เพจนี้ ของโคตรดี ผมก็อปมาให้อ่านหลายครั้งละ (ครั้งที่แล้วขออภัย ไม่ได้ก็อปลิงค์มาจากเพจ Scouse Bastard)

เสียดายอย่างเดียว ไม่ค่อยอัพเดทเท่าไรก่อนหน้านี้ ช่วงนี้มารัวๆ โดยเฉพาะเรื่องสัญญา ฮ่าๆๆๆ

**** อ่านตรงคำว่า เทรดดิ้ง ดีๆนะครับ มันคือการที่สโมสรแข็งเรื่องสัญญา จะไม่มีการต่อสัญญาแบบเฮนโด้ มิลเนอร์ ซิมิกัส อีกแล้ว *****

ถ้าจริงที่สโมสรยื่นชื่อ อูกาเต้ ให้แล้ว แต่โค้ชไม่เอา ก็แสดงว่ามันถามแล้ว แต่โค้ชอยากใช้ของเดิมก่อนจริงๆ อยากประเมินก่อนจริงๆ

นี่คือข้อความในคอมเม้น ที่เจ้าของเพจมาพิมพ์ข้างใต้คอมเม้น

เคสนึงที่ต้องยกคือ ตามบทความนี้ว่ามีการเสนออูกาเต้ แล้วอาเน่ไม่เอานี่บอกกลายๆครับ ว่าที่แฟนบอลบอกลดสเป็คนิดหน่อยแล้วซื้อมาเถอะ นี่มันไม่ได้
คือถ้าไม่ได้ดังใจโค้ช เขาก็ไม่เอาอยู่ดี
แล้วถ้าดูจากการลดเรทการวิ่ง แปลว่าเขาเชื่อมั่นในการบริหารการบาดเจ็บด้วยวิธีการซ้อม วิธีการเล่นมากกว่าซื้อคนมากองกัน  

เราควรจะนับเลขอะไรอาทิตย์หน้าดีครับ 5,6,7 หรือ 8?

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราและแมนยูในปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นความจริงหลายข้อ

1. คุณภาพการตัดสินใจมีค่ามากกว่าเงินร้อยล้าน

การตัดสินใจผิดพลาดที่เก็บเทนฮากไว้ไม่เพียงแต่ทำให้เงินช้อปปิ้งร้อยล้านไหลลงท่อน้ำทิ้ง การปลด(เทนฮาก/แอชเวิร์ธ) การตั้งอโมริม การต้องซื้อตัวอีกระลอก และเผลอๆอาจไปไม่ถึงตรงนั้นเพราะต้องปลดอีกรอบก่อน ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจราคาแพงมาก

2. โชคมีส่วนแน่ แต่ถ้าตัดสินใจไม่ดี โชคก็ไม่มีประโยชน์
ขอย้อนไปถึงสมัยคล็อปนะครับ สมมุติตอนนั้นคล็อปไม่ว่างงาน หรืออยากว่างงานต่อ เราจะได้คล็อปมาคุมมั้ย - คำตอบก็คือไม่ ดังนั้นโชคมีส่วนแน่นอนที่ตอนนั้นคล็อปว่างงาน ตอนนี้อาเน่พร้อมรับงาน แต่สุดท้ายแล้วถึงคนพร้อม ถ้าคุณไม่เลือกเขา - คุณก็ไม่ได้เขาเหมือนกัน

แมนยูไม่ได้เลือกคนอื่นแทนเทนฮาก ตอนที่ยังมีเวลาและตัวเลือกอื่น

3. การไม่ทำอะไรเลยอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในบางกรณี
สมมุติอีกแล้วว่าตอนนั้นคล็อปไม่ว่าง การทู่ซี้ใช้ร็อดเจอร์ไปจนจบ "อาจจะดีกว่า" การปลดออกแล้วไปคว้าคนใหม่ที่ไม่ดีกว่าขึ้นมา
เหตุผลแรกคือตอนปิดฤดูกาลตัวเลือกเยอะกว่า เรามีสิทธิได้คนที่ดีกว่า
เหตุผลที่สองคือความเสี่ยงขาลงมีจำกัด คือถ้าไม่ได้ไปบอลยุโรป แต่ไม่ตกชั้น ความเสียหายทางการเงินมันไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับการปลด(เสียค่าปลด 1 ก้อน) เอาคนใหม่เข้ามาถ้าแย่มากก็ต้องเสียค่าปลดอีก 1 ก้อน ถ้าทรงๆให้โอกาสต่ออีกปี ก็เสียโอกาสเปลี่ยนคนตอนสิ้นฤดูกาล
ผมว่านี่ใช้กับกรณีเทนฮาก/อโมริมได้ด้วย อโมริมอาจจะดี แต่เขามาผิดเวลา ตอนนี้แมนยูที่งบตึงมากอยู่แล้วต้องหาเงินช้อปปิ้งเดือนมกราที่ของแพงตัวเลือกน้อย และถ้าไม่รอดต้องปลดจริงๆก็เสียเงินซ้ำซ้อนไปอีกก้อน

4. ผมไม่คิดว่าแมนยูจะกลับมาได้ใน 4-5 ปีนี้ การบริหารทีมกีฬามันมีอะไรมากกว่ามีเงินซื้อตัว ในบรรดาผู้บริหารทั้งหมด ผมคิดว่ามี 3 ทีมที่ผู้บริหารอยู่ในระดับสูง คือซิตี้ ลิเวอร์พูล และอาเซนอล กับอีกสามทีมที่น่าจับตามอง คือ เชลซี นิวคาสเซิล และฟอเรส
เชลซี นี่ผมพอเข้าใจว่าท็อดกับเอกบาลี พยายามทำอะไร แต่ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วแนวคิดของเขาจะพาทีมไปได้สุดทางรึเปล่า
นิวคาสเซิล กับฟอเรส นั้นเหมือนกัน คือผู้บริหารรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ น่าจะมาถูกทาง แต่ถูกจำกัดโดยโครงสร้างและขนาดของสโมสร น่าจะต้องใช้เวลา

แมนยู? แทร็คเรคคอร์ด เซอร์จิม ไม่ดีเลยครับ ผมมีความรู้สึกว่าแกเป็นผู้บริหารแบบชอบการมีแอคชั่น เหมือนสมัยอยู่นีซที่เปลี่ยน ผจก ปีละคน แต่การมีแอคชั่นที่ไม่ถูกต้องมันไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากช่วยสร้างปัญหา มือขวาอย่างเซอร์เดฟ เบรลฟอร์ด ก็ดังจากจักรยาน และไม่ประสบความสำเร็จในกีฬาประเภททีม
แมนยูอาจจะกลับมาได้ แต่น่าจะต้องใช้เวลางมทางอีกพักใหญ่กว่าจะเจอกลยุทธที่ได้ผล

สวัสดีปีใหม่ครับ อากาศหนาวๆบนหัวตารางนี่มันดีจริงๆ

อโมริม : กูมาทำอะไรที่นี่

ใน comment

ระหว่างเขียนตอนนี้ผมคิดว่า บางทีปัญหาสัญญาของนักเตะที่เจอตอนนี้ มันเป็นราคาที่เราต้องจ่าย

การต่อสัญญาจะง่ายกว่านี้มาก ถ้าคล็อปไม่ประกาศลาออกครับ แต่ถ้าแกไม่ประกาศลาออก ก็แปลว่ากระบวนการสรรหา ผจก ทีมจะไม่เกิดขึ้นล่วงหน้าหลายเดือนเช่นกัน และถ้าเลือก ผจก ฉุกละหุก ผมว่าเราเลือกได้ไม่ละเอียดและดีเท่านี้

ในทางกลับกัน เราจะเห็นว่าการต่อสัญญามันไม่ง่าย ยังไงก็ยืดเยื้อแน่ๆ ดังนั้นออฟชั่นที่คล็อปไปแอบๆบอกว่าลาออก (แล้วไปสรรหาข้างหลัง) พร้อมๆกับต่อสัญญา ผมก็ว่าเกิดขึ้นได้ยาก ความแตกก่อนแน่ และน่าจะเละเทะกว่านี้ เช่นถ้าข่าวหลุดถึงสื่อ ทีนี้ต้องดราม่ากระจุยว่า FSG แทงข้างหลังคล็อป แฟนบอล ประท้วง ฯลฯ สุดท้ายกว่าจะสยบข่าวก็น่าจะพังไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ดังนั้นการตัดสินใจบอกแต่เนิ่นๆอย่างเปิดเผยว่าจะลาออกของคล็อป จึงน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับทุกฝ่าย