ตอบแบบให้แฟนแมนยูอยู่กับความเป็นจริง แฟนแมนยูบางคนยังคิดว่าตอนนี้ทีมตัวเองเป็นโคตรทีมอยู่เลย

ต้องครองบอล 60 70 เปอร์เซ็น ต้องกดคู่แข่งทั้งเกมมีโอกาสยิง 20ครั้ง+ แต่ไม่ได้ดูสภาพนักเตะในทีมเลยว่ามีแต่ตัวอะไรบ้างก็ไม่รู้

เป๊ะ และอโมริมพูดถึงเรื่องนี้ด้วย
แม้แต่ยุคป๋า ไม่บ่อยครั้งที่จะกดเขาอยู่ข้างเดียว จังหวะ counter โจมตีเร็วไม่กี่จังหวะ หาพื้นที่ สร้างโอกาส ทำประตู เป็น DNA ที่ยังถ่ายทอดมาจนปัจจุบัน หลังยุคมู มีการเพิ่ม transition เข้าไปอีก เข้มข้นสุดๆตอนเทนฮาก
จะเปลี่ยนมันยากและต้องใช้เวลาฝึกซ้อม

เข้าใจและทำใจไว้แล้วครับ อโมริมแกออกตัวตั้งแต่มาคุมตอนแรกเลยว่าเราจะเหนื่อยแน่ๆและจะเหนื่อยทุกเกม


ผมว่าสมัยนี้โปรแกรมเตะมันโหดเกินอะ เมื่อก่อนเกมกลางสัปดาห์ยังมีไม่ค่อยบ่อยนะ เดี๋ยวนี้มีเกือบทุกอาทิตย์


ได้ซ้อมแผนจริงๆน้อยมาก มันได้แต่เรียกฟิตอะแถมไม่ได้เริ่มต้นตั้งแต่พรีซีซั่น เข้ามาคุมตอนกลางฤดูกาลแล้วเป็นช่วงเตะถี่ด้วย

นักเตะแมนยูส่วนใหญ่ เหมาะกับ Transition แหละ พรี่ฮากยังบอกเลย ว่าทำให้เล่นสไตล์ Ajax ไม่ได้ เพราะนักเตะไม่เข้า

พี่แกเลย บอกจะทำให้แมนยูเป็น ทีมโครต Transition overload เลย จังหวะน้อยไม่ต้องครองบอลเยอะ แต่ทีมเสียบอลทีนึง วิ่งน้ำบาน เราจะได้เห็นนักเตะตัวรุกแบบ แรช การ์นาโช่ลงตัวจริงบ่อยๆ พวกครองบอลดีๆ แบบ Amad ไม่ค่อยได้ลง...



แต่ยุคล่าสุดดีหน่อย ที่เริ่มซื้อนักเตะ ที่เหมาะกับแผน Possession เข้ามาบ้าง มาสราอุย เดอลิท เซิกซรี อูการ์เต้ นักเตะสไตล์นี้ไม่ค่อยเล่นบอลแบบ Transition ละ

เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณกล่าวไว้เลย แต่ผมในฐานะแฟนแมนยูมาตั้งแต่เป็นรกในท้องแม่

อดที่จะเอามาเปรียบเทียบไม่ได้ในเรื่องคุณภาพของนักเตะ และแนวคิดของนักเตะเอง

ยุคก่อนไม่ใช่ว่าทีมจะมีแต่นักเตะเกรด A นะครับ แต่ยังเล่นได้สมกับเป็นทีม BIG4

สุดท้ายผมมองว่าเป็นทีมเองที่หยุดพัฒนา และทีมอื่น ๆ พัฒนามาเทียบเท่าและแซงไปแล้ว

ก็น่าจะยังงั้น สำหรับผม ก็ทำใจไว้ละปีนี้
แต่ผมเชื่อว่าโค้ชเจ๋งจะประสบความสำเร็จนะ แกดูมั่นใจมากๆ
อีกอย่างคือ แกมาพร้อม "ทีมงานครบชุด"
ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เอาใครมา จะมาแค่คนเดียว กับผู้ช่วยอีกคนนึง
ยิ่งเทนฮากปีหลังเปลี่ยนผู้ช่วยใหม่หมดเลย
มันไม่ใช่โค้ชคนเดียวที่จะทำให้นักเตะทั้งหมดคนเข้าใจเรื่องเดียวกันได้ มันต้องมีผู้ช่วยเสริมในแต่ละตำแหน่งการเล่นด้วย ถ้าทีมสตาฟไม่ได้เข้าใจความคิดเฮดโค้ช ก็พังเหมือนกัน
ปีนี้ก็ต้องถือว่าเป็นการวางแนวทางที่จะเปลี่ยนระบบการเล่นของสโมสรแบบพลิกโฉมแหละ