเร็ว มันกินน้ำมันเพิ่ม แต่ไม่ค่อยต่างกับวิ่งช้าเท่าไร
วิ่งช้าๆกินน้ำมันกว่าด้วย

รถไฟฟ้ามอเตอร์มันคือ หมุนเร็วขึ้นก็กินไฟเพิ่มขึ้น ยิ่งเร็วยิ่งกิน
ความเร็วเกินพอดี หมายถึงระยะทางมันวิ่งได้ไกลจะน้อยลง

กลายเป็นต้อง เสียเวลาชาร์ตเพิ่ม หรือจำนวนครั้งแวะชาร์ตเพิ่ม จากเร็วๆจะกลายเป็นช้ากว่าเดิม
ความเร็วที่เห็นชัดๆว่าแบตไหลคือ 135+ขึ้นนะ ถ้า 100-115ก็คือใช้ไฟธรรมดา

ที่ใช่ฝ้มาสองปีสำคัญสำหรับรถไฟฟ้าคือระยะทาง 20-30โลที่เพิ่มมายังไงการใช้งานก็มีผล โดยเฉพาะคนขับต่างจังหวัด

แอปจองมันโง่ๆอยู่ คนเล่นกดจองกัน 3 ปั้มใกล้ๆกันได้ มันไม่ควรให้จองพร้อมกันได้ในรัศมี 50-100 km
เห็นคนใช้มือถือหลายๆเครื่องกดจองแบบนี้ ควรขึ้นแบ๊คลิสยูเซอร์ที่จองแล้วไม่เข้ามาชาร์ท 15-30 วันไปเลย

ตอนนี้ผมใช้ดีเซลกิโลละ 2 บาท จะไป EV เบื่อพวกกั๊กจองนี่แหละ

รถ EV ตอนนี้น่าเล่นนะ ถ้าไม่ติดว่าต้องมือ 1 พวก มือ2 ในเพจ อู่ EV ลำพูน วีระศักดิ์ แป้นพุ่มพวง น่าจะเป็นอู่นอกอันดับ 1 ในไทย
มีรถน้ำท่วมปล่อยไม่แพงมาก หลายยี่ห้อเลย
ข้อเสีย EV ชาร์จนานเหมือนเดิม คำนวณเวลาเดินทางมากกว่ารถน้ำมัน ***ในระยะ 350-450 กิโลเมตร น่าจะประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ได้เลย
แต่ถ้าในระยะไปกลับไม่เกิน 330-380 กิโล แล้วมีเครื่องชาร์จในบ้าน บอกเลย โครตคุ้มมม คุ้มทุกกรณี คุ้มทุกบาท การขับขี่ การควบคุม ไม่ได้ดีกว่าพวกรถญี่ปุ่น แต่ยังพอขับขี่ได้ ผมใช้ Atto3 std มาปีกว่าละ ไม่เคยกลับไปขับรถน้ำมันเลย เบื่อรอรอบล