แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ระหว่างการทำภารกิจ “Mission 21” ซึ่งเป็นแผนงานของพวกเขาในการกลับไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 21 ภายในสามปีข้างหน้าโดยความพยายามเฟ้นหานักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก

เซอร์ เดฟ เบรลส์ฟอร์ด ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการผลักดันให้พนักงานทำงาน โดยจะเน้นไปที่การพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งผลงานดีมากกว่าการจ่ายเงินก้อนโตให้กับบรรดาสตาร์มากชื่อเสียง

อดีตผู้บริหารสูงสุดของสโมสรจักรยานของอังกฤษ ซึ่งถูก เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เจ้าของร่วมและ อิเนออส มอบหมายให้เข้ามาจัดการทีมหลังจากลงทุนในสโมสรเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนร่วมอย่างมากในกลยุทธ์ของ ยูไนเต็ด เนื่องจากพวกเขาต้องการกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013

พิมพ์เขียวของ เบรลส์ฟอร์ด ซึ่งถูกพัฒนาโดยร่วมมือกับ เจมส์ มอร์ตัน หัวหน้าฝ่ายโภชนาการและประสิทธิภาพการทำงานที่เขาเคยทำงานด้วยที่ Team Sky ทำให้สโมสรเปลี่ยนจากนโยบายเดิมๆ ที่มักจะทุ่มเงินไปกับปัญหาต่างๆ โดยหวังว่าจะหาทางแก้ไขได้ในทันที

แต่ในตอนนี้ ความสนใจของสโมสรจะมุ่งเน้นไปที่การซื้อนักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพ และหล่อหลอมพวกเขาให้เป็นกำลังสำคัญ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามยุติช่วงเวลาไร้แชมป์ที่ยาวนานกว่าทศวรรษ

เบรลส์ฟอร์ด กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค หลังจากที่ แดน แอชเวิร์ธ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาได้เพียงช่วงสั้นๆ เพียงแค่ห้าเดือนเท่านั้นก่อนจะแยกทางกับสโมสรไป

ขณะที่ รูเบน อโมริม เฮ้ดโค้ชของทีมเองก็เห็นด้วยกับแผนงานดังกล่าวและมีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานในสนามอย่างมั่นคง ในขณะที่ เบรลส์ฟอร์ด จะคอยดูแลสภาพแวดล้อมของสโมสรในขณะที่พวกเขากำลังพยายามสร้างสโมสรขึ้นใหม่ และทำงานใกล้ชิดกับ แรตคลิฟฟ์

“Mission 21” ถูกนำเสนอต่อบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสใน แคร์ริงตัน เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งมาพร้อมกับ “Mission 1” ซึ่งเป็นแผนสำหรับทีมหญิงของสโมสรที่หวังจะคว้าแชมป์ วี่แมน ซูเปอร์ ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร

ทั้งสองภารกิจอยู่ภายใต้โครงการใหญ่ “Project 150” ที่อยู่เหนือขึ้นไป ซึ่ง โอมาร์ แบร์ราดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและอีกหนึ่งมือดีที่ อิเนออส คว้าตัวเข้ามา ได้นำเสนอต่อพนักงานเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว

โดยปี 2028 ถือเป็นปีที่สำคัญของสโมสรเนื่องจากเป็นวันครบรอบ 150 ปีของ ยูไนเต็ด

“ซื้อนักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพ และหล่อ”

เป็นการตัดย่อหน้าบรรทัดที่โคตรเอ๊ะเลยตอนแรก

ดีนะ ถ้าตอนนี้19แชมป์ แล้วเป็น mission20
แม่งโดนล้อว่าเป้าหมายบ๊วยแน่ๆ

ตอนนี้แมนยูมีดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายคนเลยนะ คงกะจะปั้นเด็กขึ้นมาใช้งานเอง

แต่ตอนนี้ทีมต้องการนักเตะที่พร้อมใช้งานเลย จะรอปั้นเด็กขึ้นมาจะทันไหมฮะ

พรี่ทำให้ผมเชื่อหน่อยสิฮะว่ามันจะเป็นไปได้

Soccersuck น่าจะมีปุ่มกด ขำ

บอกได้แค่ว่า

ตื่นๆๆๆๆ

ห่วง ปจบ ด้วยน๊าาาา เพื่อนเป็นห่วงเแฟนบอลนะ ไบโพล่าแดกตามๆ กัน

รอดูไป

reset มันทุกอย่างอะ ไล่โล๊ะพนักงานองค์กร นักเตะที่ทำเพื่อตัวเอง ออกไปให้หมด

แฟนอย่างผมรอได้ แค่คงไม่ได้ดูทุกแมทช์เหมือนแต่ก่อน เพราะไม่อยากด่า

แล้วก็เข้าใจทีมบริหารไม่อยากฉาบฉวย ซื้อสตาร์แบบที่ผ่านมาๆ เพื่อใช้งาน1-2ปี

ต้องสร้างพื้นฐาน-สร้างวัฒนธรรมใหม่ๆขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เพราะแผลที่สะสมตั้งแต่ป๋า กับกิล วางมือไป

ได้ไอเอ็ดมาบริหารมันแก้ไม่ได้ ปัญหามันใหญ่+สะสมมานาน จนมันปิดไม่มิดแล้ว

ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่ขอสัก 3 ปีไม่เกินนี้ ถ้าไม่มีทรง ก็คงต้องด่าแล้ว

ทำไป พยายามกันไป
ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว

Mission21 ก็ล้อได้ครับ อันดับ21 ของ EPL พูดง่ายๆ ตกชั้น

น่าจะเป็นลิเวอร์พูลมากกว่า ปีนี้ mission20 complete แน่ๆ

ทำไมเหมือน แม่ง ดีแต่พูด สุดท้ายบริหาร สู้ทีมกลางๆยังไม่ได้เลยมั้ง