ปีนี้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ชนะ 18 เสมอ 1 แพ้ 1

ทีมค่อนข้างเสถียร แผนการเล่นเดียว แต่ tempoและกลยุทธ หลากหลาย

บางนัดเล่นตามจังหวะ ไม่เปลืองแรง ถ้าครึ่งแรก 0-0 ค่อยเร่งจังหวะเกมส์

บางนัดอย่างนัดแมนซิ มาเพลสดุแต่แรกก็ทำได้

เจอทีมเล็ก ถ้าเขาถอยไปตั้งรับ เราครองบอลกดใส่ ถ้าเขาสวนไม่ได้ คือแค่รอยิงได้

เขาเพลสสูง ถ้าแก้เพลสได้ ก็หลุดยาวๆ โดยเฉพาะ กราฟพลิกบอลได้ แม็คก้าคิลเลอร์พาสได้

กรณี แกะเพลสยาก ใช้ตักข้ามตรงซาล่า กับ ดิอาซ สามารถแก้ได้
ถ้าขึ้นนำได้ ปิดเกมค่อนข้างเก่ง เพราะหลังไม่ดัน และเอาปีกลงมาช่วยแบ็ค

ประตู พ่อหมี ลูกหมี หลานหมี ก็ช่วยไว้หลายลูก

เกมส์ในบ้านค่อนข้างดี ชนะทั้ง แมนซิ มาดริด เลเวอร์ เชลซี วิลล่า ไบร์ทตัน



สิ่งที่หน้ากลัวที่สุด คือ ถ้าตัวเจ็บเพิ่ม ฟานไดจ์ ดิอาซ กราฟ โม ไม่อยากจะคิด

เกมส์เยือนเรายังเยี่ยวเหนียว พาเลส วูฟ เซาท์ ชนะลูกเดียวหมด เยือนน่อล เกือบแพ้

โกเมซ เคยเล่นเกมเยือนยังไม่นิ่ง ผิดกับเกมในบ้าน ต้องระวังมากๆ , human error คนอื่นยังเจอยังน้อย

ถ้าSlot เริ่มหลุดเสมอหรือแพ้ กลัวจะหลุดยาวมาก > อันนี้น่ากลัวสุด

แต่ด้วยช่องว่าง 9 คะแนน ถ้าเล่นแบบไม่กดดันอะไรมาก น่าจะเก็บผลได้หลายเกม ทีมค่อนข้างเสถียร ถ้าไม่เจ็บไปกว่านี้

รายชื่อตัวเจ็บ 6 คน พึ่งหายเจ็บ2 : อลิซอน,แบรดลี่,โคนาเต้,ซิมิกาส,เคียซ่า,โจต้า ส่วนเอลเลียต เทร้นพึ่งหาย

ติดเรื่องจบสกอร์แค่นั้นเลย แค่นี้จริงๆ

จะปรับยังไงดี แต่ก็เข้าใจได้ตรงที่บางจังหวะมันก็สร้างขึ้นมาอย่างที่ไม่น่าจะสร้างได้ หลุดเข้าไปยิงได้ก็โคตรเก่งละ

เสียวทีมที่มาเน้นอุดยับๆแบบฟอเรสนี่แหละ ภาพจำตอนนั้นแทบสิ้นหวัง เจาะไม่เข้าเลย

สิ่งนึงที่ยกระดับขึ้นมาชัดเจนคือการรักษาสกอร์หลังนำเพราะลิเวอร์พูลชุดนี้นำแล้วเสียยาก แต่ปัญหาที่ยังแก้ไม่หายที่เป็นมานานคือจบสกอร์ห่วย พวกตัวรุกตัวใหม่ๆที่เข้ามาหลังจากซาล่าพึ่งพาไม่ค่อยได้จนสุดท้ายซาล่าต้องแบกแนวรุกไปก่อน

ต้องประคองให้จบเดือนธันวาโดยกองหลังห้ามเจ็บเพิ่มอีกเด็ดขาดแม้แต่ตัวเดียวเลย ตอนนี้หลังสำรองเหลือควอนซาห์ตัวเดียวและ อาจต้องเอาเอนโดมาเล่นซะด้วย ต้องรอพวกซิมิคาส แบรดลี่ย์ โกนาเต้หายเจ็บกลับมา ดีที่ UCL ไม่ต้องเน้นมากแล้ว มีคาราบาวมาคั่นด้วย น่าจะพอพักนักเตะได้ ถ้าผ่านแมทเจอนิวกับเอฟโดยไม่มีใครเจ็บเลยนี่สบายเลย ขอผ่านแบบชนะด้วยนะ

เดี๋ยววีคหน้าได้โจต้า อลิสซอน เคียซ่าและแนวรุกไม่ห่วงและ ห่วงหลังเนี่ยแหล่ะห้ามเจ็บเพิ่มเด็ดขาด

สถานการณ์แบบนี้ FSGควรเสริมทัพมกรา เซนเตอร์1 กลาง1 มันจะได้แน่นขึ้นไปอีก ไม่เสริมทีมระวังแหกโค้งนะ

ตอนนี้เกมรับดีขึ้นมาก ไม่ได้เรียกว่าหายห่วง แต่เบาใจขึ้นเยอะ ว่าไม่มีช๊อตให้ล่อเป้าเยอะเหมือนก่อนหน้า

ส่วนเกมรุกยังเหมือนเดิมไม่ต่างกับยุคคล็อปปที่หาช่องได้หลากหลาย

ผมชอบนะ ดูมีลูกล่อลูกชนมากกว่าตอนคล็อปป์อีก

ของคล็อปป์คือมีแผนชัดเจนว่าจะเล่นแบบนี้ พอต้องแก้เกมก็ตันให้เห็นบ่อยๆ

สลอทนี่แก้เกมตามที่คนดูบ่นเลย ไม่ง่ายนะเพราะผจก.ไม่ได้เห็นมุมสูงหรือภาพช้าแบบถ่ายทอดสด

แถมแกแก้เกมค่อนข้างเร็วด้วย ไม่เหมือนคล็อปป์ที่กว่าจะเปลี่ยนตัวล่อไป 80 นาทีตลอด

แต่ก็ต้องดูระยะยาวว่าจะเป็นยังไง เพราะถึงคล็อปป์จะแก้เกมไม่ค่อยดี แต่แผนหลักมันก็พิสูจน์แล้วว่าโหดมาก

สิ่งที่กลัวที่สุดคือ FSG เนียนไม่ต่อยอดด้วยเหตุผลเดิมๆว่าทีมเราดีแล้ว

เซ็นโค้ชใหม่ ซื้อตัวให้คนเดียว แถมเป็นตัวที่ถูกโล๊ะเพราะหมดสภาพอีก ทุเรศโคตรๆ

โซโบ ต้องพัฒนาต้วเองในตำแหน่ง AMC มากกว่านี้ แล้วเกมส์รุกเราจะหลากหลายและอันตรายกว่านี้
นูนเยส ถ้าปีนี้ยังพัฒนาตัวเองให้ class ball ดีขึ้นกว่านี้่ไม่ได้ อาจจะต้องเป็นกองหน้าเบอร์ 3 เลยนะ

ผมว่าถ้า 2 คนนี้พ็ฒนาตัวเองได้ รับรองหงส์จะน่ากลัวกว่านี้มาก

ตอนแรกผมไม่หวังกับผู้จัดการคนนี้เท่าไรนะ ก่อนมาเชื่อแค่ว่า คงเป็นโค้ชที่เก่งคนหนึ่ง
ไม่เคยตามฟอร์ม แต่เชื่อความขึ้นชื่อในการสรรหาบุคคลากรตามข้อมูลและสถิติของสโมสร

แต่พอผ่านมาได้สักระยะ แกทำให้ผมหวังในตัวแกสูงพอสมควรเลย
ผมหวังว่าแกจะเป็นแบบนี้ตลอดไปยาวๆ หวังว่าธาตุไฟจะไม่เข้าแทรก
และหวังว่าจะมีฝีมือขึ้นไปเทียบชั้น JK หรือเก่งกว่าได้ในอนาคต

เรื่องปัญหาบาดเจ็บ มันเป็นสิ่งที่ทุกทีมต้องเจอ กลัวไปก็เท่านั้น
มันไม่มีทีมไหนต่อยอดด้วยการซื้อตัวที่เก่งเท่ากันมานั่งสำรองได้หรอก
แมนซิตี้ไม่มีใครมาแทนเดอบรอย โรดี้ได้
เกมรุกอาเซน่อล ขาดโอเดการ์ดไปก็เป๋
เชลซีไม่มีพามเมอร์สักคนจะไปยังไง
และถามว่าทีมพวกนี้ซื้อใครมาแทนในตำแหน่งเหล่านี้ล่ะ ก็ไม่มีเหมือนกันใช่ไหม
ลิเวอร์พูลไม่มี ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เราก็ทำเหมือนๆ ชาวบ้านเขานั่นแหละ

ยังไงวันหนึ่งเราก็จะต้องมีนัดที่เล่นผิดพลาด เอาจริงๆ ก็เกือบพลาดมาหลายนัดแล้ว
แต่เรายังดีที่รอดตัวมาได้ นั่นถือว่าเป็นกำไร แต่ถ้าในอนาคตเราจะพลาดอีก
มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และมันก็ปกติมากๆ ด้วย

ผมสนุกกับการดูทีมเล่นในแต่ละนัด
ตราบใดที่หงส์ยังอยู่ในเส้นทาง ผมก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
If it ain't broke, don't fix it.

เอาจริงๆ แผนตอนนี ยืดหยุ่นดี ถ้าให้ชม คือ นำแล้วหวังผลได้ไม่เยี่ยวเหนียว แบบตอนยุคคล็อปป์ ผมยกคล็อปป์ไว้บนหิ้งแหละ แต่แผนชล็อท คือผมชอบแบบนี้มากกว่า ไม่ต้องขนาดเดินหน้าฆ่าให้ตาย แต่ถ้านำปุ๊บ ก็พร้อมจะผ่อนเซฟพลังงาน รู้ว่าจังหวะไหน ควรเร่ง จังหวะไหนควรผ่อน แต่ปัญหาคือ หลายๆครั้ง ครึ่งแรกเหมือน ขุดบ่อล่อปลาอ่ะ จะเล่นแบบ เอือยๆเนือยๆ บางทีโดนเขากด เหมือนเล่นหลอกดูหน้าไพ่ ค่อยมาเอาจริงตอนครึ่งหลัง ถึงแซวกันบ่อยๆว่า ดูหงส์ยุคนี้ต้องดูครึ่งหลัง แต่นัดเรือล่าสุดทำให้เห็นละว่า ครึ่งแรกก็ใส่ได้ แปลว่า แผนไม่ตายตัว และอีกหนึ่งปัญหาเลย คือ เรายิงทิ้งยิงขว้างมากเกิน ค่า xG นี่เกมเรือ เกือบ 4 ลูก ยิงได้2แถม 1ในนั้น คือจุดโทษอีก บ่งบอกว่า ต้องแก้ปัญหาจังหวะจบสกอร์เลย ซัมเมอร์ ต้องหากองหน้าคมๆมาสักคนละ อิซาค ก็ดีนะ โจต้าเจ็บบ่อย หนูนแมร่งก็กองหน้าตัวรับ มีแต่แพสชั่น หลุดเดี่ยวยิงไม่ค่อยเข้า

เหมือนครั้งก่อนแหละ ที่ลุ้นแชมป์ ดูนัดต่อนัด ไปเริ่อยๆ ภาวนาอย่ามีตัวเจ็บ

ทีมคอนนี้มีตัวเก๋า ที่พร้อมด้วยประสบการณ์ แบบ ซาลาห์ Vvd อลิสซง ร็อบโบ้

มีนักเตะที่กำลังเข้าช่วงพีคอย่าง ดิอาส แม็กก้า TAA โกนาเต้ แม้กระทั่ง ลูกหมี

มีนักเตะที่ยกระดับ ฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ อย่าง โจนส์ โซโบ กราฟ กัคโป นูเยส

คือ มันก็ดูพอมีลุ้น แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีจุดบอดเลย

ผมว่าชุดนี้ ยังเทียบกับ ตอน ปี 19-20 ไม่ได้นะ แบบ ตัวแทนกราฟ ก็ไม่มี ปีกขวา สำรอง ก็ไม่มี กองหน้าสำรอง ก็ไม่มี

บอกตามตรง สุดท้ายผลเป็นยังไง
ผมโครตมีความสุขเลยในการดูบอลในทุกแมต

ทีมดูเสถียรแต่ยังมีจุดอ่อน คือ หน้าเป้าควรทำประตูได้มากกว่านี้ ซาล่าห์ยังแบกการทำประตูอยู่ทั้งยิงทั้งจ่าย ควรมีกลางรับมาโรเตชั่นตำแหน่งกราเฟนแบก แล้วก็โรเตชั่นตำแหน่งซาล่าห์

ปีกขวากับกองหน้าสำรองก็เคียซ่าไงครับ ตอนนี้เรียกฟิตเสร็จแล้วน่าจะเริ่มมีชื่อเป็นสำรองตั้งแต่นัดต่อไปนี่แหละครับ รอดูฟอร์มก่อนว่าพอจะทดแทนได้มั้ย ถ้าเวิร์คก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลย