สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (DFB) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า มานูเอล นอยเออร์ กัปตันทีมบาเยิร์น มิวนิค จะถูกแบนเป็นเวลา 2 เกมในโปรแกรมบอลถ้วยจากใบแดงในเกมที่พบกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ผู้รักษาประตูวัย 38 ปีได้รับใบแดงใบแรกในอาชีพค้าแข้งกว่าเกือบ 2 ทศวรรษของเขา หลังจากออกมาตัดบอลพลาดก่อนจะทำฟาล์วใส่ เจเรมี่ ฟริมปง

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอยเออร์ ถูกไล่ออกจากสนามโดยผู้ตัดสิน ฮาร์ม ออสเมอร์ส ในนาทีที่ 17 ของเกมที่ บาเยิร์น พ่ายให้กับ เลเวอร์คูเซ่น 1-0

"นักเตะจะถูกแบนจากเกมบอลถ้วยเกมอื่นๆ ของสโมสรด้วย จนกว่าโทษแบนจะหมดอายุ" DFB ระบุในแถลงการณ์

“ตามกฎของ DFB การป้องกันโอกาสทำประตูที่ชัดเจนจากการฟาวล์ที่ไม่ร้ายแรงโดยไม่สามารถทำประตูได้ในจังหวะต่อเนื่องกันนั้นจะต้องถูกแบนสองนัด”

การแบนนี้มีผลเฉพาะกับการแข่งขันบอลถ้วยในประเทศเท่านั้น และเนื่องจาก บาเยิร์น ตกรอบจากศึก เดเอฟเบ โพคาล แล้ว ส่งผลให้โทษแบนจะมีผลต่อไปยังฤดูกาลหน้า

แต่ด้วยสัญญาของ นอยเออร์ กับ บาเยิร์น ที่กำลังจะสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และหากเขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เลิกเล่น หรือออกจากวงการฟุตบอลเยอรมัน เขาอาจไม่ต้องรับโทษแบนในครั้งนี้

สุดท้ายก็ไม่ต้องชดใช้ใบแดง เพราะปีหน้าคงไม่เล่นฟุตบอลในเยอรมันแล้ว

โหดไปนะผมว่า

โปรเฟสชั่นน่อลฟาล์ว ความรุนแรงจริงๆมันก็แค่ใบเหลือง

ชดใช้ในเกมไปแล้ว แบนต่ออีกนัดนึง นี่ก็สมน้ำสมเนื้อแล้ว

เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่ามันมีบางประเทศ แบน 2 นัด

ผมว่าคีย์มันตามนั้นเลย "โอกาสทำประตูที่ชัดเจนจากการฟาวล์ที่ไม่ร้ายแรงโดยไม่สามารถทำประตูได้ในจังหวะต่อเนื่อง"

คือเค้าน่าจะมองว่ามันเป็นการฟาล์วหวังผล หรือมีผลกับการแข่งขันมาก

เช่น ท้ายเกมส์ อาจจะนำ 1-0 มีตัวหลุดเดี่ยวไปนอกเขตโทษ แบบนี้ฟาล์วคุ้มโคตรๆ คือถ้าหลุดเดี่ยวก็จะเสมอ หรือถ้าฟาล์วในเขตแล้วโดนจุดโทษตีเสมอก็ดูว่าถูกลงโทษยุติธรรมดี
ทีนี้เค้าจะกันพวกเห็นหลุดไปจะยิง ฟาล์วเลย ท้ายเกมแล้วเหลือ 10 คนไม่มีผล คุ้มแน่นอน ฟาล์วปุ๊บถึงจะไล่ออกแต่ทีมก็เหมือนไม่เสียเปรียบอะไรเลย ประตูก็ไม่โดน โดนโหมบุกก็ไม่โดนเพราะอีกไม่กี่นาทีก็หมดเวลาละ ไม่ทันใช้ความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นอีก