HOTSTORY : รวมประเด็นสำคัญจาก 4 สื่อระดับ Tier 1s ที่รายงานเบื้องลึกเบื้องหลัง เกี่ยวกับการอำลาทีมของแดน แอชเวิร์ธ - ผมโน้ตไว้ย่อๆ แต่ละประเด็น ที่ผู้สื่อข่าวแต่ละคนรายงาน ให้อ่านเข้าใจง่ายนะครับ ซึ่ง Laurie Whitwell (Tier 1 , The Athletic) เจาะลึกที่สุด อยากให้อ่านกันจนถึงช่วงท้าย

[Paul Hirst , Tier 1 , Times และทีมงาน]

- สโมสรมองว่า แดน แอชเวิร์ธ ไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และมองว่าแดน ควรอำลาทีม

- หนึ่งในจุดขัดแย้งจากรายงานของ Hirst คือ เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ ไม่พอใจกับสิ่งที่ แดน ตอบสื่อไปในบางประเด็น ในวันที่ 1 กันยายน (สัมภาษณ์ Exclusive ที่เผยแพร่ทาง The Athletic ก่อนเกมแดงเดือดล่าสุดที่ทีมแพ้ไป 0-3)

(อธิบายเสริมจาก Laurie Whitwell : แดน รวมถึง โอมาร์ เบอร์ราด้า CEO ไปตอบผู้สื่อข่าวในวันนั้นว่า พวกเขาสนับสนุนให้เทน ฮากอยู่ต่อ นั่นสร้างความไม่พอใจให้กับ เซอร์จิมฯ ที่ไม่ได้โอเคกับเทน ฮาก ณ เวลานั้น และมองว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องพูดกับสื่อก็ได้) (จะสังเกตว่าตอนที่ เซอร์จิม ถูกผู้สื่อข่าวตะโกนถามหลังเกม เอฟเอ คัพนัดชิง เขาเดินหนีไปเลย ไม่ตอบ)

- แดน ถูกเรียกไปคุยหลังเกมเจอฟอเรสต์นัดล่าสุด และ โอมาร์ แจ้ง แดนให้ทราบ ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ต่อ

- จิมได้รับการโน้มน้าว (จากใครซักคน) ให้ไปกับอีริค เทน ฮากต่อตั้งแต่ช่วงเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่ ณ เวลานั้นแล้วที่เซอร์จิมเอง อยากให้มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีม

[Simon Stone , Tier 1 , BBC]

- Stone ระบุว่า เซอร์จิม ไม่พอใจ แดน ที่เก็บเทน ฮากไว้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา (ไม่ตัดสินใจปลดเลย เลือกต่อสัญญาเทน ฮาก และท้ายที่สุด ก็มาปลดตอนเดือนตุลาคม)
(แต่ตอนนั้นมันก็มีความงงคือ ตอนหลังเกมเอฟเอคัพที่สโมสรใช้เวลา 3 สัปดาห์ตัดสินใจ และจบที่เทน ฮากอยู่ต่อ ตอนนั้น แดน อยู่ในช่วงพักงานชั่วคราว หรือ Gardening Leave ฉะนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่า ความไม่พอใจของเซอร์จิม เกิดขึ้นตอนที่ให้แดน ประชุมงานอย่างเงียบๆ ก่อนเข้ารับงานรึเปล่า?)

- พอมาปลดกลางซีซั่น ต้องเสียเงิน 21 ล้านปอนด์ กับการจ่ายค่าชดเชยทีมของเทน ฮาก และตั้งทีมโค้ชใหม่ให้กับรูเบน อโมริม นั่นคือสิ่งที่ทำให้ เซอร์จิม อาจรู้สึกว่า ก็ควรจะแยกทางกันไปตั้งแต่ซัมเมอร์แล้ว

- ตอนให้สัมภาษณ์กับ United We Stand ไม่นานมานี้ เซอร์จิมชื่นชม อโมริม และ เบอร์ราด้า แต่ไม่ได้กล่าวถึงแดน เลย

- โอมาร์ ไม่ใช่คนแต่งตั้งแดน (ตามความเข้าใจ ตอนแรกสุด เป็นเซอร์จิม ที่ชื่นชอบแดน ส่วนนึงคือทั้งคู่เป็นคนอังกฤษด้วยกัน)

[James Ducker , Tier 1 , Telegraph]

- การตัดสินใจแยกทางกับแดนนั้น สโมสรคิดว่า ตัดจบให้เร็ว ดีกว่าปล่อยให้ยืดเยื้อและมันจะเสียหายกว่า

- ความเข้าขารู้ใจก็สำคัญ เจสัน วิลค็อกซ์ ผอ.เทคนิค และ โอมาร์ CEO เคยทำงานด้วยกันมาก่อนที่แมนฯ ซิตี้ และการทำงานของทั้งคู่ทำให้จิม ประทับใจ แต่ งานของแดนนั้น ไม่ใช่ ทำให้ จิมเริ่มตั้งคำถามว่าแดนเหมาะสมไหม?

- ขณะเดียวกัน แดน ก็รู้สึกว่า ขอบข่ายงานที่เขาทำบางส่วน มีคนอื่นเข้ามาพยายามจะแทรกแซงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ขณะตอนอยู่ที่อื่น เช่นตอนทำงานที่ไบรท์ตัน (วางรากฐานให้แกรห์ม พ็อตเตอร์) หรือทำงานที่เอฟเอ (วางรากฐานให้เยาวชนฟุตบอลอังกฤษ) ตอนนั้นเขามีอำนาจเต็มร้อย
นั่นหมายความว่า ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เขาไม่ได้มีอำนาจสิทธิ์ขาดเท่ากับที่เขาคิดไว้ทีแรก

- เช่น การดีลกับอโมริม ก็เป็น เบอร์ราด้า ที่เดินเรื่องทั้งหมด รวมถึงก็เป็นเบอร์ราด้านี่แหละ ที่เดินทางไปลิสบอนเพื่อติดต่อ อโมริม ทั้งที่จริงๆ งานแบบนี้ ควรจะเป็นหน้าที่ของ แดน ในฐานะผอ. กีฬามากกว่า

- แดน มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับเทน ฮาก ถ้าเทียบกันกับ โอมาร์ และ เจสัน (วิลค็อกซ์) โดยที่โอมาร์-เจสัน มองถึงการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมาซักพักแล้ว
ทว่า ตอนที่มีการตัดสินใจสั่งปลด เทน ฮาก แดน ก็เป็นอีกคนที่ออกเสียงให้ปลด ส่วนตอนที่ต่อสัญญาไปหลังจากคว้าแชมป์เอฟเอช่วงกลางปี แดน ยังไม่เข้ามาทำงาน
(ฉะนั้นมีข้อมูลแค่ว่า แดน ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แย่กับ เทน ฮาก แต่ไม่มีรายงานไหนยืนยันว่า แดน ไม่สนับสนุนการปลด เทน ฮาก / เพราะตอนที่โหวตให้ปลด แดน ก็เห็นด้วย)

- อีกหนึ่งประเด็นคือ เซอร์จิม รู้สึกว่าระบบการเก็บ Data และระบบสรรหา (Recruitment) ของทีมมีปัญหา ซึ่งการเดินตลาดซัมเมอร์นั้น แดน มีส่วนสำคัญ (แต่แดน ก็มาร่วมงาน 1 กรกฎาคม ไม่ได้ประชุมตั้งแต่ต้นตลาด)
(ฉะนั้นก็อาจอนุมานได้อีกนั่นแหละว่า ก่อน 1 กรกฎาคม แดน อาจจะทำงานแบบไม่ออกตัวอยู่แล้วก็เป็นได้ ย้ำว่าแค่สันนิษฐานนะครับ)

- Ducker ทิ้งท้ายว่า การจากลาของทั้งสองฝั่ง เป็นไปอย่างมีอาชีพ ไม่ได้มีการทะเลาะกัน และการแยกย้ายก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

[Laurie Whitwell , Tier 1 , The Athletic]

- ตอนที่มีการประชุมกันเพื่อหาตัวแทน เทน ฮาก ฝั่งแดนได้รับมอบหมายจากเซอร์จิมในการลิสต์ชื่อตัวแทน

ชื่อที่แดนหามาคือ เอ็ดดี้ ฮาว (นิวคาสเซิ่ล) , มาร์โก ซิลวา (ฟูแล่ม) , โธมัส แฟรงค์ (เบรนท์ฟอร์ด) และ แกรห์ม พ็อตเตอร์ (ว่างงาน)
*** ไม่มีชื่อของแกเร็ธ เซาธ์เกตนะครับ

แต่เซอร์จิมไม่ถูกใจ เขาต้องการคนที่มีคาแรกเตอร์ผู้นำ (อธิบายง่ายๆ คือมีออร่า) ที่ดู 'เอาอยู่' กับการคุมสโมสรที่ชื่อเสียงใหญ่โตอย่าง แมนฯยูไนเต็ด

- Laurie ยืนยันตาม Ducker ว่า แดน แทบจะไม่มีส่วนเลยในการตัดสินใจตั้งอโมริม

- เซอร์จิม มองว่า แดน ควรมีความมั่นใจมากกว่านี้ในการมองหาโค้ชใหม่ และควรมองหาคนอื่นนอกจากคนสายอังกฤษ (หรือแค่ในพรีเมียร์ลีก)ที่เขารู้จักอยู่แล้ว

- ตอนที่กำลังหาคนแทน เทน ฮาก แดน เสนอให้เอาบริษัท Data จากข้างนอก (Outsource) มาช่วย แต่จิมไม่พอใจ เขาบอกว่า แดนควรจะรู้เรื่องนี้มากกว่าคนนอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะไปจ้างคนนอกทำไม
แต่ หลังจากนั้น ก็นำไปสู่การที่จิมให้สัมภาษณ์ว่า Data ของทีมมีปัญหา

- เวลาเดินไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีความขัดแย้งมากขึ้น กระทั่งคนในแคร์ริงตันก็เริ่มคุยกัน หลังจากแดน ขอลาพัก ซึ่งลาพักเนี่ยไม่ได้ผิด แต่เขาขอลา ในช่วงที่ อโมริม มาทำงานแค่ 2 วัน
และแดนไม่ได้มาประชุมใหญ่คณะกรรมการบริหารเมื่อเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา

- Laurie ระบุว่า หน้าที่ของแดน หลักๆ ในช่วงซัมเมอร์คือ 'ดูแลการซื้อขายนักเตะ'แต่ทุกคนก็รู้ว่า จุดเด่นของแดนนั้น อยู่ที่การหาคน-วางคน-วางโครงสร้างองค์กร ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการเสาะหานักเตะ

- หนึ่งในคำพูดของ Laurie "แดนคิดว่าตัวเขาน่าจะต้องเป็นศูนย์กลางในการประกอบแต่ละล้อของรถให้เข้ากัน แต่เจ้าของรถคือจิม และเขาต้องการอะไรมากกว่านี้จากตำแหน่งผอ.กีฬา"
"ในวัย 73 ปี จิมแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนเร่งรับ และจะรีบตัดสินใจทันทีที่เห็นว่าอะไรไม่เวิร์ค"

- ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะมาทำแทน แต่ปัญหาคือเอเยนต์นักเตะไม่รู้ว่าจะติดต่อใครดีกับการพูดคุยเรื่องย้ายทีม
เหมือนกับแมนฯ ยูไนเต็ด มีทีมงานหลังบ้านเก่งๆ มากเกินไป (Simon Stone , BBC อ้างอิงจากวงในสโมสรคนหนึ่งที่บ่นว่า แมนฯ ยูไนเต็ดมีพ่อครัวหลายคนเกิน)
-------------

ส่วนใครจะทำต่อ...

- เบื้องต้น เจสัน วิลค็อกซ์ น่าจะขึ้นมาดูแลส่วนงานที่แดน เคยรับผิดชอบ และตำแหน่งนี้อาจเป็นของ วิลค็อกซ์ ไปเลยก็ได้ เพราะเจ้าตัวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ อโมริม
- หรืออาจจะเป็น คริสโตเฟอร์ วิเวลล์ ผอ.แมวมอง
- หรือ แซม อีริธ ผอ. ด้านศักยภาพนักเตะที่มาดำรงตำแหน่งชั่วคราวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
- หรือ เจมส์ มอร์ตัน ศาสตราจารย์ที่จัดการเรื่องโปรแกรม INEOS X ที่เชื่อมต่อด้านกีฬาทั้งหมดของ INEOS เข้าด้วยกัน
- หรือจะเป็น แม็ตต์ ฮาร์กรีฟส์ ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายเจรจา

ทั้งหมดคือชื่อที่ Laurie ยกขึ้นมา ซึ่งยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ
-----------

- ด้าน Gianluca Di Marzio (Tier 2 , Sky Italia) ระบุ อันเดรีย แบร์ต้า ผอ. กีฬาแอตฯ มาดริด เป็นหนึ่งในคนที่แมนฯ ยูไนเต็ดสนใจ เขาจะออกจาก 'ตราหมี' หลังจบฤดูกาลนี้ หลังอยู่ช่วยทีมจากสเปนมา 11 ปี

ดูบอลกับแนท

ผมเชื่อของ dunker นะ

คือ แดนไม่ใช่คนของทีมเบอราด้า บทบาทไม่ชัดตั้งแต่
ซัมเมอร์แล้ว จอนแรกคนคิดว่ามาทำงานช้า แต่จริงๆ ป่าว กึ่งๆ โดนกันให้เป็นวงนอก คนที่อยากได้คือ จิม

ทีนี้ พอปลด ETH ยิ่งชัด ว่าไม่มีที่ยืน เพราะ โดนล้วงลูก
จสกเบอราด้า มีที่ไหน CEO เป็นคนติดต่อ ว่าที่ head coach คนใหม่ นั่นมันงานของ DoF ถ้าจะแบบนี้จะมี DoF ทำมะเขืออะไร

แล้วอีดอย่าง จำเคส อัมราบัต ได้ไหม มีนักข่าวไปถามทำไม คุณไม่ได้อยู่ยูไนเต็ดต่อ บังบัต แกตอบ ให้ไปถาม มิสเตอร์วิลค๊อก ...คือ ผอ.เทคนิค เป็นคนกำหนด มันก็แปลกๆ ละ

จะเห็นว่า แดน ไม่ได้ทำงานที่ตัวเองควรทำ เพราะงั้นไอ้ที่บอกจากด้วยดีอะ มโน ไม่มีหรอก หน้าชื่นอกตรมล้วน

อ่านแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เหมือนตอนปลดก็สนับสนุนให้ปลด แต่ก่อนหน้านี้ตอนต่อสัญญาฮาก แดนลาพักร้อน งี้มันไม่เกี่ยวกับเทนฮากละนิ แต่เกี่ยวกับการทำงานต่างๆ? หรือเหม็นขี้หน้าส่วนตัว? แต่ถ้าเหม็นแล้วไปเอาเค้ามาทำไมละนิ

ผมเชื่อของ dunker นะ

คือ แดนไม่ใช่คนของทีมเบอราด้า บทบาทไม่ชัดตั้งแต่
ซัมเมอร์แล้ว จอนแรกคนคิดว่ามาทำงานช้า แต่จริงๆ ป่าว กึ่งๆ โดนกันให้เป็นวงนอก คนที่อยากได้คือ จิม

ทีนี้ พอปลด ETH ยิ่งชัด ว่าไม่มีที่ยืน เพราะ โดนล้วงลูก
จสกเบอราด้า มีที่ไหน CEO เป็นคนติดต่อ ว่าที่ head coach คนใหม่ นั่นมันงานของ DoF ถ้าจะแบบนี้จะมี DoF ทำมะเขืออะไร

แล้วอีดอย่าง จำเคส อัมราบัต ได้ไหม มีนักข่าวไปถามทำไม คุณไม่ได้อยู่ยูไนเต็ดต่อ บังบัต แกตอบ ให้ไปถาม มิสเตอร์วิลค๊อก ...คือ ผอ.เทคนิค เป็นคนกำหนด มันก็แปลกๆ ละ

จะเห็นว่า แดน ไม่ได้ทำงานที่ตัวเองควรทำ เพราะงั้นไอ้ที่บอกจากด้วยดีอะ มโน ไม่มีหรอก หน้าชื่นอกตรมล้วน

มันก็เเค่การวิเคราะประเด็นนี้ของเเต่ละสื่อ ซึ่งไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังจริงๆ

ไม่ถูกใจจิมแค่นั้นแหละ หวังไว้เยอะ พอทำงานไปแล้วไม่ใช่ก็ปลด

เบราด้า นี่เป็น CEO ที่มามีส่วนในด้านฟุตบอลด้วย ของ เชลซี CEO นี่ไปดูเรื่องการเงิน การตลาด สปอนเซอร์ เป็นหลักเลย ไม่รู้ทีมอื่นแบ่งหน้าที่ยังไง

ไม่ใช่ก็แยกย้าย จะได้ทำงานกันต่อ ปัญหาเยอะแยะ
แต่แปลกใจคือ องค์กรระดับนี้ หน้าที่ยังไม่เคลียกันให้ชัดเลย
ส่วนตัวผมว่า แดนกับเบอราด้า ทำงานเข้ากันไม่ได้อะ
เพราะเบอราด้า สนิทกับวิลค็อกมากกว่า

- ถ้าเบอรราด้าลงมาทำเองขนาดนั้นก้อควบตำแหน่ง DoFไปเลยจบๆ
- ถ้าจิมไม่พอใจแดนเรื่องเทนฮาคซึ่งตอนนั้นแดนทำสวนอยู่ก้อไม่ควรจะยื้อตั้งแดนมาควรจะไปตั้งคนอื่นแต่แรกสิ ต่อให้ติดต่อไว้แล้สแต่เชื่อว่ายังไม่เซนสญ.กันแน่ๆต้องให้แอบเซนแดนก้อน้ำท่วมปากอยู่ดี ถ้าตามข่าวจริงนี่จิมอารมณ์เจ้านายที่มีธงในใจแล้วเปนหน้าที่ลูกน้องต้องเดาใจหัวหน้าละเสนอมาให้ถูกใจซะด้วย

แพะล้วนๆครับ แดน ไอที่เรื่อง เทน ฮาก นี่มันไม่ได้เมคเซนส์เลย คนโดนพักงานอยู่ยังไม่ได้เข้ามาทำเต็มตัว ไม่มีทางมีอำนาจกว่าเจ้าของ หรือ คนที่อยู่มาก่อนแน่ๆ

ระดับ เซอร์ จิม ที่ตอนปลด แดน อย่างเฮี้ยบไม่น่าฟังแค่ความเห็น และ เออออตามลูกน้องไปหมดแน่ๆถ้าไม่มีธงในใจไว้ก่อน อันนี้เหมือนพอเสียเงินชดเชยเยอะแล้วพาลไปหน่อย

บางทีการแยกทางอาจดีสุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่ายแล้วครับ แต่รู้สึกแหม่งๆว่า แดน จะไม่ใช่คนแรกที่โดนแบบนี้

- ต่อสัญญา เทน ฮาก ทั้งที่ผลงานโดยรวมก็ชี้ชัดให้เห็นอยู่แล้ว สุดท้ายพลาดก็ต้องเด้งอยู่ดี เสียเงินชดเชยเยอะ

- แดน เข้าเริ่มเงินเดือน ก.ค. ยังไม่ทันทำงาน วางรากฐานเลย รู้สึกว่าไม่ใช่ซะแล้วก็เด้งทันที แต่ตอนจะจีบเขานี่ลับหลัง นิวคาสเซิล จนยื้อกันไป-มาเรื่องค่าชดเชย สุดท้ายตอนนี้เบื่อดื้อๆ แดน ก็สังเวยไปหมาหัวเน่าไปคนเดียว (แต่ทำไมไม่คิดให้ดีแต่แรกตอนจะเอาเขามา ดูหุนหันพลันแล่นไป)

มันบ่งบอกวิสัยทัศน์เจ้าของได้เหมือนกัน

ผมว่าเรื่องเทนฮาร์กกับโค้ชใหม่นั่นแหละ คือ จิมมีอำนาจเด็ดขาดจริง แต่ตอนแรกคงคิดว่าไหนๆก็ตั้งแดนมาแล้วลองเชื่อแดนสักครั้ง(เรื่องให้เทนฮาร์กอยู่ต่อ) มันมีข่าวมาตั้งแต่ก่อนต่อสัญญาเทนฮาร์กแล้วว่าเซอร์จิมอยากปลดแต่ทีมบริหารคนอื่นอยากให้อยู่ต่อ (ซึ่งคิดว่าแดนคงเป็น 1 ในนั้น) ทีนี้พอไอลองเชื่อสักครั้งมันดันพลาดทีนี้แกเลยไม่เชื่ออะไรแดนอีกเลย จนนำมาสู่การข้ามหัวให้ ceo ไปดีลอโมริมเอง และบีบให้แดนออก

นับวันแพชชั่นในการดูบอลยิ่งลดลงขึ้นทุกวัน ยิ่งดูยิ่งหดหู่ยังไม่เห็นทางที่มันจะกลับมาได้เลย


ลำพังแค่สภาพนักเตะก็มีปัญหาจะตายแล้ว นี่ตรงหัวก็ยังมีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ยุคมอยส์ มู โอเล่ยังไม่น่าเบื่อเท่านี้เลย

อ่านจบสรุปได้ว่า

-โอมาร์ไม่อยากได้แดน แต่จิมอยากได้
-สุดท้ายกลายเป็นการเมืองภายในระหว่างคนมีตำแหน่งกับเด็กนายที่ต้องเสือกทำงานร่วมกัน
-สุดท้ายแอชเวิร์ดที่เป็นเด็กนายทนไม่ไหวต้องลาออกเพราะโดนข้ามหัวโดยการแต่งตั้งอโมริม
-แต่แอชเวิร์ดก็มีความผิดพลาดที่ให้ฮากอยู่ต่อจนเกิดความเสียหายทั้งในสนามและนอกสนาม
-สรุปปัญหาเกิดจากจิมนั่นแหละที่ดันไปล้วงลูกโอมาร์ก่อนโดยการแต่งตั้งแอชเวิร์ดทำให้มันเกิดการเมืองภายใน แม้จิมจะรู้ตัวภายหลังก็ตาม

มันก็น่าเหลือเชื่ออยู่นะองค์กรระดับนี้

CEO กับ DoF แบ่งงานกันไม่เคลียร์เนี่ย

มันต้องมีคนรับผิดชอบกับผลงานเทนฮากไง เสียค่าโง่ 20 ล้านปอนด์

หวยเลยมาตกที่แดนละมั้ง

พูดเต็มๆไม่ได้ ไม่งั้นอาจจะเข้าข่ายทำงานตอนที่อยู่ในช่วง gardening leave อาจจะโดนฟ้องเรื่องสัญญารึเปล่า เพราะตอนนั้นก็ยังถือเป็นพนักงานของบ.อื่นอยู่

คือจริงๆคงทำงาน ประชุมแบบเหมือนมีตำแหน่งแล้วแค่ตัวยังไม่ได้เข้าบ. แต่มันเปิดเผยไม่ได้สื่อเลยต้องลงแบบอ้อมๆ