วันนี้เห็นทนายพาคนมาร้องเรียนเยอะเลย สุดท้ายเรื่องนี้ัมันจะกลายเป็นเรื่องแม่ข่ายส่วนบุคคลไหมครับ เอาจริงๆกางโมเดลออกมา มันก็เป็นโมเดลที่ค่อนข้างดีนะ ไอบอสพอลมันอาจจะโยนให้เป็นเรื่องของแม่ข่าย ลูกข่ายคนไหนโดนขายฝันก็ไปเอาเรื่องกันเอง


ผมอ่านเม้นใน live คือบางคนขายไม่ได้จะเรียกร้องเอาเงินคืน อันนี้ผมว่ามันเอะอยู่นะ ตอนนี้มันมีทั้งคนที่ขายได้ และขายไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายของ ถ้าขายไม่ได้เองจะมาโยนให้บริษัทผมว่ามันก็แปลกๆ



คิดเห็นยังไงแลกเปลี่ยนกันครับอยากได้หลายๆมุมมอง

บักพอลพลาดอย่างเดียว คือสต๊อคลม

ถ้าไม่โลภ ผลิตและส่งสินค้าตามบิลทุกออเดอร์
ผลิตทิ้งส่งให้คนนั่นแหละ เรื่องนี้แทบเอาผิดมันไม่ได้เลย

ส่วนที่เหลือคืออยากเล่นกับไฟแต่ไม่ดูทางลม

ส่วนตัวมองว่า ถ้าเป็นคนรวยมารับไปขายน่าจะขายได้ปกติเพราะคนรวยมีตังซื้อของพวกนี้นอกเหนือจากข้าวปลาอาหาร

แต่พอเป็นคนจนคอนเน็คชั่นพรี่ๆก็มีแต่คนจน เค้าก็ต้องซื้อข้าวปลาอาหารกันก่อนใครจะมาซื้อของพวกนี้ ส่วนตัว

คิดว่าคนพวกนั้นไม่วิเคราะห์ตลาดและคอนเน็คชั่นของตัวเองอะ

ที่ผมฟังทนายบอกตะกี้ คือมีสมาชิก3แสนกว่าคน แต่มีผู้เสียหายเกือบหมื่นคน ผมว่ายังพอมีทางให้สู้คดีได้อยู่ ตำรสจต้องทำสำนวนดีๆเลย คืออย่างไอพอลเนี้ย มันทำนาบนหลังคนแน่ๆแหละ แต่กฏหมายบ้านเราจะเอาผิดมันยังไง ส่วนทนายคนนี้สำหรับผมคือโอเคเลยนะ ถ้าคิดแค่แง่เรื่องทำคดี ไม่น้ำลาย ตรงประเด็น

มันต้องสืบที่บริษัท คือขายเกินกำลังผลิตไปเยอะมั้ย ถ้าขายเกินไปเยอะ ไม่มีของ ก็มีสิทธิโดนฉ้อโกงประชาชน

อยู่ที่แม่ข่าย จะซักทอดไปหาบอสไหม หรือจะรักบอสยอมรับจบที่ตัวเอง แล้วพฤติกรรมการหาสมาชิกมาขายของ มันเป็นแนวนี้ทั้งบริษัท เจ้าของมันจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้หรอก มันตลก ส่วนสินค้าย้อนกลับไปหาโรงงานผลิตว่าผลิตให้กี่ชิ้น มันสอดคล้องกับยอดการสั่งหรือสต๊อกไหม เข้าใจอยู่ว่ามันมีสต๊อกลม แต่สต๊อกลมที่ยังไม่ได้สินค้าขั้นต่ำมันต้องคืนเงินได้อะ เรื่องยอดขายอีก คุณเอายอดจากการขายของให้สมาชิกที่ยังสต๊อกลมอยู่เลย มาเป็นยอดขายแล้ว ทำงบทำไรเรียบร้อย อันนี้มันแสดงว่าสต๊อกลมต้องมีสินค้าละนะ คืนไม่ได้แล้วเป็นงบไปแล้ว
แล้วจด บ.เป็นขายตรง ไปดูบ.ขายตรงที่มันยืนยง มันขายของแบบไหน มันขายกันแบบไม่ต้องสต๊อกสินค้า สมาชิกก็ไปหาลูกค้ามา ขายของได้ก็แบ่งเปอร์เซนต์ไป ไม่ต้องมาสต๊อกไรเป็นแสนเป็นล้าน ไม่ใช่มากินตังสมาชิกสต๊อกของ
เอาตรงๆมันไม่รอดหรอก แต่มันจะหนักจะเบาอีกเรื่อง

ผมไปนึกถึง แบรนด์ที่เลิกทำหลายๆปีก่อน ความรู้สึกมันไม่ต่างกันเลย

ขายเยอะๆให้ตัวแทน แล้วสักพักก็ลอยแพหนีตัวแทน ตัวแทนซวย หาทางปล่อยในแอปส้มต่ำกว่าทุน ก็ยังไม่มีใครเอา -*-

สุดท้ายคนรวยน่าจะคนบนสุด รอบนั้นแบรนด์ที่ว่าไม่โดนอะไรเพราะเลิกไว

มันมีข้อกำหนดของโมลเดลนี้อยู่ว่า การให้ลูกข่ายไปขายแล้วขายไม่ได้ ทางบริษัทต้องรับซื้อของคืน ป้องกันการระดมทุนและหาเครื่องข่าย มากกว่าการขายของ

แต่ the icon คือ บังคับเปิดบิลและไม่สามารถคืนของได้ กรณีขายไม่ได้ครับ อันนี้ทำให้คนที่เข้ามาทุนจม แต่บริษัทได้เงินไปแล้ว เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ทันที

โอ้ ผมเพิ่งรู้เลยข้อนี้ อันนี้ก็เข้าข่ายเต็มๆ

มันมีช่องที่จะทำให้โทษไม่เยอะคือ เค้าไม่ได้จดขายตรง(พยายามจดแล้วไม่สำเร็จ) แต่เป็นการตลาดแบบตรง(เอกสารจดทะเบียนพาณิชย์) จึงไม่ได้อยู่ภายใต้กฏขายตรงที่ต้องรับคืนของ

ดังนั้นประเด็นนี้ ถ้าจะผิดก็ผิดตรงที่ดำเนินธุรกิจไม่ตรงกับที่จด โทษแค่1ปี ปรับไม่เกิน100,000บาท