แล้วชอบไรครับ

คนพวกนี้แค่เลิกงมงายในไสยศาสตร์แล้วมางมงายในศาสนาแทน

ผมว่ามันก็ความน่าจะเป็นแหละ

คือคนคนนึงอาจจะสะสมความสงสัยในศาสนา สงสัยในเรื่องต่างๆที่ขัดแย้งกับหลักธรรม หรือ หลักวิทยาศาสตร์

แค่เป็นจังหวะที่มีการยืนยัน หรือรู้สึกว่าสิ่งที่เชื่อมาตลอด ถูกยืนยันด้วยสังคมส่วนหนึ่งเลยทำให้บางคนอาจจะบอกว่า ฟังคนตื่นธรรมแล้วเลิกงมงาย บลาๆ

หรือที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้สนใจฟังอะไรเลย แค่ช่วงนี้กระแสมันเป็นเทรนด์ แล้วโดนอัลกอริทึมยิงเข้าไปพอฟังเริ่มฟังไปทีละ คลิปสองคลิป ทีนี้มันอัดมาให้ฟังทุกวันก็อาจจะเกิดความสนใจ แล้วก็เป็นประเด็นให้คิดตาม จนเลิกงมงาย ก็เป็นได้

มันคือแค่ส่วนหนึ่งของความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น

อย่างผมเนี่ย กรณีคนตื่นธรรมทำให้เห็นว่า ศาสนาเนี่ยเป็นพุทธพาณิชย์ไปซะเยอะ แล้วปัจจุบันนี่คนที่อ้างเป็นพุทธศาสนิกชนหรือพระก็ดี ไม่มีความเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้ากันเลยหรอ พระแต่ละคนบางคนนี่ต่างกับพวกเราๆแค่ใส่จีวรกับเสื้อคนทั่วไปแค่นั้น ไม่ได้มีความศรัทธายึดหลักคำสอนในศาสนาของ "ศาสดา" หรือ "พระพุทธเจ้า" เลย

มันอารมณ์เหมือนเรื่องเบื้องบนอ่ะมีคนเปิดก็มีคนตามเพราะคนคิดกันได้อยู่แล้วแต่ไม่กล้าพูดเยอะเพราะไม่อยากแปลกแยก นี้รอเรื่องอีกศาสนานึงอยู่จะมีใครกล้าเปิดไหม5555

อาจจะเพราะคำพูดแกมันฟังดูย่อยง่ายเข้าใจง่ายมั้งคนเลยชอบ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าที่แกพูดโคตรเฉยๆไม่ได้hypeขนาดนั้น ผมคิดได้เองหมดที่แกพูดมา

คิดได้ แต่ไม่เคยมีใครกล้าชนตรงๆ ออกสื่อไง

ต่อให้รู้หมดว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ไม่เคยมีใครกล้าชนในวงกว้าง เพราะประเทศนี้ถูกครอบงำด้วยความเชื่อความงมงายมายาวนาน

ถ้าไม่ชัดอย่างอ.เบียร์ผมบอกได้เลยว่าตาย เพราะอ.เบียร์แกพูดอะไร แกเอาคำสอนพระพุทธเจ้ายันหลังตลอด

หลายอย่างต่อให้รู้ว่าไม่จริง แต่จะพูดลอยๆก็ไม่มีใครฟัง

ยังไงนะ พูดเหมือนหมอดูคนนั้นเลย 5555+

ตอนนั้นอ.เบียร์ตอบว่า
งมงายคือ ไม่มีเหตุผล แล้วถ้าวิชาที่มีเหตุผลมันงมงายตรงไหน

เช่น กินข้าวแล้วอิม กินข้าวเป็นเหตุให้อิ่ม ไม่จองเวร เป็นเหตุให้ไม่สร้างกรรมชั่ว ตามหลักเหตุและผล ปฏิจจสมุปบาท
แบบนี้ มันงมงายตรงไหนอะ

ถ้าเหตุและผลเป็นการงมงาย วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คงงมงายกันหมด ตลกละ 5555

ถ้าจะพูดถึงเหตุผลมันก็มีหมดแหละครับถ้าจะหาเหตุผลมาสนับสนุน

สำหรับคนที่ไม่นับถือศาสนาแบบผมศาสนาก็คือประวัติศาสตร์ที่เรียนรู้ได้แต่ต้องไม่ปักใจเชื่อ ศาสนาพุทธ พุทธเจ้า พระไตรปิฎกคำสอนต่าง ๆ ล้วนแล้วต้องตั้งคำถามทั้งนั้น

ปกติไม่งมงายอยู่แล้ว ยิ่งได้ฟังยิ่งสบายใจ ถึงความเป็นเหตุเป็นผล เหมาะกับทุกคนไม่ว่าศาสนาใดๆ หรือไม่มีศาสนา
ไม่ต้องนับถือ แต่นำไปใช้ได้ในชีวิตจริง ขอแค่ได้ยินได้ฟัง พร้อมวันไหนก็เริ่มทำวันนั้น ดีมากๆคับ

ผมไม่ได้งมงายนะอะไรเลยสักอย่าง แต่มีความคิดจะเปลี่ยนศาสนาเพราะผมคิดว่าสิ่งที่พุทธมันเป็นแบบบี้หรอ กราบไหว้แบบนี้หรอ สอนแบบนี้หรอ พระที่เป็นตัวแทนของการเผยแพร่คำสอนเป็นแบบนีหรอ แบบนี้มันดีจริงหรอพระพุทธเจ้าสอนแบบนี้แน่หรอ เพราะพระอจาร์ยที่สอนผมตอนเด็กๆก็สอนแบบอาจาร์ยเบียร์ แต่กลับเหมือนแกะดำจนอยู่ไม่ได้ สุดท้ายก็คิดว่าพุทธนี่เละดีแล้วสำหรับผมแต่ก็ไม่ตต้องไปนับถึือพระ.. วัด... อะไรพวกนั้นก็ได้ไม่ผิดเอาเฉพาะที่เราคิดว่าดี

คุณไม่เชื่อก็ไม่จำเป็นต้องไปด้อยค่าศาสนาอื่นว่าเป็นการงมงายครับ มันทำให้คุณดูแย่ครับ

ถ้าคุณบอกว่าเหตุผล ถ้าจะหาก็มีหมด งั้นก็แปลว่า ไม่มีสิ่งใดงมงาย มันย้อนแย้งไหม

ยกเว้นเสียแต่ว่า ไม่เข้าใจคำว่างมงาย แล้วสักแต่จะพูด อวดฉลาดแต่ไม่ฉลาด

https://dictionary.orst.go.th/

งมงาย
ก. หลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล หรือโดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือเหตุผลของผู้อื่น.

แม่คำของ "งมงาย" คือ งม

จะบอกว่าไงอะ ถ้าลองตัดคำว่างมงายทิ้งไป เท่าที่สังเกตผ่าน ๆ ก็คือ คนที่มีความเชื่อเรื่องนึงมาก ๆ พอฟัง อ.เบียร์ ก็เปลี่ยนความคิดจากเรื่องเดิม มาเป็นเรื่องความเชื่อตามหลักพุทธศาสนาแทนเฉย ๆ ไม่ได้ถึงขนาดเลิกงมงายหรือเลิกมีความเชื่อไปเลยโดยสิ้นเชิง

คนที่ฟังอ.เบียร์ ไม่ใช่คนที่หลุดพ้นจากความงมงายทั้งหมดแล้วเข้าใจโลก เข้าใจวิทยาศาสตร์ แต่เป็นคนที่หลุดจากพุทธผีแบบไทย ๆ มาเข้าใจหลักพุทธศาสนามากขึ้นเฉย ๆ ถ้าอยู่ ๆ เอาวิทยาศาสตร์ไปถาม ไปตั้งข้อสงสัยก็จะโดนตอบมาด้วยหลักคำสอนในพระไตรปิฎก ซึ่งมันยังมีเรื่องความเชื่อต่าง ๆ อยุ่ในนั้น ก็จะไม่ได้คำตอบอยู่ดีเพราะคุยคนละฝั่ง

ใจเย็น ๆ เหตผลมันมีหมดแต่อยุ่ที่ผู้ฟังจะรับฟังมันได้รึเปล่า

ตามนั้นแหละ พอพวกนี้คิดว่าตัวเองเลิกงมงายจากของที่มัน Nonsense แต่แล้วดันไปติดลูปของนิทานเรื่องใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมาก Logic ยังคงเพี้ยนตามนิทานอยู่ เพียงแต่นิทานเรื่องนี้ดันมีคนนิยมเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่พอมีคนชี้ประเด็นเรื่องไหนในนิทานเพี้ยนมากหน่อยก็อ้างว่าไม่ต้องไปสนเรื่องนั้น อ้าวสรุปนิทานเรื่องนี้มันเชื่อได้หรือไม่ได้กันแน่เนี่ย 555