บางทีมีข่าวดี ให้เหตุผลตามข่าว กราฟน่าจะต้องขึ้น แต่กลับไม่ขึ้น.

กราฟมาก่อนแล้วถึงจะให้เหตุผลที่ถูกต้องได้

แบบเดียวกับเก่งหลังเกมส์. หลังจบทุกแมตจะบอกได้หมดอะไรยังไง ส่วนน้อยที่วิเครสะห์ก่อนเกมส์จะถูกต้องทั้งหใด

กราฟมาก่อนแน่นอนครับ

ถ้าสาย อีเลียทเวพ นี่กราฟมาก่อนแน่นอน

ศึกษาอดีต เพื่อทำนาย อนาคต

วงในมาก่อนกราฟ

เหตุผลมาก่อนครับ ก็คือต้นเหตุ

แต่เหตุผลต้นเหตุแรกสุุดของกราฟอ่ะเราไม่รู้่หรอก เราค่อยมาหาเหตุผลจากกราฟที่เกิดขึ้นอีกที

ไม่งั้นเค้าจะห้าม insider ไปทำไม ถ้าบอกว่าเหตุผลมาทีหลัง

กราฟมาก่อนครับ เมื่อก่อนตอนผมดอยหุ้นก็เพราะผมเชื่อว่าแม้ราคามันลงแต่เหตุผลมันยังดี
มัน "ควร" ก็ต้องกลับมาได้ แต่ตลาดจริงๆไม่ใช่แบบนั้นครับ
หุ้นบางตัว กำไรดี กำไรโต แต่ราคาลงเอาๆ ลงอย่างหาเหตุผลไม่ได้ด้วย(ในตอนแรก)
เหตุผลคนจะหามาเองว่ามันควรเป็นเพราะอะไร ทำไมราคาลง

พอผมเปลี่ยนใหม่ว่า ไม่ว่ายังไงผมจะเชื่อกราฟเท่านั้น พื้นฐานดีแค่ไหน ปัจจัยดีแค่ไหน
ถ้ากราฟมันไม่ให้ แล้วต้นทุนเสียเปรียบ ผมขายก่อนเลยตามกราฟบอก

ผมยกตัวอย่างให้ตัวนึงคือ CPALL ช่วงนี้เลย(รูปด้านล่าง)
1.ตอนราคาขึ้นมาในกรอบโซน 63.25-67.00 บาท ผมทยอยสะสมในกรอบ
เหตุผล: พฤติกรรมมันเปลี่ยนจากอดีต คือมันมายืนโซนบนจ่อเบรก
ในอดีตเวลามันเล่นโซนนี้มันจะไม่ผ่าน แล้วทิ่มลงในไม่กี่วัน
แต่คราวนี้มันฟอร์มตัวสะสมนานผิดปกติ ลองดูกราฟฝั่งซ้ายที่ผมวงกลมสีส้มไว้ เทียบกับทางขวาที่มันสะสม
2. พอพฤติกรรมเปลี่ยน ผมก็ทยอยสะสมในกรอบ ตราบใดที่ไม่หลุด 63.25 แบ่งไม้สะสมเรื่อยๆในแนวรับ
เงื่อนไขคือ มันต้องไม่หลุดกรอบ + ถ้าเบรก ต้องไปจริงโดยไม่กลับมาในกรอบอีกแล้ว
ทำไมต้องไปจริงโดยไม่กลับในกรอบ ถ้าหุ้นมันจะเล่นจริงๆ กรอบสะสมชัดขนาดนี้
ถ้าผมเห็น คนทั้งประเทศก็เห็นกันหมด ถ้าจะไปทะลุกรอบต้องไปเลย
ไม่ควรกลับมาเล่นในกรอบให้คนเก็บของซ้ำแล้ว
3. ในช่วงที่สะสม มีข่าว มีธีมออกมาชัดเจนว่า CPALL ได้ประโยชน์จาก e-receipt + Q4 ด้วย
คนซื้อของกันเยอะ ค้าปลีกได้ประโยชน์ แล้วยังมีนโยบายลดดอกเบี้ยมาอีกในช่วงนั้นที่ข่าวออก
มองเผินยังไง CPALL ต้องไป 78 บาท ผมก็คิดแบบนั้น นักวิเคราะห์ทุกสำนักก็เห็นตรงกัน
4.แต่ผมเข็ดแล้วกับการเชื่อข่าว เชื่อธีม เชื่ออะไรที่มัน "ดูมีเหตุผลให้หุ้นขึ้น" ผมปักธงในใจว่า
ไม่ว่าจะเหตุผลดีแค่ไหน ถ้ากราฟหลุดจากจุดที่ผมมองว่าไม่ควรเป็น ผมขายหมด ไม่สนใจ ตกรถก็ตกรถไป
5.ปรากฏมันเบรกกรอบจริงครับ ดูแท่งเขียวที่เบรก 67 บาท ทะลุกรอบไปละ วอลุ่มเข้าด้วย ตามตำรา
6.แต่วันต่อมาย่อแดงนิดหน่อย
-วันแรกผมมองว่ามันยังปกติ ย่อไม่เยอะ วอลุ่มก็ถือว่าแห้ง
-วันที่ 2 ผมว่าแอบผิดปกติละ มันลงต่อ วอลุ่มขายเยอะกว่าวันแรก
ถ้าดีที่สุด วันที่ 2 วอลุ่มขายต้องแห้งกว่าวันก่อนหน้า แล้วราคาไม่ลงเยอะมากถึงจะดี อันนี้มันไม่ใช่
ผมคิดละถ้าวันที่ 3 มันแดงเข้ากรอบอีกผมจะขายเลย ไม่รอหลุดทะลุ มันไม่ควรทำพฤติกรรมนี้
-วันที่ 3 ก็เป็นตามนั้น ผมขายหมดเลยตอนปิดวัน 64.25 บาท ยังไงก็มอง false break

ถ้าคนที่เขามองเหตุผล เขาจะรู้สึกว่าไม่ควรขาย เพราะธีมมันมี story มันมี ลงมาราคานี้ก็ควรทยอยซื้อเพิ่ม
แต่ถ้าวิเคราะห์ภาพรวมจากเหตุผลในกราฟที่ผมเล่าด้านบน มันไม่ปกติไงครับ(สำหรับผมนะ)
กราฟมันไม่ควรทำตัวแบบนี้อ่ะ 555 ใครอยู่ก็อยู่ ผมไปก่อน ถ้ามันกลับมาฟอร์มตัวสวยใหม่ ผมค่อยสนใจ
แต่อย่างที่เห็น มันหลุดกรอบ ดึงขึ้น แล้วออกข้าง แต่ไม่สวยแล้วสำหรับผม

ไม่กี่ week ก็มีข่าว CPAXT ออกมาตามจน CPALL กระหน่ำลงอย่างปัจจุบัน
ผมรู้เลยว่าถ้าวันนั้นผมไม่ขายตามแผนที่ตั้งไว้ ยังไง mindset ผมก็เละอ่ะ
แล้วรายย่อยที่ไม่รู้ว่ามันจะมีเรื่อง CPAXT กับ CPALL เขาจะทำไงอ่ะ เขาไม่รู้ข่าวอะไรมาก่อน
รู้อีกทีมันตู้มลงแรงแล้ว แต่ถ้าเราสังเกตกราฟตั้งแต่แรก จุดขายสำหรับผมผมขายตั้งแต่ 64-65 บาท
มาก่อนข่าว ก่อนเหตุผลอีก

ผมมันใจว่าผมไม่ต้องรู้กราฟสักตัว
แต่รู้ข่าว"ก่อน"คนอื่น ยังไงก็รวยกว่า

แค่เราไม่มีข้อมูล"สำคัญ" มันก็ต้องดูกราฟว่าทุกคนในตลาดเขาทำอะไรก็ต้องดูกราฟ หุ้นมันไม่ใช่เรื่องมูลค่ากันหมดสะทีเดียว

เคยอินไซด์เทรดไปครั้งหนึ่ง ไอ้ชิบหา_เอ้ย ถ้ารู้ตัวนะ ใส่หมดไม่ยั้งอะ