ผมทำงานกับที่บ้าน เป็นธุรกิจของฝั่งพี่เขย 100% ขอเรียกว่าพี่ (A)

แล้วเขาก็ดึงแฟนเขา พี่สาวผมเองขอเรียกว่า (B) มาช่วยทำงานด้วย

ตอนแรกผมทำงานอยู่เชียงใหม่เกือบ 10 ปี แล้วพี่เขยดึงตัวผมกลับมาทำงานด้วย

ตอนแรกผมปฏิเสธไปว่า ไม่กลับ แต่เขาจีบ 3 รอบ + ให้เงินเดือนเยอะกว่า

ผมเลยลองคุยกับแฟน แฟนก็บอกให้ลองดู เลยได้ย้ายกลับมาทำงานที่บ้านทั้งคู่

ปัจจุบันทำมาได้ จะ 2 ปีแล้วครับ

โดยที่พี่ B (พี่สาว) เคยพูดว่าอยากให้กลับมาทำงานด้วย แต่พอถึงเวลาจริง

มีอาการเหมือนไม่อยากรับเข้าทำงาน แต่พี่ A (พี่เขย) กับผมสนิทกันมาก

และเขาต้องการผมกลับมาทำงานจริง ๆ ก็เรียกตัวให้กลับมาเลย ณ เดี๋ยวนั้น  

หลังจากทำมาที่ปัจจุบันมาได้ 2 ปี ผมสัมผัสได้ว่า พี่สาวผมเอง B

มีความไม่มืออาชีพมในหลาย ๆ อย่าง

- แทบไม่เข้าออฟฟิศเลย เข้าทีก็ 4 โมงเย็นดึงเวลาคนอื่นให้กลับบ้านดึก

ใครกลับก่อน ก็จะบ่นตลอดว่าเห็นแก่ตัว กินแรงคนอื่น คนอื่นทำไมเขาอยู่ทำงานกันดึกได้

- เวลาจ่ายเงินค่าวัสดุของใช้ในงานบริษัท ต้องให้แกเซนต์ในในตารางว่าแกโอนจ่ายแล้ว

เรื่องเซนต์ไม่ติด แต่ประเด็นต้องไปยื่นเอกสารให้เซนต์ที่บ้าน

เพราะ 90% แกไม่เข้าออฟฟิศ บางทีถ้าต้องใช้เอกสารนั้นในการทำงานต่อ แล้วแกยังไม่มาเซนต์ให้

ต้องไปกลับบ้านเขา กับ ที่ทำงาน จนกว่าจะเซนต์ให้

- ด่าลูกน้อง ใช้คำพูดแย่มาก กู-มึง ห. สัตว์ มาครบ อารมณ์แปรปรวน

- ไม่พอใจใคร ใครพูดไม่เข้าหู ไม่เข้าข้าง = โกรธ ชักสีหน้า เหวี่ยงใส่  

1. ช่วงก่อนปีใหม่ มีลูกทีมผมแผนกจัดซื้อ ไปยื่นเอกสารขอตั้งเบิกให้พี่ B จ่ายเงินให้

แต่แกดันด่าลูกน้องกลับไปว่า กูจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้มึง ทั้ง ๆ ที่บริษัทมีเงินอยู่

แต่แกดันเลือกที่จะพูดแบบนี้ แล้วก็ไม่จ่ายเงิน ทำให้หน้างานที่พี่ A ดูแลอยู่

ไม่สามารถทำงานได้ และจำเป็นต้องเร่งส่งงานเพื่อไม่ให้โดนค่าปรับ

2. มีหน้างานโทรไปแจ้งพี่ A ว่าไม่มีวัสดุใช้ เพราะจัดซื้อบอกต้องรอพี่ B จ่ายเงินก่อน

พี่ A เลยโมโห โทรไปด่ากลางออฟฟิศว่า อยากรู้ว่าพวกมึงเป็น ห. อะไรกันไม่จ่ายเงิน

แล้วก็ด่าพี่ B ยับ ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายดูแลเรื่องการเงิน และมีอำนาจโอนเงินแท้ ๆ

ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไง

3. น่าจะด่ากันแรงมาก ๆ จนถึงขั้นพี่ A บอกว่าถ้าทำกันไม่ได้ ไม่ต้องทำ เดี๋ยวผมทำเอง

แล้วพี่ A ก็โทรหามาผม บอกให้สั่งหยุดงานคนที่ออฟฟิศไปเลย เดี๋ยวปัญหาพวกนี้เขารับผิดชอบเอง

พอวางสายเสร็จ พี่ B โทรมาหาผมว่า พี่ A พูดว่าไงบ้าง แล้วก็เสียงเหมือนน้อยใจผม

่ว่าทำไมพี่ B ต้องโทรมาหาผมด้วย

4. วันถัดมา เหตุเกิดเวลา 10.00 น. พี่ B โดนสั่งปลดอำนาจการโอนเงินแบบฟ้าฝ่า กลางออฟฟิศ

แล้วก็เดินร้องไห้ออกไป ก่อนออกไป แกเรียกพี่ในทีม ที่มีประเด็นด้วยมาถาม

ว่าไปพูดอะไรกับพี่ A ทำไมเขาถึงโกรธแบบนั้น พี่จัดซื้อแกก็บอก ก็พูดไปตามความเป็นจริง

เพราะแกโดนพี่ A ด่า + บีบคั้นสุด ๆ ว่าทำไมถึงจ่ายเงินให้ไม่ได้

5. พอพี่ B รู้ว่า พี่จัดซื้อเอาประโยคที่แกด่า "กูจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้มึง" ไปบอกพี่ A

เพราะโดนบีบ แกเลยสวนกลับไปในห้องว่ามีความสุขมากไหม ทำผัวเมียเขาทะเลาะกัน

ก็เพราะ เสือ... ไปพูดไง // ดีใจไหมคุณได้อยู่ทำงานต่อ แต่ฉันโดนลดอำนาจลง

แล้วก็โทษว่าเป็นความผิดของพี่จัดซื้อคนนั้น

6. ตัดมาที่ผม หลังพี่ B โดนปลดอำนาจ ผมต้องรีบยื่นเช็คให้พี่ A เซนต์

เพราะผมยื่นให้พี่ B มา 3 ครั้งแล้วแกไม่ยอมเซนต์ให้ ขนาดไปยื่นให้เซนต์ที่บ้าน

แกก็ตอบกลับมาว่า ขี้เกียจทำงานที่บ้าน (แต่ออฟฟิศแกก็ไม่เข้านะ)

7. ผมเลยไปหาพี่ A ที่ร้านข้าวเวลา 11.00 น. เพื่อให้เซนต์เช็คให้

ระหว่างกินข้าวกับพี่ A พี่ B โทรหาพี่ A เพื่อมาขอโทษ แต่เหมือนจะคุยกันไม่ลงตัว

พี่ A เลยด่าพี่ B ไปว่า คนอย่างคุณ นิสัยอย่างคุณ มันไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าหรอก

เพราะวุฒิภาวะต่ำ ใครพูดอะไรไม่พอใจก็โกรธ ไม่พอใจ แล้วใครมันจะไปกล้าเตือน

ผมพูด ผมสอน คุณก็เกลียดผม ขนาดน้องชายคุณยังบ่นคุณกับผมเลย

ซึ่งถามว่าผมบ่นเรื่องอะไรกับพี่ชาย ผมบ่นเรื่องปัญหาที่พบเจอในที่ทำงานครับ

8.หลังจากพี่ A B คุยกันไม่ลงตัว พอวางสายเสร็จ เขาโทรมาหาผม

ทำไมออกไปหาพี่ A ไม่บอก ไม่มีมารยาท

ฉันเป็นคนคุมออฟฟิศ แล้ววีนแตกบอกว่าแกด่าชั้นหรอ

โดยที่ไม่ถามอะไรผมสักคำ ด่าผมนกสองหัว

ทำไมเข้าข้างพี่ A ไม่เข้าข้างพี่สาว ผมก็บอกไปว่า ผมบ่น ผมก็บ่นแต่เรื่องงาน

เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวพี่ B ก็ยังเป็นพี่สาวที่น่ารักสำหรับผมเสมอ


9. จุดไคล์แม็กที่ทำให้ผมอึ้งกับคำพูด

แกตอบกลับมาว่า แต่ชั้นชักไม่แน่ใจแล้วว่าอยากจะมีน้องชายอยู่ไหม

ผมก็สตั้นเลยทีนี้ แล้วก็สวนผมกลับมาว่า ชั้นรู้แล้วแกอยากเป็นใหญ่ใช่ไหม

ผมเลยสวนไปว่า อย่ามาพูดกับผมแบบนี้นะ ผมแยกแยะออกระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัว

เถียงกันไปสักพัก ก็จบแยกย้าย แต่คำพูดเขาคือแย่มาก

10. วันถัดมา ผมไปทำงานตามปกติ แกเข้าออฟฟิศมาแต่เช้า

แต่หน้าตึงมาก แบบสุด ๆ บล็อคเบอร์ผม จะโทรไปตั้งเบิกงาน ก็ยุ่งยาก

ต้องพิมพ์ข้อความผ่านไลน์ กับถ่ายรูปเอกสารไปตั้งเบิกแทน

ผมก็โอเค ถ้าทำกันแบบนี้ แปลว่าไม่อยากคุยกัน ผมก็ไม่คุย

แต่เรื่องงานผมทำตามปกตินะครับ แต่พอเลิกงาน ผมเลยตัดสินใจ

เดินออกมาเลยโดยไม่ไหว้ คนที่ไม่มีวุฒิภาวะแบบนี้ แต่ผมบอกทุกคนตามปกติว่ากลับแล้วนะครับ

เจอกันหลังปีใหม่ครับ

11. มีคนมาบอกผมว่าหลังจากที่ผมเดินออกไป เขาพูดกลางออฟฟิศว่า

พรุ่งนี้ทำบุญออฟฟิศปีใหม่กันทุกคน ตัวซวย ไม่อยู่ แล้วบอกกับคนอื่นว่า

ผมไม่มาทำงาน เพราะหยุดพักร้อน เขาสบายใจมาก ๆ

12. สิ้นเดือน สมมติพี่เขยผมอนุมัติเงินเดือน 30k แต่เขาเลือกที่จะไม่ปรับฐานเงินเดือนให้

แล้วโอนให้อยู่ที่ 27k เป็นเรตที่ผมทำงานมาก่อนพี่เขยจะขึ้นเงินเดือนให้แทน

แต่ก่อนหน้านี้ช่วงไม่ได้ทะเลาะกัน ก็โอนให้ผม 30k ตลอด