https://www.soccersuck.com/boards/topic/2532817


https://www.soccersuck.com/boards/topic/2532816

เอาคำตอบจริงจังมั้ย

รอบล่าสุดนี้รอดแล้ว รอบต่อไปคือส่งบัญชีก่อน 31 ธันวาปีนี้ ( แต่อยู่ในช่วงฤดูกาลหน้า ) และน่าจะรู้ผลว่าผิดกฎมั้ยตอนช่วงมกราปีหน้าครับ

เอาจริงๆมั้ยครับ ไม่โดนตัดครับ อย่างมากก็คงจ่ายค่าปรับ

กฎนี้มันมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมใหญ่ๆ

ยิ่งถ้าปรับแล้วแมนยูลงไปโซนตกชั้น คนที่เสียหายที่สุดจะเป็น EPL เอง

ถามจริงจังครับ ขาดทุนเกิน 105 ล้านปอนด์ไปไกลมาก แล้วรอดไปได้ยังไงครับ?

ของแมนยูไม่รู้ครับ แต่มันไม่ได้คิดตรงๆว่าถ้าเกิน 105 แล้วผิดเลย มันมีเอานู่นเอานี่มาลดหย่อนในการขาดทุนได้ ไม่ใช่แค่เอาตัวเลขขาดทุนดิบๆแล้วตัดสินโทษเลย

อีกอย่างที่ปีก่อนไม่เสี่ยง ถ้าให้เดา รอบการคำนวณของปีก่อนคือ ฤดูกาล 2023-24 ,2022-23 ,2021-22 ซึ่ง แมนยู ได้ไป UCL 2 ปี + ไป ยูโรป้า ปีนึง ซึ่งไป UCL นี่ได้เงินเยอะมากๆครับ ยูโรป้า หรือ คอนเฟอเรนซ์ นี่เทียบไม่ติดเลย

แต่รอบนี้ที่จะตัดสินกันมกราปีหน้า รอบการคำนวณคือ ฤดูกาล 2024-25 ,2023-24 ,2022-23 ซึ่งได้ไป UCL แค่ปีเดียว ที่เหลือ ยูโรป้า เงินก็น่าจะหายไปเยอะนะ

กรณีฟอเรสต์ที่ผิดกฏเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (ตามเงื่อนไขคือรวมการขาดทุนทั้งหมด 3 ฤดูกาล) โดนตัด 4 คะแนนในเดือนมีนาคมช่วงท้ายฤดูกาลเดียวกัน ปีนี้ที่ประกาศออกมาไม่มีทีมไหนผิดกฏก็จะไม่มีใครโดนตัดคะแนน ถ้ามีใครผิดกฏจะโดนตัดคะแนนในเดือนมีนาคมอ้างอิงจากฟอเรสต์



ด้วยฟอร์มปัจจุบันเนี่ย ทีมบริหารรู้ชะตากรรมว่าจะไปคาดหวังรายได้จากบอลยุโรปมาช่วยในทางบัญชีไม่ได้แน่นอน เราจึงเห็นการตัดค่าใช้จ่ายที่ขัดใจหลายอย่างมาก แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้

แฟนบอลอดทนกันต่อไปครับ อย่างน้อยยยยยยยยย 2 ฤดูกาลหรือจนกว่าจะปล่อย คาเซมิโร่ อันโตนี่ แรชฟอร์ด เป็น 3/5 คน ที่รับค่าเหนื่อยมากกว่า 200,000 GBP ส่วนเม้าท์ต้องมารอดูว่าหากร่างกายสมบูรณ์จะใช้งานได้หรือเปล่าอีกที

เราต้องขายดาวรุ่งเพื่อรายรับเต็มจำนวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าแรชฟอร์ดขายได้ การ์นาโช่จะได้อยู่ต่อ แต่มันดันไปไหนไม่ได้

เรามันเงาแค้นอ่ะ
ดันไปโดนตัดแต้ม2รอบใน1ฤดูกาลก็งี้แหละ

ปี 2022 มันอยู่ในช่วงกฎพิเศษช่วงโควิดด้วยครับ กฎนี้มันสามารถเอารายได้ที่หายไปใส่กลับคืนไปคำนวณ psr ได้ครับ เช่นงบการเงินออกมาขาดทุน 115 ล้าน แต่ทีมสามารถส่งหลักฐานไปได้ว่าถ้าไม่มีโควิดรายได้ของทีมควรเป็นเท่านั้นเท่านี้ พอเอาไปคำนวณ psr จริงๆ ปี 2022 อาจจะขาดทุนนิดเดียวหรือกำไรก็ได้ อีกอย่างคือมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่สามารถเอามาลดหย่อนได้เช่นค่าใช้จ่ายอคาเดมี่หรือค่าใช้จ่ายทีมหญิง พอรวมทุกอย่าง 3 ปีแล้วมันเลยไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ใน psr ครับ

แล้วถามว่าปีต่อไปแมนยูเสี่ยง psr ไหมก็ตอบว่าไม่ใกล้เคียงอะ แมนยูแต่ละปีถ้าไม่ซื้อขายอะไร กำไรจากการดำเนินการปกติเฉลี่ยปีละ 100+ ล้านอยู่ละ คือรอบต่อไปใช้ของปี 2023,2024,2025 ซึ่งก็คือ (-113) + (-28) + xxx <= (-105) ดังนั้น xxx >= 36 ปี 2025 แมนยูต้องกำไรมากกว่า 36 ล้านถึงรอด(นี่ยังไม่รวมค่าลดหย่อนต่างๆอีกนะ) ซึ่งสบายมากครับถ้าไม่ซื้อตัวอะไร แถมมี gap ให้ซื้อมากกว่าขายประมาณ 100 ล้านด้วยซ้ำไป คือมันไม่ต้องขึ้นค่าตั๋วก็รอดได้ครับ แค่ซื้อขายให้ฉลาดก็พอ แมนยูนี่สถานการณ์ดีกว่าพวกเอฟฯ/เลสเตอร์อยู่หลายขุมครับ

มันยังไม่ผิดนี่
มันแค่มีโอกาส
แต่ปีนี้พรีเมียร์ประกาศมาแล้วว่าไม่มีใครโดน

ทีมอื่นพรีเมียร์ลีกหักค่าเสียโอกาสเพราะโควิดให้ทีมละ 2 ล้านปอนด์

แมนยูพรีเมียร์ลีกหักให้ 40 ล้านปอนด์ครับ

ผมถามรอบล่าสุดที่แถลงว่าขาดทุน 300 กว่าล้านปอนด์นี่แหละครับ เอาปีถัดไปมาคำนวณทำไมครับ?

นี่ขนาดบอกกันว่า PL ไม่อยากให้แมนยูตกชั้นนะ

แต่การกระทำ FA แม่งตรงข้ามเลย

คิดแล้วก็โกรธบอร์ดชุดไอ่อาโนลด์กับ ETH ชิบหาย ซื้อมาแต่ละตัวราคาโคตรเวอร์ ค่าเหนื่อยก็เวอร์เกิน

ก็ข่าวที่คุณแปะพูดถึงเสี่ยงที่จะโดน psr ในรอบต่อไปเลยขึ้นค่าตั๋วไงครับ ผมเลยคำนวณมาให้ดูว่ารอบต่อไปก็ไม่ได้ใกล้คำว่าเสี่ยงเลย เสี่ยงจริงต้องพวกเอฟฯ/เลสเตอร์ที่ขยับอะไรก็ลำบากต้องขายก่อนซื้อ ส่วนแมนยูตลาดหน้าก็ทุ่มระดับ 100 ล้านอีกเหมือนเดิมแหละ

ส่วนที่คุณสงสัยว่าทำไมรอบที่ผ่านมาไม่โดนผมก็อธิบายไปแล้วว่าบางอย่างมันเอามาลดหย่อนได้ บางอย่างมันก็ไม่ได้เอามาคิด เท่าที่ผมหาได้ตามลิงค์นี้

https://www.sportsbusinessjournal.com/Articles/2024/09/13/manchester-united-covid-claim

ปี 23-24 หักไป 62.7 ล้านดอล หลักๆก็ค่าซื้อหุ้นของเซอร์จิม
ปี 21-22 หักไป 52.5 ล้านดอล ตามกฎพิเศษโควิด

รวมๆแล้วหักออกไปประมาณ 115 ล้านดอลหรือประมาณ 92.5 ล้านปอนด์ครับ และมันยังมีค่าลดหย่อนอื่นๆอีกเช่นค่าใช้จ่ายทีมหญิงกับอคาเดมี่ซึ่งผมหาไม่เจอว่าเท่าไหร่