[LFC] สัมภาษณ์ วาตารุ เอ็นโด
วาตารุ เอ็นโด เร้ด แม็ทชีน พอดแคสต์ EP 3
เกมพรีเมียร์ ลีกมีความเข้มข้นมาก นักเตะที่ไม่ค่อยได้เล่นจะมีโอกาสสัมผัสความเข้มข้นเหมือนเกมจริงหรือไม่
“เราซ้อมหนัก เต็มที่เหมือนเล่นจริง” วาตารุ เอ็นโด กล่าวในพอด แคสต์ Red Machine EP 3ของเขา “ซ้อมต้องหนักและเหมือนเล่นจริง นั่นทำให้เราแข็งแกร่งได้”
บทบาทของเขา และตัวตนของวาตารุ เอ็นโดในทีมลิเวอร์พูล
“ผมมีหน้าที่ในเกมรับ แย่งบอลกลับมา และจัดการเกมแดนกลางให้เป็นระบบ เข้าที่ แต่ผมพยายามทำให้ทีมเดินหน้าดีที่สุดด้วย ช่วยให้ทีมเล่นดี”
จิตวิญญาณแห่งคนญี่ปุ่น มีส่วนสำหรับเรื่องนี้ไหม ช่วยเกมของเขา ความมีวินัยแบบญี่ปุ่น ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง หาตำแหน่งเวลาเล่นเกมรับ เข้ากับระบบ
“การเล่นเบอร์ 6 ต้องทำหน้าที่ตัดเกม Dirty job ผมต้องสื่อสาร เชื่อมเกมกับกองหลังด้วย”
สื่อสาร เท่ากับต้องพยายามพูดอังกฤษกับอิบูหรือเวอร์จิล ฟาน ไดค์มากขึ้น ทำให้คุณพัฒนาเรื่องภาษามากขึ้นด้วย เพราะในทีมพูดภาษาอังกฤษ
“ถูกต้อง ที่จริงผมไม่ต้องพูดอะไรเยอะแยะ นอกหรือในสนาม อย่างเวอร์จิลจะตะโกนเรียกผม วาตะ วาตะ ตลอดเวลา ทำให้ผมยืนถูกตำแหน่ง เขาจัดการเกมรับได้ ผมถือว่า เวลาเขาเรียกเป็นเรื่องที่ดี (ไม่ใช่โดนด่า)”
การทำงาน Dirty job แต่หลายครั้งที่คุณแสดงออกถึงการเล่นที่สร้างสรรค์ได้ดี
“นักเตะต้องทำได้ ทั้ง 2 อย่าง รับและรุก ผมต้องป้องกันให้ดีก่อน แต่ผมพยายามสร้างความแตกต่างๆ เล่นง่ายๆ ก็อยากมีอะไรที่สร้างสรรค์มากขึ้น แต่ผมจะเล่นง่ายๆก่อน เปลี่ยนทิศทางบอล”
เรื่องการยิงประตู ไม่มีใครคาดหวังจากเขา แต่ถ้าทีมต้องการประตู เอ็นโดมีหน้าที่สำคัญ
“แฟนๆ ไม่คาดหวังผมเรื่องทำประตู แต่บางที เมื่อผมได้บอลจากโม ผมคิดว่าผมทำประตูได้เหมือนกัน แต่หน้าที่ของผมเมื่อทีมต้องการประตูคือ แย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุด มากที่สุดเมื่อเราเสียบอลไป จากนั้น ส่งต่อให้คนอื่นพยายามทำประตู”
เกมดีที่สุดหรือที่เขาประทับใจที่สุดกับลิเวอร์พูล
“กับแมนฯ ซิตี้ฤดูกาลนี้ และอาร์เซน่อลเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ผมว่าเกมแมนฯ ซิตี้ดีที่สุด”
เขาพูดถึงอเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ หลายครั้ง เขาคิดว่าแม็กก้าเป็นอย่างไร
“แม็กก้าคือนักเตะที่ยอดเยี่ยม ไม่แต่เฉพาะเกมรุก เขาเล่นเกมรับดีด้วย ฤดูกาลที่แล้ว เขาเล่นเบอร์ 6 ซึ่งทำได้ดี เขายิงประตูดี เปิดบอล ใจสู้ ผมดีใจที่มีโอกาสเล่นกับเขา”
การซ้อมร่วมกับโม ดาร์วิน ดิอาซ เขาเคยคิดจะทำอะไรหวือหวาแบบเพื่อนๆบ้างไหม
“สไตล์การเล่น เราแต่ละคนมีสไตล์การเล่น ผมคงไม่ลอกแบบใคร แต่ผมดูพวกเขา การเตรียมตัว การเข้ายิม ทานอย่างไร”
คุณซ้อมอย่างไร เพื่อเป็นวาตะที่ดี แบบโมจะซ้อมยิงประตูเป็นชั่วโมง ประตูซ้อมรับบอล สำหรับคุณล่ะ ทำอย่างไรเพื่อให้วาตะพร้อมที่สุด สำหรับมิดฟิลด์ตัวรับ
“ต้องซ้อมให้พอดี ต้องหาจุดลงตัว ซ้อมหนักไปก็ล้า ซ้อมน้อยไปไม่มีทางเก่ง คุณต้องหาจุดที่ลงตัว ผมซ้อมกับครูฝึก เทรนเนอร์ส่วนตัว ซึ่งทำงานกันมา 5-6 ปีแล้ว จะเจอกันสัปดาห์ละ ครั้งหรือ 2 ครั้ง แล้วแต่เวลาว่าง”
กิจวัตรตอนเช้า
“ผมส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า แล้วไปสนามซ้อม 9.45 น ทานอาหารเช้า เข้าโรงยิมสัก 45 นาที แล้วซ้อมในสนาม 1-2 ชั่วโมง จากนั้นบางคนเข้ายิม บางคนซ้อมส่งบอล ยิงประตู บางคนก็ฟื้นฟูร่างกาย เซาว์น่า แช่น้ำเย็น จากนั้นกลับไปรับลูกที่โรงเรียน”
การแท็คเกิ้ล เคยกังวลไหมว่าจะทำให้คนอื่นเจ็บ ตามวิถีทางคนญี่ปุ่น
“ตอนซ้อม กังวลเหมือนกัน ต้องระวัง บางทีคิดว่า ไม่ต้องเข้าหนักๆ ไม่อยากทำให้เพื่อนเจ็บ แต่ในเกมไม่เคยกลัว หน้าที่ผมคือหยุดคู่ต่อสู้ ดังนั้น ผมเข้าบอลเต็มร้อย ทำสิ่งที่จำเป็น นั่นคืองานของผม”
“วัฒนธรรมการเล่น อเมริกาใต้กับญี่ปุ่นแตกต่างกัน แต่ผมไม่กลัวนะหากต้องโดนใบเหลือง ผมรู้ว่า เราโดนได้กี่ใบ เล่นกี่เกมโดนใบเหลืองกี่ใบ ผมรู้ตัวเอง ดังนั้น ผมจะไม่ยอมโดนแบนเพราะใบเหลือง อาจต้องเล่นหนัก แต่ต้องรู้ว่า โดนไปกี่ใบ”
นักเตะเร็วที่สุดของลิเวอร์พูล “ดาร์วิน นูนเญชหรือโม่” โดยสถิติคือโดมินิก โซโบซไล
ถ้าต้องต่อยกับเพื่อนร่วมทีม(บนเวที) ไม่อยากเจอใคร “อิบู หรือฟาน ไดค์ พวกเขาแข็งแรงมาก”
ใครแต่งตัวดีที่สุด “ซิมิกาส ผมอาจดีรองจากซิมิกาส” คนแต่งตัวแย่ที่สุด “ขอโทษนะ ร็อบโบ้”
กิตติกร อุดมผล
https://www.facebook.com/share/18FdARw4HN/
ตอนท้ายอย่างฮา