สวัสดีครับพี่ๆ หลังจากที่ผมติดตามบอร์ดนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย
ยันปัจจุบันอายุ 28 แล้ว ตามหัวกระทู้เลยครับว่า
'ผมยังซิงครับ'
แต่...จุดแตกหักของผมมันมาถึงแล้วครับ ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆครับ
สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้อาจจะยาวสักหน่อย แต่มันเป็นการระบายความอัดอั้นในใจ
แบ่งปันความเปลี่ยนแปลงในใจของผมจากที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้มาก่อน
จนค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดๆ รู้ตัวอีกที ผมก็กลายเป็นคนละคนไปแล้วครับ
รวมไปถึงขอคำแนะนำจากพี่ๆผู้ใหญ่หลายๆท่าน ชี้แนะให้กับเด็กน้อยผู้อ่อนต่อโลกอย่างผม
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆคอมเม้นและคำแนะนำที่มีให้นะครับพี่ๆ
ผมสมัครสมาชิกมาเพื่อการนี้เลยครับ
ขออุทิศให้กับท่านท็อตแน่มแมน ที่แม้จะไม่เคยพบเจอหรือรู้จักกัน แต่ท่านได้เปลี่ยนชีวิตผมครับ
ตลอดชีวิตของผม...ใช่ครับ ตลอดชีวิต
ไม่เคยเที่ยวกลางคืน
ไม่เคยไปเที่ยวร้านเหล้า เที่ยวผับ บาร์ (ครั้งเดียวผมก็ไม่เคยไป เพราะผมไม่ชอบสถานที่ประมาณนั้น)
ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง
ไม่แม้แต่จะเคยเห็นผู้หญิงเปลือยเปล่าต่อหน้าเป็นๆ(เคยเห็นเพียงในคลิปเท่านั้น)
ชีวิตมัธยม ผมไม่เคยมีแฟน มีคุยๆบ้าง แต่ไม่ได้คบเป็นแฟนแต่อย่างใด โฟกัสเรียนล้วนๆ
ชีวิตมหาลัยก็เช่นกัน มีคุยๆบ้าง จีบสาวบ้าง แต่ก็ไม่ได้คบเช่นกัน
ชีวิตวัยเรียนของผมไม่เคยได้รู้จักคำว่า sex จริงๆมาก่อนครับ
แต่กลับไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกนะ อาจเพราะสังคมรอบตัวผมไม่ใช่สายเที่ยว เน้นเรียนเป็นหลัก
มีเพื่อน รุ่นพี่ เคยชวนไปเที่ยวบ้าง ร้านเหล้าบ้าง แต่ผมปฏิเสธทุกครั้ง
เพราะส่วนตัวชอบเรียนเสร็จกลับหอแล้วพักผ่อน เล่นเกม อ่านหนังสือ ฯลฯ
การเที่ยวสถานบันเทิงพวกนั้นเป็นเสมือนอบายมุขสำหรับผมเลย
จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย
ผมมีแฟน "คนแรก"
ตอนเรียนจบ ใช่ครับ "มีแฟนคนแรกในชีวิตตอนเรียนจบ"
แล้วเป็น puppy love สั้นๆซะด้วย ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าไม่ได้สะระบะรึ่มโจ๊ะๆครับ แค่รักหวานแหววสั้นๆตามปกติเท่านั้น แล้วเลิกกันไป
เป็นแฟนเพียง 1 คนตลอดชีวิตที่ผ่านมา(แล้วเลิกอย่างไว บ้าเอ๊ย)
ผมเป็นคนที่ศรัทธาในความรักมากๆครับ ทำให้ผมเป็นคนที่เลือกเยอะพอสมควร
อาจเพราะเติบโตในครอบครัวที่เห็นพ่อดูแลแม่มาดีตลอด ครอบครัวไม่มีปัญหาอะไรครับ
เลยรู้สึกว่าการเป็นผู้ชายที่ดีก็ควรซื่อสัตย์ สมบูรณ์แบบ เก่ง ดูแลเอาใจใส่แฟน/ภรรยา
พอผมจะเลือกแฟนทั้งทีก็เลยคิดแล้วคิดอีก ทั้งไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกตัวเองไม่ดีพอ กลัวดูแลใครไม่ได้
แม้เพื่อนๆและสาวๆรอบข้างจะเชียร์อัพแค่ไหนว่าผมถือว่าเป็นคนที่โอเคเลยคนนึง
แต่ลึกๆในใจผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้น และพอรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นแฟนที่ดีจริงๆไม่ได้
จึงไม่กล้าที่จะเอาใครเข้ามาในความสัมพันธ์เป็นแฟนหรือคนรักครับ
จะว่าความคิด loser มั้ย? ผมคิดว่าไม่นะ ถ้าอะไรที่ดูแลไม่ได้ ผมก็ไม่อยากเอาเข้ามาเป็นภาระ
ทำให้แม้มีคนมาชอบบ้าง แต่ถ้าใครที่ผมรู้สึกว่าจะไม่ได้คบ "ยาวๆ" หรือผมไม่ได้ชอบจริงๆ
ก็จะปฏิเสธและไม่สานต่อเลย ทำให้ตัวเองเป็นคนที่ "เล็งแต่ไม่ยิงสักที" เลือกอยู่นั่น
แต่ผมไม่เคยหวังจะเอาเปรียบใคร ไม่เคยคิดเล่นกับหัวใจใคร
ถ้าไม่ได้คิดจริงจังกับเขา ก็ไม่สานต่อความสัมพันธ์เลยเถิดเด็ดขาด
มองว่าผู้หญิงควรเจอคนดีๆ มีอนาคตดีๆ ถ้าเราให้เขาไม่ได้ ก็อย่าไปเอาเปรียบเขา
และชีวิตผมทุ่มเทให้กับงานและเงินเป็นหลัก จึงไม่ได้สนใจเรื่องหาแฟนเลย
แฟนคนแรกที่คบกันก็จริงจังมากครับ ทั้งผมและเขาก็เป็นแฟนคนแรกของอีกฝ่าย
แต่คงเป็นผมเองที่ยังไม่รู้ว่าแฟนกันควรทำตัวยังไง เพราะไม่เคยมีแฟนมาก่อน
ทำให้ผมถูกบอกเลิกไปด้วยเหตุผลยอดฮิตคือ "เราอยากอยู่คนเดียวมากกว่า"
ไม่เกิน 3 เดือนหลังเลิกกันเขาก็มีแฟนใหม่ครับ (อ้าว)
ไม่โทษใครนะครับ โทษตัวเองง่ายสุด 555
แต่มันทำให้ผมเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นครับ...
มันเหมือน Dark side ในตัวผมมันค่อยๆผุดออกมา
ผมชอบตัวเองมาตลอด ชอบที่ตัวเองเป็นคนซื่อสัตย์ ศรัทธาในความรัก
และอยากเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อใครสักคน อยากเป็นแฟนที่ดี เป็นสามีที่ดีให้ผู้หญิงสักคน
แต่หลังจากผ่านชีวิตรักส่วนตัวมา(แม้จะครั้งเดียว)รวมกับเมื่อสังเกตชีวิตรักของเพื่อนๆรอบข้าง
สังเกตคนมีชื่อเสียง หล่อ สวย รวย เก่ง สังเกตคนรอบข้างหลายๆคน
ทุกคู่ล้วนมีจุดแตกหักและเลิกรากันไปได้เสมอ เดี๋ยวคนนี้เลิกกับคนนี้น ปิดฉากรัก xx ปี ฯลฯ
มันทำให้ผมรู้สึกว่า
ผมจะเป็นคนดีเลิศไปทำไม? จะซื่อสัตย์เพื่ออะไร? ตั้งใจรักไปทำไม?
ในเมื่อสุดท้ายทุกอย่างเปลี่ยนไปได้เสมอ
ต่อให้คบกัน 20-30 ปี วันนึงก็อาจต้องแยกทางกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย
วันนี้ผู้หญิงคนนี้แสนดี อีกสิบปี เธอก็อาจเปลี่ยนไป ตัวเราเองก็อาจเปลี่ยนไป แล้วจะไปแยกกันตอนนั้นเหรอ?
แน่นอนว่ารักแท้มันมี รักที่อยู่ด้วยกันตลอดไป ครองรักกับคู่ของเรามันมี ผมยังเชื่อแบบนั้นเสมอครับ
แต่ evil ในใจผมมันบอกว่า...
"อย่าเพิ่งไปเส้นทางนั้น ชีวิตมีอะไรให้ผจญภัยอีกมาก จงออกท่องยุทธภพก่อน"
ผมเคยคิดว่าตัวผมแปลกมั้ยนะที่ยังโสดอยู่ตอนนี้ ยังซิง ทั้งๆที่ใกล้ 30 แล้ว
ผมโดนสาปอะไรหรือเปล่า?
เพื่อนๆทยอยแต่งงานไปแล้ว บางคนมีลูก กำลังสร้างครอบครัวน่ารักๆ
และผมยินดีกับเพื่อนๆทุกคนที่ได้ก้าวไปในจุดนั้นของชีวิต แม้ผมจะไม่มีวี่แววก็ตาม
ผมเคยคิดว่า หรือผมถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้กันแน่? ถ้าพระเจ้ามองอยู่ ท่านกำลังจะบอกอะไรผม
แต่ไม่ใช่ครับ...
ผมเพิ่งเข้าใจว่าผมไม่ได้โดนสาป
"ผมได้รับพรจากสวรรค์ต่างหาก"
มันคือพรที่ให้ผมได้มีอิสระในชีวิต มีอิสระที่จะถอยออกมามองนอกกรอบมากขึ้น
มันคือพรที่ทำให้ผมได้ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดถึงลูกเมีย(คิดแค่ดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุดก็พอตอนนี้)
ผมอยากซื้ออะไร อยากกินอะไร อยากไปที่ไหน ตัดสินใจอะไร มันมีแค่ only me เท่านั้น
การวางแผนการเงิน มันก็ง่ายกว่าถ้าผมมีแค่ตัวคนเดียว ไม่ต้องคิดเรื่องภรรยา ค่าเทอมลูก ฯลฯ
ตอนนี้ชีวิตก็เหมือนจะ happy อยู่แล้ว โชคดีที่ผมไม่ใช่คนขี้เหงา
ถ้าไม่ทำงาน ก็พักผ่อนหรือหากิจกรรมทำได้โดยไม่ต้องการใครอยู่แล้ว
แต่...ผมก็ยังขาดบางอย่างมาตลอดครับ จิ๊กซอว์บางชิ้นยังไม่ถูกเติมเต็ม
มันเป็นช่องโหว่อยู่ในเป้ากางเกงที่รอจิ๊กซอว์ที่หายไป
มันคือการได้ SEX กับคนจริงๆ
การได้สะระบั้มตั้มๆกับผู้หญิงจริงๆที่ผมยังไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกนั้นเลย
ผมเริ่มเรียนรู้ว่า แม้ผมจะอิสระแค่ไหน
"ชีวิตผมแม่งโคตรอยู่ในโลกแคบๆของตัวเองมาโดยตลอด"
แคบจนไม่ได้รู้เลยว่าโลกภายนอกมันมีอะไรน่าจรรโลงใจมากแค่ไหน
(ขอบคุณผู้เปิดโลกของผมคือท่านท็อตแน่มแมน ซึ่งจะกล่าวในพาร์ทต่อไป)
ผมเป็นเด็กเรียนมาตั้งแต่เด็ก เนิร์ดแบบตั้งใจเรียนมากๆ อาจไม่ได้เก่งเวอร์ขนาดนั้น
แต่ก็เป็นอดีตเด็กค่ายโอลิมปิก ได้เข้าเรียนมหาลัยดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ชีวิตมีแต่การเรียนมาตลอด จนเรียนจบก็กลับมาทำงาน กลับมารับช่วงธุรกิจเล็กๆที่บ้าน
แม้ตอนแรกจะไม่คิดว่าจะกลับมาทำ แต่ด้วยโควิดทำให้ที่บ้านอยากให้มาช่วย
แต่จับพลัดจับผลูดันทำมันได้ดี ดีกว่าที่ครอบครัวทำเอาไว้ชนิดทวีคูณ
ลูกค้าติดมากๆ บอกกันปากต่อปากไปเรื่อยๆ จนในจังหวัดของผม ผมน่าจะอยู่ top 1-3% ของตลาด
และใช่ครับ สิ่งที่ผมได้รับมาจากความสามารถที่ขัดเกลาตัวเองให้เก่งขึ้นทุกๆวันในงานที่ทำ
ก็คือรายได้ที่มากขึ้น+งานที่ยุ่งขึ้น จนไม่ได้มีเวลาไปใช้เงินหรือพักผ่อนสบายๆ
ยิ่งเก่งมากขึ้น คนก็ต้องการความสามารถของเรามากขึ้น ผมทำงาน 7 วันแบบไม่มีวันหยุด
จริงๆผมก็ไม่ได้ทำงานเยอะจนไม่มีเวลา แต่ต่อให้มีเวลาว่าง หรือมีวันหยุดพักก็ตาม
ในหัวผมคิดถึงธุรกิจตลอดเวลาจนไม่อยากไปทำอย่างอื่น อยากแก้ปัญหา อยากพัฒนาให้มันดีขึ้นตลอด
ไม่เคยได้ไปฉลองปีใหม่ งาน countdown ต่างๆ ไม่เคย
ไม่เคยไปเล่นงานสงกรานต์ ออกทริปต่างจังหวัด ไม่เคย
ใครเป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของบริษัทเล็กๆของตัวเองน่าจะเข้าใจจุดนี้ดีว่ามันหยุดคิดไม่ได้
ผมยัง delegate งานตัวเองไม่ได้ เหมือนหมอผ่าตัดที่เก่งๆมาก
ต่อให้เก่งมากแค่ไหน ก็หยุดยาก ต้องเป็นหมอคนนี้เท่านั้นลูกค้าถึงเชื่อใจ(แต่ผมไม่ใช่หมอนะ)
ด้วยอายุ 28 ปี ผมก็มองกลางๆว่า ตัวเองยังมีแรง ยังคงสนุกกับงานได้อยู่ เดี๋ยวค่อยพักก็ได้
วันนึงค่อย build team หรือ system ที่ไม่ต้องการผม หรือต่อยอดไปลงทุนหรือทำธุรกิจใหม่เอา
ตอนนี้ยังทำเองได้ก็ enjoy กับมันไปก่อน
ใจจริงๆของผมคืออยากเป็นคนเรียบๆ ชีวิตง่ายๆ ใช้ชีวิตไม่ซับซ้อน
ไม่ต้องมีคนรู้จักเยอะ ไม่ต้องมีชื่อเสียง เพราะไม่อยากแบกอะไรเอาไว้ อยากใช้ชีวิตสงบๆ
ผมไม่มีรถที่อยากได้ ไม่มีของแบรนด์เนม ไม่มีนาฬิกาหรู ไม่มีของสะสมอะไรที่ต้องการ
ผมไม่สนใจของพวกนั้นเลย ผมสนใจแค่จะทำยังไงให้ตัวเองเก่งขึ้นในสิ่งที่ทำและมีเงินเยอะขึ้น
ลูกค้าไม่ต้องสนใจตัวผมก็ได้ สนใจ value ที่ผมมอบให้ก็พอแล้ว ผมคิดแค่นั้น
แต่พอเราทำบางอย่างได้ดีมากๆ มันเลี่ยงไม่ได้ที่ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะอยากเป็นตัวละครลับเพื่อที่จะใช้ชีวิตชิวๆแค่ไหน แต่มันก็ยาก เพราะเหมือนชีวิตดันให้เราไปจุดนั้นแล้ว
ถ้านอกเวลางาน ผม introvert สุดๆเลยฮะ แทบไม่อยากเจอคน อยากใช้เวลากับตัวเอง
เรื่องของเรื่องก็คือ..."ผมแทบไม่ได้เจอผู้หญิงเลยครับ"
นอกจากพนักงานของตัวเอง(ซึ่งจากอายุก็น่าจะเป็นป้าได้)ก็ไม่ได้พบเจอใครอีกเลย
มีแค่ครอบครัว พนักงาน ลูกค้า ซึ่งแน่นอนผมไม่สนใจอยู่แล้ว
วันๆอยู่แต่กับงาน จอคอม ทำงานเสร็จก็พักผ่อนโดยการดูยูทูป อ่านหนังสือ เล่นเกม
ผมไม่เที่ยวกับเพื่อน ไม่มีฟีลไปนั่งดื่ม(ผมไม่กินเหล้า)ไม่มีนัดสังสรรค์ ไม่มีปาร์ตี้ ฯลฯ
แต่สิ่งที่ผมมั่นใจอย่างนึงคือ
ผมมีอารมณ์ทางเพศสูงมากๆ
คือก็คิดว่าตัวเองไม่ได้แปลกอะไรนะ คนอื่นๆก็คงเป็นกันเยอะแยะ
แต่ที่แปลกคงเป็นผมอายุ 28 แล้วยังไม่เคยมี Sex จริงๆมาก่อน ดูแต่น้องๆJAVทั้งนั้น
คือในสังคมผู้ชายอ่ะ มองไปทางไหน มันก็มีแต่คนเคยตั้มสาวกันทั้งนั้น
ผมจึงช่วยตัวเองทุกวันครับ
ไม่ใช่ "แทบจะ" แต่ผมทำ "ทุกวัน" จริงๆครับ อย่างน้อยวันละรอบ
บางวันก็ 2-3 รอบด้วยซ้ำ
หลังสิ้นวันทำงานเสร็จเปิดคอมปุ๊บ มือผมอัตโนมัติละ ต้องหาดูทันที
ถามว่ามัน effect กับการทำงานมั้ย ผมว่าไม่นะ ผ่อนคลายด้วยครับ
แต่หลังๆคือมันเริ่มเยอะขึ้นจนผมรู้สึกว่า
"เฮ้ยไม่ใช่ละ" ทำไมเราหื่นงี้วะ 555
บางช่วงต้องพัก Reboot บ้าง แต่ก็ถือว่ายังมีความต้องการสูงอยู่ดี
ผมเลยคิดเอาเองว่า คงเพราะผมไม่เคยมีประสบการณ์กับคนจริงๆ
จึงต้องระบายตัวเองผ่านวิธีนี้ ซึ่งแน่นอนมันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรอก
แต่ผมก็คิดกับตัวเองว่า ระยะยาวมันไม่น่าจะดีนัก
"นี่กูจะซิงไปจนอายุเท่าไรวะ?"
เงินก็หาได้ แต่แฟนหาไม่ได้ ซึ่งก็ยังไม่อยากจะมีแฟน แต่อยากได้ SEX
คือมันไม่ไหวแล้วครับ ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ...
ผมเคยอยากเก็บซิงไว้รอคนที่รักจริงๆ รอแต่งงานจริงๆค่อยเปิดซิงตัวเอง
ผมเคยคิดว่าถ้าผมเป็นผู้ชายแบบนั้น ผมคง Rare สำหรับแฟน/ภรรยาในอนาคตแน่ๆ
แต่วันนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว... ตัวผมในวันนั้นมันสลายไปแล้วครับ
ผมก็แค่เด็กเนิร์ดผู้โง่เขลา
แค่ชายหนุ่มที่คิดเองเออเองว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นที่ตัดสินใจแบบนี้ ที่ไหนได้...
วันนั้นที่ผมเจอกระทู้ของท่าน
"ท็อตแน่มแมน" ในบอร์ดนี้ ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปตลอดกาล...
ผมมันอ่อนด้อยซะยิ่งกว่าด้อย เป็นขี้ฝุ่นของธุลีใต้ teen ของชายหนุ่มหลายๆคนในวัยเดียวกัน
กะลาที่ครอบหัวผมเอาไว้ โดนทุบแตกสลายไปอย่างไม่มีชิ้นดี
เมื่อก่อนผมคิดนะ ว่าคนเราจะไปเที่ยว 'ออน' ทำไมวะ? จะไปดีล ไปซื้อเรื่องอย่างว่าทำไม
คือมันเปลืองเงิน แล้วก็เสี่ยงติดโรค ไม่รู้จักกันมาก่อนแล้วสะระตั้มกันป้าบๆแล้วแยกกันเนี่ยนะ
ไหนจะไม่กลัวคนรอบข้างรู้ว่าเราไปเที่ยวเหรอ บลาๆๆ
ทำให้ในหัวผมมัน block เรื่องพวกนี้ไปเลย ไม่เคยคิดว่าจะสนใจเลยครับ
ผมคิดโง่ๆ แสนโง่ แบบโง่จัดๆ แค่ว่าถ้าจะมี Sex ครั้งแรกจริงๆก็ต้องมีแฟน
หรือไปคุย ไม่ก็คบกับใครจริงๆจังๆถึงจะมี sex กันได้ ไม่ใช่แค่ชั่วคราวแบบนั้น มันดูเสี่ยง แปลก
การ ONS ไม่ตอบโจทย์กับคนแบบผม เพราะผมพิเศษกว่านั้น
"พูดแล้วน่าสมเพชตัวเองอย่างหาที่สุดมิได้"
หลังจากที่โลกมันเปิดกว้าง มีคลิปยูทูปเล่าประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการเที่ยวโลกีย์
มันทำให้ผมค่อยๆหูตาเปิดกว้างทีละนิด... แต่จุดเปลี่ยนมันคือ soccersex แห่งนี้ครับ
อาจารย์ท็อตแน่ม(ท่านท็อตแน่มแมน)
ผู้ตั้งกระทู้ทิ้งไว้เป็นวิทยาทานแก่ชนรุ่นหลังไว้มากมาย
แม้ท่านบอกว่าแขวนถุงยางไปแล้ว แต่ Legacy ที่ท่านทิ้งไว้นั้นทรงคุณค่าเหลือเกินครับ
จะมีสักกี่คนที่ตอกเสาเข็มแห่งวงการน้ำกามเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้เดินตามรอยได้แบบนี้
เด็กเนิร์ดอ่อนต่อโลกที่สดซิงวัย 28 ปีอย่างผมเผลอเปิดประตูไปยังโลกที่ไม่เคยเจอมาก่อน...
ผมไม่เคยรู้ว่าเราสามารถจะใช้
เงินในการเติมเต็มกามารมณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้
และได้ในระดับเกรด A+ด้วยถ้าเงินถึง แม้ผมจะนึกไม่ออกว่าระดับนั้นสวยแค่ไหน เด็ดแค่ไหน
แต่แค่ตามอ่านก็พอจะนึกได้ว่ามันคงดีเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการที่อัดอั้นมาตลอด 28 ปีของผมได้แน่
สำหรับผม ผมให้ความสำคัญกับเงินที่สุดในชีวิตก็ว่าได้
ผมชอบหาเงิน แต่ไม่ชอบใช้เงิน เสื้อผ้าใหม่ๆก็ไม่ซื้อ รองเท้าก็ไม่ซื้อ นาฬิกาผมไม่ใส่
แม้รายได้ของผมจะทะลุ 6 หลักปลายๆถึง 7 หลักต่อเดือนไปแล้ว ผมก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมมาตลอด
แค่อยากจะเก็บเงิน และลงทุนไปจนกว่าชีวิตจะสบายในบั้นปลายในที่สุด
เงินทุกบาทที่หาได้ ผมจึงไม่ฟุ่มเฟือยเลย จ่ายอะไรไปต้องได้ผลตอบแทนคุ้มค่า+จำเป็นเสมอ
รางวัลตัวเองคืออาหารมื้อหรู 1500-2000 บาท เดือนละ 2-3 ครั้งก็เยอะแล้ว
หรือได้เติมเกมนิดๆหน่อยเดือนละ 500 ก็พอแล้ว
แต่ผมมานั่งคิดว่า "กูจะใช้ชีวิตแบบนี้ทำไมวะ" ทั้งๆที่ในใจผมก็รู้ว่าผมชอบ SEX
ผมอยากมี SEX มากๆ อยากมาตลอด อยากทำแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
อยากจะทำกับคนจริงๆบ้าง ยิ่งได้ดูคลิป JAV ที่นางเอกสวยๆขาวๆ หุ่นดี หน้าหวาน ใสๆฟีลน้องสาวข้างบ้าน
(ถ้านึกไม่ออก ฟีลน้อง Mio Ishikawa เลยครับ)
มันยิ่งทำให้คิดว่า ผมสามารถมีวาสนาได้โบ๊ะกับคนสวยเนียนกริ๊บระดับนี้ได้มั้ยนะ?
มันเป็นไปได้เหรอ?
มันมีหนทางที่สามารถ support need เราตรงนี้ได้เหรอ?
ผมจะเติมเต็มตัวเองได้จริงๆใช่มั้ยกับความใฝ่ฝันที่ค้างคางในเป้ากางเกงมาตลอด...
ท่านท็อตแน่มได้เปิดโลกให้กับผมว่า
ถ้ามีเงินพอ มันทำได้หมดทุกอย่าง
วันนี้ผมไม่ไหวแล้วจริงๆครับ...
เงินที่ผมหามาและเก็บมา มันถึงเวลาที่ต้องใช้เพื่อความสุขของผมสักครั้ง
ผมก็ไม่รู้ว่าแค่ไหนเรียกว่าพอ ไม่รู้ว่าต้องมีงบแค่ไหนถึงจะได้ระดับที่ตอบโจทย์จริงๆ
แต่ผมต้องการคลายพันธนาการที่เหนี่ยวรัดชายน้อยใต้กางเกงตัวเองไว้ 28 ปีสักทีครับ
โชคดีที่ผมยังไม่มีแฟน ไม่มีครอบครัว ไม่มีอะไรผูกมัด
แม้ตอนแรกอาจรู้สึกว่าตัวเองแปลกประหลาด แต่วันนี้มันคือพรจากสวรรค์โดยแท้
ถ้าหาเงินไปแล้วไม่ได้ใช้เติมเต็มตัวเอง มันจะมีประโยชน์อะไร
จริงอยู่ การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่คนเราต้องมี Reward ที่คุ้มค่าให้ตัวเองบ้างสิ
มันต้องมีสิ่งตอบแทนที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้มีความหมายมากกว่าการหาเงินไปวันๆสิ
คราวนี้ผมตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตนี้ให้มันคุ้มอย่างคนอื่นเขาบ้าง แบ่งเงินมาใช้ตรงนี้บ้าง
ผมไม่อยากไปใช้ชีวิตบั้นปลายมารู้สึกว่า "ทำไมตอนนั้นกูไม่......วะ ทั้งที่มีโอกาส ร่างกายก็ยังแข็งแรง"
ผมอยากจะใส่สุด จัดหนัก จัดเต็ม ชดเชยชีวิตในวัยเยาว์ของผมที่มันอุตส่าห์เหนื่อย ขยัน ทุ่มเททำงาน
จนตัวเองมาอยู่ในจุดนี้ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่จุดที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยก็ขอเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทางบ้าง
มันคงน่าเสียดายถ้าผมไม่เคยมี SEX แบบที่ตัวเองใฝ่ฝันสักทีเพราะมัวแต่อยู่ในโลกแคบๆโง่ๆของผม
แต่สำหรับมือใหม่อย่างผมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย มันก็กลัวครับ
กลัวเจอมิจฉาชีพบ้าง กลัวทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง
อย่างที่บอกว่าผมเองก็เป็นคนที่ไม่ได้มั่นใจในตัวเองนักหนา
ผมเคยคิดในหัวว่าอย่างผมคงหมดสิทธิ์ทำอะไรแบบนี้ เพราะถ้าเรามีคนรู้จักระดับนึง
กลัวคนรู้แล้วมันจะดูไม่ดีกับตัวเราหรือธุรกิจของเรา
แต่เท่าที่รู้ คนที่อยู่ในวงการนี้มีทุกอาชีพ ทุกระดับ บางคนก็ใหญ่โตมีชื่อเสียงกว่าผม
แล้วมดตัวน้อยธุลีดิน no body อย่างผมจะไปแคร์ทำไมวะ 55555
ผมจึงอยากกราบขอคำแนะนำสำหรับผู้ด้อยอย่างผม
กบกะลาแตกที่สดซิงขนาดที่ไม่เคยแม้จะเห็น ผญ แก้ผ้า
ชีวิตตลอด 28 ปีของผมที่ผ่านมา ผมย้อนเวลาไม่ได้ แต่ผมเลือกปัจจุบันได้
ผมสงสารข้อมือตัวเองครับ... มันทำเพื่อผมมามากพอแล้ว
การเดินทางของผมมันเพิ่งจะเริ่มต้นครับ อาจจะช้าไปบ้าง แต่ก็ดีกว่าช้าไปกว่านี้
ผมต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน ต้องพัฒนาอีกมากในเส้นทางนี้
ผมอาจเจอความผิดพลาดบ้าง มันคือเรื่องปกติ แต่ดีกว่าไม่เริ่มอะไรเลย
เอาล่ะครับ บอกผมทีครับว่าจุดเริ่มต้นที่ดี ผมควรจะเริ่มจากแบบไหนครับท่านอาจารย์ทุกท่าน
เริ่มจากที่ ออน ก่อนดีหรือเปล่า หรือนัดโม หรืออื่นๆ
เริ่มจากในพื้นที่ตัวเอง หรือเลือกจากเป้าหมายที่พอใจแล้วตามไปใส่ให้สุดถึงโซนนั้น
สำหรับคนอื่นที่โชกโชนและใช้ชีวิตในเส้นทางนี้อาจรู้สึกว่ามันปกติ
แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เลย มันใหม่มาก มันไม่ปกติมากๆ จนไม่รู้ว่าจะทำตัวให้ถูกยังไง
1.) ผมไม่รู้จะเริ่มหา contact ติดต่อใคร/จะเริ่มคุยยังไง ต้องเตรียมตัวไปยังไงบ้าง พกอะไรไปบ้าง เลือกสถานที่ยังไง
ผมกำลังคิดว่าจะซื้อมือถือใหม่เบอร์ใหม่ไปเลยในการ contact โดยเฉพาะ
แต่ซิมสามารถใช้ลงทะเบียนชื่อคนอื่นได้ใช่มั้ยฮะ รู้สึกจะมีซิมที่ลงทะเบียนไว้แล้วด้วย ไม่อยากใช้ชื่อตัวเอง
คนธรรมดาอย่างผมที่วันๆอยู่ในห้องตัวเอง ไม่มี connection อะไรทั้งนั้น
ผมไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม VVIP หรือกลุ่มระดับบนๆหรอกครับ
เอาแค่ได้มีโอกาสตั้มก็ดีใจแล้ว แต่อย่างน้อยก็ขอระดับโอเคๆดีๆหน่อย
จะหา contact หรือตั้งเกณฑ์การเลือกให้ตัวเองยังไงได้บ้างครับ
ถ้าใช้วิธีท่านท็อตแน่มก็คือหาคอนแท็คโมจากบอร์ดๆนึง(ท่านเคยเขียนในกระทู้) มันก็มีหลายคนเหลือเกิน
ท่านใดมีวาร์ปสู่ดินแดนสนทนาจะเป็นพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้เลยครับ PMT
2.) มีวิธีที่เราจะ safe ตัวเองยังไงได้บ้างในวงการนี้ครับ คนที่อยู่ในวงการนี้เขาไม่กลัวโดน blackmail กันเหรออะไรงี้
แบบถ้าตัวเองมีชื่อเสียงหรือมีหน้ามีตากันระดับประเทศ เขา safe ตัวเองกันยังไง มั่นใจได้ไงว่าปลอดภัย
3.) สำหรับ newbie ในเซิร์ฟแบบผม โฟกัสน้องเกรดไหนถึงจะดีพอ+ปลอดภัยในระดับไว้ใจได้
ต้องตั้งงบประมาณแค่ไหนถึง safe เหลือๆ
(cashflow ของผมหลังหักค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆแล้ว หักเงินเก็บออม หักเงินลงทุน หักภาษี
ต่อเดือนจะเหลืองบประมาณ 100k-150k
แต่ผมไม่ได้อยากใช้หมดนะครับ ยังทำใจไม่ได้ ขอแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า)
4.)ความกังวลตอนลงสนามจริง
คนที่มันไม่เคยอย่างผมเนี่ย ผมเตรียมใจไว้แล้วว่าครั้งแรกน่าจะไวแน่ๆ (หรืออาจะไม่ก็ได้)
ถ้าเจอครั้งแรกผมตื่นเต้นจนมันไม่สู้ หรือเสร็จไวเกินขึ้นมา หน้างานมันจะไปต่อยังไงครับ 555
5.)ผมต้องเตรียมร่างกายแบบไหนยังไงบ้างให้มัน efficiency ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทุกวันนี้ทำแต่งานจนแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยด้วย(แต่ไม่ได้ปล่อยตัวเองอ้วนขนาดนั้น)
-การ Reboot ควรเริ่มทันทีเลยมั้ยครับ แม้มันจะแสนยาก
ผมควรต้องปรับตัวยังไงก่อนดี แนะนำได้ทั้งกิจกรรม อาหารเสริม ฯลฯ
ผมแอบกังวลว่ากลัวไปทำเสียประสบการณ์กับคนอื่นมั้ยอะไรงี้
ถ้าพูดตรงๆ การที่ผมมาเปิดซิงแบบนี้ ในวัยนี้
ใจลึกๆก็อยากได้คนที่เข้าใจเราหน่อยว่าเราไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อน
ทฤษฎีอย่างแน่น แต่ปฏิบัติผมไม่มั่นใจเลยว่ะเฮีย
ขออภัยถ้าถามเยอะนะครับ บางคำถามอาจดูโง่ๆ แต่ใช่ ผมโง่จริงครับถ้าเป็นเรื่องนี้อันนี้ไม่เถียง
ไม่ว่าพี่ๆทุกท่านจะเป็นใคร อายุเท่าไร ผมไม่เกี่ยงเลยครับ
ทุกท่านมีประสบการณ์มากกว่าผม ผมขอนับถือเป็นอาจารย์ครับ
ขอแค่แนะนำให้ผมได้เห็นทางสว่างบ้าง มีอะไรที่ควรรู้บ้าง มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง
แชร์ได้เต็มที่เลยครับ สัญญาว่าจะอ่านทั้งหมด
ผมอาจจะยังไม่ได้ไปเร็วๆนี้ ต้องเคลียร์งานแล้วหาวันว่างก่อน แต่อยากเก็บข้อมูลไว้ก่อนครับ
ขอบคุณทุกท่านครับที่อ่านจนจบ
สุดท้ายขอบคุณท่านอาจารย์ท็อตแน่มครับ ท่านอาจคิดไม่ถึงว่าเมล็ดพันธุ์น้ำกามที่ท่านเพาะเอาไว้
วันนี้มันส่งผลงอกงามเป็นต้นไม้โลกีย์ที่เติบใหญ่ให้กับใครหลายๆคน สิ่งที่ท่านทิ้งไว้มีความหมายเหลือเกิน