[RE: เกมส์ คือ ภัยเงียบ สำหรับฟุตบอลไทย และกีฬาไทย]
RocketMan พิมพ์ว่า:
ผมติดเกม ก็ยังเตะบอล เล่นวอลเลย์ เล่นตะกร้อ เพราะมันสนุกกว่าเกม ยิ่งเล่นเตะบอลลูกเทนนิสกับโกล์หนูแม่งหัวเราะจนท้องแข็งหายใจแทบไม่ทันเวลาเล่นกับเพื่อน เตะวืดโชว์ไก่กากันทั้งทีม
กีฬาบางอย่างพอมันจริงจังแล้วไม่สนุก เด็กก็หายจากกีฬานั้นๆ พอเตะบอลเก่งได้คัดทีมโรงเรียน มีแต่ความกดขี่กดดันเพราะมันต้องเอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง ฝึกซ้อมแทคติกสารพัดบรรยากาศเข้มๆดุด่าว่ากล่าวกันหนักหนา
พูดได้แค่ว่าจริงจังกับกีฬาแล้วความสนุกแบบเด็กๆมันหายเกลี้ยง
วงการฟุตบอลไทยมันไม่มีฝันให้เด็กไขว่ขว้า มันหาเลี้ยงครอบครัวยากเพราะต้องแข่งกับคนเป็นหมื่นๆเพื่องานไม่กี่ต่ำแหน่งในทีมนั้นๆ
กำแพงใหญ่สำหรับฟุตบอลไทยและกีฬาไทยคือ อาชีพกีฬา ที่ไม่แน่นอนถ้าคุณไม่ใช่คนพิเศษ
ถามหน่อยถ้าคนเป็นครูดึงชีวิตเด็กให้หันมาสู่กีฬาแล้วเขาไปไม่รอด เราจะรู้สึกยังไงที่อนาคตเขาต้องเหยีบบเข้าไปในวงการกีฬาไทย
ขออภัยที่ต้องพิมพ์โต้แย้งนะครับ
จากที่ผมเจอ แทบจะ 95% ไม่ได้เป็นแบบท่านนนะครับ คำว่าติดเกมของเด็กที่ผมเจอ คือ เบี่ยงเบนออกจากกีฬา และกา่รเรียนเลย ส่วนคนที่เล่นบ้าง แต่ยังมาซ้อมกีฬา ส่วนใหญ่ก็อดหลับอดนอนมาโรงเรียน สุขภาพร่างกายก็ไม่เต็ม 100 อยู่แล้ว
ส่วนที่บอก ครูดึงชีวิตเด็กให้หันมาสู่กีฬาแล้วเขาไปไม่รอด เราจะรู้สึกยังไงที่อนาคตเขาต้องเหยีบบเข้าไปในวงการกีฬาไทย คำถามคือ แล้วเด็กที่เข้าวงการอื่นไม่เป็นเหรอครับ ยกตัวอย่าง ครูส่งเสริมเด็กให้ไปเรียนหมอ พยาบาล วิศวะ แล้วเด็กไปไม่รอด มันก็มีเยอะแยะ แบบนี้ต้องโทษครูมั้ยครับ ที่อยากให้เด็กมีอนาคตที่ดี ผมเป็นครูสายพละ ผมก็ทำหน้าที่ของผม คือ พยายามส่งเสริมเด็กที่มีความสามารถทางกีฬาและให้เข้าไปสู่วงการกีฬาอย่างเป็นระบบ ซึ่งเด็กที่ผมจะดึงเข้ามาวงการกีฬา ไม่ใช่ว่าผมจะไปดึงใครมาก็ได้นะครับ ผมดูตามพหุปัญญาของเด็ก แล้วเด็กที่เข้ามาหาผมส่วนใหญ่ก็เกิดจากความต้องการของเด็กเป็นหลักที่อยากเป็นเด็กบอล ผมไม่ได้บังคับมา เพียงแต่พอเด็กเข้ามาแล้ว ถูกเกมดึงดูดความสนใจ ทำให้เด็กเบี่ยงเบนความสนใจออกจากสิ่งที่ควรจะเป็น
อีกอย่าง ที่บอกว่า วงการฟุตบอลไทยมันไม่มีฝันให้เด็กไขว่ขว้า ไม่จริงเลย มีทุนและโครงการดีๆ เกี่ยวกับฟุตบอลเยอะมากที่จะเข้ามาสนับสนุนตรงนี้ (เฉพาะปีที่แล้วก็ไม่ต่ำกว่า 5 ทุน) เพียงแต่ไม่มีเด็กส่งไป เพราะลำพังแค่จะหาเด็กมาเตะบอลก็ยากแล้ว และผมเชื่อว่า ถ้าผมสามารถหาเด็กส่งไปเข้าโครงการหรือได้รับทุนดีๆที่ส่งเสริมด้านฟุตบอลจริงๆ เด็กก็จะมีอนาคตที่ดีได้
สุดท้าย ที่บอกว่าจริงจังกับกีฬาแล้วความสนุกแบบเด็กๆมันหายเกลี้ยง แล้วเด็กที่เป็นเรียนสายอื่น มันสนุกเหรอครับ ถ้าจะเอาจริงเอาจังกับด้านไหน มันก็ไม่สนุกทั้งนั้น ผมเองเรียนครู ยังไม่สนุกเลย เรียนจบมาก็ต้องมาหาสอบแข่งกับคนเป็นหมื่นๆ เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทุกวงการที่เป็นสายอาชีพมันมีการแข่งขันและไม่สนุกทั้งนั้น เพียงแต่ตอนนี้ ผมกำลังโฟกัสว่า ประเทศเรากำลังสูญเสียเด็กที่มีความสามารถทางกีฬาให้กับสายทางอื่นเป็นจำนวนมาก และจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
ดังนั้น ถ้าเราไม่สูญเสียเด็กที่มีความสามารถทางกีฬาไปในทางอื่นมากนัก ประเทศก็จะมีเด็กเก่งๆป้อนเข้าไปในวงการกีฬามากขึ้น วงการกีฬาก็มีโอกาสที่จะเฟื่องฟูมากขึ้น เมื่อวงการกีฬาเฟื่องฟูเอกชนก็อยากเข้ามาสนับสนุน ยิ่งต่อยอดให้เด็กที่เป็นนักกีฬาอาชีพมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่าง วงการ esport ที่มีเด็กเล่นเกมเยอะ ก็สามารถคัดเด็กเก่งๆ ไปเป็นนักกีฬา esport อาชีพได้ ทั้งที่ความเป็นจริงๆแล้ว รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนด้าน esport เท่ากับด้านกีฬาด้วยซ้ำ แต่เพราะเด็กเก่งๆ สนใจเล่นเกมส์เยอะขึ้น วงการ esport เลยมีเด็กเก่งๆที่พร้อมไปเป็น esport สายอาชีพ ในทางตรงกันข้ามเลย คือ วงการฟุตบอล นับวันเด็กยิ่งลดน้อยลง โอกาสที่จะคัดเด็กเก่งๆ ก็น้อยลง ผมเลยมองว่า มันคือ ภัยเงียบ