ผบช.ไซเบอร์ โต้เฟกนิวส์ รมช.จีน ตำหนิไทยปมจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่เป็นความจริง
ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ยืนยัน รัฐมนตรีช่วยว่าการจีนไม่ได้ตำหนิทางการไทยปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีแต่การเดินหน้าแก้ปัญหา
.
จากกรณีที่สังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อความว่า หลิวจงอี (Mr. Liu Zhongyi) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตำหนิทางการไทยว่า “ไม่ค่อยสนใจการดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย” ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับการจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น
.
วันนี้ (31 มกราคม) พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) กล่าวว่า กรณีนี้สอบถามไปทางผู้ช่วยทูตตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามติดตามคณะหลิวจงอีตลอดการเดินทางมาเยือนประเทศไทย
.
ซึ่งยืนยันว่าหลิวจงอีไม่เคยพูด หรือมีคำพูดที่สื่อสารไปในลักษณะดังกล่าว หลังจากที่มีการแชร์ข้อความลักษณะบิดเบือนออกไป หลิวจงอียังแสดงความกังวลว่า จะสร้างความสับสนให้กับบุคคลที่พบเห็น อย่างไรก็ตาม หลิวจงอียืนยันว่า การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวไทย และประชาคมโลก และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทางการไทยและทางการจีน
.
#TheStandardNews
#######
######
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1822672062461622485&wfr=spider&for=pc
เนื้อหาเพิ่มเติม ข้อเรียกร้องของทางการจีน 6 ข้อ ที่หวังเสี่ยวหง รมต.ความมั่นคงสาธารณะตัวจริง มนตรีแห่งรัฐ และผบ.ตร. จีน ยื่นต่อภูมิธรรม เวชยชัย ผ่านการประชุมออนไลน์ ในวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนที่หลิวจงอี้จะเดินทางมาไทยพร้อมเอกสารหลักฐาน
1. จีนจะส่งข้อมูลสำคัญทั้งหมด ของแก๊งหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์ ทั้งที่อยู่ในพม่าและไทย ให้แก่ทางการไทย โดยไทยต้องไปจับกุมมาให้ได้
2. นอกจากเหยี่ยนสือลิ่ว ตัวการที่ลวงหวังซิงมาไทยซึ่งจับตัวได้แล้วนั้น ไทยต้องตามจับขบวนการอีก 20 กว่าคนที่ร่วมมือมาให้จงได้ แล้วให้ส่งกลับไปดำเนินคดีที่จีน
3. จีนเรียกร้องให้ (ใช้คำค่อนข้างแข็งกร้าว 要求 มีนัยยะกึ่งสั่ง) ตำรวจไทยเร่งตรวจสอบเหยื่อผู้ถูกหลอกลวงไปทำงานในเมียวดี แล้วเร่งรัดให้ทางการท้องถิ่นปล่อยตัวมาให้ได้
4. ไทย “ต้อง” ปิดกั้นสาธารณูปโภคและวัสดุก่อสร้างที่ใช้ไทยเป็นเส้นทางไปยังเมืองดังกล่าว และต้องใช้มาตรการเข้มงวดให้การเดินทางข้ามพรมแดน
5. (อันนี้ชิบหายมาก) ต้องจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการร่วมไทย-จีน เพื่อกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย โดยจีนจะส่งพนักงานสืบสวนมาร่วมทำงานเพื่อ “ปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติการ”
6. จีนหวังว่าไทยจะ “กวาดล้างภายใน“ “แก้ไขความเสี่ยงการหลอกลวงไซเบอร์” และ “ฟื้นคืนความมั่นใจในความปลอดภัยของประเทศ” ให้ได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางไทย (ในข้อมูลของทางจีน) ได้ยื่นข้อเสนอตอบกลับไปดังนี้
1. จะตั้งหน่วยปฏิบัติการร่วมไทย-จีน เพื่อร่วมปรับปรุงการตรวจสอบตัวบุคคลและเพิ่มสมรรถภาพการทำงาน
2. ขอให้ทางจีนช่วย “ปราบปรามผู้สนับสนุนทางการเงิน” ของกลุ่มทุนดังกล่าวในจีน และช่วยให้ข้อมูลของ “กลุ่มทุนไทย” ที่รู้เห็นเป็นใจร่วมมือกับทุนจีนเทาดังกล่าวด้วย
3. ให้จีนช่วยไทยจับกุม ปราบปรามแก๊งฟอกเงินผ่านคริปโตเคอเรนซี เพื่อตัดเส้นทางการเงินของกลุ่มทุนดังกล่าว
4. ให้จีนช่วยดึงเอาเขมร ลาว และพม่า มาร่วมประชุมแก้ไขปัญหาหลอกลวงต้มตุ๋นและการฟอกเงินนี้ด้วย
Spoil
1. จีน-ไทยร่วมมือกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติในเมียวดี
• ตำรวจจีนระบุว่ามี 36 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเมียวดี มีสมาชิกกว่า 100,000 คน โดยกว่าครึ่งเป็นคนจีน
• เหยื่อถูกหลอกให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกกักขัง ทรมาน และบางคนถึงขั้นเสียชีวิต
• แก๊งเหล่านี้มี “หัวหน้าใหญ่” เป็นชาวจีน และมีอิทธิพลระดับข้ามชาติ
2. จีนเสนอ 6 ข้อให้ไทยร่วมมือจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
1. จีนจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรรมแก่ไทย และขอให้ไทยจับกุมหัวหน้าแก๊งที่ซ่อนตัวอยู่ในไทย
2. ร่วมกันล่าตัว “กลุ่มคดีหวังซิง” ซึ่งมีผู้ต้องหา 20 กว่าคนที่ยังหลบหนี
3. ตรวจสอบและช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกขังในเมียวดี
4. ไทยต้องปิดกั้นช่องทางขนส่งคนและสิ่งของ ป้องกันแก๊งใช้ไทยเป็นทางผ่าน
5. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วม และศูนย์ข่าวกรองพิเศษ
6. ไทยต้องเพิ่มมาตรการภายในประเทศ เพื่อกวาดล้างเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
3. ไทยเสนอ 4 มาตรการตอบโต้
1. ตั้ง “ทีมเฉพาะกิจไทย-จีน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจับกุม
2. ขอให้จีนช่วย ตรวจสอบ “นายทุนใหญ่” ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผู้เกี่ยวข้องในไทย
3. ร่วมมือปราบปรามการฟอกเงินผ่านคริปโต
4. ไทยจะร่วมมือกับ จีน เมียนมา ลาว และกัมพูชา จัดประชุมใหญ่เพื่อสร้างแผนระยะยาว
4. ไทย-จีน-เมียนมา ดำเนินการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ปี 2024
• มิถุนายน 2024 : ไทยตัดไฟ “KK Park” และ “Shuigou Valley” เพื่อกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
• ธันวาคม 2024 : ไทย-จีน-ลาว-เมียนมา ร่วมลาดตระเวนในแม่น้ำโขง
• มกราคม 2025 : ไทย-จีน-ลาว-กัมพูชา ประชุมใหญ่ตกลงกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์
• มกราคม 2025 : ไทยเพิ่มมาตรการชายแดน คุมเข้มคนเข้าออก ปิดช่องทางผิดกฎหมาย
• มกราคม 2025 : ไทยออกกฎหมายใหม่ เข้มงวดขึ้นกับแพลตฟอร์ม P2P, SIM card และบัญชีม้า
• มกราคม 2025 : ไทยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ตัดสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่แก๊งใช้
แก้ไขล่าสุดโดย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เมื่อ Fri Jan 31, 2025 10:52, ทั้งหมด 2 ครั้ง