ตามหัวมู้เลยครับ ตอนนี้ผมย้ายงานมาที่ใหม่ ย้ายปุ้ปได้เป็นพี่เลี้ยงนศ.ฝึกงานเลย ตอนนี้ต้องเป็นพี่เลี้ยงอยู่ 2 คน

คนนึงนี่คุยง่าย ฝึกงานมาเดือนนึงแล้วไม่เคยลาซักครั้ง เคยลาแค่ช่วงเช้าเพราะภูมิแพ้ขึ้น แต่ช่วงบ่ายก็มาทำงานต่อ

แต่กับอีกคนนี่แหละที่เป็นประเด็นของหัวมู้ น้องคนนี้มาฝึกก่อนเพื่อนอีก 2 คน มาก่อนอาทิตย์นึง บอกนิสัยคร่าวๆ ก่อนนะครับ

จากที่อยู่มาเดือนนิดๆ น้องเป็นคนเก่งระดับนึง ครีเอทีฟดี แต่ปัญหาคือเป็นคนค่อนข้างแรง (แต่คงเพราะอยู่กับพวกผมแล้วคงไม่ได้ออกฤทธิ์อะไรเท่าไหร่) เวลาไม่พอใจอะไรไม่เก็บสีหน้าเลย หน้าออกชัดมาก อีโก้ความมั่นใจค่อนข้างสูง

ทีนี้เนี่ย อยู่มาเดือนนิดๆ แต่น้องลางานไปแล้ว 2 ครั้ง ถ้ารวมวันที่ลา 2 ครั้งก็คืออาทิตย์นึงแล้ว และเหตุผลที่ลาคือลาไปหาแฟน ลาไปเที่ยวกับแฟนทั้ง 2 ครั้งเลย คือเข้าใจนะว่าคิดถึงแฟน อยากเจอแฟนอะไรแบบนี้ คือถ้าลาด้วยเหตุผลจำเป็นก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่คือลาไปหาแฟน ลารอบล่าสุดก็คือช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา วันจันทร์ที่ 2 มาทำงานปกติ แล้ว 3-6 คือลา (ควบวันพ่อไปเลย)

ตอนแรกผมก็นึกว่าผมคิดไปเองเรื่องน้องลา แต่วันก่อนก็มีน้องที่ออฟฟิศอีกคนพูดเหมือนกันว่าน้องลาบ่อยไปแล้ว อยู่มาเดือนนึงคือลาไป 2 ครั้งแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้อยู่จะโดนผู้ใหญ่เขาเพ่งเล็งเอา จะไม่ผ่านฝึกงานเอา

กำลังคิดอยู่จะคุยกับน้องจะเตือนน้องยังไงดี เตือนไปตรงๆเลยดีมั้ยหรืออ้อมๆเบาๆหน่อย

ขอบคุณครับ

รุ่นนี้คุยตรงๆ อธิบายด้วยเหตุผล

แต่ว่าหาจังหวะเข้าเรื่องดีๆเหมาะๆหน่อย

บอกไปตามตรงแหละครับ บอกว่ารอให้ผ่านโปรก่อนค่อยลาถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ

ึน้องฝึกงานมีวันลาเท่าไหร แล้วเกณประเมินมีอะไรบ้าง
เวลาคุยก็บอกไปตรง ๆ ครับว่าอะไรเหลือเท่าไหร แล้วถ้าเกินจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

บอกน้องด้วยเหตุผลเลยครับ ว่าทำไมลาบ่อยมันไม่ดีแล้วมันจะเกิดผลอะไรตามมา ถ้าน้องเถียงก็ปล่อยไปครับ ถือว่าเราเตือนแล้ว

อันนี้คิดเป็นรายวันป่ะฮะของที่เก่าผมน้องนักศึกษาฝึกงานมาก็ได้ตัง


ไม่มาก็ไม่ได้ตังตามสบายเลยน้อง

เคยมีน้องฝึกงานเหมือนกันลาบ่อย แต่ผมไม่แคร์ ถ้าได้ตามที่เราแพลนงานไว้ก็จัดเลย แต่จะบอกกับเขาว่า ถ้า HR ไม่ว่าพี่ก็โอ เพราะ น้องทำตามงานที่มอบหมายแล้ว แต่ก็เสริมว่าถ้าไม่ลาบ่อยจะดีกว่า เพราะ ต่อไปทำงานจริง Attendance มันมีผลต่อเงินเดือน ก็ฝึกๆกันไป

ที่นี่ไม่ได้ให้เงินครับ ไม่ได้มีเบี้ยเลี้ยงอะไร

ผมรู้เรื่องนี้ผมก็เลยเวลาที่ไปกินข้าวเที่ยงอะไร ผมก็จะเลี้ยงข้าวน้องๆครับ

ถ้าผิดกฏก็ควรจัดการตามกฏ ถ้าไม่ผิดกฏก็ไม่ควรต้องทำอะไร อย่าใช้หลักความเหมาะสมครับ มันต้องอยู่ในกฏเท่านั้น

ทำงานกับแบบมืออาชีพ รับผิดชอบหน้าที่ของใครของมัน ถ้าทำไม่ได้ก็ประเมินผลงานไปตามหน้าที่พี่เลี้ยงอย่างเราเช่นกัน อย่าไปใช้ความรู้สึกว่าแบบนี้มากไปแบบนั้นน้อยไป ถ้าตอนนี้ถึงขั้นตอนที่ต้องเรียกมาตักเตือนก็ทำตามขั้นตอนทำตามระเบียบแทบไม่ต้องอธิบายซับซ้อนอะไรเลย

ประเด็นคือน้องฝึกงานเซ็ตนี้ นอกจากจะช่วยงานโปรเจคต์หลักของออฟฟิศ ก็มีโปรเจกต์รองที่ต้องทำงานด้วยกันนี่แหละครับ พอน้องคนนี้ลา งานก็จะไปหนักที่เพื่อนที่ 2 คน

ก็เตือนไปตรงๆได้เลยฮะ ว่าผู้ใหญ่เค้ามองไม่ดี อยากให้ปรับปรุงตัวหน่อย แต่ส่วนตัวผมที่อยู่ในระดับหัวหน้าทีมแล้ว ผมไม่สนใจว่าลูกน้องจะลาไปกี่วัน ขอแค่ไม่เกินจำนวนที่บริษัทกำหนดตามกฏหมาย(เกินเล็กๆน้อยๆผมหยวนด้วยถ้าทำงานดี) และผมไม่เอามาประเมินผลด้วย ถ้างานที่มอบหมายเค้าทำได้ดีและเสร็จตามกำหนดเวลาโดยไม่เดือดร้อนคนอื่น

มีน้องในทีมผมคนนึงผมประเมินให้ A ทุกปี เพราะทำงานดีมาก แต่ลาหยุดและมาสายวันละ 30 นาทีอย่างบ่อย ฝ่าย hr ยังถามผมเลยว่าทำไมให้ a ผมบอกน้องทำงานดี ซึ่งฝ่าย hr ก็เข้าใจนะ แต่มันโดนหักเงินเดือนนะ เพราะสแกนนิ้วสาย ซึ่งเรื่องนี้ผมช่วยมันไม่ได้ เป็นสิทธิ์ของฝ่าย hr และส่วนใหญ่ผมก็โดนหักด้วย เพราะผมก็สายบ่อย โดนกันทั้งหัวหน้าทั้งลูกน้อง แต่ประเมินประจำปีผมไม่เอาเรื่องนี้มาคิด 555

บริษัทไม่มีโควต้าวันลาเหรอครับ

ถ้าน้องมันยอมให้หักเงินหักเงิน ถาม HR ได้ว่าต้องทำงานครบกี่วัน

อย่าคิดว่ารุ่นนี้คุยตรงๆได้ 100% นะครับ เด็กส่วนมากเค้าคิดว่านี่คือสิทธิของเค้า

ถ้าตามกฎหมายอะไรงี้ก็ตามนี้

https://www.sanook.com/money/922095/

ก็คือต้องไปไล่ดูในสัญญาว่าตกลงกับน้องไว้ได้เท่าไหร่ ถ้าไม่ระบุจริงๆก็ถือว่าเป็นตามดุลยพินิจ ซึ่งถ้าย้อนไปสมัยผมฝึกงาน ก็ไม่เกิน 3 วันอยู่แล้วต่อเดือน (ซึ่งส่วนมากก็ไม่ลากันหรอก เบี้ยเลี้ยงแม่มวันละ 500 จำได้ว่าตอนนั้นลาวันสุดท้ายที่เขาไปทริปเช้าเย็นกลับ คือเหนื่อย ขี้เกียจไปต่างจังหวัด )

กับเด็กรุ่นนี้พูดตรงๆครับง่ายกว่า อย่าอ้อมค้อม บอกเลยว่าบริษัทให้ลาได้เท่านี้ๆ ถ้าลาเกินมีผลยังไง
ไม่ต้องใส่อารมณ์ พูดเหมือนหุ่นยนต์ แจ้งให้ทราบเฉยๆ ไม่ทราบก็เรื่องของเด็กมัน
ถ้ายังจะดื้อเงียบลาเพิ่มอีกก็อนุมัติเป็นไม่ผ่านไปเลย แล้วก็แจ้งให้น้องไปฝึกงานที่อื่นเอา เพราะไหนๆก็ไม่ได้มีภาระผูกพันธ์เรื่องจ่ายเงินเดือน เซ็นใบเดียวก็ให้เด็กมันไปหาที่ใหม่ได้เลย

กับรุ่นนี้ไม่ต้องไปพิธีเยอะครับ ตรงไปตรงมาง่ายๆ ไม้อ่อนเกินไปเหนื่อยเปล่าๆ

แจ้งหัวหน้าแผนกก่อนขอเรียกน้องคุยเอาหัวหน้าเข้ามาด้วย พูดตรงๆอะไรที่เราไม่โอเคและเราอยากได้จากน้องการลางานมันอยู่ในคะแนนประเมินด้วยมั้ยถ้าอยู่ก็บอกว่าต้องยอมรับผล เราจะประเมินตามจริง เก็บหลักฐานการลาการทำงานไว้กรณีประเมินแล้วไม่ผ่านจะได้ไม่โดนหาว่ารังแกน้อง

เคยเจอน้องฝึกงานของเพื่อนค่อนข้างมีปัญหาจนเพื่อนผมแม่งเครียดจัดจนทำงานไม่ได้คือน้องโลกส่วนตัวสูงและอารมณ์อ่อนไหวพอโดนดุหรือโดนใช้งานเยอะหน่อยจะร้องไห้หรือเครียดจนไม่มาทำงาน บางครั้งโทรฟ้องอาจารย์เสริมแต่งเรื่องเวอร์เกินจริงจนอาจารย์ต้องมาคุยที่บริษัทสรุปต้องส่งตัวกลับมหาลัยไปให้ไปหาที่ฝึกงานไว้จบช้าไปอีกปี

สอบถามจาก HR ถึงสิทธิวันลาช่วงฝึกงานให้ชัดเจน

จากนั้น แนะนำให้พูดคุยกับน้องฝึกงานว่าระเบียบบริษัทเป็นอย่างไร

ไม่สามารถห้ามการลาได้ แต่ให้คำแนะนำกับน้องได้ เพื่อให้น้องฝึกงานจะตัดสินใจว่าควรปฏิบัติอย่างไร

กรณีที่ท่านไม่อยากประเมินผลการฝึกงาน สามารถให้ข้อมูลกับผู้ใหญ่เพื่อตัดสินใจครับ