ไม่รู้ตอนรับเข้าไปมีการตัดสินคดีรึยัง

แต่ตอนนี้เป็นข่าวขนาดนี้แล้ว รอดูแอคชั่นครับ

เมื่อคืนยังไม่รู้เรื่อง เพิ่งได้ฟังเพลงใหม่ไปด้วย (น่าจะออกมาสองสามวัน) ไม่ได้อ่านเม้นเลย สงสัยตอนนี้น่าจะยับ

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ คือแฟน ผญ ปะที่ทำงานแต่ว่า ทำไมตัว ผญ สามารถไปหลังวีทีได้ละไปโซนศิลปินได้เหรอ

มีคนบอกว่าเข้ามาในฐานะของสต๊าฟศิลปินครับ

สำหรับผมนะ ถ้าถามตามความรู้สึกของคนในวงการเดียวกัน มันก็ไม่ควรไหม คือระดับศาลตัดสินแล้วอะ ว่าคนเกี่ยวข้องกับคนของวงคุณ ไปก่อความเดือดร้อนให้กับศิลปิน เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน และถ้าเอาตามความเป็นจริงด้วยคุณก็มีส่วนที่เปิดโอกาสให้คนที่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ได้มีโอกาสสร้างความเดือดร้อนต่อไปเรื่อยๆ เช่นการที่สามารถเข้าไปถึงห้องพักศิลปิน เพราะอ้างว่าเป็น ผู้ติดตาม ของคนที่เกี่ยวข้องกับวงคุณ ใจคอคุณจะไม่ action อะไรบ้างเลยหรอ คือปล่อยไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่สนใจ ใดๆทั้งสิ้นอ่าหรอ?

ถามก่อนใครเป็นซาวเอนล่ะ ผู้หญิงหรือชาย ถ้าชายเป็นผมมองว่าไม่ผิดที่รับเข้าทำงาน แต่ผิดที่ซาวเอนคนนั้นยอมให้แฟนเข้ามายุ่งเรื่องงาน เข้ามาในคอนหรืองานต่างๆ ถ้าจะผิดคือไม่ไปห้ามซาวเอนคนนั้น

นอกเรื่องนักร้องวงนี้ที่เคยมีข่าวแกล้งเพื่อนใช่ไหม

ข้อความนี้ผมเห็นด้วยความหมายของ Hobby กับ SASAENG FAN มันต่างกันนะ

ก็เอาบัตรทีมงานของแฟนมาใช้เข้า-ออกพื้นที่หลังเวทีครับ

ถามว่าววผิดไหม ไม่ผิดครับ แต่วงต้องมีส่วนช่วยรับผิดชอบครับ

น่าจะ Three Man Down นะอันนั้น

ถ้าตีความตามท่าน คือคนจำพวกนี้ ไม่สามารถทำงานอะไรได้เลย ดังนั้นสมควรอดตาย ไปให้พ้นๆโลกแบบนี้หรอครับ

หรือจะบอกว่า เฉพาะวง tb ห้ามรับคนนี้ แต่ให้ไปทำงานอย่างอื่นได้ แล้วพฤติกรรมเค้าจะเปลี่ยนไหม

ถ้าเค้ามีปัญหาทางจิต กระบวนการศาล หรือตำรวจต้องเป็นคนดำเนินการหนิ จะเอาเค้าไปบำบัดหรืออะไรก็ได้

เพราะถ้าตีความว่าการรับคนแบบนี้เข้าทำงานคือผิด แบบนี้ไม่ใช่แค่ tb หรอกครับ ที่ไหนรับก็ผิดหมด

ถ้าปัญหาคือตรงนี้ แปลว่าปัญหามันอยู่กระบวนการบ้านเราละครับ คนจำพวกนี้ควรได้รับการเข้าบำบัด และรับรองก่อนออกมาใช้ชีวิตกับคนทั่วไป แต่บ้านเรามันไม่ทำ

พอไม่ทำ กลายเป็นความผิดคนอื่นทั่วไป ผมว่ามันมั่วไปหมดมากกว่า ถ้าจะถามว่าใครผิด

ผมว่า ถ้าเปนกรณีแบบ

1. ตอนที่แสตม มาเตือน อาจจะยังไม่ได้ฟ้องร้องกัน เลยยังไม่มีความผิด อารมเหมือนแค่มาบอกว่า ไอ้นาย A นิสัยไม่ดีนะ แนะนำว่าอย่ารับทำงาน ถ้าเราฟังก้แบบ คุยกับเค้าก้ปกตินะพี่ ส่วนเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่ผิดไร ผมขอไม่ยุ่ง ไรงี้

2. ตอนนี้ เปนคดีความละ ขึ้นโรงขึ้นศาล มีควาทผิดประจัก ถ้าออกมาสัมประมานว่า ก่อนนี้พี่แสตม เคยเตือน แต่เปนเรื่องส่วนตัวเลยไม่ยุ่งมาก แต่ตอนนี ทราบว่ามีคดีความ ได้ทำการปลดนายA ออกจากวงไปแล้ว ต้องขอโทษพี่แสตมด้วย ถ้ามาแบบนี้คงรอด

แต่ถ้าไอ้นาย A ยังทำงานอยุ่ ละวงแถลงว่า เรื่องส่วนตัวไม่ยุ่งอีก มีหวังโดนถล่มแน่

ในการทำงาน ไม่ใช่ว่าคุนทำงานเก่ง แสงออก แล้วจะนิสัยแย่ได้นะ
ถ้าความชอบส่วนตัว ไม่ระรานใคร ไม่มีใครยุ่ง แต่ถ้าเปนคุกคาม บุลลี่ ขุ่ทำร้าย และมีคุ่ความ มีผุ้เสียหาย ผมว่าบริษัท หรือวง หรืออะไรก้แล้วแต่ ควรเลี่ยงคนแบบนี้คับ เวลาเรื่องมันแดง ข่าวมันออก บริษัท กับวง จะโดนกระแสสังคมถล่มไปด้วย ไม่คุ้มหรอกคับ กับพนักงานที่เก่งคนเดียว มันมีคนเก่งอีกหลายคน ที่ไม่มีพฤติกรรม เบียดเบียนใคร

ถ้าเปนเกาหลี จีน ญี่ปุ่น นี่โดนถล่มจมแล้วนะ กรณีนี้
ดุนักวอลเล่เกาหลีดิ ดาเฮ ทีมชาตินะ มีข่าวบุลลี่เพื่อนตอนมัธยม ชีวิตในเกาจบ ต้องย้ายประเทศเลย

สำหรับผม ผมจะไม่รับในกรณีที่ศาลตัดสินแล้วว่าผิดจริง ๆ แต่ถ้าเป็นเคสที่ยังไม่ได้อะไรก็ปรกติแบยที่พูด เขาขอไม่ยุ่งกับเรื่องส่วนตัวถูกแล้ว

ยกตัวอย่างได้คนละเรื่องมาก ความชอบส่วนตัวกับทำผิดกฏหมาย ไปละเมิดคุกคามคนอื่น

แฟนเขา ทำผิดกฏหมาย ถึงขั้นฟ้องร้อง ศาลตัดสินแล้ว แต่ยังไม่แก้ไขนิสัยเดิม แล้วยังมีเคส แสดงงานเดียวกัน แล้วเข้าไปรบกวน หลังเวทีอีก

ผมว่าไม่ควรรับนะ เหมือนสนับสนุนให้คนผิด ทำงานในวงการเพลง

ใช่ คุณตีความได้ถูกแล้ว ถ้าไม่สามารถจัดการกับคนของตัวเอง (แฟนหรือคนในครอบครัว)
ไม่ให้มายุ่งกับเรื่องงานของตัวเองได้ ก็ไม่สมควรทำงานครับ

แล้วผลที่เกิดขึ้นคืออะไร แฟนอ้างว่าเป็น staff เอาบัตรห้อยคอ (น่าจะของผู้ชาย) ไปหลังเวที
แล้วไปคุกคาม ใส่ความแฟนของแสตมป์ ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นแท้ ๆ

บริษัทใหญ่ ๆ หลายที เขายังมี process background check ก่อนรับเข้าทำงานเลย