ก็นั่นแหละ คนเผาอ้อยมันก็อ้างได้ เผาแล้วมันใช้ต้นทุนน้อยกว่า ไปทำให้ราคาอ้อยสดมันดีกว่าก่อนค่อยมาห้าม 5555555  

ประเด็นเรื่องของเรื่องที่ต้องพูดกันคือ
"สัดส่วน PM ที่มาจากรถและการเผาไหม้อะ มันมากันเท่าไหน "

คนชอบพูดว่ามันมาจากรถๆ แต่ไม่เคยพูดซ้ากคำว่าแม่มมาจากรถประมาณเท่าไหร่
ให้ผมเป็นนักวิชาการ ให้โจทย์ผมมาว่า "เห้ย หาดิว่าแม่มอะไรที่ปล่อย PM ออกมาได้บ้างในไทย"
ถามเด็กประถมก็ตอบได้ว่าแม่มมาจากการเผาไหม้ แล้วรถมันก็เผาไหม้ภายในอยู่แล้ว ต้องนับพวกธูปเทียนไหว้เจ้าด้วยไหม หรือพวกปิ้งหมูกระทะควันออกฉุยๆนี่นับด้วยไหม

เลิกใช้รถน้ำมันไป EV แทน คำถามก็ต่อมาละ จะเอาอะไรไปปั่นไฟป้อนให้รถ EV?
ไม่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่เหลือแม่มก็เผาไหม้ให้มีมลพิษทั้งนั้น แค่สะอาดกว่าและจำกัดพื้นที่เฉยๆ
พูดหยาบๆคือเอ็งโยนปัญหาในกรุงเทพฯไปอยู่ตรงรอบโรงไฟฟ้าเผาไหม้นั่นแหละ ทั้งถ่านหินทั้งแก๊สธรรมชาติ
ไอพลังงานสะอาดที่เหลือทั้งน้ำทั้งลมทั้งแสงแดดเนี่ยฝันไปเต๊อะว่าจะเพียงพอ

คือคำตอบมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก เผาไหม้มันก็คือเผาไหม้ สมัยโควิดรถวิ่งน้อยลงก็ไม่ได้ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น อันนี้เปเปอร์ยืนยัน
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0013935121003984
คือเลข NO กับ AQI ลดจริง แต่ PM ไม่ได้ลดลง ฉะนั้นแล้วรถจะวิ่งไม่วิ่งแทบไม่มีผลอะไรสักอย่าง

อีกเรื่องนึงที่ลืมกันไป เลข PM มันถูกกำหนดโดยเรื่อง Euro อยู่แล้วนะครับ
คนจะชอบคิดว่า Euro มันคือขนม เอ้ย คือน้ำมันอย่างเดียวว่าน้ำมันเกรด euro 4,5
แต่จริงๆมันคือการปล่อยมลพิษของตัวรถด้วยนั่นแหละ น้ำมันเป็นแค่อีกฝั่งของสมการที่"ช่วย"ลดเขม่าเฉยๆ
เบนซินไม่เคยถูกจำกัดเรื่อง PM จนกระทั่ง Euro 5 ส่วนดีเซลโดนคุมมาตลอด (ล่าสุดก็บังคับต้องเติม adblue แล้ว)
คำถามที่บอกว่ารถเก่าห้ามวิ่งเพื่อลดฝุ่นเนี่ย คือมันต้องเก่าขนาดไหนครับ?
ไม่ได้เป็นศรีธนญพิชัยนะที่ถามอะไรแบบกวนเท้า แต่คือมาตราฐาน Euro มันมาตั้งแต่รถปี 90's แล้วอะครับ
บ้านเราบนถนนเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่นับรถเมล์แดงหรือสภาพใกล้ๆกันจริงๆ มันมีกี่ % ที่เก่ากว่านั้น?
บนถนนส่วนมากผมเห็นก็รถยุคปี 2000-2010 ทั้งนั้น พวกนี้ก็ซัดกัน Euro 3-4 แล้วเป็นอย่างน้อย
ต่อให้ไม่จำกัดเรื่อง PM ตัวเบนซินเองก็ไม่ได้ปล่อยออกมาเยอะอยู่แล้ว (ใครเรียนวิศวะมาก็น่าจะพอเข้าใจว่าเขม่าตอนแลปแทบจะไม่มีเลยมั้ง) บางรุ่นก็มี EGR ใส่มาอีก ใส่แคทมาอีก
ส่วนฝั่งดีเซลถ้าเป็นกระบะแบบไม่ได้ดัดแปลง พวกนี้เติมน้ำมันยุคใหม่ๆเข้าไปก็ปล่อยลดลงระดับนึงแล้ว
ส่วนพวกที่อัดไดหมึก อันนี้จะไปไล่ยิงทิ้งก็แล้วแต่ ผมก็เห็นด้วยนะ

ฉะนั้นแล้วผมเลยอยากให้คิดหน่อยนึงว่าระหว่างเผากลางแจ้งที่ยังไงมันก็ไม่ใช่การเผาแบบสมบูรณ์แน่ๆ
กับการเผาเป็นฝอยๆในเครื่องยนต์สันดาปเนี่ย มลพิษที่ผลิตออกมาต่างกันเยอะนะครับ
ไม่ได้พูดว่ารถมันไม่ปล่อย แต่โดยสัดส่วนแล้วเนี่ย มันควรจะพิจารณาเรื่องใดก่อน
เปเปอร์ผมก็แนบแล้ว ช่วงโควิดคนอยู่บ้าน WFH ค่า NO/AQI ลด แต่ค่า PM ไม่ได้ลดแถมเพิ่มเสียอีก  

ประเด็นเรื่องของเรื่องที่ต้องพูดกันคือ
"สัดส่วน PM ที่มาจากรถและการเผาไหม้อะ มันมากันเท่าไหน "

คนชอบพูดว่ามันมาจากรถๆ แต่ไม่เคยพูดซ้ากคำว่าแม่มมาจากรถประมาณเท่าไหร่
ให้ผมเป็นนักวิชาการ ให้โจทย์ผมมาว่า "เห้ย หาดิว่าแม่มอะไรที่ปล่อย PM ออกมาได้บ้างในไทย"
ถามเด็กประถมก็ตอบได้ว่าแม่มมาจากการเผาไหม้ แล้วรถมันก็เผาไหม้ภายในอยู่แล้ว ต้องนับพวกธูปเทียนไหว้เจ้าด้วยไหม หรือพวกปิ้งหมูกระทะควันออกฉุยๆนี่นับด้วยไหม

เลิกใช้รถน้ำมันไป EV แทน คำถามก็ต่อมาละ จะเอาอะไรไปปั่นไฟป้อนให้รถ EV?
ไม่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่เหลือแม่มก็เผาไหม้ให้มีมลพิษทั้งนั้น แค่สะอาดกว่าและจำกัดพื้นที่เฉยๆ
พูดหยาบๆคือเอ็งโยนปัญหาในกรุงเทพฯไปอยู่ตรงรอบโรงไฟฟ้าเผาไหม้นั่นแหละ ทั้งถ่านหินทั้งแก๊สธรรมชาติ
ไอพลังงานสะอาดที่เหลือทั้งน้ำทั้งลมทั้งแสงแดดเนี่ยฝันไปเต๊อะว่าจะเพียงพอ

คือคำตอบมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก เผาไหม้มันก็คือเผาไหม้ สมัยโควิดรถวิ่งน้อยลงก็ไม่ได้ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น อันนี้เปเปอร์ยืนยัน
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0013935121003984
คือเลข NO กับ AQI ลดจริง แต่ PM ไม่ได้ลดลง ฉะนั้นแล้วรถจะวิ่งไม่วิ่งแทบไม่มีผลอะไรสักอย่าง

อีกเรื่องนึงที่ลืมกันไป เลข PM มันถูกกำหนดโดยเรื่อง Euro อยู่แล้วนะครับ
คนจะชอบคิดว่า Euro มันคือขนม เอ้ย คือน้ำมันอย่างเดียวว่าน้ำมันเกรด euro 4,5
แต่จริงๆมันคือการปล่อยมลพิษของตัวรถด้วยนั่นแหละ น้ำมันเป็นแค่อีกฝั่งของสมการที่"ช่วย"ลดเขม่าเฉยๆ
เบนซินไม่เคยถูกจำกัดเรื่อง PM จนกระทั่ง Euro 5 ส่วนดีเซลโดนคุมมาตลอด (ล่าสุดก็บังคับต้องเติม adblue แล้ว)
คำถามที่บอกว่ารถเก่าห้ามวิ่งเพื่อลดฝุ่นเนี่ย คือมันต้องเก่าขนาดไหนครับ?
ไม่ได้เป็นศรีธนญพิชัยนะที่ถามอะไรแบบกวนเท้า แต่คือมาตราฐาน Euro มันมาตั้งแต่รถปี 90's แล้วอะครับ
บ้านเราบนถนนเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่นับรถเมล์แดงหรือสภาพใกล้ๆกันจริงๆ มันมีกี่ % ที่เก่ากว่านั้น?
บนถนนส่วนมากผมเห็นก็รถยุคปี 2000-2010 ทั้งนั้น พวกนี้ก็ซัดกัน Euro 3-4 แล้วเป็นอย่างน้อย
ต่อให้ไม่จำกัดเรื่อง PM ตัวเบนซินเองก็ไม่ได้ปล่อยออกมาเยอะอยู่แล้ว (ใครเรียนวิศวะมาก็น่าจะพอเข้าใจว่าเขม่าตอนแลปแทบจะไม่มีเลยมั้ง) บางรุ่นก็มี EGR ใส่มาอีก ใส่แคทมาอีก
ส่วนฝั่งดีเซลถ้าเป็นกระบะแบบไม่ได้ดัดแปลง พวกนี้เติมน้ำมันยุคใหม่ๆเข้าไปก็ปล่อยลดลงระดับนึงแล้ว
ส่วนพวกที่อัดไดหมึก อันนี้จะไปไล่ยิงทิ้งก็แล้วแต่ ผมก็เห็นด้วยนะ

ฉะนั้นแล้วผมเลยอยากให้คิดหน่อยนึงว่าระหว่างเผากลางแจ้งที่ยังไงมันก็ไม่ใช่การเผาแบบสมบูรณ์แน่ๆ
กับการเผาเป็นฝอยๆในเครื่องยนต์สันดาปเนี่ย มลพิษที่ผลิตออกมาต่างกันเยอะนะครับ
ไม่ได้พูดว่ารถมันไม่ปล่อย แต่โดยสัดส่วนแล้วเนี่ย มันควรจะพิจารณาเรื่องใดก่อน
เปเปอร์ผมก็แนบแล้ว ช่วงโควิดคนอยู่บ้าน WFH ค่า NO/AQI ลด แต่ค่า PM ไม่ได้ลดแถมเพิ่มเสียอีก