ผมพึ่งรับ Tesla Model 3 Performance 2024 มาขับได้ 2 อาทิตย์ผมเลยเข้าใจและตรัสรู้เลยว่าทำไมสำนักรีวิวหลายๆเจ้าถึงตะลึงและทึ่งกับความเปลี่ยนแปลงของ Tesla ตัวนี้มากๆและหลายๆที่ยกให้เป็นรถที่คุ้มที่สุดในโลก ณ ตอนนี้เลยด้วย ผมเลยอยากจะมาแชร์มุมมองที่ผมเข้าในหลังจากขับมา 2 อาทิตย์

จั่วหัวมู้มะสะน่าหมั่นไส้ ขออธิบายก่อนว่ารถที่ดีที่สุดของผมคือ ราคา/performance/function/software/efficiency/งานประกอบและวัสดุ นะครับไม่นับพวก interior หรือ design อะไรที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

และมันทำให้ผมเข้าใจว่าทำไม Tesla 3P ของผมคันนี้ถึงมีราคาแพงกว่ารถจีน segment เดียวกันถึงเกือบ 2 เท่า

เริ่มต้นที่ Function ของรถ
Tesla ไม่ได้เป็นรถที่ option เยอะที่สุด เพราะมันไม่จำเป็นต้องมีครับ function ที่จำเป็นต้องใช้ในประจำวันการขับรถมีครบอยู่แล้วผมจึงไม่จำเป็นต้องไปอิจฉารถคันอื่นที่มี function gimmick เยอะแยะเลยเพราะผมไม่ได้ใช้อยู่แล้ว แถมไม่รกและลดความเสี่ยงที่ function จะเสียต้องส่งซ่อมไปอีกด้วย


ต่อกันที่ software
1.คงไม่ต้องบอกว่า Tesla มี software ที่ดีทีสุดในโลก ทุกคนน่าจะเข้าใจอยู่แล้วว่าทั้ง app ทั้งรถมันฉลาดกว่านี่ห้ออื่นขนาดไหน ทุกอย่างคือ smooth และใช้งานง่ายสุดๆและแม่นยำสุดๆ
2.เนื่องจาก Tesla เป็นรถคันเดียวในโลกที่ใช้ระบบ vision base ไม่ได้ใช้ sensor base เหมือนค่ายอื่นๆ มันทำให้ทาง tesla tune+ออกfeature ใหม่ๆและดีขึ้นให้เราได้ตลอด ถี่ๆมากอย่างกับได้ของใหม่ทุกเดือน เทียบกับรถแบรนอื่นแค่เซนเซอร์ขาดไปจุดเดียวก็ต้องซื้อรถใหม่แล้วถ้าอยากใช้ feature ใหม่ๆ
3.App Tesla ทำได้แทบทุกอย่าง และที่ผมชอบที่สุดคือ Sentry mode จ่ายตังค่าชาร์ทแบต เปิดกระจก คุมแร์ ล๊อครถ ดูstat ต่างๆ ดูว่ารถอยู่ที่ไหนปัจจุบัน requestการservice startรถ จัดการ profile คนขับ

Performance จุดที่ทุกคนมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง
นี่คือจุดใหญ่สุดที่คนซื้อรถทั่วๆไปมองข้ามกันไปมากที่สุดและมีผลต่อราคาของรถและการขับมากกกกกที่สุด
ผมทึ่งกับ chasis กับ suspension ของตัวนี้คือไปไกลๆมากๆๆๆๆๆๆ พอๆกับพวก bmw m340i คันละ 4 ล้านนู้นเลย หรือบางรีวิว(ผมไม่เคยขับ)บอกว่าใกล้เคียงกับ BMW m3 คันละ 10 กว่าล้านเลยแบบที่คนทั่วไปแยกออกยากมาก

double wishbone ปีกนกที่ปรกติใช้กับรถ performance ราคาแพงๆทั้งนั้นมาอยู่ในรถราคา 2 ล้านนิดๆเฉย พวกรถจีนหรือแม้แต่กระทั่ง bmw series 3 ยังใช้ Macpherson Strut อยู่เลย พวงมาลัย Tesla เลยกินขาดมากๆไว้คมกริบแบบสุดๆ นี่คือรายชื่อรถ sport sedan คันอื่นที่ใช้ suspension แบบปีกนกดูรายชื่อแล้วขนลุก

BMW M3
Alfa Romeo Giulia Quadrifoglio
Cadillac CT5-V Blackwing
Jaguar XE SV Project 8
Lexus IS Series

แถมมี adaptive damper จะปรับนุ่มปรับแข็งก็ได้ไม่จำเป็นต้องทนขับแบบแข็งๆทุกวัน

ผมเดาว่า Tesla มีในมีนอกกับทางเยอรมันแน่ๆ หรือซื้อตัววิศวะกรค่าย bm มา เพราะมันยากมากที่บริษัทรถจะมีความรู้ที่จะ tune chasis+suspension ได้ perfect ภายใน generation เดียวมันไม่มีทางเลย

ส่วนเบรคได้ Brembo เลยแล้วลูกใหญ่มาพอสมควร ถึงจะไม่ได้โหดเท่าพวก performance car ของจริงก็เถอะ

สุดท้ายอัตราเร่งคงไม่ต้องพูดมาก ว๊าปจนเพื่อนผมจะอ้วกมาแล้ว

ผมเห็นหลายๆคนคิดว่าตัว tesla performance มันก็แค่แรงขึ้นกว่าตัวเดิม จริงๆไม่ใช่เลยครับ มันไม่ได้เหมือนพวกรถจีนนะ ของ Tesla นี่ยกเครื่องใหม่เกือบทั้งหมดเปลี่ยน chasis + suspension(โช็ค) ใหม่หมดเลย ทำเอารถจีนเป็น performance เก๊ไปเลยอะผมบอกเลย

efficiency ยืนหนึ่ง
ไอ่หน้ากระดาษว่าโหดแล้วนะรถแรงม้าขนาดนี้แต่อัตรากินไฟน้อยกว่ารถ EV ค่าายอื่นแรงม้าไม่ถึง 200 พอมาใช้จริงแล้วอึ้งทึ่งเสียวกว่าเดิมเยอะ เนื่องจาก Tesla เป็นรถที่พึ่ง software tuning เยอะไม่ว่า motor จะเป็นแบบไหนมันก็สามารถใช้ software ช่วย tune ให้กินไฟน้อยเมื่อต้องการได้ ผมเอาไป cruise แบบ 60-80 ยาวๆนี่เหลือ 12.2 kwh/100km อ้ายบ่อยากเชื่อสายตา พวก byd seal ขับธรรมดาๆนี่ 15-16 kwh/100km ต้องมี

งานประกอบและวัสดุ
ใครบอก Tesla วัสดุกาก ประกอบห่วย ไม่จริงนะครับ ถึงมันจะไม่ได้ใช้วัสดุ premium แบบ well known อย่างพวกหนัง napa หรือ crystal แต่ทุกจุดเป็นวัสดุนุ่มหมด และไม่ไดนุ่มแบบบางๆด้วย นุ่มแบบแน่นๆเลย และงานประกอบผมก็ยังไม่เจอจุดติเลยสักนิดด้วย คนที่บอกห่วยน่าจะเป็นเพราะไม่ชอบ minimal design มากกว่า น่าจะชอบสีสสันเยอะแยะ มีปุ่ม มีเนิน มีหลาย มี 3D design เต็มรถอะไรงี้

เบาะก็ได้เป็นกึ่งๆ bucket seat นั่งสบายไม่แข็งเหมือนเบาะ bucket ของจริงแต่ก็โอบตัวพอให้ความรู้สึกแน่น

ราคา
สุดท้ายจะบอกว่ารถมันดีแค่ไหนมันก็ต้องดูราคาครับด้วยค่าตัว 2.2M ปัจจุบันนี้แต่ได้

1.performance ใกล้เคียง BMW m3 คันละ 10 ล้าน โช็ค+chassis+damper ใหม่หมดทั้งชุด
2.ระบบ driving assistance และ FSD (ในอนาคต) ที่ดีที่สุดในโลกและ software ที่อัพเดทอยู่ตลอด
3.ขับนุ่มนั่งสบายเหมือนรถบ้านทั่วๆไปใช้ในชีวิตประจำวัน
4.ประหยัดชิบหาย
5.supercharger
6.เบาะ ใหม่
7.มอเตอร์ ใหม่
ึ8.One pedal เนีนบกริ๊ป

ผมถึงเข้าใจว่าทำไม Tesla Model 3 performance ปัจจุถึงราคาแพงกว่าพวกรถจีน 2 เท่า และเป็นหนึ่งในรถที่คุ้มค่าที่สุดในโลกตอนนี้

อยากมาแชร์ให้ทุกท่านฟัง เพราะแค่อ่านในโบชัวร์มาเทียบกันมันไม่เห็นภาพหรอกว่าทำไมรถคันหนึ่งถึงราคาแพงกว่าอีกคันหนึ่งเป็นนล้านบาท

มาทำลายมโนนิดนึงครับ
ที่บอกว่า Double Wishbone ใช้แต่ในรถ Performance

Double Wishbone (ปีกนกคู่) ใช้กับรถประเภทนึงแทบทุกรุ่น วิ่งเต็มถนนเลยครับ
...รถกระบะ...

หลังจากอ่านจบมีคำถามคือ

มี ทั้งหมดกี่ตัว

อยู่ใกล้สุด ขี้เกียจเลื่อนไปกดตัวหัวเราะด้านล่าง

ดีใจด้วยฮะ
ขับรถปลอดภัย
มีสมาธิมีสติ

สองอาทิตย์ที่แล้ว ผมเพิ่งขับรถชนมอไซต์ไป เจ็บพอสมควรเลย
รถดีแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้เลยฮะ
สติล้วนๆ

ข้อเสียใหญ่ระบบ collision avoidance ของ tesla เลยก็ว่าได้ของไทยนะ คือผมว่ามันรู้จักมอไซและการพฤติกรรมการขับของคนไทยน้อยไปอยู่ ผมเจอบ่อยเหมือนกันใน 2 อาทิตย์นี้เวลาเจอมอไซทีไรรถมันทำตัวงงๆตลอดเหมือนไม่รู้ว่าควรหลบยังไงควรเบรคมั้ย

สงสัยทำไมค่ายรถจีนไม่ทำ software แบบ Tesla บ้าง

มันพยายามทำอยู่ครับ ไม่ใช่ไม่ทำ แต่ในมุมมองผมมันตาม software Tesla ยากเพราะ hardware หลักๆของรถจีนมันเปลี่ยนตลอด ทำ software ออกมาพอรุ่นใหม่ก็ไม่ compatible ละ สังเกต Tesla ไม่ออกรถรายปีหรือมี minor change หรือ all new แบบค่ายทั่วๆไปครับ แต่มันออกเป็น incremental upgrade มากกว่า คือใช้สถาปัตยกรรมเดิมตลอดแล้วค่อยๆเพิ่มนู้นเพิ่มนี่เข้าไปมันทำให้ software + hardward ใช้งานได้ตลอดไม่ว่ารถจะพัฒณาไปไกลขึ้นขนาดไหน

แถมมันเน้นขายรถเป็นหลักเลยมี pipeline ในการ dev software น้อยอะ เรียกว่ามันจะทำก็ได้แค่ปัจจุบันมันขอให้ความสำคัญกับการทำตัวรถก่อนละกัน ผมเดานะ

สิ่งที่เค้าเรียกว่า algorithm ครับ หน้าตาลอกได้ ไส้ในที่ software engineer เค้าเขียนกันข้างหลัง optimize มายังไง ผ่านการเทสมากี่ชั้น (ง่ายๆ qc มาเยอะแค่ไหน) พวกนี้ลอกไม่ได้หรือลอกยากกว่าครับ พี่จีนยังตามหลังอยู่ พวกงบ R&D ยังงี้ ฝั่งพี่จีนไม่ค่อยลงทุนมันก็ไม่ได้มาหรอก จะลอกอย่างเดียวของพวกนี้มันไม่ได้ลอกกันง่ายๆ

ใช้เกียตรงหน้าจอยากไหม

ผมแม่งโคตรอยากได้ ตอนนั้นลองแค่ตัวธรรมดา แต่ต้องตัดใจเอาแมวน้ำ เพราะคนแก่ที่บ้านงงไฟเลี้ยวกับเกียร์ ละได้แมวน้ำมาคือขับรถแบบตากซากสุดๆ ช่วงล่างห่วยโคตรๆ

จากคนที่จะซื้อและมีแฟนเก่าใช้ m340i

ถ้านับแค่ช่วงล่าง เอาจริงๆคือยังเทียบไม่ได้ครับ แต่ไม่ได้ทิ้งเป็นทุ่งแน่นอน ผมว่าดีพอๆกับพวก series 3 นั่นแหล่ะ พวงมาลัยคมพอๆกัน แต่ Tesla ระบบโดยรวมดีกว่าแบบแดรกขาดเหมือนกัน ผมว่า software มันฉลาดที่สุดในโลกแล้ว คำว่าฉลาดคือไม่ใช่แค่ระบบ navi, info แต่ระบบทั้งหมด การส่งกำลัง การเปลี่ยนเกียร์ ฯลฯ คือชนะหมด

แต่วัสดุ ผมว่ามันก็ไม่ถึงจริงๆนะ คือเข้าใจว่า minimum แต่คุณภาพวัสดุถ้าจะไปเทียบกับพวกอย่างตราดาว ก็ยังไม่ถึงจริงๆ (แต่ดีกว่า Audi A5 กะ TT แน่ๆ) อันนี้ขึ้นอยู่กว่าให้ value ตรงนี้มั้ย

สุดท้าย cost/performance ratio Tesla ก็ดีสุดในตลาดจริงๆแหล่ะครับ

จริงๆรถev ถ้าไม่คิดไรมาก รุ่นไหนก็ประหยัดหมดแหละ แต่ถ้ามองระยะยาวเรื่องความคุ้ม ความแบบเสถียร ผมก็ยังมองว่าเทสล่าล้ำเพื่อนไปไกลมาก บางคนมองแต่ภายนอก พอลองศึกษาจริงๆ เทสล่ามันแบบมีอะไรให้อ่านให้ศึกษาอีกเยอะ อันนี้เป็นการพัฒนา การขับขี่ของเทสล่าที่ อีลอนพัฒนามา FSD [/imgl][/img]

มาทำลายมโนนิดนึงครับ
ที่บอกว่า Double Wishbone ใช้แต่ในรถ Performance

Double Wishbone (ปีกนกคู่) ใช้กับรถประเภทนึงแทบทุกรุ่น วิ่งเต็มถนนเลยครับ
...รถกระบะ...

แทบไม่ต้องใช้เลยครับ รถมันดูรอบแล้วเข้าเกียร์ให้ตลอด

แต่พอต้องใช้ก็ไม่เห็นจะลำบากเหมือนคนบ่น ผมมงงมาก smartphone ปัดกันได้รัวๆ แค่เปลี่ยนเกียร์ทำเป็นลำบาก งงใจคน5555

ผมสิงในคลับ Seal
Seal Per นี่วิ่ง 110-120 ก็กินไฟกันแค่ 15-17 เองนะครับ มีคนวิ่ง 60-80 ก็กินไฟ 10-12 เหมือนกัน ผมว่าอัตราการกินไฟของเทสล่าถ้าสองมอเตอร์ ไม่ได้เด่นอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าตัวขับหลังนี่เด่นจริง ประหยัดมาก แต่ก็ไม่หนีจาก Seal Premium เท่าไหร่เช่นกัน ที่บ้านผมใช้ทั้งสองค่ายนี้ รู้สึกการกินไฟแทบไม่หนีกันเลย

ส่วน Software นี่แล้วแต่คนชอบ ผมกลับไม่ชอบ Base ของ เทสล่าเท่าไหร่ เพราะผมแทบไม่ได้ใช้ฟังชั่นอะไรเลย ก็ปล่อยให้น้องเค้าไปใช้ ผมกลับชอบ Android Base ที่ ลงแอพได้ กับการที่มีปุ่มปรับมากกว่า เคยเห็นคนในคลับบอกจอดับทีปรับอะไรไม่ได้เลย

ส่วนที่เหลือคือเสียดายเงินเลยครับ ไม่น่ารีบซื้อ ตัวใหม่ HL ดีกว่าแทบทุกอย่าง ตัวเก่านี่ขนาด LR วิ่งไป 170 จะเบรกต้องยกมือสวดมนต์แล้วครับ เบรกแข็งทื่อมากๆ

แต่ที่ต้องยอมแล้ววันนี้คือ SC Network เวลาเดินทางไกล ณ ตอนนี้ รถ EV เยอะกว่าชาร์จไปเยอะมากเลย วันนี้กลับจากเขาค้อ ทั้งไปทั้งกลับ รถจอดรอชาร์จ 2-3 คันตลอดเลย