ไหนๆ ก็มีเรื่องมูดริก
สงสัยเหตุผลนะ ทำไมยาโด๊ป ถึงเป็นสารต้องห้าม?

ตัดประเภทที่เสพติด หรือ ก่อมะเร็ง หรือ ทำลายประสาท
หรือ ทำลายตับ-ปอด-หัวใจ-ไต-ม้าม ออกก่อนนะ

สารโด๊ปเนี่ย หลังๆ การพัฒนาน่าจะไปไกลถึงประเภท
เสริมสร้างความแข็งแกร่งกล้ามเนื้อแบบจำเพาะ ไม่ส่งผลข้างเคียง
ทำไมถึงถูกห้ามใช้งานในการกีฬาครับ?

คือ ก็ถ้าทุกคนก็เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทุกคนก็ใช้ มีพัฒนาสูตรเฉพาะตัว อะไรทำนองนั้น
มันทำไมถึงจะเป็นเรื่องที่ผิดล่ะ?


จะบอกว่า โด๊ปแล้ว "ไม่ปลอดภัย" "ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว"
ยังกะว่า กีฬาอะไร มันส่งผลดีต่อสุขภาพนิ
นักบอล นักมวย นักบาส นัดแบด แก่ไปมีปัญหาทั้งงั้น
ทั้งที่ไม่ได้โด๊ป... ถ้ากลัวเสียสุขภาพ ก็ต้องแบนการแข่งไปเลยไหม?


จะบอกว่า "ไม่แฟร์" คนรวยโอกาสโด๊ปสูงกว่า
แล้วกีฬาปัจจุบัน คนเกิดมาในสภาพพร้อมกว่า ไม่ได้มีโอกาสฝึกมากกว่าเหรอ?
ถ้ามันแฟร์จริง คนดำ คนแอฟริกา ที่กล้ามเนื้อเหนือกว่าคนอื่น คงยึดครองโลกกีฬาไปละ


จะบอกว่ามันไม่ "ธรรมชาติ"
วิทยาศาสตร์การกีฬา แบบที่ควบคุมอาหารทุกอย่าง มีตารางการกินเป๊ะๆ
ออกแบบการเล่นกล้ามเพื่อเพิ่ม 1-2-3
ต้องกินวิตามินตามโด๊สเป๊ะๆ ต้องปรับเวลานอนเป๊ะๆ
มันมีตรงไหนที่ธรรมชาติบ้าง?

สมมุติ ไปเอาตารางการฝึกของ CR7 มาดู
วิธีการ กิน-อยู่-ออกกำลัง ไม่มีตรงไหนปกติมนุษย์จะทำแน่ๆ
เพื่อนไปกินข้าวบ้าน ยังส่งแครอทให้แทะเนี่ย
มันต่างกับการ Special Enhance ยังไง?

ถ้ามียา ตารางมันก็จะเพิ่มจากกินอยู่เดิมๆ
เป็นยัดยาอะไรกี่โมงเพิ่ม การกิน-อยู่-ออกกำลัง-ฝึก-พัก
ก็จะมียาเป็นส่วนนึง เพิ่มให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

คนละเรื่องครับ ความปลอดภัย จากการกีฬา

กับความปลอดภัยจากการใช้ยา ต้องแยกกันก่อนครับ ผมว่าอันนี้ โยงมั่ว

ส่วน กีฬาปัจจุบัน คนเกิดมาในสภาพพร้อมกว่า ไม่ได้มีโอกาสฝึกมากกว่าเหรอ?

ใช่ครับ แต่มันก็ต้องฝึก ใช้ความพยายามต่อ ไงครับ

เทียบกินยา แค่ มีตังซื้อยามากิน แค่นี้ก็ได้เปรียบกว่าคนไม่มีแล้ว ไม่ต้องพยายาม อะไรเลยในความได้เปรียบตรงนี้

ความไม่เท่าเทียมครับ กับ ความยุติธรรมเป็นหลักครับ

เราต้องมองอาชีพนักกีฬาในภาพรวม

ถ้าปล่อยโดป กันเต็มที่

โอกาส ในการเข้าถึงการโดป แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน

ประเทศ หรือ ทีม ที่รวยกว่า ก็โดป นักกีฬา สร้างร่างกายที่ได้เปรียบกว่าในการแข่งได้


เทียบกับประเทศ หรือ ทีม ที่จนกว่า ผิดหลักการแข่งกีฬา

ยังไม่รวมอันตรายทางร่างกายที่เกิดจากการใช้สารกระตุ้นด้วยครับ

น่าจะกลัวคุมไม่อยู่มั่ง

ความไม่เท่าเทียมครับ กับ ความยุติธรรมเป็นหลักครับ

เราต้องมองอาชีพนักกีฬาในภาพรวม

ถ้าปล่อยโดป กันเต็มที่

โอกาส ในการเข้าถึงการโดป แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน

ประเทศ หรือ ทีม ที่รวยกว่า ก็โดป นักกีฬา สร้างร่างกายที่ได้เปรียบกว่าในการแข่งได้


เทียบกับประเทศ หรือ ทีม ที่จนกว่า ผิดหลักการแข่งกีฬา

ยังไม่รวมอันตรายทางร่างกายที่เกิดจากการใช้สารกระตุ้นด้วยครับ

เมื่อกี๊เพิ่ง edit ข้างบน
แต่ตอบ 2 ประเด็น

"ไม่ปลอดภัย" "ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว"
ยังกะว่า กีฬาอะไร มันส่งผลดีต่อสุขภาพนิ
นักบอล นักมวย นักบาส นัดแบด แก่ไปมีปัญหาทั้งงั้น
ทั้งที่ไม่ได้โด๊ป... ถ้ากลัวเสียสุขภาพ ห่วงนักกีฬาจริงๆ
ก็ต้องแบนการแข่งไปเลยไหม?

จะบอกว่า "ไม่แฟร์" คนรวยโอกาสโด๊ปสูงกว่า
แล้วกีฬาปัจจุบัน คนเกิดมาในสภาพพร้อมกว่า ไม่ได้มีโอกาสฝึกมากกว่าเหรอ?
ประเทศที่รวยกว่า มีโอกาสสร้างนักกีฬามากกว่า เพราะคนของเค้า "เสี่ยง" ได้มากกว่า
อุปกรณ์อะไร คนที่เกิดประเทศรวยกว่า ก็เข้าถึงได้มากกว่าอยู่แล้วนะ

คนละเรื่องครับ ความปลอดภัย จากการกีฬา

กับความปลอดภัยจากการใช้ยา ต้องแยกกันก่อนครับ ผมว่าอันนี้ โยงมั่ว

ส่วน กีฬาปัจจุบัน คนเกิดมาในสภาพพร้อมกว่า ไม่ได้มีโอกาสฝึกมากกว่าเหรอ?

ใช่ครับ แต่มันก็ต้องฝึก ใช้ความพยายามต่อ ไงครับ

เทียบกินยา แค่ มีตังซื้อยามากิน แค่นี้ก็ได้เปรียบกว่าคนไม่มีแล้ว ไม่ต้องพยายาม อะไรเลยในความได้เปรียบตรงนี้

ตรรกะอะไรครับเนี่ย

กีฬาไหนทำให้สุขภาพดีบ้าง อันนี้แกล้งปะครับ หรือคิดจริงๆ

แทบทุกกีฬามันทำให้สุขภาพดีหมดแหละครับ แต่อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป แม้แต่ผักผลไม้ ก็เป็นผลลบได้หมดแหละครับ

มาที่เรื่องโด๊ป สารกระตุ้น มันตรงตัวอยู่แล้ว ใช้ไปยังไงก็มีผลเสีย จะมากจะน้อยหรือแทบไม่มีเลยไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันคือถ้าอนุญาต มันจะมีอะไรมายืนยันว่าจะไม่ใช้กันมั่วซั่วจนเกิดผลเสีย ความอยากเอาชนะยังไงมันก็มากกว่าเหตุผลอยู่แล้ว

แล้วอีกเรื่อง ความแฟร์ ถ้าใช้ได้ ยังไงก็ใช้กันทักคนแน่ๆ ใครไม่ใช้ = เสียเปรียบ สรุปวนกลับมาเหมือนตอนไม่ใช้กันทุกคน แล้วทีมเล็กๆ นักกีฬาที่มาจากฐานะจนๆ จะเอาเงินจากไหนมาโด๊ปแบบผลเสียน้อย จะตามคนอื่นให้ทันก็ต้องโด๊ป

สรุป แบนไปเหอะ เอาไว้โด๊ปที่ไม่มีผลเสียเลยมันเข้าถึงได้เหมือนผักผลไม้ค่อยว่ากันอีกที

ผมว่าพื้นฐานเกมกีฬามันเป็นการต่อสู้กันให้ยุติธรรมที่สุดครับ

ถ้าโดปเมื่อไหร่ก็เหมือนใช้สูตรโกงเมื่อนั้น

ถึงคุณจะบอกว่าคนรวยมีโอกาสฝึกมากกว่า แต่พอลงสนาม มันก็ใช้กฎกติกาเดียวกันทุกคนอยู่ดี

ไม่นับเรื่องอันตรายจากการใช้ยาอีก

เจอชาติ มหาอำนาจ วิจัยยา ให้นักกีฬาเอามาใช้ ใช้เสร็จนักกีฬาชนะ ชาติเล็กจะเอาไรไปสู้ เสร็จแล้วเอายามาขายชาติเล็กๆ ส่วนตัวเองถ้าพร้อมก็วิจัยยาตัวใหม่มาใช้ บอกเลยสู้ไม่ไหวหรอก ประเทศเล็กๆอ่ะ

เอาจริงๆ ผมว่า argument ของ จขกท ก็น่าสนใจนะ

ซึ่งผมก็ไม่ได้มีความรู้เบื้องลึก แต่ถ้าวิเคราะห์ส่วนตัวคงคิดตามนี้

1. ความปลอดภัย
แน่นอนว่าวิทยาศาสตร์ของโลกเราปัจจุบัน พัฒนาไปไกลแล้ว ยาที่เคยอันตรายสมัยก่อน สมัยนี้อาจจะไม่อันตรายแล้ว

แต่อะไรๆ ที่เป็นสิ่งใหม่ ย่อมมีความเสี่ยงครับ
ยาโด๊ป gen แรกๆ ป่านนี้อาจจะถูกปรับจนไม่เสี่ยงแล้ว แต่ยาโด๊ป gen ปัจจุบันที่เพิ่งออกมา 1-2 ปี ก็ยังน่าจะเสี่ยงหรืออันตรายอยู่รึปล่าว?

เหมือนวัคซีนโควิดน่ะครับ ก็ถูกผลิตด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นะ แต่มันเป็นสิ่งใหม่มากๆ ซึ่งก็มีความเสี่ยงอยู่ดี

2. ความแฟร์
ก็จริงครับ คนรวย-จน จะมียาหรือไม่มีก็ไม่แฟร์ทั้งนั้น

โอกาสปัจจุบันระหว่างคนรวยที่มียิม มีนักโภชนาการครบเทียบกับคนจนๆ เลย อาจจะ 70:30

แต่ถ้าเราใส่ factor เรื่องยาโด๊ปแบบดีๆ กับไม่มีโด๊ปอะไรเลย จะกลายเป็น 90:10 เลยรึปล่าว?

3. อิทธิพลต่อสังคมภาพกว้าง (ผมเติมเอง)
ผมว่านักกีฬาน่ะ ถือเป็น influ ชั้นเลิศ ทุกวันนี้เราซื้อรองเท้าบอล ก็ซื้อตามนักบอลกันซะเยอะ
ถ้าการโด๊ปมันเป็นปกติในวงการกีฬา สุดท้ายมันจะแพร่หลายในวงการบุคคลทั่วไป

ถึงจุดนั้น เราจะเจอยาโด๊ปเถื่อน-ปลอม รึปล่าว? นักเรียนที่สภาพร่างกายยังพัฒนามาไม่เต็มที่
ไปรับยาแบบที่นักกีฬาอายุ 35-40 ใช้ จะมีผลข้างเคียงเทียบเท่า-แตกต่างกันอย่างไร?

ปล ข้างบนนี่เป็นเหตุผลส่วนตัวของผมหมดเลย แต่เหตุผลของพวกผู้จัดอย่าง Olympic หรือ FIFA เป็นยังไง ไม่รู้จริงๆ

มันคือการพยายามทำให้เกมการแข่งขันมันแฟร์ "มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"

ไม่ใช่บอกว่าไหนๆก็เหลื่อมล้ำอยู่แล้ว ก็ปล่อยฟรีให้มันเหลื่อมล้ำมากขึ้นไปเลยสิ มือใครยาวสาวได้สาวเอา

ถ้าตัดเรื่องผลข้างเคียงหรืออันตรายทั้งหลายออกไป
ผมรู้สึกว่าคนเรายังต้องการความโรแมนติกของการแข่งขันอยู่อะครับ
ยังอยากเห็นมนุษย์ vs มนุษย์กันอยู่
ยังอยากเห็นมนุษย์ที่เก่งที่สุดในโลกด้วยความพยายามบนขีดจำกัดของมนุษย์ในเงื่อนไขของธรรมชาติอยู่
คือก็ใช่แหละมันน่าจะทำให้เกมสมบูรณ์ขึ้น แต่ก็ไม่รู้มันจะไปหยุดที่ตรงไหน ความเหลื่อมล้ำมันจะถ่างไปไกลขนาดไหน ถึงจุดนึงมันอาจจะเหมือนเอาทรานไปลงแข่งกับผู้หญิงเลยมั้ย ถ้าเป็นงั้นความสนุกในการแข่งขันมันก็คงจะน้อยลงไปมากอะครับ

ไปดูเมกาดิ โด๊ปยังไงให้ไม่โดนตรวจ ดูจากโอลิมปิกล่าสุดเลย หอบหืดเป็นร้อยๆคน

บอกร้องให้ตรวจโด๊ปจีน

เห็นด้วยเลย กีฬา คือการแข่งขันที่ต้องการให้แฟร์ที่สุด เขาถึงเรียกกีฬา

ถ้าเปิดเสรี นี้พากันตายแน่ๆเรื่องความปลอดภัย

แล้วคุณคิดว่ามันจะจบแค่ในสนามหรอ เยาวชน หรือ คนทั่วไปก็หามาใช้ตามนักกีฬาไหม

คุณก็คงอยากโด๊ปปิ้งด้วยซินะ เลยเห็นว่ามันถูกต้อง

ก่อนจะไปถึงยาโด๊ป ลองไปดูเรื่อง blood doping ของจักรยานก่อนก็ได้ครับ อันนี้คือแค่ฉีดเม็ดเลือดแดงของตัวเองที่เจาะเก็บออกมาไว้ก่อนกลับเข้าไปด้วยซ้ำ

ซึ่งมันผิดตรงที่ว่า คุณไม่ได้สู้กันบนพื้นฐานของคำว่าขีดจำกัดของร่างกาย แต่ไปสู้กันด้วยตัวยาที่มันไปบิดเบือนการทำงานของร่างกายมากกว่า (ใครโด๊ปเยอะกว่าก็ได้เปรียบกว่า) ยังไม่รวมถึง intoxication ที่อาจจะเกิดขึ้นได้นะครับ คือปัจจัยเสี่ยงมันเยอะขึ้นมาก ทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวนักกีฬาเสียชีวิตระหว่างแข่งขันบ่อยๆ ถ้าการโด๊ปมัน legalize จริงๆ % ในการเกิดเรื่องเหล่านี้มันก็อาจจะเยอะขึ้นด้วยนะครับ