'ไคลเวิร์ต' แฮตทริกโชว์!! 'นิว' โดนของแสลงพ่าย 'บอร์นมัธ' คาบ้าน 4-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ฟอร์มแรงๆแต่โดนของแสลงเข้าไปก็ไม่รอดเมื่อ จัสติน ไคลเวิร์ต ยิงให้ บอร์นมัธ นำแต่หัววันและแม้ บรูโน่ กีมาไรส์ จะโหม่งตีเสมอได้แต่ก็เป็น ไคลเวิร์ต คนเดิมยิงเพิ่มเป็นแฮตทริกและปิดท้ายด้วย มิลอส เคอร์เคซ บวกอีกหนึ่งส่ง สาลิกาดง แพ้คาบ้าน 4-1 พลาดโอกาสขึ้นอันดับ 3 และยังไร้ชัยในการเจอกับ บอร์นมัธ เพิ่มเป็น 7 นัดติดต่อกันในลีก
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-3-3
4.
สเวน บ็อตมัน
45'
5.5
20.
ลูวิส ฮอลล์
66'
5.5
39.
บรูโน่ กีมาไรส์
90+1'
5.5
23.
เจค็อบ เมอร์ฟี่
66'
5.0
ตัวสำรอง
5.
ฟาเบียน แชร์
45'
5.5
2.
คีแรน ทริปเปียร์
66'
5.5
28.
โจ วิลล็อค
66'
5.5
18.
วิลเลียม โอซูล่า
90+1'
-
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค
วันที่ 18 มกราคม 2568
กรรมการ สจวร์ต แอ๊ตเวลล์
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
1
4
บอร์นมัธ
0-1 ไคลเวิร์ต 6'
1-2 ไคลเวิร์ต 44'
1-3 ไคลเวิร์ต 90+2'
1-4 เคอร์เคซ 90+6'
นิวคาสเซิ่ล ได้ แชร์ กลับมาแล้วแต่ยังฟิตพอเป็นแค่สำรอง ทำให้ บ็อตมัน จับคู่กับ เบิร์น ต่อไปเลยเป็น 11 ตัวจริงชุดเดิม
ส่วนทางด้าน บอร์นมัธ แบ็คขวาขาดแคลนเลยจับ คุ๊ก มายืนแทนและถอย คริสตี้ มาเล่นกลาง ส่วน ไคลเวิร์ต ก็กลับมาเป็นตัวจริงในแนวรุก
บอร์นมัธเกือบนำไว! อ๊วตตาร่า ยิงติดเซฟ เซเมนโย่ ซ้ำข้ามคาน
หวิดจะมีประตูนำให้กับ บอร์นมัธ ตั้งแต่ต้นเกมเลยจากที่ บรูคส์ ทางขวารอดเข้าเขตโทษแล้ว อ๊วตตาร่า โฉบมายิงไม่จับติดเซฟบอลเด้งไปกลางเขตโทษ เซเมนโย่ ยิงซ้ำพุ่งข้ามคาน
ยังนำไว! เซเมนโย่ ทำชิ่งหักคืน ไคลเวิร์ต ยิงนำ
หลังจากนั้น บอร์นมัธ บุกต่อแล้วก็เอาประตูนำเลย มาจากจังหวะ เซเมนโย่ เบิ้ลคืนหลังไปที่ ไคลเวิร์ต ก่อนจ่ายเขตโทษทางซ้ายให้ เซเมนโย่ สอดไปแล้วหักกลับมาตรงกลาง ไคลเวิร์ต วิ่งมายิงเรียดเข้าเสาไกล บอร์นมัธ นำ 1-0
สาลิกาตอบโต้ โชเอลินตอน ยิงโด่งออกหลัง
นิวคาสเซิ่ล โดนกดดันเยอะช่วงต้นแต่ก็ตั้งเกมบุกมาหาจังหวะจบได้บ้าง กับฟรีคิกเล่นเร็วขึ้นมาทางซ้าย กอร์ดอน เปิดไปตรงกลาง อิซาค แปะออกมาให้ กีมาไรส์ หน้าเขตโทษจ่ายต่อ โชเอลินตอน ยิงไกลยังโด่งออกไป
สาลิกาขอคืน! เตะมุมถึง กีมาไรส์ โหม่งตีเสมอ
แล้วพอ สาลิกาดง หาโอกาสได้อีกก็หาประตูตีเสมอสำเร็จ ด้วยเตะมุมต่อเนื่อง ฮอลล์ เปิดจากซ้ายเข้ามาในกรอบ กีมาไรส์ หลุดตัวประกบได้โหม่งตรงจุดโทษส่งบอลพุ่งหาประตู เกปา ปัดได้แต่ก็ไม่พอ นิวคาสเซิ่ล ตามเจ๊า 1-1
บอร์นมัธมาใหม่ คริสตี้ ยิงออกหลัง
หลังจากนั้น บอร์นมัธ กลับมาบุกใหม่และได้โอกาสจบอีกหลังจากดักบอลกลางสนามเด้งหา ไคลเวิร์ต ทางขวาของเขตโทษจ่ายเข้ากลาง คริสตี้ ได้ยิงออกหลังจะฟ้องเอาแฉลบแต่เปาไม่แจก
บอร์นมัธมาอีกที อ๊วตตาร่า โหม่งข้ามคาน
เกมขยับเข้าท้ายครึ่งแรก บอร์นมัธ บุกกลับขึ้นมาหาโอกาสเพิ่มหลังฝากไปที่ คุ๊ก เติมมาทางขวาแล้วได้เปิดเข้าไปในเขตโทษจบด้วย อ๊วตตาร่า โหม่งข้ามคาน
สาลิกาได้ลุ้น! กอร์ดอน ยิงเสาแรกโดนปัด
นิวคาสเซิ่ล ก็มีลุ้นเหมือนกันหลัง กีมาไรส์ รับบอลหน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ กอร์ดอน ที่ขยับมาอยู่ทางขวาในกรอบขยับหาช่องยิงเสาแรกแต่โดน เกปา ปัดออกไป
บอร์นมัธนำใหม่! เพรสซิ่งดีฉกบอลจ่ายให้ ไคลเวิร์ต ยิงอีกลูก
แต่แล้วก่อนหมดครึ่งแรก บอร์นมัธ ก็ได้ประตูนำอีกครั้ง เป็นการเพรสซิ่งแย่งบอลได้จาก กีมาไรส์ หน้าเขตโทษ อ๊วตตาร่า ไหลให้กับ ไคลเวิร์ต คนเดิมกดเรียดในเขตโทษเข้าไปอีกครั้ง บอร์นมัธ นำใหม่ 2-1
ประตูนี้ยังทำให้ จัสติน ยิงใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค มากกว่า ปาทริค ไคลเวิร์ต พ่อของเขาที่เคยยิงได้แค่ลูกเดียวสมัยเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล
เกิดจังหวะกระทบกระทั่ง อดัมส์,โชเอลินตอน,ไคลเวิร์ต คนละเหลือง
ทดเจ็บมีจังหวะกระทบกระทั่งกันอีกเมื่อ อดัมส์ เสียบใส่ กอร์ดอน แล้วไม่มีเสียงนกหวีด โชเอลินตอน เลยหวดทางด้านหลังแย่งบอลคืนจาก ไคลเวิร์ต ทำให้ ไคลเวิร์ต ไม่แฮปปี้ลุกมาจะเอาเรื่อง สุดท้ายกรรมการควักเหลืองให้ทั้งสามคน
แชร์ ลงมาจ่ายไม่ดีแต่ คริสตี้ ยิงไปโดนรับ
เข้าครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยน แชร์ ลงมาแทน บ็อตมัน แต่การเพรสซิ่งของ บอร์นมัธ ยังสร้างความปั่นป่วนได้อยู่ทำให้ แชร์ จ่ายไม่ดีไปเข้าเท้า บรคูส์ หน้าเขตโทษเฉยแต่ บรูคส์ ยิงไปโดนรับได้
โตนาลี ยิงหน้าเขตโทษยังพุ่งหลุดกรอบ
นิวคาสเซิ่ล มาสร้างโอกาสลุ้นตีเสมอได้ด้วยโอกาสที่ โตนาลี ตักขึ้นไปให้ กีมาไรส์ พักบอลริมกรอบเขตโทษแล้วจ่ายย้อนมา กอร์ดอน ส่งต่อ โตนาลี เติมมาหน้าเขตโทษขอยิงเองยังหลุดกรอบ
บอร์นมัธอดได้! ยิงเข้าไปแล้วแต่บอลออกหลังก่อน
บอร์นมัธ เกือบจะเอาประตูนำเพิ่มออกไปอีกหลังจากที่ บรูคส์ ยิงไปติดเซฟแล้ว โตนาลี เตะทิ้งขึ้นไปแถวสอง บอร์นมัธ เก็บได้กดดันต่อก่อน บรูคส์ เปิดให้ อ๊วตตาร่า ชาร์เข้าประตู
ถึงอย่างนั้น VAR ย้อนเช็คจังหวะ โตนาลี เตะสกัดทิ้งนั้นบอลมันออกหลังไปแล้วทำให้ไม่เป็นประตูและ บอร์นมัธ ได้เตะมุมแทน
ยังไม่สาม! บรูคส์ ยิงแฉลบ ดูบราฟก้า มาปัดทัน
บอร์นมัธ ทำหวาดเสียวจะนำเพิ่มอีกแล้วหลังแย่งบอลกลางสนาม อ๊วตตาร่า แทงให้ เซเมนโย่ หลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายหักมาตรงกลาง บรูคส์ ยิงได้ติดแฉลบค่อยๆเด้งไปเสาไกลแต่ ดูบราฟก้า วิ่งมาปัดไว้ทัน
บอร์นมัธปิดช่องทางบุกได้หมด นิวคาสเซิ่ลไม่ได้ง้าง
เกมผ่านมาช่วงท้ายแล้ว นิวคาสเซิ่ล ยังสร้างจังหวะจบดีๆไม่ได้เลยเจอ บอร์นมัธ เล่นด้วยวินัยปิดช่องทางบุกได้หมดบอลไม่ถึง อิซาค เลย
ยังไม่ผ่าน! กอร์ดอน วอลเล่ย์หน้าเขตโทษติดบล็อก
นิวคาสเซิ่ล มาหาโอกาสได้ด้วยลูกฟรีคิกทางซ้ายเปิดโด่งเข้าไปแล้วโดนชกทิ้งออกมาหน้าเขตโทษ กอร์ดอน วอลเล่ย์สวนเลยแต่ก็ยังโดนบล็อกไว้
บอร์นมัธลุ้นฝัง เซเมนโญ่ ยิงติดบล็อก
เวลาเหลือไม่เยอะและ บอร์นมัธ มีลุ้นที่จะฝังเกมนี้ด้วยบอลสาดขึ้นหน้าแล้ว เจ๊บบิสัน เก็บได้ทางซ้ายก่อนจะจ่ายให้ เซเมนโย่ วิ่งสับไกในเขตโทษติดบล็อก
ตอกฝาโลง! นิวจ่ายไม่ดี ไคลเวิร์ต ส่องหน้าเขตโทษไม่เหลือ
ท้ายที่สุดทดเจ็บ บอร์นมัธ ก็เอาประตูฝังเกมนี้ได้สำเร็จ หลังจาก นิวคาสเซิ่ล จะโต้กลับแต่ กอร์ดอน จ่ายไม่ดีโดน อดัมส์ ดักได้ปล่อยให้ ไคลเวิร์ต หน้าเขตโทษมีพื้นที่มีเวลาเลือกแล้วซัดส่งบอลตุงตาข่าย บอร์นมัธ ปิดกล่อง 3-1
เกือบมีอีก! เจ๊บบิสัน หลุดไปยิงแต่โดนเซฟ
บอร์นมัธ เกือบมีเพิ่มไปอีกต่างหากหลังเคลียร์ขึ้นหน้าไป เจ๊บบิสัน เก็บได้แตะบอลหนี แชร์ หลุดเข้าเขตโทษมาแต่ก็ยิงไม่ผ่าน ดูบราฟก้า ออกมาปิดมุมเซฟ
แถมอีกลูก! เคอร์เคซ เติมมายิงเข้าเสาไกล
แล้วจากที่ นิวคาสเซิ่ล มีลุ้นจะเอาประตูเพิ่มไล่จี้จาก กอร์ดอน ยิงไปโดนสกัดหน้าประตู พอโดนบุกกลับมาก็เสียเพิ่มแทนหลังฝาก เคอร์เคซ เติมมาทางซ้ายเข้าเขตโทษสับขาโยกเปิดช่องแล้วซัดเข้าเสาไกลไปเลย บอร์นมัธ แถมอีกลูก 4-1
จบเกม นิวคาสเซิ่ล แพ้ต่อ บอร์นมัธ 4-1 หยุดสถิติชนะรวดทุกรายการไว้ที่ 9 นัดและพลาดโอกาสขึ้นไปอยู่อันดับ 3
นอกเหนือจากนี้ นิวคาสเซิ่ล ยังไร้ชัยในการเจอกับ บอร์นมัธ เป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันในลีกด้วย
บอร์นมัธ เองก็ฟอร์มใช่ย่อยเหมือนกันไร้พ่ายเพิ่มเป็น 11 เกมติดต่อกันในทุกรายการ
บอร์นมัธ
Starting Formation: 4-2-3-1
19.
จัสติน ไคลเวิร์ต
90+6'
10
7.
เดวิด บรูคส์
82'
7.0
11.
ดานโก้ อ๊วตตาร่า
90+6'
7.5
ตัวสำรอง
47.
เบน วินเตอร์เบิร์น
90+6'
43.
เซน ซิลค็อตต์-ดิวเบอร์รี่
51.
เรมี่ รีส์-ด็อตติ้น
90+6'
21.
เดเนียล เจ๊บบิสัน
82'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Jan 19, 2025 00:28, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ