เกริ่นก่อนเลยว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ผมคงไม่อาจเปิดเผยชื่อหน่วยงานได้ ใบ้แค่กรมนี้มีศูนย์ราชการกระทรวงเป็นของตัวเอง เพราะไม่อยากพาดพิงสักเท่าไหร่ และไม่อยากให้มีดราม่าแค่สงสารแฟนอยากหาวิธีพูดดีๆให้เขาผ่านไปให้ได้

และความเห็นส่วนใหญ่ในเม้นท์นี้ ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณเพราะจะมีบางข้อความที่ผมรับฟังมาจากแฟนมา ผมไม่ได้ตรวจสอบหรือมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนนั้น

++++[งั้นเริ่มกันเลยนะครับ]++++

แฟนผมเขาลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่เพราะวางแผนจะให้เวลากับผมมากขึ้นหลังแต่งงานและสร้างครอบครัว เธอจึงลาออกจากงานประจำหลังแต่งงานเพื่อเป็นแม่บ้านฟูลไทม์ได้ไม่ภึงสามเดือน

สุดท้ายก็เบื่อเลยคิดว่าจะสอบราชการเพื่อว่าจะได้ไม่ว่างอยู่บ้ายเฉยๆ (พวกเรายังไม่มีลูกกันนะครับ) ประกอบกับมีใบก.พ.ภาค ก. อยู่แล้ว เลยลุยหาสนามสอบที่อยากเข้าด้วยตนเอง

ประมาณช่วงปลายปีที่แล้วมีกรมหนึ่งที่เธอรู้สึกอยากทำด้วย ก็เลยสมัครสอบไปในตำแหน่งหนึ่งซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งหลักของกรม ไอ่ผมก็หวังดีบอกว่าสอบตำแหน่งหลักที่เปิดเยอะดีกว่าไหม? เธอบอกไม่เพราะไม่อยากงานยุ่งเกินไป แค่จะทำงานประจำไม่ให้ว่างแก้เบื่อ

ตรวจสอบวุฒิ ตรวจสอบคุณสมบัติ ส่งใบสมัครมั่นใจทุกอย่างตรงตาทใบประกาศ จ่ายตังค์เสร็จอ่านหนังสือรอสอบไป ไอ่เราก็ให้กำลังใจด้วยการเล่นบทผู้คุมสอบยืนจับเวลาให้ทุกสัปดาห์ 5555

ประกาศรายชื่อผู้เข้าสอบเยอะเกือบสองพัน (เฉพาะตำแหน่งนี้) แต่รับแค่หลักหน่วยต้นๆเท่านั้น (ไม่เกิน5 ไปเดากันเอาเองครับ)

ครั้นถึงเวลาก็ไปสอบกลับมาก็มั่นใจว่าผ่านแน่ เป็นปรนัยล้วน มีวิชา3หัวข้อ คือเกี่ยวกับตำแหน่ง เกี่ยวกับกรมและกฏหมาย ประมาณ 150ข้อ (ขอประมาณละกันไม่อยากบอกตรงๆ) และก็เป็นไปตามคาดคาดผ่านมีชื่อไปรอบสัมภาษณ์หรือภาค ค.

เนื่องจากข้อสอบง่าย(ตามที่ได้ยินมาจากแฟน) คนเลยผ่านภาคข.เยอะเกิน 500 คนขึ้นไปอีก

++++ช่วงนี้ขอคั่นเรื่องด้วยการแปะภูมิหลังเธอนืดนึงครับ ++++++

-จบม.ดัง(เอกชน)ในกรุงเทพ

-เคยทำบริษัทระดับท็อปในสายอาชีพมาก่อนและบริษัทขนาดกลางอีกสองแห่ง

-ประสบการณ์ทำงานรวมๆ11 ปีเศษ (เริ่มตอนอายุ 20 ปีจบปุ๊บทำปั๊บ)

-รายได้เดือนสุดท้ายก่อนลาออกประมาณ 3.8 - 4.2เท่าของเงินเดือนราชการในสังกัดก.พ. ระดับป.ตรีบรรจุใหม่ได้

เงินเดือนเขาผมไม่แน่ใจว่า 64000 หรือ 67000 เลขตรงนี้ก็พอการันตีได้ว่าพอตัวในอาชีพ

+++++เล่าต่อจากที่ค้างไว้+++++

ทีนี้ปัญหามันเกิดเมื่อเธอโดนปัดตกภาค ค. (คนผ่านภาค ค.ก็ประมาณ 1 ใน 2.5 ปัดตกเยอะแต่ตัวเลขบัญชีที่ขึ้นก็หลักร้อยอยู่)

ทั้งที่ตัวเธอเองมั่นใจว่าทำได้เยอะมากๆๆๆในภาค ข.และภาค.ค. ก็ไม่มีปัญหา


ซึ่งผมก็เชื่อตามนั้นนะว่าเธอน่าจะเป็นแคดดืเดตชั้นยอดแถมเป็นคนextrovertจัดๆ ช่างเจรจาตัวแม่ ใครได้ยินก็คลอยตามง่ายๆ งานสังคมขอให้บอก (เผาหน่อย 5555) ก็เลยทำเรื่องขอดูคะแนนกันไป

เมื่อคะแนนภาค ข. ส่งมาถึงบ้านปุ๊บ

ผลปรากฏออกมาว่าเต็ม 200 ได้ 194 คะแนนครับ (ตีไปร้อยละ 97) เท่านั้นล่ะดราม่าควีนองค์ลง

-ทำไมถึงโดนปัดตกไม่แม้แต่จะขึ้นบัญชี?
- แล้วแบบนี้จะให้สอบภาคข.ไปทำไมในเมิ่อสุดท้ายก็คัดแค่ภาค ค.
-ต้องเก่งขนาดไหนถึงจะได้ขึ้นบัญชีที่นี่วะ 194 กับประสบการณ์เบื้มๆไม่พออีกเหรอ

และอีกสารพัดคำตัดพ้อ ที่ไม่รู้ว่าได้เอาไประบายในกลุ่มปกปิดตัวตนอย่าง openchat กลุ่มสอบที่เธอเข้าไปร่วมกลุ่มอยู่อีกเท่าไหร่ 5555

แว่บแรกที่ผมเห็นคะแนนภาค ข.แฟน คิดได้คำเดียวเลยว่าเจอเจ้าที่แล้ว ดวงซวยเจอรับน้องใหม่กันแรงจัด 194 คะแนนภาคข.สูงปรี๊ดพี่ยังไม่ให้ขึ้นบัญชี อยากรู้จริงๆที่บรรจุตัวจริงมันเต็มทุกคนเลยเหรอไงวะ กรมก็ไม่ได้ลือชาคัดหังกะทิอะไรขนาดนั้นแถมไม่ใช่ตำแหน่งหลักด้วย

แทรกนิด+++

ต้องบอกก่อนว่าผมเพิ่งจะทราบภายหลังว่า ถ้า ภาค ค.ไม่ภึง ร้อยละ 60 ก็คือตก ทุกอย่างไม่มีความหมาย เลยไม่รู้จะปลอบใจแฟนยังไงได้แต่โอ๋ แล้วพูดว่าเขาคงไม่ได้ต้องการเรา ไปหาที่ใหม่ดีกว่า

ต่อเลยละกัน ++++

เธอก็เฮิร์ทหนักนอนไม่หลับอยู่สองคืน และก็ไปขุดข้อมูลมาว่า คนที่ได้ตัวจริง คนในทั้งนั้น เธอเล่ามาแบบนี้ครับ (ขอยกตัวอย่าง 3 ตัวอย่างพอ)

1.คนในกรมนั้นอยู่ส่วนกลางเลย ทำงานพนักงานราชการ ตำแหน่งที่เปิดสอบราชการ
2.คนในกรมนั้นแต่อยู่สาขา ทำงานพนักงานราชการ ตำแหน่งที่เปิดสอบราชการ
3.คนในกระทรวงเดียวกันที่กรมอยู่ห่างออกไปนิดหน่อย ทำงานพนักงานราชการ ตำแหน่งที่เปิดสอบราชการ

ครับ..ผมได้ยินเข้าก็ไม่รู้จะพูดอะไรให้กำลังใจเธอสอบต่อเลยครับ ครั้นจะไปเปลี่ยนแปลงความตั้งใจอันสวยหรูก็ไม่รู้จะดีกับเธอหรือเปล่า หนักใจเหมือนกันได้แตค้นหาข้อมูล

หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเจอว่า เคยมีการวินิจฉัยว่าผู้สอบสามารถขอดูคะแนนภาค ข. ผู้ได้รับการคัดเลือกได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเราไม่รู้คะแนนสัมภาษณ์หรือภาคค.เขา เราขอดูได้แต่ภาคข.เขา

ว่ากันตามตรงขึ้นบัญชีหลักร้อย มันเป็นไปได้เหรอครับที่ไม่เอาคนคะแนน ภาค ข. ร้อยละ 97ขึ้นบัญชีสักหน่อย โปรไฟล์ก็ดี ความรู้ยังต้องถามอีกเหรอ? ทุกอย่างตรงเป๊ะ หน้าตาดีด้วย(อวย) คงแค่ขาดประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งที่สมัคร และราชการ ซึ่งหลายคนที่มาสอบและได้ขึ้นบัญชีก็มีเด็กจบใหม่ด้วย (ฟังแฟนมาอีกทีตรงส่วนนี้)

โคตรบ้าบอมาก ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าถ้าคนได้รอบแรกคะแนนน้อยกว่าร้อยละ 97 มันจะปวดร้าวขนาดไหน ขอไม่มโนก็แล้วกันตัวจริงเขาอาจจะเทพจัดๆกระหน่ำภาค ข.กันไปคนละร้อยละ 98 99 100

ขอระบายปนมาต่ออีกนิดนึงไอ่ผมก็งงเหมือนกันตอนพยายามนั่งทำความเข้าใจเรื่องราวกระบวนการสุด โปร่งใส ไร้ทุจริต เอิ่ม...ครับพรี่ สอบภาคข. ผมยังเชื่อ แต่ภาค ค. นี่ทำใจเชื่อยากแล้วล่ะเห็นแฟนเจอแบบนึ้

สุดท้ายผมกับแฟนก็คงทำอะไรกรมขั้นเทพนี้ไม่ได้ เพราะมองว่ายังต้องผลักดันแฟนให้ทำตามความต้องการให้สำเร็จ เลยไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่และกลายเป็นอุปสรรคกับอนาตตของเธอ ก้มหน้ารับสภาพว่าดวงซวยกันไป ไม่ใช่สเปคกรมเขา

ถ้าเกิดขึ้นกับตัวผม คงได้สู้กันให้ตายไปข้างคาศาลปกครองแล้วจบที่กลับมานั่งทำงานเอกชนใหม่แน่ๆ

++++เอาล่ะครับเพื่อนๆขาว SS ขอเข้าคำถามเลยละกัน+++

ถ้าเป็นคุณจะปลอบแฟนและให้กำลังใจเพื่อที่เธอจะเดินหน้าทำสิ่งที่ต้องการต่อไปอย่างไรดีครับ?

ตัวผมอยากให้เขาทำตามความตั้งใจของตัวเองให้ได้ ไม่อยากให้ล้มแล้วเลิก เพราะตัวเธอก็รู้สึกไม่อยากเลิกล้มแต่มันเฮิร์ทและท้อมาก ดิ่งด้วย สนามแรกก็จัดหนักกันเลยทีเดียว

ต้องขอความเห็นจากทุกท่านด้วยครับ

ส่วนวันนี้ผมตั้งใจหยุดงานพาเธอไปปรับสภาพจิตใจเต็มที่ เหลือพวกคำพูดนี่ล่ะคิดไม่ออก

และได้บอกให้เลิกหมกหมุ่นโซเชียลละไม่งั้นสภาพจิตใจคงเตลิดเพราะในนั้นมีแต่คนสุมไฟปั่นอารมณ์ลบใส่กัน พวกtoxicเยอะจัดๆ

++++เกร็ดเพิ่มเติมเพื่ออรรถรส +++++

ฟังจากเธอเล่ามาว่ามีคนในกลุ่มที่ถูกปัดตกไม่พอใจเยอะมากเพราะมีคนได้ภาคข.สูงอีกหลายคน ส่วนพวกที่ติดบัญชีคะแนนสอบสูงคะแนนสัมกลางๆและได้ลำดับแย่แทบไม่ต้องลุ้นยืมบัญชีก็ไม่พูดอะไรมาก มูฟออนจากการถูกผีหลอก (แอบฮา)

ส่วนพวกได้คะแนนสอบน้อยกว่าคนกลุ่มแรกแต่ได้สัมภาษณ์เยอะจนอันดับดีกว่าขิงกันยับ... พวกคะแนนสอบสูงคะแนนสัมสูงแต่ไม่ตืดตัวจริงนี่พูดจาให้กำลังใจทุกคน

เธอเล่าอีกว่าเทียบๆในกลุ่มแล้วมี คนที่ได้บัญชีเลขตัวเดียวคะแนนภาค ข. มากกว่าเธอ และคิดว่าน่าจะสูงสุดแล้วเพราะมีคนนี้ล่ะที่ได้ ภาคข.สูงปี๊ด 197.5(ผิดไปสองข้อ ข้อ1.5กับข้อ1 คะแนน) แต่ ค.ต่ำแปลกๆแบบห่างกับคนที่ลำดับต่อจากเขาประมาณเกือบสิบ คือเขาจะไปรู้ของคนอื่นได้ไงผมไม่ทราบนะ ก็แชร์กันหลังส่งเรื่องขอดูแล้วกรมส่งกลับมานั่นแหล่ะ

หากมีประเด็นใดตกหล่นไปแล้วท่านเกิดสงสัย ประกอบกับผมเห็นควรว่าเปิดเผยได้จะเร่งตอบกลับและให้ข้อมูลครับ

ย้ำอีกครั้งบางเรื่องต้องใช้วิจารณญาณเพราะข้อมูลบางส่วนผมฟังแฟนเล่ามาเช่นกัน ผมสรุปคร่าวๆได้ประมาณนึ้ล่ะ น่าจะครบองค์หลัก ทั้งเหตุการณ์ และบทสรุปที่ผมอยากขอความช่วยเหลือ

ขอขอบคุณพี่น้องชาว SS ทุกท่านล่วงหน้า พวกคุณเป็นที่พึ่งในยามยากเวลาผมมีปัญหาคิดไม่ตกตอนดึกๆเสมอเลย ย้อนอ่านที่พิมพ์ไปก็แทบไม่ต่างจากกระทู้นะบายเลยนี่หว่า

ให้กำลังใจนะครับ จากใจคนที่เมียอยากทำราชการเหมือนกัน ที่กว่าจะถึงฝั่งฝันก็ฝ่าฟันกับการเจอคนในภาค ค.(แต่เมียผมเขาเจอคนในสอบได้ตอนสอบพนักงานราชครับ ไม่เคยเจอตอนสอบราชการ)

ดูจากที่ท่านเล่ามาแล้วภรรยาของท่านน่าจะเป็นคนที่ Competitive อยู่พอสมควรเลย เกรงว่าหากได้ไปทำงานที่ไม่ใช่สายงานหลักของกรม แถมเป็นตำแหน่งที่รับน้อยอีกต่างหาก กลัวภรรยาของท่านจะเบื่อและไม่รู้สึกท้าทายอะจิ ดีไม่ดีแทนที่จะเป็นตำแหน่งได้ทำงานชิลๆเรื่อยๆไม่หนักไป แต่อาจจะเป็นตำแหน่งที่ต้องรับภาระงานจากสายงานหลักโหลดมาที่ภรรยาท่านก็เป็นได้

ถ้าเป็นผม ผมก็แนะนำให้ลองหาสอบตำแหน่งสายงานหลักของแต่ละกรมดู ผมคิดว่ามันจะทำให้ชีวิตภรรยาท่านมีสีสันมากขึ้นกว่าก็ได้ครับ ถ้าได้ภาค ข. สูงขนาดนี้ ถ้าเป็นสายงานหลักของกรม เขาอยากได้เราแน่ๆ และผมคิดว่าภรรยาท่านอาจจะโดดเด่นในสายงาน แถมไม่ต้องไปแข่งกับการที่อาจจะต้องเจอกับคนในอย่างที่ท่านว่ามาอีกก็เป็นได้ครับ

เป็นความคิดเห็นที่ดีเลยครับ ต้องเชียร์ให้สอบตำแหน่งหลักแล้วอธิบายเรื่องการโหลดงานตามมุมที่ท่านเล่ามาเพิ่มสักหน่อย

มันก็แบบนี้แหล่ะ “รู้อะไร ไม่เท่ารู้จักคน” ผมก็เคยเจอคล้ายกัน ผมสอบได้อันดับหนึ่ง ของหน่วยงานที่ผลิต ไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้เช่นกัน

แฟนผมทำงานราชการ บรรจุมาได้ 2ปีกว่า(ก่อนบรรจุทำมาอีกปีกว่า) อยากจะบอกว่า ”อาจจะ“ โชคดีก็ได้ ที่สอบไม่ติด เพราะ ระบบ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน คือ toxic สุดๆ (ประสบการณ์ตรงจากแฟน) ยิ่งแฟนคุณเคยอยู่เอกชนท้อปๆมา วัฒนธรรมองค์กรนี่คนละโลกเลย(ผมทำงานเอกชน เงินเดือนพอๆกะแฟนคุณเหมือนกัน) กลับเอกชนน่าจะดีกว่า (แฟนผมอยากลาออกทุกวัน)

โห...ที่หนึ่งก็ไม่เอาจะเอาที่ชอบซะงั้น ขอบคุณที่มาแชร์นะครับ

เพิ่มเติมคือ สอบไว้หลายๆที่ครับ จะได้มีตัวเลือกเพื่อบางที่เข้าไปทำแล้วไม่ชอบ

เคยเกลี้ยกล่อมเขาด้วยเหตุผลคล้ายๆกันนี้ตอนเกิดไฟอยากเป็นราชการเพราะทนว่างไม่ไหวในช่วงแรก สุดท้ายเถียงแพ้เลยต้องยอมมาสนับสนุนเขาแทนครับ

ของภรรยาผม ทำไปซักพักเริ่มไม่โอเคกับเงินเดือน เพราะมันน้อยมากๆ และปรับช้ามาก แถมเจอเด็กเส้นปรับเงินเดือนแซงอีก และต้องมีการทำผลงานทางวิชาการเพื่อปรับตำแหน่งอีก

ตอนนี้ก็เลยหนีไปราชการที่เงินเดือนดีกว่า แล้วก็การปรับเงินเดือน และตำแหน่งเป็นแบบเลื่อนไหลตามอายุงานและลำดับที่สอบได้แทนครับ ไม่ต้องไปปวดหัวกับพวกเด็กเส้น อยู่แต่กับตัวเองเป็นพอ

เรื่องเงินแฟนผมคงไม่ซีเรียสแล้วล่ะครับ แต่เรื่องเจอเส้นข้างใน เรื่องระบบความก้าวหน้านี่จะทนได้ไหม จากนิสัยอาจไปวีนใส่หัวหน้าได้ถ้าอีกฝ่ายงี่เง่า

เส้นข้างในก็เยอะพอตัวเลยหละครับ เด็กใคร นายใครเต็มไปหมดจริงๆ คนเก่งเลยชอบสมองไหล หน่วยงานแฟนผม ระดับ พันตำรวจเอก พันตำรวจโท ยังสมองไหลมาเลยครับ ทนระบบหน่วยงานเดิมไม่ได้

งั้นผมคงต้องล้างหูก่อนกลับบ้านเพื่อรอฟังทุกวันแน่ๆในอนาคต

จะว่าไปยศนายพันยังทนระบบไม่ไหวต้องออกทั่งที่เติบโตได้อีกและอยู่ในจุดที่มั่นคงมากๆแล้ว ระบบมันJunRaIพอควรเลยนะครับนั่น

ภาค ค. สัมภาษณ์หนิ. ทำไมถึงตกเละเทะขนาดนั้น

ผมก็ว่าแปลกๆ


ลองไปพาพวกที่โดนปัด ตก ภาค ค. ดูดิ

ไม่แน่อาจจะเป็น คนที่สอบ ภาค ข. ได้คะแนนสูงๆ. ซึ่งเด็กเขาได้ไม่ถึง เรา เลยปัดตกกัน ครหาโกง เลนปัดตก ภาค ค. แม่มซะเลยซะเลย


จริงด้วย พวกโดนตกภาค ค. คือคนคะแนนสูงๆ งั้นก็น่าจะโดนเล่นแล้วแหละ

ผมเคยเจอ หน่วยงาน ที่มี ตก ภาค ค.
แต่เป็นคำถามปลายปิด แบบเปิดซองคำถาม แล้วตอบ

ผมไม่รู้หน่วยงานที่แฟนท่านไปสอบเป็นแบบไหน

แต่ ภาค ข คะแนนสูงขนาดนี้ เก่งมากมากครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ

ภรรยาผมมีเส้นทางคล้ายๆกัน มีลูก แล้วลาออกมาเลี้ยงลูกอยู่ 2 ปี จึงเริ่มสอบราชการ สอบติดคิดว่า 6-7 /10 ที่ ที่ไปสมัคร ได้ขึ้นบัญชีบ้าง ไม่ได้ขึ้นบ้าง ละยังไม่โดนเรียกสักที ผมเลยวางแผนให้ใหม่ ให้ไปทำงานเป็นพนักงานราชการก่อนอยู่ราวๆ 4 เดือน ก็เรียกบรรจุ (แต่คนละกรม) ก็คือไม่ถือว่าเค้าเอาคนในนะ เพราะกรมที่บรรจุก็ไม่ใช่กรมที่เคยทำอยู่ ก็รอบัญชีที่ขึ้นไว้นั่นแหละ รออยู่น่าจะปีหรือเกือบปี กว่าจะเรียก พอได้บรรจุ อีกที่ก็เรียกอีกที่ขึ้นบัญชีไว้ คืออย่าท้อ สอบไปเรื่อยๆ ขึ้นบัญชีไว้ เดี๋ยวก็ถึงคิว ถ้าเรามาตามกระบวนการ ไม่ต้องกลัวอะไรครับ แฟนผมก็มาแบบไม่ได้ฝากฝังใครเพราะไม่รู้จักใคร สมัครสอบแบบง่อยๆไป ถึงเวลาก็อ่านหนังสือ ก็ไปสอบตามกระบวนการเท่านั้น สักวันอาจจะเป็นของเรา แต่อาจจะช้าหน่อย


ปล.ที่ผมให้แฟนไปสมัครเป็นพนักงานราชไม่ใช่ว่าจะไปหาเส้นสายหรืออะไร ผมอยากให้ลองเข้าไปฝังตัวดูว่าวัฒนธรรมการทำงานแบบราชการจะรับได้ไหมถ้าต้องทำจริงๆ เพราะชีวิตเคยทำเอกชนมา 100% จะได้ตอบตัวเองได้ว่าตัวเองเหมาะไหม อีกอย่างพนักงานราชการ อาจจะ ย้ำว่าอาจจะนะ ได้รู้ก่อนว่าตำแหน่งไหนจะว่างเปิดสอบบ้าง ก่อนชาวบ้านแค่นั้น จะได้เตรียมตัว ซึ่งจริงๆรู้ไปก็เท่านั้น ถ้าไม่เตรียมตัวอ่านหนังสือ เป็นกำลังใจให้นะครับ บอกแฟนท่านว่าเขาไม่ได้สอบครั้งนี้ครั้งเดียวซะเมื่อไหร่ ยังมีคน ลาออก เกษียรณ หรืออะไรต่างๆอีกเยอะ เดี๋ยวก็มีโอกาสครับ

ปล.2 แต่เรื่องเส้นสาย อาจจะมีอยู่บ้างจริงๆที่แฟนเคยเล่าให้ฟัง แต่ตอนสอบมาแฟนผมก็ไม่เคยท้อตรงนี้ครับ กว่าจะได้บรรจุอายุก็ปาไป 34 จะ35 ละ